วิวาห์ร้อน แต่งผิดรักจริง - ตอนที่ 671 ขายตัวเองในราคาที่สม 2
ตอนที่ 671 ขายตัวเองในราคาที่สม 2
“คุณน้าสวัสดีค่ะ ฉันชื่อวัจสาค่ะ น้ารู้มั้ยคะว่าแวววัยไปไหน? ”
วัจสาเคยเจอน้าคนนี้มาก่อน แล้วน้าคนนี้ก็เคยเจอเธอเช่นเดียวกัน
คุณน้าทองเธอแปปนึงก่อนจะถาม “หนูใช่วัจสาหรือเปล่าจ้ะ? ”
“ใช่ค่ะ หนูเป็นเพื่อนของแวววัย”
“อ่อ เอาอย่างนี้มั้ย หนูรอก่อนนะ ป้าไปเอากุญแจให้แป๊บหนึ่ง”
วัจสารออยู่ด้านนอกประมาณนาทีเศษ คุณน้าก็เอากุญแจออกมาให้
“ก่อนแวววัยจะไปเธอให้กุญแจนี้ไว้กับน้า เป็นกุญแจบ้านของเธอหน่ะ”
คุณน้าพูดพลางยื่นกุญแจให้วัจสา
ไปเหรอ? วัจสารีบถามทันที “คุณน้าคะ คุณน้ารู้มั้ยว่าแวววัยไปที่ไหน? ”
“เห็นว่าไปพักผ่อนใจ น่าจะทะเลาะกับแฟนหล่ะมั้งจ้ะ”
“ฟะ แฟนหรอคะ? ”“ใช่จ่ะ หลายวันก่อนเห็นทะเลาะกันอยู่ หนูแวววัยถือมีดออกมาด้วย วัยรุ่นสมัยนี้นี่ใจร้อนกันจริง แต่น้ารู้นะ ว่าหนูแวววัยแกเป็นเด็กน่ารัก”ถ้าจะให้แวววัยถือมีดออกมาอย่างนั้นได้ ก็ไม่น่าจะมีใครได้อีก ต้องเป็นโสธรนั่นหน่ะแหล่ะน่าจะเป็นเพราะธัชชัยบีบคั้นทำให้โสธรจำต้องมาแก้ปัญหาด้วยตัวเขาเองหลังจากที่ขอบคุณคุณน้าแล้ว วัจสาก็ใช้กุญแจไขเข้าไปในห้องแวววัยออกไปอย่างรีบร้อน ดูได้จากระเบียบภายในห้องวัจสามองปราดเดียวก็เห็นจดหมายวางอยู่บนโต๊ะเธอจึงรีบเดินเข้าไปเปิดอ่านทันทีวัจสา ฉันรู้ว่าแกจะต้องมาหาฉันที่นี่ ห้องนี้แกก็อยู่ไปนะ อยู่ให้สบายใจไปเลย ฉันขอออกไปพักผ่อนใจสักนหน่อย ไม่เป็นไรนะ ฉันจะต้องกลับมาเป็นแวววัยผู้แข็งแกร่งให้แกได้อีกแน่นอน ฉันหน่ะแข็งแกร่งที่สุดเลยนะรูมั้ย จำที่พวกเด็กที่สถานรับเลี้ยงเรียกฉันไม่ได้หรือไง?แกต้องจำไว้นะว่าอยู่ที่เมืองSนี้ แกยังมีฉันเป็นเพื่อนอยู่อีกคน ถ้าหากว่าอยู่ที่บ้านตระกูลศรีทองไม่ได้ ก็มาอยู่กับฉันที่นี่เนี่ยหล่ะ ยัยกนิษฐานั่นเป็นคนที่น่ากลัวมากจริงๆ แกต้องเรียนรู้ที่จะหลีกเลี่ยงยัยนั่นเอาไว้ ฉันไม่อยากจะให้แกต้องโดนทั้งตัวแกเองและคนอื่นทำร้ายอีกวัจสา ฉันขายตัวเองแล้วนะ ได้ราคาที่ดีมากๆ ด้วยหล่ะ มันตั้งสิบล้านแหน่ะชีวิตนี้ฉันยังไม่เคยได้เงินมากมายขนาดนี้มาก่อนเลย ฉันส่งเช็คให้กับคุณดนิตาทางไปรษณีย์ด้วยหล่ะ ฉันไม่ได้ทำอะไรเลยด้วยซ้ำ ทำได้เพียงแค่วิธีที่แสนน่าเกลียดนี้เพื่อตอบแทนที่เขาเลี้ยงดูฉันมาวัจสา ฉันรู้ว่าแกจะเก็บเป็นความลับแน่ๆ แกเองก็สงสารเด็กพวกนั้นใช่มั้ย?แกรู้มั้ย? ก่อนหน้านี้ฉันอิจฉาแกจริงๆ ที่แกมีธัชชัย เป็นเพื่อนแล้วก็บริจาคเงินให้แก่สถานสงเคราะห์ ฉันเองก็หวังว่าจะทำอะไรแบบนั้นได้บ้างน่าเสียดายที่ฉันไม่ได้ได้มันอย่างสมเกียรตินัก ทำได้แต่วิธีแบบนี้วัจสา ไม่ว่าใครจะดูถูกดูแคลนฉันยังไงก็ตาม ฉันก็เพียงหวังว่าแกจะไม่ทำแบบนั้น เพราะแกคือเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันเลย!ไม่ต้องเป็นห่วงฉัน ไม่ต้องออกตามหาฉันด้วย ให้ฉันได้อยู่อย่างสงบสักสองสามวัน ยังไงก็ช่วยดูแลห้องเล็กๆ นี้ให้ฉันด้วย ขอร้องเลยเมื่อเห็นประโยคสุดท้าย นัยตาของหญิงสาวก็เต็มไปด้วยม่านหมอก น้ำตาใสไหลตกลงราวกับเม็ดมุก จนสุดท้ายก็ร้องไห้โฮออกมาเธอทั้งสงสารแวววัย ทั้งยังสงสารตัวเองด้วยวัจสานอนแผ่ลงบนโซฟา ร้องไห้ออกมาอย่างไม่อาจอัดอั้นเอาไว้ได้แวววัยเป็นคนที่เข้มแข็งมาแต่ไหนแต่ไร เธอไม่เคยจะมาพูดอะไรให้ใครฟังแบบนี้ พอถึงเวลาที่เธอไปแบบนี้ นั่นก็แสดงให้เห็นว่าเธอนั้นรู้สึกสิ้นหวังมากจริงๆตัวเธอเองที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอไม่ได้ช่วยอะไรเธอเลยสักอย่าง ไม่ได้อยู่ข้างๆ เธอเลยในตอนที่เธอต้องการพอร้องไห้โฮแตกไปนาน วัจสาก็คว้ากุญแจเดินออกมาจากห้องพักของแวววัยที่ร้านสะดวกซื้อชั้นล่าง วัจสาโทรหาแวววัยตลอด แต่ว่าเธอปิดเครื่อง จนเมื่อเธอหมดความอดทนแล้ว เธอจึงเดินออกมาแต่จนแล้วจนรอดเธอก็เดินกลับไปอีก ด้วยเพราะเธออยากจะโทรหาสิบสอง แต่น่าเสียดายที่โทรไม่ติดในช่วงขณะนั้น วัจสารู้สึกว่าตัวเธอเองถูกตัดออกจากโลกไป เธอกำลังอยู่ตัวคนเดียวถายในโบกอันแสนโหดร้ายนี้ เธอยังอยากที่จะมีชีวิตอยู่ แต่ก็ไม่อาจจะทำอะไรได้เลย……สุดท้ายวัจสาก็กลับไปยังห้องพักของแวววัย เธอนั่งเงียบๆ อยู่บนโซฟา ภายในใจเต็มไปด้วยความขอบคุณ แม้ว่าห้องนี้จะไม่ได้ใหญ่โตนัก แค่ไม่กี่ตารางเมตรเท่านั้น แต่มันสามารถที่จะเป็นที่พักชั่วคราวของเธอได้เพื่อนแท้ ไม่ต้องแกล้งทำตัวว่าดี ไม่ต้องใส่เกราะป้องกันใดๆ ใส่กันหลังจากที่เก็บกวาดห้องเล็กของแวววัยไปแล้ว วัจสาก็รู้สึกหิวเล็กน้อย เพิ่งจะมาคิดได้ว่าเมื่อเช้าเธอกินไปเพียงโจ๊กฟักทอง กับเค้กเผือกม่วงไปไม่กี่คำเองตอนกลางวันก็ไปที่อ่าวตื้น น้ำสักหยดก็ไม่ได้ดื่มพอเปิดตู้เย็นออกมา ก็พบว่ามันโล่งไม่มีอะไรเลย มีเพียงแค่มันฝรั่งสองสามหัว ที่ดูเหมือนว่าแวววัยจะซื้อกลับมาเมื่อสองสามวันก่อน