วิวาห์ร้อน แต่งผิดรักจริง - ตอนที่ 44 ออกหน้าแทนเธอ
ตอนที่ 44 ออกหน้าแทนเธอ
ห้องรับแขกของบ้านตระกูลศรีทองใหญ่มาก โซฟาก็กว้างมากด้วย แต่ว่ารสรินกลับทำเหมือนกับว่ามันแคบมาก เธอต้องการเข้าไปนั่งข้างๆ ธัชชัย และก็ยังใช้ความอายุยังน้อยแต่ร่างกายก็พัฒนามาได้ดี ค่อยๆ ขยับเข้าไปใกล้ๆ แขนของธัชชัย
“นี่เป็นขนมกีวี่ที่ฉันใช้เวลาหลายชั่วโมงเพื่อทำมันออกมาเลยนะ ธัชชัยคะคุณลองชิมสักคำสิว่าอร่อยหรือเปล่า” เสียงของรสรินในชั่วพริบตาเดียวก็ไม่เหมือนกับน้ำเสียงในยามปกติ อีกทั้งยังใช้น้ำเสียงออดอ้อนของเด็กสาวอีกด้วย ตอนนี้ก็เรียกแต่ชื่อของธัชชัยตลอดเวลา
วัจสาได้ยินแล้วก็ทำเอาขนลุกไปทั้งตัว รีบหันหน้าไปทางอื่น กลัวว่าจะเห็นอะไรที่ไม่ควรเห็น ในใจกลับรู้สึกว่าธัชชัยผู้ชายคนนี้ไม่ได้ต้องการที่จะยอมรับรสรินจริงๆ? แล้วทำไมถึงไม่มีท่าทีที่จะต่อต้านเลยแม้แต่น้อยล่ะ?
สายตาที่เย็นชาของธัชชัยมองหน้าวัจสาที่ทำเหมือนไม่สนใจ ด่าในใจว่า ผู้หญิงคนนี้ไม่สนใจเขาเลยเหรอว่าเขาจะสนไม่สนผู้หญิงคนอื่น? ยังคิดอยากให้เขาคว้าโอกาสนี้ท่าเดียว?
วัจสารู้สึกได้ถึงสายตาที่ดุเดือดหยุดอยู่ที่ใบหน้าของตัวเอง ตอนที่ไม่ทันระวังก็เงยหน้าขึ้นมาเผชิญหน้ากับสายตาสังหารของธัชชัยพอดี เธอรีบก้มหน้าลงอย่างหวาดผวาทันที ดึงพู่ที่อยู่บนเสื้อไปมา
เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเธอ ไม่เกี่ยวกับเธอ…
ทันใดนั้นธัชชัยก็รีบผลักรสรินที่ตัวเกือบจะติดกับเขาให้ห่างออกไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ใครบอกว่าฉันชอบกินแบบนี้? สิ่งที่ฉันเกลียดที่สุดก็คือของหวานที่มีรสชาติของกีวี่”
พอธัชชัยพูดเสร็จ ในเวลาเดียวกันนั้นก็ทำให้ผู้หญิงทั้งสองคนตกใจมาก รสรินรู้สึกนึกไม่ถึงว่าวัจสาจะโกหกเธอ และในวินาทีนั้นวัจสาก็รู้สึกได้ว่าผู้ชายคนนี้กำลังจะก่อเรื่องอีกแล้ว ไม่กินของหวานน่ะเรื่องจริง แต่ว่าชอบกินกีวี่น่ะไม่ใช่เรื่องโกหกแน่นอน? นี่แสดงว่ากำลังคิดอยากให้รสรินโกรธแค้นเธอ!
“วัจสาบอกเอง เธอบอกว่าคุณชอบกินอาหารที่มีรสชาติของกีวี่ที่สุดเลย!”
วินาทีต่อมาเธอก็มองวัจสาด้วยสายตาอาฆาต และเปิดปากด่าเธอ “วัจสา เธอตั้งใจใช่ไหม? ตั้งใจพูดโกหกฉันเพื่อให้ฉันขายหน้า? เธอมันผู้หญิงสารเลว!”
ในที่สุดรสรินก็เริ่มโจมตี แต่ก็เพราะว่ารสรินด่าวัจสาว่าผู้หญิงสารเลว สีหน้าของธัชชัยก็เริ่มเปลี่ยนเป็นมืดทมึนขึ้นมา ผู้หญิงของเขาจะมาถูกเธอด่าแบบนี้ได้อย่างไร?
ทว่าท่าทางของวัจสากลับดูเหมือนว่าจะไม่ได้สนใจ ยิ่งทำให้เขาโมโหที่สุด
วัจสามองธัชชัยด้วยสายตาเย็นชา เธอรู้ว่าเขากำลังรอดูเรื่องสนุกอยู่ เธอรู้สึกว่าตัวเองอยู่ในบ้านตระกูลขุนทดเรื่องอะไรเธอก็เก็บเอาไว้ในใจไม่ยอมพูดมาหลายปี ในเวลานี้ก็ไม่จำเป็นต้องทะเลาะกับรสริน เธอจึงเลือกที่จะก้มหน้าลงไป พูดขอโทษ “ขอโทษนะ ฉันอาจจะจำผิดไป”
รสรินในตอนปกติตอนอยู่ที่บ้านถึงแม้จะเย็นชา แต่ว่าหากโหดร้ายขึ้นมา ก็จะโหดร้ายกว่าใคร เธอยืนขึ้นจากโซฟา ชี้หน้าด่าวัจสา “อาจจะจำผิดเหรอ? จะจำผิดได้ยังไง? ถ้าอย่างนั้นทำไมเธอไม่ลืมกินข้าวไปเลยล่ะ?”
พูดเสร็จก็หยิบเอาแก้วน้ำที่บางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาแล้วสาดน้ำใส่วัจสา
ธัชชัยที่ดูอยู่ด้านข้างก็พลันลุกขึ้นไปด้านหน้า ยืนขวางอยู่ตรงหน้าของวัจสา ผู้หญิงของเขามีเพียงตัวเขาเองเท่านั้นที่จะรังแกเธอได้ ผู้หญิงที่กวนประสาทคนนี้ช่างขวางหูขวางตาเขานัก
น้ำในแก้วใบนั้นแค่ชั่วพริบตาเดียวก็ทำเอาเสื้อเชิ้ตสีดำเปียกไปหมด ทำให้เห็นมัดกล้ามเนื้อที่สวยงามได้ชัดเจนขึ้น วัจสาและรสรินตกใจจนเซ่อซ่าแล้ว คิดไม่ถึงว่าเขาจะมาขวางแทนวัจสาเขาหมุนตัวกลับไป ดวงตาดอกท้อที่เต็มไปด้วยความโกรธ “ใครให้เธอกำเริบเสิบสานเอาน้ำมาสาดเธออย่างนี้? ใครให้เธอมาพาลเกเรในบ้านตระกูลศรีทองตั้งแต่เมื่อไหร่!? รีบขอโทษวัจสาเดี๋ยวนี้?”รังศีความดุร้ายแผ่ออกมาทั่วทั้งตัวของธัชชัย ทำให้คนตกใจมาก วัจสามองดูแผ่นหลังที่เปียกโชกของธัชชัย เม้มปากแล้วคิดว่าจะทำให้เรื่องใหญ่นี้กลายเป็นเรื่องเล็กเสียก่อน“ธัชชัย คุณไม่ต้องรุนแรงขนาดนี้ก็ได้ รสรินตกใจหมดแล้ว”…ธัชชัยเหมือนจะไม่ฟังคำพูดของวัจสา ยังคงมองรสรินด้วยสายตาอาฆาต “รสริน ฉันจะบอกเธอให้นะ วัจสาเป็นคุณผู้หญิงของตระกูลศรีทอง คุณไม่มีสิทธิมาทำอะไรเธอ! ถ้าหากว่าฉันเห็นแบบนี้เกิดขึ้นอีกครั้ง ฉันไม่ปล่อยคุณไว้แน่!”ผู้หญิงของธัชชัย มีเพียงเขาธัชชัยเท่านั้นที่จะรังแกได้! ผู้หญิงปัญญาอ่อนคนนี้มีสิทธิ์อะไร?รสรินถูกธัชชัยทำสีหน้าแบบนี้ใส่ก็ตกใจไม่น้อย อดไม่ได้ที่จะถอยหลังไปสองก้าว กลัวว่าวินาทีต่อไปธัชชัยจะตีเธอ ทว่าเธอคิดไม่ถึงว่าธัชชัยจะปกป้องวัจสาถึงขนาดนี้ ไม่เหมือนท่าทางของน้องสามีที่ดูแลพี่สะใภ้เลยแม้แต่น้อย…ถึงแม้จะไม่ยินยอมอย่างมาก แต่ก็ทำได้เพียงขอโทษวัจสา “ขอ ขอโทษ”…น้ำเสียงของธัชชัยยังคงเย็นชา “ขอโทษไม่ใช่พูดกับฉัน อีกอย่างขอให้เธอบริสุทธิ์ใจหน่อย!”น้ำเสียงตำหนินี้ทำให้รสรินเกลียดวัจสาถึงขีดสุด เธอกัดริมฝีปากมองไปที่วัจสา ค่อยๆ พูดว่า “พี่สาววัจสา ขอโทษค่ะ” พูดทีละคำทีละคำวัจสาตะลึงอึ้งไปเล็กน้อย เธอใช้ชีวิตอยู่ในบ้านตระกูลขุนทดมาหลายปี เป็นที่ระบายอารมณ์ของคนอื่นมาโดยตลอด วันนี้กลับมีคนมาปกป้องเธอ ช่วยเธอเป็นที่ระบาย ความรู้สึกแบบนี้ วัจสารู้สึกซาบซึ้ง และรู้สึกเจ็บปวดใจด้วย คิดไม่ถึงว่าธัชชัยก็เป็นคนที่ปกป้องคนของตัวเองด้วย“ไม่เป็นไร รสริน ไม่ต้องกลัวขนาดนั้น”รสรินไม่ได้มองพวกเค้าแม้แต่วินาทีเดียว รีบถอยหลังออกไป และวิ่งออกไปด้านนอก วัจสาอยากจะเรียกแต่ก็เรียกกลับมาไม่ทันเธอยืนเซ่อซ่าอยู่ตรงนั้น ความรู้สึกอบอุ่นอยู่ภายในใจที่ไม่สามารถอธิบายออกมาได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น? เหมือนกับว่าธัชชัยคนนี้ก็มีข้อดีอยู่บ้าง“เธอ บัญชีของพวกเรายังไม่ได้คิดนะ” น้ำเสียงเย็นชาของธัชชัยดังขึ้นมา วัจสาถึงนึกขึ้นได้ ต้องบอกให้เขาไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ไม่อย่างนั้นหากไม่สบายขึ้นมาจะแย่เอาได้พอเงยหน้าขึ้นมา ก็เห็นเขาถือเสื้อเชิ้ตสีขาวเอาไว้ในมือแล้ว ร่างกายกำยำร่ำสัน ซิกแพคเป็นมัดๆ ดูแข็งแรงไม่น้อย มีซิคแพคที่เซกซี่จนไม่รู้ว่าจะมีใครที่จะเป็บแบบนี้อีกไหม… วัจสาดูจนหน้าดำหน้าแดง ชั่วพริบตาก็มองไปทางอื่น ผู้ชายคนนี้ไม่เปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนค่อยออกมาก็ได้ไหม?สายตาของธัชชัยเหมือนกับยิ้มอย่างมีความหมาย เห็นพวงแก้มทั้งสองของเธอดูเขินอาย ไม่รู้ทำไมถึงได้รู้สึกสนุกไม่น้อย“เป็นเพราะว่าคุณบอกว่าไม่ชอบกินกีวี่ ถ้าอย่างนั้นฉันก็ไม่ควรโดนทำโทษ คุณจะมาคิดบัญชีอะไร?”ธัชชัยพูดเสียงเย็นชา ผู้หญิงคนนี้ไม่รู้ว่าปัญหามันเกิดจากตรงไหน “ไม่ทราบว่าใครเป็นคนบอกผู้หญิงคนอื่นว่าฉันชอบอะไรล่ะ? หืม?” คำสุดท้ายถูกกระตุ้นให้ลากเสียงยาว แฝงไปด้วยเรื่องสนุกที่ไม่มีขีดจำกัดแล้ววัจสาไม่อยากจะเถียงกับเขาอีก นี่เหมือนกับว่าเป็นเรื่องที่ตัวเองทำเรื่องที่น่าละอายใจก่อน จึงลุกขึ้นยืนคิดจะกลับเข้าไปในห้องของตัวเอง“จะไปไหน!?” ธัชชัยตวาดเสียงดัง “จัดการสิ่งที่อยู่บนโต๊ะให้เรียบร้อยค่อยไป!”วัจสามองดูขนมกีวี่ที่มีรูปทรงสวยงามประณีต ยังอดไม่ได้ที่พูดกับเขาว่า “นี่มันเป็นของที่คุณชอบกินชัดๆ ทำไมถึงจงใจบอกว่าไม่ชอบล่ะ? ให้คนได้เกลียดฉันมากๆ แบบนี้มีความสุขใช่ไหม?”“ฉันไม่ชอบกินของหวาน”“แต่ว่าคุณก็พูดแล้วว่าไม่ชอบรสชาติของกีวี่ด้วย” วัจสาต้องการที่จะพูดกับเขาให้รู้เรื่อง เรื่องแย่ๆ แบบนี้ ก็ไม่รู้ว่ารสรินกลับไปบ้านตระกูลขุนทดแล้วจะด่าเธอยังไงบ้าง“ฉันชอบกีวี่ แต่ไม่ใช่ว่าใครทำก็ชอบกินหมด ถ้าหากว่าคุณทำ ฉันคิดว่าฉันคงจะมีความสุขมากๆ เลยแหละ” เสียงของธัชชัยต่ำลงกะทันหัน พร้อมกับเสียงแหบแห้งปะปนเล็กน้อยคำพูดนี้ไม่มีทางรับได้ วัจสาหยิบเอาขนมกีวี่บนโต๊ะขึ้นมาเงียบๆ แต่ว่าถ้าจะทิ้งไปก็เหมือนจะน่าเสียดายไปหน่อย มือของเธอที่กำลังจะทิ้งขนมลงถังขยะก็เก็บกลับมาข้างนอกลานบ้านเจ้าแจ็คกำลังวิ่งเล่นไปทั่วอย่างสนุกสนาน วัจสาคลี่ยิ้มบางๆ นึกถึงที่ที่เหมาะกับขนมกล่องนี้ ถึงยังไงเจ้าแจ็คก็ดีกว่าผู้ชายนกยุงที่ภูมิใจในความอวดดีของตัวเองที่ยอมทิ้งสิ่งนี้!“แจ็คมานี่ซิ!” วัจสาร้องเรียก เจ้าแจ็คที่เชื่อฟังรีบห้อตะบึงเข้ามา นั่งลงตรงหน้าวัจสา ท่าทางน่ารักเหมือนกับว่ากำลังรอทำตามคำสั่งอย่างแสนรู้วัจสานั่งยองๆ ลง ลูบขนที่นุ่มลื่นของเจ้าแจ็คเบาๆ หยิบกล่องขนมออกมา แล้ววางลงไปที่พื้นให้เจ้าแจ็คกินวัจสาคิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่ารสรินยังไม่กลับ สายตาโกรธเกรี้ยวที่อยู่นอกรั้วพุ่งเข้ามา วัจสานางผู้หญิงสารเลว! ไม่เพียงแต่โกหกฉันเท่านั้น ยังเอาของที่เธออุตส่าห์ตั้งใจนำมาเอาไปให้หมากิน!ถ้าหากว่าไม่ใช่เพราะกลัวที่ธัชชัยอยู่ตรงนั้นด้วย รสรินคงเข้าไปตบอีผู้หญิงคนนี้สักที มีสิทธิอะไรมามาทำแบบนี้กับเธอ?ยังไงเธอก็ไม่ปล่อยวัจสาผู้หญิงคนนี้ไปแน่ ยังไงก็ตามต่อไปถ้ามีโอกาสจะเอาคืนให้สาสม!ธัชชัยใส่เสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อย ยืนอยู่ตรงหน้าต่าง มองดูเจ้าแจ็คกินขนมกับวัจสา ภายในใจก็รู้สึกอ่อนโยน ผู้หญิงคนนี้ บางทีก็โง่เหลือเกิน แยกเขี้ยวยิงฟันก็เพียงตอนที่อยู่ต่อหน้าเขาเท่านั้น แต่ว่าก็ดูน่ารักมาก…ทันใดนั้นธัชชัยก็เห็นเงาของรสรินที่ห่างออกไป ในใจก็รู้สึกไม่สบายใจ ผู้หญิงคนนี้เพิ่งจะออกไป มองดูสายตาของวัจสา มันผิดปกติมากๆเจ้าแจ็คกินขนมกีวี่เข้าไปก้อนหนึ่งก็คายออกมา ชั่วพริบตาเดียวก็เหมือนกับกลัวว่าจะมีคนแย่งมันไป โอบขนมนั่นเอาไวและกินขนมนั่นอย่างตะกละตะกลามวัจสาหยิบถาดน้ำที่อยู่ข้างๆ ในนั้นเป็นน้ำให้เจ้าแจ็คโดยเฉพาะ รอยยิ้มที่เจิดจ้าของเธอราวกับพระอาทิตย์ด้านนอกนั้น ค่อยๆ ทำให้ผู้คนหลงใหล“แจ็ค ค่อยๆ กิน ฉันไม่แย่งแกหรอก ฉันไม่กินแล้ว ให้แกกินหมดเลย ฮ่าๆๆๆๆ”… มองดูท่าทางปัญญาอ่อนของเจ้าแจ็คที่เนยครีมอยู่เต็มปาก วัจสาก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเสียงดังออกมาหัวเราะจนล้มลงไปกับพื้น ตอนที่ลุกขึ้นมา ก็เห็นร่างเงาสีขาวที่คุ้นเคยยืนอยู่ตรงห้องรับแขกอย่างไม่ได้ตั้งใจ รีบหันหน้าไปทางอื่น หยิบขนมที่เจ้าแจ็คทำหล่นขึ้นมา และวางเอาไว้ตรงหน้าของมันอีกครั้งทำไมผู้ชายคนนั้นยังอยู่ที่ห้องรับแขก? ไม่ใช่ว่าเห็นท่าทางของเธอเมื่อครู่นี้หมดแล้วเหรอ?เห็นเจ้าแจ็คกินไปได้เยอะแล้ว เธอก็เตรียมที่จะกลับเข้าไปแล้ว เดิมทีก็กระหายน้ำอยู่แล้วไม่รู้ว่าบนโต๊ะมีน้ำแตงโมมาวางเอาไว้ตอนไหน สีแดงระเรื่อช่างดึงดูดจริงๆ วัจสาคิดว่าคงจะเป็นป้าอ้อยที่วางเอาไว้ตรงนี้? ช่างเอาใจใส่จริงๆเดิมทีเธอก็กระหายน้ำมากๆ อยู่แล้ว ยกขึ้นมาดื่มเสียงดังอึกๆเพียงลมหายใจเดียวก็ดื่มหมดแล้วแก้วน้ำที่โปร่งใส ก็มองเห็นสีหน้าของผู้ชายคนนั้น เหมือนกันว่ามีความแปลกใจนิดหน่อย เหมือนกับว่าอยากจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้มอะไรอย่างนั้นขนคิ้วเรียวงามของวัจสาขมวดเข้าหากัน ถามธัชชัยอย่างไม่มีเสียงว่าเป็นอะไรธัชชัยมองเธอครู่หนึ่ง ในที่สุดก็พูดขึ้นมาอย่างเรียบๆ ว่า “ที่เธอดื่มเข้าไปเมื่อครู่นี้ดเป็นของที่ฉันดื่มไม่หมด”ใบหน้าเรียวเล็กสีขาวของวัจสาก็พลันแดงระเรื่อขึ้นมา นี่กระอักกระอ่วนเกินไปแล้ว ที่เธอดื่มลงไปเมื่อครู่นี้เป็นของเขาที่กินเหลือเอาไว้ ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่า พวกเขาจูบกันโดยทางอ้อมเหรอ?!ตระหนักได้ว่าเรื่องนี้คือเรื่องจริง ทั้งตัวของวัจสาก็รู้สึกไม่ดีแล้วผู้ชายคนนี้ตั้งใจทำอย่างนี้! เห็นอยู่ตำตาว่าเธอดื่มอยู่ก็ไม่พูดอะไร รอให้เธอดื่มหมดแล้วจริงๆ ถึงค่อยพูดขึ้นมา!