วิวาห์ร้อน แต่งผิดรักจริง - ตอนที่ 326 ใจเธอมันกระด้าง
ตอนที่ 326 ใจเธอมันกระด้าง
ภายในด้านในห้องพยาบาล
กนิษฐาลืมตาตื่นขึ้นมา ก็ไร้ซึ่งเงาของธัชชัยเสียแล้ว
เธอเปิดปากขึ้นมาก่นด่าขมุบขมิบ “ให้ตายเถอะ !ต้องไปหานังอินโนเซนต์วัจสานั่นแน่ๆ !”
คิดได้ดังนั้นเธอจึงรีบกุลีกุจอลุกขึ้นจากเตียงแล้วหันหลังให้กับห้องบำบัดโดยไม่แลกลับมามอง
เธอเดินออกไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่แม้แต่จะมองวรพลที่อยู่บนเตียงสักนิดเดียว
หากถ้าเธอมองไปทางเขาเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเธอก็จะรู้ว่า วรพลมองตามเธอโดยตลอด
เขามองเธออยู่นานแล้ว ตั้งแต่ที่เธอยังคงอยู่ในนิทรา จนตื่นขึ้นมาก่นด่าธัชชัย
กนิษฐาไม่แม้แต่จะมองมาที่เขาเลยแม้แต่นิด เดาว่าเธอคงจะคิดไม่ถึงว่ามีเขาที่นั่งอยู่ตรงนี้ด้วยอีกคน
ในหัวใจของเธอนั้น ไม่มีเขาอยู่ในนั้นเลย
หัวใจของวรพลราวกับลอยลงไปในทะเล และจมลงไปอีกครั้ง
เขาเพิ่งจะกระจ่างชัดถึงความจริงได้ก็วันนี้ ดูเหมือนจะทำให้เขาเจ็บเสียยิ่งกว่าที่ความเจ็บปวดทางกายที่เขากำลังเป็นอยู่เสียอีก แต่เขาก็ยังคงทำเป็นใจเย็น
กนิษฐาที่บึ่งตัวออกไปอย่างเร็วรี่นั่น ก็ประจวบเจอกับธัชชัยที่กลับมาอย่างพอดิบพอดีเธอรีบคว้าเสื้อสูทของธัชชัยเอาไว้ สีหน้าเต็มไปด้วยความโกรธเคือง “ธัชชัย นี่คุณแอบย่องไปที่ไหนมา? ”ธัชชัยมองกลับหญิงสาวด้วยประกายตาแข็งกร้าว เขาขี้เกียจจะตอบคำถามเธอ เหมือนจะบอกว่าไม่ใช่เรื่องของเธอ“นี่ไปหานังอินโนเซนต์มาอีกแล้วใช่มั้ย? ”“อินโนเซนต์ อินโนโซะ อินโนเนะ ฉันก็ไปหามาหมดนั่นแหละ ทำไมเหรอ? ”คำพูดถากถางของธัชชัยยิ่งทำให้กนิษฐาโกรธมากเข้าไปอีก “นี่คุณไปหาวัจสามาอีกแล้วใช่มั้ย? ” เธอคำรามขึ้นคอแทบพัง ดูเหมือนว่าเสียงนั่นจะสะท้อนกึกก้องไปหมดจริงๆ แล้วธัชชัยไม่ได้สนใจเสียงโวยวายของกนิษฐาเลย แต่ยังมีคนหนึ่งที่สนใจ เพราะว่านั่นจะทำให้หัวใจของเขาต้องเจ็บปวดวรพลมักจะลงโทษตัวเองแม้จะเป็นความผิดของคนอื่นก็ตามทีธัชชัยมองไปยังห้องบำบัดอันเงียบสงบ และมองกลับมายังร่างที่ดูเหมือนจะเสียการควบคุมไปแล้วอยู่ตรงหน้า พูดเสียงต่ำ “ถ้าเธออยากจะทะเลาะกับฉัน ก็ขึ้นไปชั้นบน”ในที่สุดอารมณ์ของหญิงสาวก็ค่อยๆ เบาบางลง เธอแสยะหัวเราะขึ้น“ฉันไม่เชื่อ นอกเสียจากว่าคุณจะให้ฉันได้ลิ้มลอง” กนิษฐาเป็นดั่งกุหลาบที่เต็มไปด้วยหนาม เธอแฝงตัวกอดแน่นเข้ามาตรงอกของเขา“พอที กนิษฐา ถ้าเธอยังโวยวายอยู่อีก ฉันจะโยนเธอลงไปจากตรงนี้เนี่ยแหละ สูงขนาด12ชั้นแบบนี้เกรงว่าเธอคงจะไม่รอดหรอกนะ!”ธัชชัยดึงมือของกนิษฐาออกไปอย่างโกรธเกรี้ยว แต่ก็ไม่อยากให้มันต้องเจ็บปวดมันไปอีก เขาจึงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ“ตีกับตัวเองซะแล้วรึยังไง? ฮ่าๆๆๆๆๆ ” กนิษฐาหัวเราะออกมาอย่างทรงเสน่ห์ ราวกับนางฟ้านางสวรรค์ แต่น่าเสียดายที่ไม่อาจทำให้ธัชชัยหลงได้ธัชชัยเพียงมองเธอด้วยประกายตาแข็งกร้าว แล้วเดินตรงไปที่ห้องบำบัดหากไม่ใช่เพราะวรพลผู้ซึ่งเป็นพี่ชายของตัวเขาเองรักเธอเข้าไปในกระดูกดำ อีกอย่างด้วยเพราะเขาไม่อยากให้วรพลมีชีวิตอยู่โดยไร้ซึ่งจิตวิญญาณ ไม่เช่นนั้นกนิษฐาคงโดนเขาฆ่าด้วยมือไปเป็นร้อยๆ พันๆ ครั้งได้แล้ว!ในเวลาเดียวกันในห้องบำบัด วรพลก็ทำเป็นหลับในทันทีบทสนทนาที่กนิษฐาด่าทอทั้งยังพูดเกี้ยวน้องชายของเขาเองเมื่อสักครู่นี้ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะไม่ได้ยิน แม้ว่าปากของเขาจะใช้งานได้ไม่เต็มร้อย แต่หูของเขายังคงใช้งานได้ดี นี่จึงเป็นการยืนยันได้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคนนี้มันไม่ธรรมดาในเวลาฉับพลันทันด่วนแบบนี้ เขาไม่รู้จริงๆ ว่าจะเผชิญหน้ากับน้องชายแล้วผู้หญิงที่เขารักในตอนนี้ได้อย่างไร ด้วยเพราะเขารู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นคนไม่จำเป็น ราวกับช่องว่างระหว่างหลอดไฟ ที่เดิมทีไม่ควรจะมีอยู่ด้วยซ้ำดังนั้นเขาจึงทำทีว่าหลับอยู่ไปเสียวรพลที่อยู่ในเตียงผู้ป่วยนั้น เจ้าเบย์แม๊กตัวนั้นยังคงส่ายหัวดุ๊กดิ๊กไปมา นั่นจึงเป็นข้อเท็จจริงที่ทำให้รู้ว่าเมื่อครู่วรพลไม่ได้หลับการแกล้งหลับของเขาธัชชัยมองออก ในที่สุดพี่ชายก็ได้รู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับกนิษฐาจนได้จริงๆ เรื่องนี้มันก็ไม่ใช่เรื่องดีอะไรเท่าไหร่ แต่มันจะทำให้วรพลตาสว่างขึ้นว่ากนิษฐา ผู้หญิงคนนี้นั้นเป็นคนเสแสร้งมากแค่ไหนธัชชัยไม่มีวันปล่อยให้พี่ชายของตัวเองอยู่กับยัยอสรพิษนี่ไปตลอดแน่นอน กนิษฐาเปรียบประดุจเป็นเนื้อร้าย เขาจำต้องกำจัดมัน เพียงแค่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาก็เท่านั้นด้วยเจอกับอะไรที่รุนแรงขนาดนี้แล้ว ธัชชัยกังวลจริงๆ ว่าพี่ชายของเขาจะทนนพิษของบาดแผลไม่ไหว ไม่ว่าจะบาดแผลทางกายหรือทางใจ ดังนั้นเขาจึงไม่เร่งร้อนแต่สิ่งที่ธัชชัยไม่รู้นั่นก็คือ วรพลเจ็บปวดไปมากแล้วขนาดไหนกันการที่ดูจากการที่เขาแกล้งหลับนี้ ก็สามารถตีความได้ว่าเขาอยากจะหันหลังให้กับความเจ็บปวดที่อยู่ในใจ ข่มมันเอาไว้ แล้วไม่กล้าที่จะเผชิญหน้าธัชชัยไม่ได้เปิดโปงการแกล้งหลับของเขา เพียงแต่หยิบเอาเจ้าเบย์แม๊กที่สั่นดุ๊กดิ๊กโต๊ะขึ้นมาถือไว้บนมือเจ้าตัวอ้วนทั้งขาว และดูโง่ นั่นทำให้รู้สึกสบายใจทั้งยังอบอุ่นไปในตัวขณะนั้นเองธัชชัยก็พลันไปคิดถึงวัจสายัยซื่อบื้อของเขาเธอนี่เวลาที่ควรจะว่าง่ายก็ดันดื้อรั้น เวลาที่ควรโง่ ก็ดันมีหัวขึ้นมาซะเฉยๆ บางครั้งก็ยังมีเล็บไว้ข่วนได้ด้วยในตอนที่กนิษฐาเดินเข้ามา ธัชชัยกำลังถือเจ้าตุ๊กตาตัวน้อยอยู่ในมือ เธอจึงถามอย่างเคลือบแคลงใจ “พวกคุณสองพี่น้องนี่ทำไมถึงชอบไอ้ตุ๊กตาโง่แบบนี้กันนะ? ”