วิวาห์ร้อน แต่งผิดรักจริง - ตอนที่ 312 ตัวตนของปลาใหญ่
ตอนที่ 312 ตัวตนของปลาใหญ่
กนิษฐาเงียบไปสักพัก ก็ถอนหายใจยาวๆ มันมีความหมายอะไรบางอย่างอยู่ข้างใน ซึ่งวัจสาได้ยินที่เธอพูดจึงเข้าใจ
“วัจสา บอกตามตรงนะ จริงๆ แล้วฉันอยากจะฆ่าเธอ เธอกล้าดียังไงมานอนกับผู้ชายของฉัน แต่เธอก็เป็นภรรยาของวรพล ถ้าไม่ใช่เพราะเหตุผลนี้ เธอได้ตายไปนานแล้ว!”
วัจสาเข้าไปอยู่ในสงครามเย็นอย่างช่วยไม่ได้ ผู้หญิงคนนี้โหดร้ายมากจริงๆ นั่นเธอต้องขอบคุณเธอที่เธอละที่จะไม่ฆ่าเธอไว้ด้วยมั้ย? ถึงแม้ว่าเธอจะไม่เชื่อว่าผู้หญิงที่บอบบางอย่างกนิษฐาจะฆ่าคนด้วยมือของเธอเอง แต่เมื่อเห็นที่เธอเต็มไปด้วยความโกรธแล้ววัจสาก็รู้สึกกลัวขึ้นมาเล็กน้อย
“ฉันก็เป็นแค่เหยื่อเหมือนกัน เธอควรไปหาธัชชัยนู่นหากเธอต้องการที่จะฆ่าคน แบบนี้หล่ะถึงจะเรียกว่ายุติธรรม”
วัจสารู้ดีว่ากนิษฐาไม่มีทางที่จะฆ่าเขาได้ลง เกือบได้นอนกับเขาแล้วเหมือนกัน ดังนั้นมันจะดีกว่าที่จะใช้เขาเป็นโล่
อีกครั้งกับการถอนหายใจออกมาเล็กน้อย กนิษฐาหันตัวไป มองเข้าไปในแววตาที่พร่ามัวไปด้วยน้ำตาของวัจสา มองเธออย่างลึกซึ้ง เหมือนว่าอยากจะสิงเธออย่างไรอย่างนั้น
ถูกกนิษฐามองอย่างนั้นโดยที่เธอยังไม่ได้ตั้งตัว นั่นจึงทำให้วัจสารู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เธอรู้สึกเสียใจเล็กน้อยที่เธอใช้กนิษฐาเป็นเครื่องมือไปจัดการกับธัชชัย
หากถ้าเธอรู้ความจริง ผู้หญิงที่ดุร้ายประดุจธัชชัยคนนี้ไม่มีทางปล่อยเธอไปแน่นอน ดูเหมือนว่าเธอจะชั่วร้ายยิ่งกว่าธัชชัยไปเสียด้วยซ้ำ
“วัจสา ได้นอนกับธัชชัยหน่ะมันรู้สึกยังไงเหรอ? ”อยู่ๆ กนิษฐาก็ถามโพล่งขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยนั่นจึงทำให้วัจสาใจเต้นแรงทั้งยังหน้าแดงขึ้นมาในทันทีร่างกายของเธอสั่นเล็กน้อย เธอรู้ว่าถ้าสิ่งที่เธอพูดทำให้เธอไม่พอใจ ตัวเธอเองจะตกอยู่ในอันตราย หากอยู่ต่อหน้าเธอ วรพลไม่มีทางที่จะปกป้องตัวเธอเองได้ ตอนนี้ธัชชัยก็ออกไปข้างนอกอีก มันเป็นเรื่องยากสำหรับเธอจริงๆ ที่จะปกป้องตัวเองกับลูกในท้องได้“ฉัน…..ทันทีที่เขาเข้ามาตัดเชือกที่มือฉันออก ฉันก็จำอะไรไม่ได้เลย ตื่นขึ้นมาอีกทีก็ตอนที่เธอมาทุบประตูนั่นหน่ะ” วัจสาต้องโกหกออกไป คำตอบที่คลุมเครือแบบนี้อาจเป็นสิ่งที่กนิษฐาต้องการ ถ้ามันมีรายละเอียดเพิ่มไปหล่ะก็ ก็คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะโดนเธอควักหัวใจออกมาที่เรียกว่าผู้ชายเปรียบได้กับเสือ วัจสารู้สึกว่าเธอนั้นเป็นดั่งเสือตัวเมียที่น่ากลัวยิ่งกว่ากนิษฐาไม่พูดอะไรอีก ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ บนใบหน้าที่สะอาดนั้น ยังไงก็ตาม น้ำตาน้อยๆ ที่ร่วงหล่นจากใบหน้าขาว ของเธอเต็มไปด้วยความเศร้าโศก“วัจสา เธอรู้มั้ย? ฉันรักเขา รักเขา และรักเขามากจริงๆ …เพื่อเขาแล้ว แม้แต่ชีวิตฉันเองฉันก็ยอมให้ได้ แต่ตอนนี้เขาเกลียดฉันมาก รังเกียจฉันจนอยากจะฆ่าฉันให้ตาย ทั้งหมดนี่เป็นเพราะฉันไปทำร้ายพี่ชายของเขาหรอ? ”ทันใดนั้นเสียงของกนิษฐาก็แปรไปเป็นสะอึกสะอื้น “ธัชชัยไม่รู้นี่ว่าหากถ้าวรพลไม่ตาย คนที่ตายก็ต้องเป็นเขา! พี่น้องทั้งสองต้องตายเพื่อระบายความโกรธแค้นของพ่อบุญธรรมของฉัน! ”เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นน้อยๆ ของกนิษฐาทำเอาวัจสาตกใจ ก่อนจะถามออกมา “ใครคือพ่อบุญธรรมของเธอเหรอ? ”ทันทีที่ภูกเธอถามแบบนั้น กนิษฐาก็ตระหนักได้ทันทีว่าตัวเธอได้สิ้นสติไป “เธอหยิบเอากระดาษจากข้างเตียงมาและเริ่มเช็ดน้ำตา“มันจะดีที่สุดถ้าไม่รู้เรื่องนี้ เพราะหากถ้ารู้ ก็จำต้องตาย!” กนิษฐาพูดออกมาอย่างเย็นชา ”และไม่ว่ายังไงก็ห้ามไปบอกให้ธัชชัยรู้ ไม่งั้นเขาจะตื่นเต้นขึ้นมาแล้วไปแก้แค้นพ่อบุญธรรม พอถึงตอนนั้นเขาก็จะต้องตาย เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพ่อบุญธรรมของฉันหรอก”เธอได้ยินเรื่องที่มันร้ายแรงก็รีบเก็บปากไปในทันที……ว่ากันว่าที่นี่เป็นสถานที่ที่มีผีสิงสถิต ทั้งยังรกไปหมดเขาไม่เชื่อในสิ่งเรื่องของผี แต่เมื่อเขาก้าวเข้าไปในที่มืด ก็รู้สึกอึดอัดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้มันเป็นวิลล่าสไตล์ยุโรป ได้ยินว่ามีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งชาติได้เคยซ่อนตัวอยู่ที่นี่ แต่ต่อมาก็ถูกซื้อโดยนักธุรกิจชาวไต้หวันสำหรับเหตุผลที่ตกไปอยู่ในมือของกรดลได้นั้น ธัชชัยยังไม่รู้จริงๆ เขามักจะคิดว่ากรดลเป็นไปๆ มาๆ ราวกับผี ไม่มีที่อยู่ถาวร และไม่แน่นอน เมื่อบุรีบอกว่ากรดลหายตัวไป ในคราแรกเขาพุ่งประเด็นไปที่ปลาใหญ่ แต่ไม่มีร่องรอยของการต่อสู้ในวอร์ด ดังนั้นเขาจึงคิดว่าเป็นที่นี่จริงๆ แล้วเขามาที่นี่ได้สามครั้งแล้ว แต่ที่ผ่านมาก็มาในตอนกลางวัน ก็แค่เพียงรู้สึกเงียบเหงา ด้วยเพราะไม่มีกลิ่นอายของคนเลยแต่ครั้งนี้ที่เขามามันเป็นเวลากลางคืน มันจึงเป็นฉากสีดำเป็นแถบ ทั้งยังมีความหนาวเย็นในจิตใจของเขา“แกร่ก” เกิดเสียงเบาขึ้นๆ เมื่อเขาเดินย่ำไปในความมืด ธัชชัยก็พลันไปเหยียบเอาเศษกิ่งไม้เข้าปลายฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้ที่ร่วงหล่นทั่วพื้นดูเหมือนจะไม่มีใครทำมันเป็นเวลานาน เส้นทางหินกรวดที่ลาดยาวราวๆ ยี่สิบเมตรจากประตูวิลล่าเต็มไปด้วยเศษกิ่งไม้ถ้าไม่ได้เจอกรดลในตอนกลางวัน เขาคงคิดว่าเป็นปีศาจไปแล้ว ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะอยู่ในสถานที่แบบนี้ ไม่มีร้านค้าในด้านหน้าของหมู่บ้าน แบบนี้ตายไปจนศพเหม็นเน่าก็คงไม่มีใครรู้“ฉึบ ฉึบ ฉึบ ” เกิดเสียงดังขึ้นสามครั้งติดธัชชัยยกมือขึ้นโดยไม่รู้ตัวเพื่อป้องแสงแฟลชจากกล้องที่ถ่ายรูปของเขา คนที่เล่นอะไรแบบนี้จำต้องเป็นกรดล เมื่อใดก็ตามที่ใครบางคนบุกเข้ามามันก็จะถ่ายรูปเพื่อแจ้งให้รู้ว่าใครเข้ามาในบ้านเกือบทั้งหมดรอบๆ บ้านถูกปกคลุมด้วยเถาวัลย์ อีกทั้งไม่มีแสงลอดออกมาจากในบ้านเลย จึงดูเหมือนจะเป็นวิลล่าที่ร้างมาเป็นปีๆ