วิวาห์ร้อน แต่งผิดรักจริง - ตอนที่ 275 ทะเบียนสมรส 2
ตอนที่ 275 ทะเบียนสมรส 2
“งั้นเราลองเอามันมาเปิดดูกันมั้ย? ในนี้อาจจะเป็นสิ่งมีค่าที่สุดอย่างที่เราไม่เคยพบเจอที่ไหนเลยก็ได้นะ”
พูดกันตามตรง นี่เหมือนว่าเธอกำลังเล่นแง่หลอกเด็กอยู่อย่างไรอย่างนั้น หาว่าตอนนี้ธัชชัยอยู่ด้วยหล่ะก็ เขาคงจะรีบดับฝันของเธออย่างทันท่วงทีเชียวหล่ะ
วัจสาเองก็พอจะรู้ถึงสติปัญญาของตัวเอง และด้วยสติปัญญาแบบนี้ แน่นอนว่าจัดการกับคนที่ซื่อสัตย์อย่างภูผาได้อย่างสบาย แต่มันก็ทำได้อย่างค่อนข้างน่าเศร้าใจ
“กล่องนั้นอยู่ในเซฟครับ แล้วเซฟนั่นผมก็ให้คุณชายรองไว้หมดแล้วด้วย เปิดไม่ได้แล้ว” ภูผาก็ยังคงตอบคำถามเธออ่างจริงจัง
“นี่ไม่รู้สึกแปลกสักนิดเลยหรอว่าข้างในมันมีอะไร?ไม่งั้นเราลองไปหากุญแจผีมาเปิดดูกันมั้ย?”
ว่ากันว่าความอยากรู้อยากเห็นนั้นสามารถฆ่าคนได้ เธอจึงใช้ความแปลกนี้ล่อใจของภูผา ไม่มีใครที่ไม่มีความอยากรู้อยากเห็นเสียหรอก
ครั้งที่แล้วซื้ออาหารให้เจ้าแจ๊ค ภูผาได้กลิ่นมันเข้าก็ลองชิมดู นั่นแหละความหมายของกฏที่เธอว่า
มันพิสูจน์ได้เลยว่าภูผาเองก็มีความอยากรู้อยากเห็นสูง แต่แม้ว่าเขาจะมีความอยากรู้อยากเห็นก็ตามที แต่ความจงรักภักดีของเขามีมากไม่ต่างกัน เขาจะไม่แม้แต่ขยับหากคุณชายรองไม่สั่งให้เขาขยับ ไม่มีใครที่สามารถเอาความเทิดทูนเจ้านายออกไปจากจิตใจของเขาได้!
ดังนั้นเขาจึงตอบไปอย่างตรงไปตรงมา “ไม่ได้ครับ คุณชายรองสั่งให้ผมรักษามันไว้ให้ดี แต่ไม่ได้บอกให้ผมดูมัน ดังนั้นผมไม่อาจจะมีความคิดไปทำอย่างนั้นได้ ดังนั้นก็ดูไม่ได้ครับ”วัจสาได้ยินแค่นั้นเธอก็ท้อใจไปในทันที เจ้าภูผาคนนี้เชื่อฟังชายปีศาจอย่างธัชชัยจริงๆ แม้แต่มองเฉยๆก็ไม่มอง“แต่ว่านะครับคุณผู้หญิง ผมคิดว่าด้านในนั้นมันไม่มีเพชรพลอยหรือสิ่งมีค่าอะไรหรอก เพราะว่ามันเบามาก ผมคิดว่ามันน่าจะเป็นแผ่นอะไรสักอย่าง ตอนที่ผมรับมา ผมไม่ทันระวังมันก็เลยเอียงไปเล็กน้อยหน่ะครับ……”ภูผาพูด เขาเกาหัวอย่างเขินอาย จริงๆแล้วเขาเองก็อยากจะเห็นอยู่เหมือนกัน เลยหาเหตุเบามาก แผนอะไรสักอย่าง? ร่างของวัจสาสั่นไปทั้งตัวข้างในไม่น่าจะเป็นสมุดเช็ค เพราะถ้าไม่มีลายเซ็นเขานั่นก็ใช้ไม่ได้ หากเขาติดสินบนกับธนวรรธ แค่ลายเซ้นเขาก็เพียงพอแล้ว คงไม่ต้องวานให้ภูผาไปล็อควันไว้ดีๆหรอกภูผาบอกว่ามันเป็นแผ่นอะไรสักอย่าง มันก็คงจะเป็นแบบนั้น แต่ว่ามันจะเป็นแผ่นอะไรกันนะ? ที่พอธนวรรธเห็นมันปุ๊ปก็ทำให้เขาพ้นข้อกล่าวหาไปซะเฉยๆได้เลยมันจะเป็นใบสมรสหรือเปล่านะ? ถ้าดูจากขนาดความกว้างยาวแล้ว มันก็มีความเป็นไปได้อยู่ แต่ถ้ามันเป็นใบของเธอกับวรพล ยังไงก็ทำให้ธัชชัยพ้นผิดไม่ได้รึเปล่า ธนวรรธคงไม่ได้โง่ขนาดนั้นมั้น?!แถมเขายังทำลึกๆลับๆราวกับกลัวว่าใครจะเห็นข้างในกล่องกลัวใครเห็นอย่างนั้นหรอ?เธอหรือว่ากนิษฐา?ฉับพลันประโยคหนึ่งที่แวววัยเคยพูดกับเธอเมื่อนานมาแล้วก็ผุดขึ้นมาในหัว หรือว่าธัชชัยจะใช้ชื่อของวรพลแต่งงานกับแกหล่ะ?”หรือว่าในกล่องนั้นจะเป็นใบสมรสของเธอกับธัชชัยกันนะ?!เมื่อคิดได้แค่นั้น วัจสาก็ตกใจตัวเองที่คิดแบบนั้นออกมา บ้าอะไรกันเนี่ย? มันจะเป็นไปได้ไงที่เธอจะมีใบสมรสกับชายปีศาจคนนั้นได้?เขาคงไม่โง่มาแต่งงานกับผู้หญิงธรรมดาอย่างเธอได้หรอก ผู้หญิงที่ไม่โดดเด่นอย่างเธอ ด้วยบุคลิกและท่าทางเย่อหยิ่งอย่างเขาไม่มีทางที่จะมาแต่งงานกับเธอได้แน่นอนแล้วจู่ๆอีกความคิดหนึ่งก็พุ่งสวนมา แต่ในสายตาเขาก็ไม่มีใครเลยไม่ใช่หรอ? ไม่นะ ยังมีอีกคนที่สามารถบังคับเขาได้ นั่นก็คือวรพลพี่ชายของเขาเอง หรือว่าเขาถูกบังคับให้แต่งงาน?ไม่สิไม่ใช่ วัจสานี่แกเรื่องบ้าอะไรอยู่เนี่ย? นี่มันเป็นไปไม่ได้เลยนะ หยุดคิดซะหยุดคิดเดี๋ยวนี้!ในขณะที่สมองของเธอยังคงตีกันไปตีกันมาอยู่ ภูผากับพลันถามขึ้น “คุณผู้หญิงครับ คุณทำไมถึงไปแจ้งความกับคุณกนิษฐาได้หล่ะครับ? ไม่ใช่ว่าเมื่อเช้าเธอไม่ได้เพิ่งจะ…..”ภูผานี่เป็นคนที่ชื่นชมตัวเธอมากจริงๆ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้คิดแบบนั้น เขาต้องการที่จะแสดงให้เห็นว่าทำไมเธอที่ไม่ยอมแพ้กนิษฐาอยู่หลักๆเมื่อเช้านี้ พอไม่กี่ชั่วโมงให้หลังถึงได้ร่วมมือกันเพื่อไปแจ้งความแบบนั้น? มันไม่ใช่จังหวะจะต้องทำตัวดีต่อกันมั้ย?แหงหล่ะว่าหากเป็นละครในโทรทัศน์หล่ะก็ ต่างฝ่ายก็คงต้องห้ำหั่นกันสุดฤทธิ์ มันจะต้องมีอีกฝ่ายที่บาดเจ็บ ฝ่ายนึงตบ อีกฝ่ายถูกจับขึงอยู่กับพื้นประโยคสุดท้ายที่เขาพูดออกมานั้นไม่ได้ผิดเลย เพราะว่ากนิษฐาตบวัจสาจริงๆจู่ๆภูผาก็เพิ่งตระหนักได้ว่าเขาเป็นเพียงคนรับใช้คนหนึ่ง ไม่ควรจะไปถามเจ้านายเอาแบบนั้น จึงรีบขอโทษขอโพยยกใหญ่ “ขอโทษครับคุณผู้หญิง ภูผาปากมากเอง พูดซี้ซั้วไปเรื่อย ผมจะปิดปากตัวเองแล้วครับ!”วัจสารู้สึกอายจริงๆ เธอไม่รู้เลยว่าจะตอบเขากลับไปว่าอะไรดีแล้วหล่ะที่เรื่องแบบนี้ไม่แพร่งพรายออกไปข้างนอก เพราะข่าวลือของเธอกับธัชชัยคงจะแพร่สะพัดไปทั่วเมืองSอย่างรวดเร็ว จะไปหาขอบเขตก็คงจะหาไม่เจอจริงๆแล้วตอนที่วัจสาจะไปแจ้งความเธอก็รู้สึกกระดากอายอยู่เหมือนกัน แต่ตอนนั้นกนิษฐาแทบจะกินคนได้อยู่แล้ว แถมการจะพาเธอไปตรวจร่างกายนั่นก็ไม่ได้อีกพอเธอไม่เอา เธอก็อาละวาดแทบบ้า นั่นยิ่งน่ากลัวเข้าไปใหญ่ ตัวเธอเองไม่ใช่ธัชชัย เธอเอากนิษฐาไม่อยู่จริงๆและถ้าเธอมีบุคลิกกนิษฐาแล้วไปอารละวาดในเขตโรงเรียนแบบนั้นก็คงจะเป็นที่รู้จักไปทั่วโรงเรียนแล้วหล่ะมั้ง แต่เธอไม่ใช่กนิษฐาซะหน่อยเมื่อรถมาถึงที่โรงเรียน ก็เดินผ่านโรงอาหาร วัจสานึกอยากจะกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัวพอดี จึงแวะกินบะหมี่ซะหน่อย