วิวาห์ร้อน แต่งผิดรักจริง - ตอนที่ 226 เลือกของขวัญให้เขา
ตอนที่ 226 เลือกของขวัญให้เขา
ปยุตมองไปที่ประตูใหญ่บ้านตระกูลศรีก่อนจะหันมามองที่วัจสาที่เปียกปอนราวลูกหมาตกน้ำ ไม่ต้องถามปยุตก็รู้เองได้ว่า หญิงสาวถูกคนในบ้านขับไล่ออกมา
เขากัดฟันกรอดก่อนจะพูด "มารับแกกลับยังไงหล่ะ! " พูดจบเขาก็อุ้มวัจสาขึ้นรถและบอกให้ออกรถทันที
คนที่ขับรถให้เขามีหน้าที่เป็นเลขาเขาด้วย ทวีไม่เข้าใจว่าทำไมอยู่ดีๆ ปยุตก็ให้เขาขับตรงดิ่งกลับไปที่บ้านตระกูลเดิมขุนทด
"ท่านปยุตครับ ไม่เข้าไปแล้วหรอ? ไม่ใช่ว่าเราจะมาคุยเรื่องเงินทุนพันล้านกับคุณชายรองหรือครับ" ทวียังคงถามด้วยความแคลงใจ
ปยุตพูดจนเกือบจะตะวาด "จะพูดมากทำเพื่อ? ฉันให้แกไปตายแกก็ต้องไป! "
เดิมทีป้าอ้อยจะตามไปเพื่อขัดขวาง แต่พอนึกได้ว่าหากคุณผู้หญิงของเธอยังอยู่ที่บ้านตระกูลศรีทองก็ต้องเผชิญหน้ากับคุณชายรองที่เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ซ้ำยังมีกนิษฐาคนร้ายอยู่ด้วยอีก สู้ให้เธอไปอยู่ที่บ้านตระกูลเดิมขุนทดเสียเลยดีกว่า
" คุณผู้หญิงคะ ยังไงคุณก็ต้องดูแลตัวเองดีๆ นะคะ… ไม่ว่ายังไงก็ห้ามป่วยเลยนะคะ"
พอนึกได้ว่าที่บ้านตระกูลศรีทองก็ยังมีคุณชายใหญ่ที่เธอจำต้องดูแล เธอก็หยุดฝีเท้าลง คอยชะเง้อชะแง้มองกลับไปดูรถคันหรูที่ขับออกไปไกลๆ
รถสปอร์ตคาร์ขับด้วยความว่องไว ไม่นานก็ถึงที่บ้านตระกูลเดิมขุนทดพอถึงห้องเข้าวัจสาก็รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเป็นอันดับแรก หลังจากนั้นก็ดื่มชาขิงที่แม่บ้านเอามาให้ ร่างกายที่สั่นด้วยความหนาวจึงเริ่มดีขึ้น เธอลูบท้องของตัวเองอย่างแผ่วเบา ก่อนจะยิ้มอ่อนๆ ออกมากับตัวเองลูกรัก ไม่เป็นไรแล้วนะ ลูกปลอดภัยแล้วนะจ้ะเธอไม่กล้านั่งพักนาน ก็ลุกเตรียมตัวจะไปทักทายอาวราลี เมื่อครู่พอลงรถมาก็ตรงมาเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้อง ก็ได้ยินเสียงโหวกเหวกอยู่ที่ชั้นล่าง"ปยุต นี่คุณโง่ไปแล้วหรือยังไง? สมองคุณเอาไปให้หมากินแล้วหล่ะมั้ง ไปถึงหน้าประตูบ้านแล้วแท้ๆ ทำไมถึงไม่เข้าไป แล้วยังจะเอาลูกนอกไส้สุดที่รักที่กลับมาด้วยอีกนี่คุณบ้าไปแล้วหรือไง? "วราลีคาดหวังมาโดยตลอดที่จะให้วัจสาเป็นสะพานไปสู่คุณชายรองบ้านนั้นให้ แต่ใครจะรู้หล่ะว่านอกจากจะโดนไล่ออกจากบ้านแล้ว ยังจะมาพักโอกาสการได้เจรจาของคุณอาอีก!แย่จริงๆ!"วราลี แล้วเธอจะร้องไห้คร่ำครวญเพื่ออะไร?! สาเพิ่งจะเปียกไปทั้งตัวแบบนั้น ตอนนี้เขาก็ต้องได้พักผ่อน! "ปยุตอยากจะเอาอะไรมาปิดปากภรรยาของเขาจริงๆ ตะโกนโวยวายอยู่ได้ไม่หยุดหย่อน ถ้าเกิดสาได้ยินเข้า จะอับอายมากแค่ไหน!"วัจสาร่างกายบอบบาง แล้วเราที่จะไม่มีกินอยู่แล้วนี่หล่ะ? ปยุตฉันจะบอกคุณให้นะ ถ้าโคตรการนี้ไม่สำเร็จขึ้นมา คุณก็เชิญออกจากบ้านไปพร้อมกับหลานสาวสุดที่รักของคุณไปเลย! ตอนนี้ดีที่สุดถ้าหากคุณจะเอาวัจสากลับไปส่งที่บ้าน แล้วไปคุยธุรกิจโครงการกับคุณชายรองซะ! "วราลีตะโกนโวยวายประดุจยักษ์ขมูขี ราวกับกลัวว่าวัจสาที่อยู่ด้านบนจะไม่ได้ยินก็ไม่ปาน"วราลี คุณอย่าพูดอะไรน่าเกลียดแบบนี้ออกมาทีได้มั้ย? สาเธอเป็นหลานผมนะ เป็นลูกของพี่สาวผม! เธอถูกคนไล่ออกมาจากบ้าน และตอนนี้คุณยังจะให้ผมที่ซึ่งเป็นอาของเธอเอาตัวเธอส่งกลับเข้าไปในกองไฟอีกอย่างนั้นหรอ!? จิตใจคุณทำด้วยอะไรฮะ? ตอนแรกที่เธอต้องไปก็เพื่อเพราะสัญญาของผมปยุตคนนี้ แล้วดูพวกเขาทำกับเธอสิ ผมจะไม่ยอมส่งเธอกลับไปอีกแล้ว ผมจะให้เธอหย่ากับวรพล! "" หย่างั้นหรอ? ปยุต ดูท่าแล้วคุณจะโดนหมามันกินสมองไปแล้วจริงๆ นี่อย่าลืมนะว่าเราได้ค่าสินสอดมาตั้ง200ล้านหน่ะ! "" สองร้อยล้านแล้วมันยังไง? เดี๋ยวผมคืนให้เขาเอง จะไม่ให้ขาดแม้แต่แดงเดียวเลย! "" คืนหรอ? ปยุต ฉันเริ่มจะสงสัยว่ามันไม่ใช่ว่าสมองคุณมีปัญหาแล้วหล่ะ แต่คุณหน่ะไม่มีสมอง! 200ล้านเชียวนะ คุณบอกว่าคืนก็คือต้องคืนหรอ! คุณดูสิเราจะคืนมันได้ยังไง คงไม่ได้ใช้ด้วยบริษัททั้งบริษัทของเราเลยหรอ!? "" วราลี อย่าคิดนะว่าผมไม่รู้ว่าคุณมีเซฟเล็กเซฟน้อยหน่ะ อย่างน้อยก็หลายร้อยล้านแล้วไม่ใช่หรอ? ถ้าคุณคิดอยากจะคืนมันก็ทำได้มั้ย!? "" ไม่มีทาง! "" งั้นเราก็หย่ากันเลยแล้วกัน! "แค่ประโยคที่ว่า 'งั้นเราก็หย่ากันเลยแล้วกัน" ประโยคเดียวก็ทำเอาวราลีสตั๊นไปเลย เธอไม่เคยได้ยินคำนี้ออกจากปากของปยุตมาก่อน แต่งงานมาเป็นสิบๆ ปี นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ยิน ซ้ำร้ายยังเป็นเพราะหลานสาวผู้เป็นคนนอกอีกต่างหาก!"ปยุต คุณรู้ตัวรึเปล่าว่าคุณพูดอะไรออกมา? คุณจะหย่ากับฉันงั้นหรอ? ที่คุณเข้ามาที่บ้านโดยไม่มีอะไรสักอย่างคุณลืมไปแล้วหรือยังไง? คุณไม่มีแม้แต่เงินทุน มันเป็นเงินของป๊าฉันทั้งนั้น ฉันถึงกับขึ้นศาลเขาถึงคืนเงินให้คุณกว่าสองพันล้าน คุณลืมไปแล้วรึยังไง? คุณไม่มีสมองแล้วหรอ! ตอนนี้แม้แต่ผิดชอบชั่วดีคุณก็ไม่มี นี่วัจสาเอายาอะไรให้คุณกินกันแน่!? "วราลีพูดไปตะเบงร้องไห้ไปพลางทุบตีปยุตวัจสาเต็มไปด้วยความเจ็บปวดใจ ดูเหมือนว่ามันจะจริงอย่างที่ปากร้ายไของวราลีพูดวัจสาอยู่ที่บ้านตระกูลเดิมขุนทดมาตั้งนาน เธอไม่เคยรู้เลยว่าอาของเธออยู่ฐานะที่น่าอับอายมากมายขนาดนี้ แถมอาวราลีก็ดูเหมือนจะมีอำนาจมากกว่ามาโดยตลอดด้วยว่าเธอมีเงิน อย่างที่เธอบอก แรกเริ่มเดิมทีปยุตเริ่มธุรกิจด้วยการที่ไม่มีอะไรเลย เธอได้ให้ชัยชนะแก่เขา ดังนั้นอาของเธออยู่ที่บ้านตระกูลเดิมขุนทดนี้ไม่มีอำนาจใดๆ เลย เขาจึงต้องคอยเชื่อฟังอาลีอยู่เสมอเธอให้เขาส่งเธอไปที่สถานสงเคราะห์ เขาจะไม่ส่งไปก็ไม่ได้ ดังนั้นวัจสาจึงต้องถูกส่งไปที่สถานสงเคราะห์ หลังจากที่บริษัทเริ่มจะอยู่ตัวดี ตำแหน่งของอาที่อยู่ในบ้านก็เริ่มแข็งแกร่งขึ้น เขาเลยมีอำนาจมากพอที่จะพาเธอกลับมาจากสถานสงเคราะห์ได้