วิวาห์ร้อน แต่งผิดรักจริง - ตอนที่ 132 ปลุกให้เขาตื่นได้
ตอนที่ 132 ปลุกให้เขาตื่นได้
ค่อยๆวางหญิงสาวลงบนเตียง สายตาของบุรีมองไปยังโซ่ที่อยู่ที่มุมนั้น อยู่เนิ่นนาน แล้วจึงถอนหายใจออกมา แล้วใช้โซ่นั้นล็อคเท้าของหญิงสาวเอาไว้
แผลที่เท้าของเธอหายดีแล้ว เหลือเพียงรอยแดง บุรีไม่ทน ใช้โซ่ล็อคเข้าที่ขาขวาของเธอ
ไม่ว่าเขาจะสงสารเธออย่างไร แต่ก็ไม่อาจเปลี่ยนเรื่องเลวร้ายที่ผู้หญิงคนนี้เคยทำลงไปได้
ไม่คิดเลยจริงๆว่าหญิงสาวที่สวยงามดูบริสุทธิ์ขนาดนี้ ภายในใจจะมีความโหดเหี้ยม
ล็อคกนิษฐาไว้เรียบร้อย บุรีล็อคประตูบ้านทุกบาน แล้วเปิดเครื่องแจ้งตำรวจเอาไว้ เผื่อยามฉุกเฉิน แล้วเขาจึงเดินออกจากบ้านไป
สองชั่วโมงให้หลัง บุรีก็รีบกลับเข้ามา เขารีบหาน้ำเย็นดื่มลงท้องอย่างรวดเร็ว
ตอนนี้กนิษฐาตื่นแล้ว เธอนั่งเงียบๆอยู่บนเตียง สายตามองไปที่โซ่บนเท้าของเธอ ราวกับกำลังกล่าวหาว่าบุรีใจร้าย
แต่ต่อจากนี้บุรีก็คงดูแลเธอไม่ได้อีกแล้ว “กนิษฐา ฉันรู้สึกว่า เวลาตายของเธอใกล้ถึงแล้ว”
“จริงเหรอ? หาธัชชัยเจอแล้วใช่ไหม? เขาคงไม่ได้หายไปสามวันเพื่อหาวิธีมาทำให้ฉันตายหรอกใช่ไหม?” กนิษฐาพูดอย่างสบายๆ และที่น่าตลกไปกว่านั้นคือ รอยยิ้มบริสุทธิ์บนใบหน้าราวกับเธอเป็นนางฟ้าที่แสนดี
เรื่องตายสำหรับเธอนั้น เกี่ยวอะไรกันแม้แต่นิดเดียว เธอไม่รู้จักหวงแหนชีวิตตัวเองเลยแม้แต่น้อย ทุกคนมีชีวิตได้เพียงครั้งเดียว ถ้าตายก็คงสิ้นแล้วทุกอย่าง บนโลกใบนี้ ทุกอย่างก็จะสูญสลายไปตามกาลเวลา
“ฉันไม่รู้ว่าเขาจะใช้วิธีไหนฆ่าเธอ แต่ฉันพูดกับเธอได้อย่างมั่นใจ ว่าถ้าวรพลตายไป ต่อมาก็คงถึงเธอ”
ที่บุรีพูดนั้นก็จริง แค่เพียงวรพลตายไป กนิษฐาก็ไร้ประโยชน์ไปโดยปริยาย และธัชชัยคงไม่ปล่อยฆาตกรที่ทำร้ายพี่ชายเขาไปแน่ๆ และยิ่งกนิษฐาเป็นคนที่พี่ชายเขารักมากที่สุด ถ้าหากมีงานศพ กนิษฐาก็คงไปเป็นคนแรกแน่ๆ
“วรพลยังไม่ตายเหรอ? เขาตอนนี้คงจะถูกเผาเป็นครึ่งคนครึ่งผีแล้วสินะ? ตายไปไม่ดีกว่าเหรอ? ยังไงซะมีชีวิตอยู่ก็มีแต่ทำให้ธัชชัยขายขี้หน้า สร้างความเดือดร้อน รีบๆตายไปซะดีกว่า”
เสียงของกนิษฐาแสดงความไม่พอใจ เธอไม่มีความรู้สึกใดใดต่อวรพลทั้งนั้น ไม่แม้แต่รู้สึกผิด ถ้าหากธัชชัยได้ยินคำพูดนี้ เธอคงตายอย่างไม่ต้องสงสัย!
แม้แต่บุรีได้ยินก็อยากจะฆ่าเธอ ต่อให้เธอจะรักธัชชัยสักเพียงไหน แต่ก็ไม่ควรมีท่าทีเช่นนี้ต่อคนที่ถูกทำร้าย ความจริงใจที่วรพลมีต่อเธอ ตอนนี้มันช่างไร้ค่าเสียจริง! ต่อให้ตัวเองเสียชีวิตก็จะรักษาเธอเอาไว้ แล้วเธอล่ะ? อยากให้เขาไปตายอย่างนั้น?
พอกันทีกับผู้หญิงคนนี้!
“กนิษฐา ฉันต้องบอกความจริงกับเธอเรื่องหนึ่ง ถ้าหากวรพลตายแล้ว เธอจะต้องเฝ้าศพให้เขา! เธอคิดว่าคุณธัชชัยเขาจะยอมปล่อยให้คนผิดลอยนวลเหรอ? แล้วเธอก็อย่าลืม เธอเป็นคนที่คุณวรพลชอบมากที่สุด”
บุรีโกรธจนต้องพูดเตือนสถานะที่แท้จริงของเธอ จะดูว่าเธอจะกล้าพูดเช่นนั้นอีกไหม วรพลตายแล้ว กนิษฐาก็คงอยู่ต่อได้ไม่นาน! เขาไม่เชื่อว่าเธอไม่กลัวตายเลยแม้แต่น้อย เพียงแค่โลกนี้ยังมีคนให้นึกถึง ใครจะยอมตายกัน?“ให้เฝ้าศพวรพล? ไม่ๆๆๆ ฉันไม่ทำ ทำไมฉันจะต้องเฝ้าศพให้กึ่งคนกึ่งผีนี่ด้วย! ฉันจะเฝ้าศพให้ธัชชัยเท่านั้น!” นี่เป็นครั้งแรกที่บุรีเห็นท่าทีแตกตื่นของกนิษฐาแต่ที่ทำให้เขาคิดไม่ถึงก็คือผู้หญิงคนนี้ไม่ได้กลัวความตาย แต่เธอกลัวที่จะต้องเฝ้าศพให้วรพลเธอยังบอกว่ายอมเฝ้าศพให้ธัชชัย! ช่างน่าเศร้าจริงๆ ช่างน่าตลกและน่าเศร้าแทนวรพลเสียจริง ผู้หญิงแบบนี้ทำให้คนทั้งรู้สึกรักและรู้สึกเกลียด!“หลังจากที่วรพลเสีย ใครยังจะให้เธอมาจัดการกัน? เธอคิดว่าตัวเองจะเฝ้าศพใครก็ได้เหรอ? ต่อให้เธอไม่อยาก แต่ธัชชัยไม่ปล่อยเธอไปแน่!”บุรีทนความเอาแต่ใจของเธอได้ แต่ธัชชัยทนไม่ได้แน่ๆ และเขาก็ไม่จำเป็นต้องทน ฝังเธอไปกับศพพี่ชายของเขาก็เป็นเรื่องที่ถูกแล้วกนิษฐาแค่คิดเพียงว่าการถูกฝังศพให้อยู่ในหลุมเดียวกับคนที่ไม่ได้รัก มันช่างเป็นฝันร้ายแต่ว่าคนก็ตายไปแล้ว จะฝันร้ายได้ไง? แล้วยังมีชีวิตอีกเหรอ? จบไปตั้งนานแล้วกนิษฐาเงียบลง เธอจะตายกับธัชชัยเท่านั้น และจะฝังศพกับเขาเท่านั้นด้วยบุรีมองเธอแบบคาดโทษ แล้วจึงพูดต่อ “เช้ามืดในสองวันก่อน คุณชายใหญ่ตระกูลศรีทองฆ่าตัวตาย และตอนนี้อาการสาหัสอยู่ในห้องไอซียูยังไม่ฟื้น หมอบอกว่าถ้าผ่านไปสามวัน ถ้าเขายังไม่ตื่น ก็จะกลายเป็นคนป่วยติดเตียงตลอดชีวิต!”หลังจากกนิษฐาได้ยินที่เขาพูด เธอนั่งครุ่นคิดลงที่พื้น แล้วแววตาเป็นประกายขึ้นมา รีบเงยหน้า แล้วจับแขนของบุรีที่ถือน้ำเอาไว้ รีบพูดขึ้น “เร็วสิ! รีบไปส่งฉันที่โรงพยาบาล!ตอนนี้เลย!”“โรงพยาบาล?” บุรีขมวดคิ้ว “เธอคิดวิธีอะไรมาทรมานฉันอีกห้ะ?”น้ำในแก้วหกออกมาแล้วครึ่งหนึ่ง แขนเสื้อของเธอก็จุ่มลงไป เปียกไปหมดทั้งตัว บุรีไม่รู้จะทำตัวยังไง กนิษฐาเธอเป็นผู้หญิงเจ้าเล่ห์จริงๆ ไม่ตั้งใจก็ทำให้ผู้ชายยอมได้“ฉันบอกว่า ตอนนี้ รีบพาฉันไปหาวรพล” กนิษฐาเขย่าแขนบุรีแรงขึ้น“โรงพยาบาลของวรพล? เธอก็รู้ว่าเขาเป็นอย่างไร เธอไปก็มีแต่ตาย” บุรีไม่เข้าใจจริงๆ“วรพลสลบอยู่ไม่ใช่เหรอ? ถ้านายพาฉันไป ฉันมีวิธีทำให้เขาฟื้นขึ้นมาได้” น้ำเสียงของกนิษฐามุ่งมั่นเหมือนกับองค์หญิงผู้สูงส่งแต่ว่าบุรีก็รู้สึกแปลกๆ เธอจะปลุกคนที่เธอทำให้สลบได้ยังไงกัน? แม้แต่หมอยังหมดหนทาง แล้วเธอคิดว่าตัวเองเป็นเทพเจ้ารึไงกัน?“เธอคิดว่าตัวเองจะปลุกให้คุณวรพลฟื้นมาได้เหรอ? หรือเธอแค่อยากจะหลอกฉัน แล้วฉวยโอกาสหนี?”กนิษฐาผู้หญิงคนนี้แผนสูง บุรีจะไม่ป้องกันไว้ก่อนไม่ได้ นี่อย่างมากก็แค่ทรมานแขนเขาข้างหนึ่ง“บุรี ฉันสัญญาว่าฉันจะไม่หนีถ้านายไม่เชื่อ ล็อคฉันไว้ก็ได้ แต่ถ้านายไม่ให้ฉันลอง ก็คงจะเสียโอกาสที่วรพลจะฟื้นไป เพราะถูกนายขัดขวางไว้! ความผิดทั้งหมดนี้ก็จะเป็นของนายทั้งหมด!”กนิษฐาพูดเสียจนเรื่องราวดูแย่ และไม่รู้จะพูดให้ถูกใจบุรียังไง ยังไงซะก็ยอมรับ ว่าเธอก็เป็นผู้หญิงฉลาด ไม่แปลกใจที่ทำเอาวรพลหัวหมุน!“ฉันจะเป็นคนผิดได้ยังไง?” บุรีครุ่นคิด ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังตกไปในกับดักของกนิษฐา“ธัชชัยคงไม่ยอมให้พี่ชายของตัวเองสลบไปแบบนี้แน่ๆ คงจะเรียกหมอจากต่างประเทศมามากมาย แต่พวกเขาคงไม่มีวิธีรักษา ตอนนี้ก็มีเพียงฉันที่จะปลุกเขาขึ้นมาได้ แต่นายกลับห้ามฉันไว้ แค่นี้นายยังไม่ผิดอีกเหรอ? ไม่แน่นายอาจจะเป็นฆาตกร! ไม่ช่วยเหลือคนเจ็บ!”กนิษฐารีบพูดชักจูงและบุรีก็เริ่มเอียงเอนตามวรพลสลบมาแล้วสองวันสองคืน ธัชชัยไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย ยังดีที่ได้หมอภาคินคอยดูแลเรื่องสารอาหาร ไม่งั้นเขาคงทนไม่ได้มาถึงสามวันดังนั้นวัจสาเห็นท่าทางอ่อนแรงของเขาแล้ว ก็รู้สึกเป็นห่วงขึ้นมา ความเจ็บปวดในใจของเขา วัจสาก็รู้ดีในที่สุดบุรีก็พาวัจสามาที่โรงพยาบาลนี่เป็นครั้งแรกที่วัจสาเจอกนิษฐา คนที่วรพลคิดถึงมาตลอด อยู่ตรงหน้าแล้วแต่ที่ทำให้เธอตกตะลึงคือ ผู้หญิงคนนี้ช่างน่ากลัวทั้งๆที่เอมีใบหน้าอ่อนโยนราวกับนางฟ้า แต่กลับสัมผัสได้ถึงความอำมหิตใช่แล้ว มันคือแรงอำมหิต ราวกับจะฆ่าเธอในวินาทีต่อมาเธอน่ากลัวกว่าปีศาจอย่างธัชชัยอยู่มากก่อนจะเจอกนิษฐา วัจสาคอยนั่งเฝ้าอยู่ที่ทางเดินหน้าห้องไอซียูอยู่ตลอดพ่อบ้านภูษิตบอกว่าที่เขาฆ่าตัวตายไม่เกี่ยวกับเธอ แต่วัจสายังคงรู้สึกผิด อาจเป็นเพราะความดื้อรั้น จะออกจากบ้านตระกูลศรีทองของเธอ วรพลอาจจะไม่ต้องมานอนโรงพยาบาลแบบนี้จนตอนนี้เธอก็ยังไม่รู้ว่าที่วรพลฆ่าตัวตายนั้นเป็นเพราะศักดิ์ศรีตัวเองแต่ว่ามันก็มีสาเหตุ เพราะทุกคนในบ้านตระกูลศรีทอง ก็หลุดเรื่องนี้ขึ้นมาอยู่ตลอดตอนที่ป้าอ้อยเอาข้าวไปให้วรพล แล้วก็เอาออกมาในสภาพเดิมเธอเดินไปเดินมาพลางปาดน้ำตา คุณชายใหญ่จะเป็นตายร้ายดียังไงไม่รู้ แต่ตอนนี้คุณชายรองก็ยังคงไม่ได้กินอะไรทั้งนั้น นี่มีแต่จะทำร้ายร่างกายตัวเอง ถ้าแม้แต่คุณชายรองก็ล้มลงแล้ว ตระกูลศรีทองก็คงไม่เหลืออะไรแล้ว!ป้าอ้อยเป็นห่วงทั้งสองคน เธอดูแลสองคนนี้ตั้งแต่เด็กๆราวกับเป็นลูกแท้“ป้าอ้อย เขา ยังไม่ยอมกินอีกเหรอ?”วัจสามองอาหารในจานที่ยังอยู่ในสภาพเดิม ในใจรู้สึกร้อนรน ธัชชัยไม่ยอมกินข้าวเอง อาศัยแต่สายให้อาหาร ถ้ามิเช่นนั้นร่างกายคงทนไม่ได้ป้าอ้อยส่ายหน้า แล้วเริ่มรู้สึกจุกขึ้นที่คอ วัจสาก็เข้าใจทันทีว่าทำไมตาของเธอถึงแดงขนาดนี้“คุณหนู ทำยังไงดีคะ? ตอนนี้คุณชายใหญ่จะเป็นยังไงไม่รู้? คุณชายรองเอาแต่ทรมานตัวเอง ฉันกลัวว่า… ตระกูลศรีทองจะไม่เหลืออะไร”วัจสาคิด แล้วยื่นมือรับถาดอาหารต่อจากป้าอ้อย “ป้าอ้อย ฉันเอาไปให้ธัชชัยเองดีกว่า”ป้าอ้อยรีบรั้งวัจสาเอาไว้ “ไม่ได้ค่ะ คุณหนู คุณชายรองยังโมโหอยู่ ถ้าบังเอิญทำร้ายคุณเข้า แล้วจะทำยังไงดีล่ะคะ?” ป้าอ้อยนึกถึงเรื่องที่ได้ยินมาเมื่อกลางวัน คุณชายรองพูดถึงวัจสา ถ้าไม่ได้การ์ดและพ่อบ้านช่วยห้ามเอาไว้ คงจะเสียชีวิตแล้ว”ตอนนี้ก้ไม่รู้ว่าในท้องคุณหนูมีคุณชายน้อยอยู่หรือเปล่า แต่ถ้าถูกพ่อของเขาทำร้าย ก็คงจะผิดน่าดูป้าอ้อยไม่ยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นแน่ๆ จึงไม่ยอมให้วัจสาเข้าไป“ป้าอ้อย ไม่เป็นไรนะคะ ธัชชัยจะทำอะไรก็ตาม ฉันจะไม่เถียงเขา เรื่องสำคัญตอนนี้คือกินข้าว ไม่งั้นก็รอให้วรพลฟื้น เขาก็คงสลบไปแน่ๆ”วัจสาไม่เคยสัมผัสความเจ็บปวดจากการสูญเสียพ่อ พ่อจากเธอไปตั้งแต่ยังจำความไม่ได้ แต่เธอรู้ความเจ็บปวดของธัชชัยดี แทบจะกินข้าวไม่ลงแต่ไม่ว่าจะรู้สึกแย่อย่างไร ก็ต้องกินข้าวเสียหน่อย เธอคิดเช่นนี้แล้วจึงกินเข้าไป-โปรดติดตามตอนต่อไป 20/11/2019-