ตายแน่
ฉันจะต้องตายแน่ๆ
ถ้าจะให้เปรียบเทียบความรู้สึกแล้ว มันเหมือนกับกำลังมองดูอุกกาบาตพุ่งตรงมาทางตัวเองจากบนท้องฟ้าเลยล่ะ – ความรู้สึกของความสิ้นหวังที่มากล้นจากการเผชิญหน้ากับความตายซึ่งๆหน้า
เอ๋? ทำไมฉันถึงรู้สึกอย่างนั้นน่ะเหรอ?
เป็นเพราะโคฮาคุกำลังเขย่าตัวฉันไปมายังไงล่ะ…
“ท-ท่านมีรูปลักษณ์ยังไงบ้าง!? สีของผมแล้วก็เขาล่ะ!? ท่านสวมใส่อาภรณ์อย่างไร!? แล้ววิธีพูดของท่านด้วย…! ไม่สิ เดี๋ยวนะเรื่องพวกนี้ถามไปก็เสียเวลาเปล่า!! อ๊า แต่ว่าอยากรู้จัง!! สงสัยสุดๆเลย!!”
อย่างที่คาดไว้ ค่าความแข็งแกร่งของเธอเกิน4หลักไปแล้วแหง แล้วเธอยังเขย่าฉันจนเกือบตายด้วยความแข็งแกร่งนั่นโดยไม่แม้แต่จะสังเกตเห็นแถบHPของฉันที่ลดลงไป จนถึงครั้งที่สามที่เธอเขย่าฉัน ฉันก็รู้สึกเหมือนกับว่าสติมันกำลังจางหายไป
มันราวกับว่า…ราวกับทั้งตัวของฉันถูกทำให้สั่นไหวไปพร้อมกัน…เหมือนกับอวัยวะภายในของฉันสลับที่ไปจากตำแหน่งเดิม…อ่า ฉันกำลังจะตายสินะ….
“ย-ยอมแล้-….”
“อ๊า!? ขอโทษนะ!”
“กึ…”
เพราะถูกปล่อยลงอย่างกะทันหัน ฉันร่วงลงไปกับพื้นและนิ่งไปทั้งอย่างนั้น ไม่เคลื่อนไหวแม้แต่น้อย ตัวฉันแค่นอนนิ่งอยู่อย่างนั้น
“ซุคุนะ? อย่าตายนะซุคุน——–ะ!”
ไม่สิ ฉันยังไม่ตายหรอกนะ….
☆
บอกกับบาร์เทนเดอร์ที่เร่งรีบมาหาด้วยความกังวลว่าฉันไม่เป็นอะไร ฉันก็นั่งลงกับพื้นเพราะยังรู้สึกโคลงเคลงอยู่
อืม ยังรู้สึกเหมือนทั้งตัวถูกเขย่าอยู่เลยล่ะ
“ข-ขอโทษนะ….”
“ไม่หรอก….ไม่เป็นไร….”
“ยังโงนเงนไปมาอยู่เลยไม่ใช่เหรอ….รู้แล้ว ซุคุนะ มาตรงนี้สิ”
พูดอย่างนั้นพร้อมกับนั่งคุกเข่าลง เธอก็เรียกให้ฉันวางหัวลงบนตักของเธอ หรือก็คือเธอกำลังบอกให้ฉันนอนหนุนตักเธออยู่ล่ะ
ฉันทำตามที่เธอบอก ใช้ตักของเธอแทนหมอนฉันก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกนุ่มนิ่มปกคลุมด้านหลังศีรษะของฉัน รู้สึกดีมากจริงๆล่ะ
หืม นอนหนุนตักจริงๆแล้วควรจะเรียกว่านอนหนุนขาอ่อนมากกว่าไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงเรียกว่านอนหนุนตักกันนะ?
“ท่านคิชินที่ฉันได้เจอใช้ร่างที่หน้าตาเหมือนกับฉันเป็นร่างชั่วคราวน่ะ”
“ย-อย่างนั้นเหรอ ฉันรู้สึกดีใจแต่ก็ผิดหวังนิดหน่อยนะ….สุดท้ายแล้วซุคุนะเองก็ไม่รู้เหมือนกันสินะ”
“ฉันไม่รู้เลยล่ะว่าร่างจริงมีหน้าตายังไง”
ในตอนนั้นชูเท็นได้ทำการลอกเลียนแบบอวาตาร์ของฉันโดยละเอียดไปจนถึงรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ จนถึงขั้นราวกับว่าฉันกำลังส่องกระจกอยู่เลยล่ะ ฉันเลยไม่รู้ว่าตัวตนที่แท้จริงของชูเท็นเป็นยังไง
ถึงอย่างนั้นสิ่งที่ฉันรู้ก็คือการไปยังที่แห่งนั้นอีกครั้ง
เดี๋ยวนะ พอมาคิดดูดีๆแล้ว สงสัยจังว่าโคฮาคุมีแผนที่จะปลดปล่อยชูเท็นออกจากผนึกยังไง สำหรับฉันที่ได้คำแนะนำจากชูเท็นโดยตรงก็เรื่องหนึ่ง แต่ฌคฮาคุน่าจะไม่เคยได้เจอกับชูเท็นมาก่อนนี่นา
“พอมาคิดดูแล้ว เธอพูดถึงเรื่องการคืนชีพให้กับท่านคิชิน…เรื่องนั้นน่ะ เธอมีวิธีแล้วอย่างนั้นเหรอ?”
“ฉันพอจะมีอยู่นะ…เธอรู้เหตุผลที่เทพผู้สร้างผนึกท่านคิชินไว้ไหม?”
“ไม่รู้เลย”
“ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ท่านคิชินได้ปล่อยให้โทสะเข้าครอบงำและท่านก็ได้ทำลายประเทศมนุษย์ไปสามประเทศ ทำลายจนเหลือแต่เพียงเถ้าถ่าน พื้นดินกลายเป็นแผ่นดินรกร้าง จากทฤษฎีหนึ่งที่ว่ากันว่าเป็นเพราะมีมนุษย์ไม่ดีได้ขโมยสิ่งสำคัญไปจากท่าน เรื่องพวกนี่เกิดขึ้นก่อนที่ท่านจะกลายเป็นเทพ เป็นเรื่องเมื่อท่านยังเป็นเพียงคิจินธรรมดา”
โคฮาคุที่ก็ทำลายหมู่บ้านของตัวเอง แล้วก็ชูเท็นที่ทำลายไปถึงสามประเทศ….ไม่ใช่ว่าคิจินจะมีปัญหาในการควบคุมอารมณ์ของตัวเองไปหน่อยเหรอ?
“จากอีกด้านหนึ่งของสุดขอบโลก เทพผู้สร้างได้เฝ้ามองความรุนแรงเหล่านั้น….จนถึงตอนนี้ จากตำนานที่สืบทอดต่อกันมาในหมู่คิจิน ท่านกำลังถูกผนึกอยู่ในที่ที่ปัจจุบันเรียกขานกันว่า[ป่าสุดขอบเขต]ซึ่งก็หมายความว่า…”
“คำใบ้อยู่ที่ป่าสุดขอบเขตสินะ?”
“ใช่แล้วล่ะ”
อย่างนี้นี่เอง ชาวคิจินเองก็ได้รู้ว่าชูเท็นถูกผนึกอยู่ที่ป่าสุดขอบเขต
บางทีนี่อาจจะเป็นวิธีที่เนื้อเรื่องควรจะดำเนินก็ได้นะ ลำดับแรกคือการรวบรวมข้อมูลจากNPCอย่างโคฮาคุ แล้วค่อยตั้งเป้าหมายไปที่ศาลเจ้าในป่าสุดขอบเขต
“ท่านคิชินเองก็บอกให้ฉันไปที่ป่าสุดขอบเขตเหมือนกันมั้งนะ”
“อย่างนั้นสินะ ตามที่ตำนานว่าเอาไว้เลย”
“ที่ฉันถูกบอกมาก็คือ—”
ฉันบอกทุกอย่างเท่าที่ฉันรู้ให้กับโคฮาคุที่นำมือขึ้นมาจับคางทำท่าครุ่นคิด
เรื่องที่ว่าฉันจะต้องตามหาศาลเจ้าที่อยู่ในป่าสุดขอบเขต เรื่องที่ฉันจะต้องมีเลเวลขั้นต่ำเกินกว่า50 เรื่องที่เครื่องประดับบนผมของฉันทำหน้าที่แทนกุญแจไปสู่โลกที่เรียกว่ายมโลก และเรื่องที่ว่ามอนสเตอร์ที่ยมโลกนั่นดูท่าจะแข็งแกร่งน่าดู
“การจะฝ่ายมโลกไปได้ ฉันรู้ว่าฉันเพียงคนเดียวยังไม่พร้อม ฉันคิดว่าฉันจะต้องให้โคฮาคุช่วยด้วยนะ”
“….ฮ่ะฮ่ะ เธอเป็นเหมือนกับแสงสว่างที่ฝ่าเมฆอันมืดมนโสมมในเส้นทางของฉันเลยล่ะ ความฝันที่ครั้งหนึ่งฉันได้เคยยอมทิ้งมันไป พอมาคิดว่าจะได้มีโอกาสเห็นอีกครั้ง”
ขณะที่โคฮาคุพูดอย่างนั้น เธอก้มหัวลง พร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า
“สำหรับตอนนี้ พลังของคิจินที่แข็งแกร่งที่สุด ฉันจะขอฝากไว้ในมือของเธอ เพื่อที่จะปลดปล่อยท่านคิชินออกจากผนึกของท่านแล้วล่ะก็”
“อืม ฉันก็ด้วย เพื่อทำให้ความฝันของโคฮาคุเป็นจริง รวมไปถึงเป้าหมายของฉันด้วย ฉันจะพยายามเต็มที่นะ”
สิ่งสำคัญก็คือการที่ต่างฝ่ายต่างได้รับผลประโยชน์ แทนที่จะเป็นงานอาสาที่ไม่ได้อะไรตอบแทน นี่เป็นข้อตกลงที่พวกเราทั้งสองฝ่ายต่างก็เชื่อมั่น
คำสาบานระหว่างฉันกับโคฮาคุ อะไรทำนองนั้นล่ะ
ถึงยังไงนี่ก็ผ่านมาแค่ไม่กี่ชั่วโมงเองนะหลังจากที่พวกเราได้เจอกันอย่างเป็นทางการน่ะ
“ซุคุนะ หลังจากนี้พอจะมีเวลาว่างสักหน่อยไหม?”
“ก็ได้อยู่หรอก มีอะไรเหรอ?”
หลังจากที่จ่ายค่าอาหารและเครื่องดื่ม ก่อนจะออกจากร้าน โคฮาคุก็เรียกฉันเอาไว้
“ซุคุนะ เธอน่ะมีสกิล[ต่อสู้มือเปล่า]สินะ? ฉันคิดว่าฉันน่าจะสอน[ระบำยักษา(โอนิ โนะ มาอิ)]ให้กับเธอน่ะ”
“โอนิ โนะ มาอิ?”
หลังจากได้ยินในข้อสงสัยของฉัน โคฮาคุก็แยกยิ้มอันดุร้ายออกมาพร้อมกับพูดขึ้นว่า
“นั่นคือสิ่งที่ท่าคิชินหลงเหลือเอาไว้น่ะ ศาสตร์การต่อสู้ที่มีเพียงคิชินเท่านั้นที่รับมือไหว”
☆
“ฟู่ว…รู้สึกเหมือนกับว่าในแต่ละวันช่างมีแต่เรื่องวุ่นวายเหลือเกินนะ…”
หลายชั่วโมงต่อมา
หลังจากคาบเรียนหฤโหดกับโคฮาคุได้จบลง ฉันก็เลิกเล่นเกมและกลับสู่โลกความจริง
รินจังยังอยู่ภายในเกม ฉันคิดจะทำอาหารสักหน่อยแต่แบบว่าฉันก็ขาดความสามารถในการทำอาหารแบบมืออาชีพล่ะนะ
“รู้แล้ว ลองเช็คเว็บบอร์ดดูดีกว่า”
เพราะว่าฉันไม่มีอะไรทำ ฉันเลยตัดสินใจเปิดหน้าเว็บบอร์ดของเกมWLOดู
ตราบใดที่มีหมายเลขIDของผู้เล่นก็จะสามารถเข้าได้ผ่านทุกอุปกรณ์การใช้งาน แน่นอนว่าสามารถเข้าดูได้แม้แต่ภายในเกม แต่ระบบนั้นจำกัดเฉพาะในพื้นที่ที่ปลอดภัยอย่างเช่นภายในเมืองเท่านั้น
สำหรับสาเหตุที่ฉันตัดสินใจจะเข้าไปดู เป็นเพราะว่าในความเป็นจริงแล้ว ตลอดระยะเวลาที่ฉันคุยกับโคฮาคุ ฉันไม่ได้หยุดไลฟ์สตรีมเลยล่ะ
แน่นอนว่าจำนวนผู้ชมจะลดลงเพราะฉันไม่ได้ให้ความสนใจกับพวกเขาเลย แต่กลับมีจำนวนผู้ชมมากกว่าตอนที่ฉันเข้าไปในป่าแห่งเวทมนตร์ในตอนแรกเสียอีก และสตรีมของฉันยังขึ้นไปอยู่ใน TOP10 ของลำดับการสตรีมอีกด้วย
ในเมื่อไหนๆข้อมูลของฉันก็จะรั่วอยู่แล้ว ฉันเลยคิดว่าจะไปแบ่งปันข้อมูลด้วยตัวเองเสียเลย
“ไหนดูสิ คิจิน….อ๊ะ เจอแล้ว เจอแล้ว เว็บบอร์ดเฉพาะ”
ภายในเกมWLO มีตัวเลือกเผ่าพันธุ์อยู่มากมาย แต่อัตราส่วนของเผ่ามนุษย์เทียบกับเผ่าอื่นๆนั้นคือ40% ซึ่งไม่สมส่วนเอาเสียเลย
อัตราส่วนของเผ่าอื่นๆแบ่งเป็น เผ่าครึ่งสัตว์30% เผ่าเอลฟ์10% และเผ่าที่เหลือทุกเผ่ารวมกันเป็น20%สุดท้าย นั่นเป็นเพราะความเฉพาะทางของเผ่าอื่นๆนอกจากเผ่าเอลฟ์ เผ่าครึ่งสัตว์ และเผ่ามนุษย์
ยกตัวอย่างเช่น เผ่าคิจินที่มีความเฉพาะด้านในทางกายภาพ เผ่าแฟรี่ที่มีความเฉพาะด้านในทางเวทมนตร์ ในส่วนของเผ่าคนแคระก็เป็นเผ่าพันธุ์ที่เชี่ยวชาญงานช่างตีเหล็กมากกว่าเผ่าสายงานช่างอื่นๆ และเผ่าฮาลฟ์ลิ่งที่เก่งกว่าในงานฝีมือการถักทอ
เพราะว่าสไตล์การเล่นจะถูกจำกัดลงทันทีที่เลือกเผ่าพันธุ์เหล่านี้ ผู้เล่นส่วนมากจึงเลือกในสามเผ่าพันธุ์ที่มีอิสระมากกว่า
จะว่าไปแล้ว ถึงฉันจะเหมารวมเป็นกลุ่มครึ่งสัตว์ แต่ในนั้นยังมีตัวเลือกเป็นสัตว์ต่างๆอีกมาก และนับว่าเป็นเผ่าพันธุ์ที่แตกต่างกันอีกด้วย นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่มีผู้เล่นเผ่าครึ่งสัตว์จำนวนมากขนาดนั้น
แล้วก็นะ สิ่งที่ฉันอยากจะบอกก็คือ
จำนวนผู้เล่นเผ่าคิจินเองก็มีไม่ถึง5%ของจำนวนผู้เล่นทั้งหมดในWLOด้วยซ้ำ พวกนั้นคือชนกลุ่มน้อยในหมู่ของชนกลุ่มน้อยเลยล่ะ
และเป็นเพราะว่าไม่มีคนเล่นมากขนาดนั้น ก็เลยจะมีอะไรอย่างกระทู้เฉพาะสำหรับพวกเขา
“อ๊ะ-…ว่าแล้วเชียว”
กระทู้เฉพาะของคิจินกำลังลุกเป็นไฟจากเนื้อหาการสตรีมของฉัน
ตั้งแต่ช่วงที่ฉันได้เจอกับโคฮาคุ จำนวนโพสต์เองก็เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นั่นคงจะเป็นเรื่องที่พวกเขาคุยกันสินะ
“อ๊ะ รูปแบบของเว็บแบบนี้เองก็น่าสนใจดีนะ”
สำหรับฉันที่ไม่ได้เข้ามาดูเว็บบอร์ดมาก่อน ก่อนที่จะได้อ่านเนื้อหาภายในก็ได้ถูกสไตล์ของเว็บดึงดูดความสนใจไป ฉันได้ใช้เวลา30นาทีไปกับมันก่อนที่จะได้โพสต์ข้อความแรกของฉัน
——————————————-
โน้ตผู้เขียน
เผ่าจิ้งจอกที่เป็นหนึ่งในกลุ่มครึ่งสัตว์กับเผ่าจิ้งจอกโยวโกะที่เป็นพันธมิตรร่วมสาบานกับเผ่าคิจินไม่ใช่เผ่าเดียวกัน
ความต่างระหว่างมนุษย์ที่มีส่วนประกอบของจิ้งจอก กับจิ้งจอกที่สามารถจำแลงกายเป็นมนุษย์ โยวโกะเพียงแค่ใช้ร่างมนุษย์สำหรับการจำแลงกายเท่านั้น ภายในที่แท้จริงเป็นเพียงแค่สัตว์ป่า
จะว่าไปแล้ว แฟรี่ตรงกันข้ามกับคิจินเลย เป็นเหมือนป้อมปืนที่คอยยิงเวทอยู่กับที่
ต่อหน้าเป็นตอนเว็บบอร์ด
วางแผนไว้อย่างนั้น
——————————–
ผู้แปล:
นอนหนุนขาอ่อน ( ͡° ͜ʖ ͡°)
MANGA DISCUSSION