“นี่ ทำไมโคฮาคุถึงใช้เวทมนตร์ได้อย่างงั้นเหรอ?”
“หืม? ไม่นะ ฉันใช้เวทมนตร์ไม่ได้หรอกนะ”
สำหรับคำถามที่ฉันได้ถามไปหลังจากที่ตัดสินใจได้ ก็กลับได้คำตอบที่ฉันไม่ทันคาดคิดกลับมา
“คิจินเป็นเผ่าที่เชี่ยวชาญด้านกายภาพโดยเฉพาะ” ฉันคิดว่ามาถึงจุดนี้แล้วคงไม่น่าจะต้องย้ำกันอีกนะ
ความแข็งแกร่ง ความทนทาน ความคล่องแคล่ว ความว่องไว ในส่วนของค่าสานะทางกายภาพทั้งสี่นี่แล้ว ใช่ว่าคิจินจะมีค่าสถานะในแต่ละด้านอยู่ในจุดที่สูงที่สุด แต่ว่าโดยเฉลี่ยแล้ว ผลรวมของค่าสถานะทางกายภาพเหล่านี้จะอยู่สูงมากที่สุดในหมู่เผ่าพันธุ์อื่นๆ
ในขณะเดียวกัน ทางด้านเวทมนตร์แล้ว ต่อให้นำค่าสถานะโบนัสทั้งหมดมาลงกับค่าสถานะที่เกี่ยวข้องแล้ว อย่างมากที่สุดก็อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยทั่วไปด้วยซ้ำ นี่ล่ะคือสิ่งที่เรียกว่าโซ่ตรวนของเหล่าคิจิน
ทว่า โคฮาคุ ผู้ควรจะเป็นคิจินเหมือนกันกับฉันนั้น ได้ใช้เวทมนต์ที่เห็นๆกันอยู่ว่าทรงพลังอย่างมากลงไป
เธอได้ใช้เทคนิคที่มีชื่อว่าคาถายันต์และได้กวาดมอนสเตอร์ไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งแต่ละตัวก็มีเลเวลราวๆ20 อีกทั้งยังมีพลังป้องกันที่มากพอที่จะอยู่รอดจากเวทมนตร์ของตัวเอง
ถ้าฉันทำแบบนั้นได้บ้าง ฉันเองก็อยากที่จะมีไพ่ตายติดตัวเอาไว้
คำถามในส่วนนั้นที่ฉันถามเธอไป ก็ได้ถูกปฏิเสธกลับมาอย่างง่ายๆ
“ถ้าจะให้พูดถึงก็คงต้องบอกว่ามันคือไอเท็มล่ะ”
“ไอเท็ม?”
ได้ยินคำบอกเล่าจากโคฮาคุ มันทำให้ฉันนึกถึงอะไรอย่างพวกที่ใช้ขว้างแล้วจะมีแสงสว่างออกมา หรืออะไรที่เอาไว้ใช้ฮีลHPของตัวเอง
“ใช่แล้วล่ะ มันคือยันต์กระดาษชนิดพิเศษที่ถูกสร้างขึ้นโดยเผ่าโยวโกะที่มีอาชีพพิเศษ[ผู้ใช้ยันต์คาถา] ราคาก็มีตั้งแต่แบบแพงไปจนถึงถูกแต่ถ้าอย่างอันที่ฉันพึ่งใช้ไปก็ราคา1หมื่นไอริสล่ะนะเพราะเป็นยันต์ระดับกลาง”
“10,000ไอริส…!?”
“สำหรับพวกเราชาวคิจินแล้ว การที่ได้มีวิธีรับมือกับเวทมนตร์ได้อย่างง่ายๆ พอคิดถึงเรื่องนั้นแล้วก็ถือว่าถูกมากเลยนะ”
แน่นอนอยู่แล้ว แม้ว่าจะมีแต่เวทมนตร์ขั้นพื้นฐานที่โจมตีฉันมา แต่บาเรียนั่นก็สามารถปกป้องฉันไว้ได้จากเวทมนตร์จำนวนมาก และยังต้านเวทมนตร์สายฟ้านั่นได้อีกด้วย พอมาคิดแบบนี้แล้วฉันคิดว่า10,000ไอริสก็เป็นราคาที่ฉันจะจ่ายเหมือนกัน
ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่มีดีเลย์ในการใช้งานอีก สำหรับการป้องกันฉุกเฉินแล้วไม่แน่อาจจะไม่มีไอเท็มไหนดีไปกว่าเจ้านี้แล้วก็ได้
แต่ว่า10,000ไอริส จะว่าแพงมันก็แพงจริงๆนั่นล่ะ แต่ก็คุ้มค่านะ
ถึงจะรู้สึกเจ็บปวดที่มันเป็นไอเท็มประเภทใช้แล้วทิ้งก็เถอะ
แต่ว่านะ เผ่าโยวโกะสินะ? พวกนั้นปรากฏขึ้นในโฆษณาของเกมอยู่หรอก แต่เป็นเผ่าที่ผู้เล่นไม่สามารถเลือกได้
ร่างสัตว์ป่าสี่ขาและร่างมนุษย์กึ่งสัตว์สองขา พวกเขามีสองร่าง และยังสามารถแปลงเป็นร่างมนุษย์อย่างสมบูรณ์ได้เมื่อโตขึ้นแล้ว
เนื่องจากพวกเขาถูกแนะนำออกมาในเว็บไซต์ทางการ ชื่อของเผ่าพันธุ์จึงค่อนข้างเป็นที่รู้จัก แต่อย่างน้อยฉันก็ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย
“ฉันไม่เคยเห็นโยวโกะมาก่อนเลยนะ”
“เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วล่ะ พวกเขามีสายสัมพันธ์ระหว่างเผ่าที่แน่นแฟ้นและส่วนมากมักซ่อนตัวอยู่ในหมู่บ้านลับของพวกเขา ถ้าฉันไม่ใช่คิจินฉันคงไม่มีโอกาสได้พบเจอกับพวกนั้นด้วยซ้ำนะ”
“ถ้าไม่ใช่คิจินเหรอ?”
“เผ่าคิจินกับเผ่าโยวโกะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันน่ะ อาจเป็นเพราะท่านคิชินและท่านเซนโกะมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกัน เผ่าทั้งสองจึงได้มีสายสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้วล่ะนะ”
อย่างนี้นี่เองเข้าใจล่ะ ดูเหมือนว่าเผ่าคิจินกับเผ่าโยวโกะจะสนิทกันสินะ
ไม่แน่สักวันฉันเองก็อาจจะได้ซื้อยันต์คาถาบ้างก็ได้สิ?
แต่พวกนั้นเองก็ดูเหมือนจะเป็นเผ่าที่ไม่ค่อยเข้าสังคมด้วยสิแล้วฉันเองก็เป็นแค่ผู้เล่นที่เป็นเผ่าคิจินซะด้วย…
“ซุคุนะเนี่ยเป็นพวกประเภทที่คิดอะไรก็แสดงออกมาผ่านสีหน้าสินะ”
“หน่าเนะ”(หน่านิ)
“ฮ่ะฮ่า ถ้าเป็นเธอพวกเขาต้องชอบแน่ เพราะทั้งชาวคิจินและโยวโกะต่างก็ชอบผู้คนที่แข็งแกร่งยังไงล่ะ”
อีกครั้งหนึ่งที่เธอมองมาทางหน้าอกของฉัน ไม่ใช่ในทางลามกหรืออะไรหรอกนะ แต่เป็นในเชิงเคารพให้กับ[หลักฐานการปราบบอสยูนีคโซโล่]ยิ่งทำให้มันดูมีคุณค่า
ในพื้นที่โล่งห้อมล้อมไปด้วยต้นไม้ ฉันเห็นจุดที่แดดส่องลงมา
“ทีนี้พวกเราก็ใกล้จะถึงที่ที่จ้าวแห่งป่าแห่งเวทมนตร์อาศัยอยู่แล้วนะ แต่เธอคงไม่ต้องการให้ฉันช่วยอะไรหรอกใช่ไหม?”
“แน่นอนอยู่แล้ว เพราะฉันเองก็เริ่มชินกับ[เจ้านี้]แล้วล่ะนะ”
[เจ้านี้]ที่ว่าไม่ได้หมายถึงค้อน แต่หมายถึงถุงมือโลหะคู่นี้ต่างหาก
จากการต่อสู้ก่อนหน้านี้ เลเวลของฉันก็ได้เพิ่มขึ้นแล้วฉันก็ได้แต้มโบนัสขึ้นมา ตอนนี้ฉันเลยมีความแข็งแกร่งพอที่จะใช้งานMeteor Impact –Type Zero–แล้วล่ะ
เพียงแต่ว่า ต่อให้ฉันมีค่าความแข็งแกร่งมากพอ ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันจะสามารถใช้งานมันได้อย่างง่ายดาย ฉันรู้วิธีใช้งาน Meteor Impact –Type Zero–แค่คร่าวๆไม่พอที่จะใช้ได้อย่างมีความสามารถ
มองดูฉันที่เป็นแบบนี้ โคฮาคุเองก็ยิ้มออกมาอย่างร่าเริง
“ถ้างั้นก็เป็นต่อสู้มือเปล่าสินะ? พอมานึกดูดีๆแล้วเธอเองก็ใช้เจ้านั่นสินะ…ไม่ว่าเธอจะรู้ตัวหรือเปล่าก็เถอะ ฟุฟุ เข้ากับเธอดีจริงๆ”
พูดเพียงแค่นั้น โคฮาคุก็ดันหลังของฉันเบาๆ ให้กำลังใจฉันที่เข้าสู่ห้องบอส
“ไปแล้วนะ”
“อืม ไว้เจอกันนะ”
แสงแดดที่ส่องลงมาโดยปราศจากใบไม้กั้นแต่กลับแผดเผาลงมาที่ใจกลางของลานกว้าง
ราวกับกำลังรอคอยให้ฉันก้าวเท้าเข้ามา มันที่ปรากฏเบื้องหน้าคืองูขนาดใหญ่ที่มีร่างกายสีม่วง
แม้ในขณะที่กำลังคดตัวเป็นวง มันก็สูงสิบเมตรไปแล้ว แล้วทั้งร่างของมันยังใหญ่โต ดูน่าจะรู้สึกดีที่ได้ต่อยจริง
ชื่อที่ปรากฏขึ้นมาคือ[นากาพิษ Lv.27] มันมีแถบHPแค่แถบเดียว
ยักษ์แดงที่ถ้ำแห่งการทดสอบเองก็เหมือนกัน แต่ชื่อของบอสพวกนี้นี่ง่ายจังเลยนะ
“ถ้างั้นก็มาเริ่มกันเลยไหม”
ก่อนที่นากาพิษจะส่งเสียงออกมา ฉันก็สร้างเสียงตอบกลับไปด้วยกำปั้นของฉัน
☆
ใน WLO ไม่ใช่เรื่องหายากที่มอนสเตอร์จะใช้พิษด้วย
และอีกทั้งตามปกติแล้ว ดูเหมือนว่าเจ้ากิ่งก่าที่ฉันควรจะได้สู้ด้วยที่หนองน้ำเองก็ใช้พิษเหมือนกัน และ[ไฮด์สเน็ค]ที่ป่าสุดขอบเขตเองก็ใช้พิษด้วย
จริงๆแล้วก็อบลินอาเชอร์เองก็ใช้พิษนะในลูกศรอาบยาพิษของพวกมัน….มีมอนสเตอร์จำนวนมากเลยที่ใช้พิษปรากฏตัวมาจนถึงจุดนี้
แล้วยังมีเจ้านั่นอีก บอสยูนีคที่โรวปราบได้[อสรพิษแห่งการยั่วยวน –วาลเดีย–]
เหมือนว่าเจ้านั่นจะอยู่แถวฟีอัสนะ แต่จากที่โรวได้สกิลหายากประเภทพิษ มอนสเตอร์แถบนั้นเองก็คงจะมีพิษเหมือนกันสินะ
พอคิดแบบนั้นดูแล้ว นากาพิษเบื้องหน้าฉันเองก็อาจจะเป็นเวอร์ชั่นลดเกรดลงมาของบอสยูนีคก็ได้ พอพูดแบบนั้นแล้วบางทีอาจจะเป็นจริงๆก็ได้นะ
แต่จะลดเกรดหรือไม่ ฉันก็ไม่มีความคิดที่ประมาทหรอกนะ
ที่นี่คือ[ป่าแห่งเวทมนตร์] หมายความว่าในที่แห่งนี้ มอนสเตอร์ทุกตัวต่างใช้เวทมนตร์
“เกมนี้มัน….มีกฎตรงไหนหรือเปล่าที่มอนสเตอร์ขนาดใหญ่มักจะกลายเป็นป้อมปืนที่ไม่ขยับไปไหนเลยน่ะ?”
เมื่อนากาพิษสร้างวงแหวนเวทมนตร์สีม่วงอ่อนขึ้นมา มันก็ยิงของเหลวสีเดียวกันออกมา
ของเหลวที่ว่านั้นหลบได้ง่าย แต่ฉันเห็นพื้นที่ถูกสัมผัสละลายลงไป
“ใช่สิ มันต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วสินะ”
มองดูจากสภาพการละลาย แทนที่จะเรียกว่าพิษควรจะเรียกเป็นน้ำย่อยมากกว่า
ไม่รู้หรอกนะว่าจำเป็นจริงๆด้วยเหรอที่จะต้องยิงเวทมนตร์อะไรแบบนั้น แต่ดูแล้วท่าทางจะเจ็บไม่ใช่น้อยเลยถ้าถูกโจมตีเข้า
เหวี่ยงร่างกายอันใหญ่โตไปมา ดูเหมือนจะยากในการที่จะหลบการโจมตีของมัน-…
“การเคลื่อนไหวไม่ได้เร็วขนาดนั้น….เอาล่ะ”
หลังจากที่ใช้เวลาสักครู่ในการพยายามหลบ ฉันก็ประเมินว่าฉันสามารถทำมันได้ก่อนจะโบกสองมือเบารวบรวมพลังไปที่มือทั้งสอง
ขณะที่หลบหลีกเวทมนตร์ที่โจมตีเข้ามา ฉันกระแทกกำปั้นทั้งสองไปยังท้องขนาดใหญ่ของอสรพิษยักษ์
ปะชิ้ง…เสียงเบาบางสะท้อนออกมา
แม้จะเป็นการโจมตีที่เข้าเป้าตรงแต่เสียงที่ได้กลับเบา แต่ก็ไม่เป็นไร
ในตอนนั้นเองที่กำปั้นของฉันส่องสว่างขึ้นเล็กน้อย
นี่คือลักษณะเด่นของสกิลของ[ต่อสู้มือเปล่า] ศักยภาพที่แท้จริงอยู่ที่การคอมโบ
นั่นคือประโยคเดียวในคำอธิบายสกิล แต่นั่นเองก็อธิบายทั้งหมดไปแล้ว
ขณะที่กำปั้นส่องสว่างขึ้น ยิ่งโจมตีเข้าเป้ามากแค่ไหน พลังก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น
ในตอนเริ่มต้น หมัดที่ต่อยออกไปจะสะท้อนออกมาเพียงแค่เสียงปะทะอันเบาบาง แต่ยิ่งเพิ่มจำนวนหมัดที่ต่อยออกไปเสียงสะท้อนจะยิ่งดังขึ้นและดังขึ้น
ข้อดีของสกิลพวกนี้คือระยะเวลาที่ค่อนข้างยาวสำหรับการใช้งาน ต่อให้รวมเวลาที่หลบการโจมตีของศัตรูไปด้วยแล้ว ผลของสกิลก็จะยังไม่จบลง
คอมโบสิบหมัดรวด มันจะเริ่มจากเสียงเบาบางจนกระทั่งจบลงด้วยเสียงระเบิดตู้ม!ครั้งใหญ่
สกิล[สิบกลีบซากุระ](十重桜)
สกิล10หมัดซ้อนที่จะแข็งแกร่งที่สุดเมื่อสู้กับศัตรูขนาดใหญ่และช้า
ด้วยความแข็งแกร่งที่สูงของฉันและอาวุธเฮฟวี่เมทัลที่แต่เดิมแล้วมีพลังโจมตีที่สูง คูณด้วยพลังจากสิบกลีบซากุระ นากาพิษสูญเสียHPของมันไป30%ในทันที
นากาพิษชะงักจากการโจมตีสุดท้ายแต่ก่อนที่ร่างกายของฉันจะฟื้นฟูจากระยะเวลาชะงักหลังใช้สกิล เจ้านากาโยกตัวของมันและเป่าฉันกระเด็นออกมา
“กุโอ้วว”
ส่งเสียงที่ไม่ค่อยจะเหมือนสุภาพสตรีเท่าไหร่นักจากการที่รับการโจมตีเข้ามาที่ช่วงท้อง ฉันก็ลอยออกมา
ความเสียหายไม่ได้สูงมากนัก ฉันรู้ได้ทันทีจากความง่ายในการที่ฉันเข้าไปโจมตีมัน ร่างกายอันใหญ่โตก็เป็นแค่ภายนอก
“ฟุเห เวลาชะงักนานจังเลยนะ”
ฉันไม่นึกเลยว่าฉันจะได้รับการโจมตีมาโดยไร้ซึ่งการป้องกันอย่างนั้น
ในขณะที่ฉันได้พักหายใจชั่วครู่ นากาพิษเองก็ได้เปลี่ยนท่าทางของตัวเองอีกครั้ง
ท่าสิบกลีบซากุระที่ฉันใช้ไปก่อนหน้านั้นรุนแรงก็จริงและยังมีระยะเวลาที่ดี แต่ดูเหมือนจะแลกมากับจุดอ่อนสองข้อสินะ
อย่างแรกคือระยะเวลาชะงักหลังใช้สกิล ระยะเวลาชะงักค่อนข้างนาน หลังจากต่อยเสร็จแล้วต้องใช้เวลาถึงห้าวินาทีในการคาอยู่ในท่าเดิมหลังจากที่ต่อย
อีกข้อหนึ่งคือจะต้องโจมตีทั้งสิบหมัดไปยังศัตรูตัวเดิม ไม่สามารถใช้มันในการจัดการกับพวกลูกกระจ๊อกหลายๆตัวได้ ก็ไม่ใช่ข้อเสียที่ใหญ่อะไรมากนักหรอกนะ
พูดตามตรงยังมีเทคนิคอื่นอีกที่ใช้งานง่ายกว่าและยังมีเงื่อนไขการคอมโบที่ง่ายกว่าและสร้างช่องว่างน้อยกว่า แต่ถ้าไม่ได้ใช้กับมอนสเตอร์ขนาดใหญ่กว่าแล้วผลของมันก็จะไม่ออกมาตามที่หวัง….พูดตรงๆเลยพวกมันมีไว้เพื่อความโรแมนซ์ของการทำคอมโบมากกว่าจะใช้ประโยชน์จริงๆ
แต่พอมาคิดดูดีๆแล้ว ถ้าฉันถูกโจมตีด้วยเวทมนตร์เข้าแม้สักครั้งเดียวฉันก็ตายได้เลย
ในเมื่อฉันพอใจกับการที่ได้ใช้งานสกิลไปแล้ว หลังจากนี้มาตั้งใจสู้ดีๆกันเถอะ
ต่อยออกไปโดยใส่แรงไปที่ทั้งสองแขนอย่างเต็มกำลัง[มังกรคู่](双龍) คอมโบสามครั้งซ้อนที่จะต้องต่อยออกไปให้เข้าเป้าติดต่อกันภายใน0.5วินาที[สามเมฆา](三雲) และยิ่งไปกว่านั้นยังมี คอมโบของซ้าย ขวา เตะวงกว้าง เตะย้อนกลับ [สี่แฉกใบ](四葉)
เชื่อมต่อจำนวนหมัดที่จำเป็นของสกิลด้วยสกิลคือความได้เปรียบของสายสกิลนี้ และเป็นสาเหตุที่ทำไมการต่อสู้มือเปล่าถึงโด่งดังในเรื่องของ[ความหมายที่แท้จริงของการทำคอมโบ]
และยิ่งไปกว่านั้นยิ่งเชื่อมต่อสกิลกันมากเท่าไหร่ ระยะเวลาชะงักหลังใช้สกิลจะยิ่งถูกเพิ่มรวมเข้าไปมากเท่านั้น ถ้าเกิดเผลอได้ใจเชื่อมต่อสกิลกันมากเกินไปก็อาจจะจบลงที่ปัญหาก็เป็นได้
“เอาล่-….นะ!?”
หลังจากพักฟื้นจากระยะเวลาชะงักไปสามวินาที ฉันก้าวถอยหลังออกมาเพื่อหลบเวทมนตร์ที่พุ่งเข้ามาทั้งสี่ แต่ขาของฉันกลับถูกฝังลึกลงไปกับพื้นและในชั่ววินาทีนั้นเอง การเคลื่อนที่ของฉันได้หยุดลง
ฝืนดึงมันออกมา ฉันสามารถที่จะหลบการโจมตีเวทมนตร์ได้ แต่พอมองดูดีๆแล้ว น้ำกรดที่โดนพื้นก่อนหน้าได้ละลายพื้นไปและสร้างบางสิ่งที่เหมือนกับตมขึ้นมา
ถ้าแค่มองผ่านๆจะดูเหมือนว่ามีเพียงแค่ด้านบนของพื้นที่ถูกละลายไป เพราะว่าไม่มีหลุมให้เห็นฉันเลยไม่ทันสังเกตมันมาก่อน แต่ดูเหมือนว่านั่นจะเป็นเวทมนตร์ที่ทำให้สิ่งที่ถูกละลายนั้นนิ่มลงไป
เพราะว่าพื้นดินที่ถูกเวทมนตร์นั้นจะปรากฏร่องรอยเอาไว้บนพื้น ฉันเลยรู้ว่ามีอยู่ตรงไหนบ้างแต่ว่า….
จู่ๆลางร้ายก็เข้ามาภายในใจของฉัน ขโมยฐานยืนของฉัน บีบที่หลบหนีของฉันให้แคบลง แล้วหลังจากที่ขโมยการเคลื่อนไหวของฉันได้แล้ว คิดว่าอะไรจะตามมากันล่ะ?
“ว่าแล้วเชียว ต้องเป็นแบบนี้จริงๆสินะ….”
จนถึงตอนนี้ไม่ว่าเวทมนตร์จะทรงพลังแค่ไหน ส่วนมากที่ฉันเห็นก็ยังเป็นแค่เวทมนตร์ระดับกลาง
ในตอนนั้นที่ต่างจากหมู่มอนสเตอร์ มีก็อบลินเมจตัวหนึ่งที่ร่ายมนต์กว่าหนึ่งนาทีก่อนจะปล่อยเวทมนตร์ที่มีชื่อว่า[หอกปฐพี] หอกปฐพีค่อนข้างเร็วกว่าเวทมนตร์ประเภท-บอลอย่างเทียบไม่ได้
ฉันสามารถหลบมันได้เพราะมันใช้เวลาในการเตรียมตัวและฉันสามารถคาดเดาวิธีของการยิงได้คร่าวๆในตอนนั้น แต่ถ้ามันถูกยิงออกมาอย่างกะทันหันล่ะก็ ฉันคิดว่ามันเป็นเวทมนตร์ที่ค่อนข้างอันตรายพอตัวเลย
เอาล่ะคราวนี้ก็มาใช้เจ้านั่นมาอ้างอิงดูนะ
จากความใหญ่ของวงแหวนเวทที่นากาพิษสร้างขึ้นขณะที่กำลังอ้าปากอยู่ เวทมนตร์ที่มันกำลังจะใช้คงจะใหญ่กว่าหอกปฐพีเป็นแน่
ฉันไม่รู้หรอกว่าจะมีอะไรออกมา แต่สำหรับฉันที่อยู่ในสภาพปางตายหลังจากที่โดนลูกบอลน้ำแข็งแล้ว มีโอกาสถึงแปด-หรือเก้าในสิบที่ฉันจะตายทันทีที่โดนเลย
แต่โชคเข้าข้าง ดูเหมือนว่ามันจำเป็นจะต้องใช้เวลาก่อนจะใช้งาน ดูจากความสว่างของวงแหวนเวทแล้ว ดูเหมือนจะใช้เวลาอีกราวๆยี่สิบวินาทีในการเพิ่มพลัง
“ถ้าจะนานขนาดนั้นล่ะก็!”
HPของนากาเหลืออยู่ราว60% เทียบกับการเสี่ยงว่าจะหลบเวทมนตร์ได้หรือไม่ ฉันอยากจะลองบางอย่างดู
มองไปยังพื้นที่ที่ยังแข็งตัวอยู่และถีบเท้าออกไปสุดแรง ราวกับจะฝ่าเข้าไป ในใจกลางที่นากาพิษอยู่ฉันได้อัด[มังกรคู่]เข้าไป สองวินาที
มีความเสียหายสะท้อนกลับมานิดหน่อยแต่ฉันไม่สนใจ [สามเมฆา][สี่กลีบใบ]ต่อยเข้าไปอย่างแม่นยำกว่าครั้งก่อนหน้า สี่วินาที
ฝ่ามือมีดห้าครั้งติดกัน [ห้าสัมผัส](五和) หกวินาที
รัวหมัดอย่างรวดเร็วหกครั้งซ้อน [หกพิภพ](六道) เจ็ดวินาที
“…ตอนนี้ล่ะ!”
จากหมัดสุดท้ายของ [หกพิภพ] เป็นจุดเริ่มต้น ฉันได้เริ่ม [สิบกลีบซากุระ]
พลังของ[สิบกลีบซากุระ]ได้ใช้ความเสียหายจากหมัดที่หกนั้นเป็นจุดเริ่มต้น และทุกหมัดหลังจากนี้จะคูณเข้ากับพลังของหมัดแรกนั่น และความเสียหายสุดท้ายจะเท่ากับ55เท่าของการโจมตีแรก
เพราะว่าความเสียหายแรกนั่นสูง แรงสะท้อนกลับมารุนแรงจนฉันข่มเอาไว้ไม่ได้
หมัดที่สามรุนแรงเทียบเท่ากับสิบกลีบซากุระที่ฉันใช้ออกไปในครั้งแรกแล้วด้วยซ้ำ
หมัดที่สี่ ฉันทนรับต่อไปไม่ไหวและแรงสะท้อนก็ได้ลดHPของฉันไป
ในขณะที่ฉันเสริมหมัดที่ห้าและหมัดที่หก HPของฉันถูกลิดรอนออกไปเรื่อยๆแต่มีอีกคนที่กำลังทรมานกว่ามาก
“ห๊า-…อ๊าาาา!”
หมัดที่เจ็ด ในตอนที่ต่อยออกไป มันมีพลังมากเสียจนฉันคุมไม่อยู่ หมัดของฉันทะลวงร่างอันใหญ่โตของนากาพิษไป
นากาพิษล้มลงและหลังจากที่ชักอยู่กับที่สักพักมันก็ไม่อาจเคลื่อนไหวได้อีกต่อไป ก่อนจะสลายไปเป็นเศษโพลีกอนราวกับถูกละลายไป
นั่นใช้เวลาถึง15วินาที และถึงแม้ว่าฉันจะมีเลเวลมากกว่าแต่ภายในไม่ถึงนาทีฉันก็สามารถทำความเสียหายมากกว่า50%ของHPของนากาได้
บางทีแล้วสกิลนี้…ไม่ใช่ว่าสเกลความเสียหายจะโกงเกินไปหน่อยเหรอ…?
“ฟู่ว…”
หมัดที่แปดมีพลังที่มากจนเกินไป จนถึงระดับที่ฉันไม่อาจควบคุมได้ ได้ต่อยไปยังอากาศแล้วร่างอวาตาร์ของฉันก็ชะงักไป
ฉันขยับไม่ได้เลย แต่ก็ไม่เหลือศัตรูอื่นแล้ว ฉันค่อยๆถอนหายใจออกมาหลังจากที่กลั้นเอาไว้ในตอนที่กำลังทำคอมโบแล้วหลังจากผ่านไปสิบวินาทีฉันก็สามารถขยับได้และก็ล้มหงายหลังไป
อย่าไปบอกใครล่ะว่าก้นฉันหล่นลงไปในตมพอดีเลย
———————————————————-
โน้ตผู้เขียน:
สกิล[สิบกลีบซากุระ](十重桜)
หนึ่งในสิบสกิลต่อสู้มือเปล่าที่ได้จากสายสกิล[ต่อสู้มือเปล่า]ที่ได้มาตั้งแต่ช่วงแรก
มีระยะเวลาให้มากถึงสามวินาทีในการโจมตีแต่ละครั้ง เป็นสกิลที่จะบวกเพิ่มไปเรื่อยๆ ตราบที่หมัดแรกเข้าเป้า คอมโบก็จะยังคงดำเนินต่อโดยใช้ความเสียหายแรกและหลังจากนั้นจะเป็น2x 3x 4x เพิ่มไปจนถึงหมัดที่สิบที่จะเป็น10xของความเสียหายแรก ทำความเสียหายทั้งหมด55xของความเสียหายแรก
(x คือความเสียหายแรก 1x+2x+3x+4x+5x+6x+7x+8x+9x+10x = 55x)
ถึงแม้ว่าหลังจากที่ต่อยจนครบแล้วจะถูกชะงักไป5วินาที แต่ถ้าโจมตีพลาดหรือหยุดคอมโบกลางคันจะถูกลงโทษด้วยเวลาชะงัก15วินาที แต่ถ้าถูกการโจมตีสวนกลับของศัตรูทำให้กระเด็นก็จะไม่โดนชะงักจากสกิล
และเพราะว่าความรุนแรงจะขึ้นอยู่กับความเสียหายของหมัดแรก ถ้าแรงสะท้อนเพิ่มจนมากเกินค่าความทนทาน ตัวผู้ใช้จะได้รับความเสียหายสะท้อนใส่ตัวเองด้วย
ถ้าเชื่อมต่อสกิลทั้งเก้าจาก[มังกรคู่]ไปจนถึง[สิบกลีบซากุระ]=…….?
ผู้แปล:
双龍 Soryuu มังกรคู่
三雲 Mikumo สามเมฆา
四葉 Shiho สี่แฉกใบ
五和 Itsuwa ห้าสัมผัส
六道 Rikudou หกพิภพ
十重桜 Toesakura สิบกลีบซากุระ
MANGA DISCUSSION