“-อันตราย!”
ฉันหลบก้อนน้ำแข็งที่เล็งมายังส่วนบนของร่างกายฉันด้วยท่ายืนหงายหลังแล้วฉันก็ได้ยินเสียงกรีดร้องจากทางด้านหลัง
ฉันถูกล้อมแล้ว ฉันเห็นได้ว่าถ้ามองจากมุมมองคนนอกแล้วอาจดูเหมือนว่าฉันตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก
แต่ว่าถ้าจับมอนสเตอร์มารวมกันอยู่ในที่ที่ไม่กว้างพอล่ะก็ เป็นไปไม่ได้เลยที่พวกมันจะไม่โจมตีถูกพวกเดียวกันน่ะ
ก้อนน้ำแข็งถูกยิงมาทางฉัน แล้วพอฉันหลบมัน บางลูกก็กระทบถูกมอนสเตอร์ด้านหลังของฉัน
แต่ว่าฉันไม่มีเวลาให้โล่งใจหรอก
รับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นด้านหลังผ่านทางเสียงที่ได้ยิน ฉันพุ่งตรงไปอัดบัตเตอร์ฟลาย・มาจิห้าตัวข้างหน้าที่กำลังเตรียมจะใช้เวทมนตร์อีกครั้ง
ฉันยังคงต้องไม่ใช้สกิลใดๆก็ตามเพราะฉันไม่อยากจะหยุดเคลื่อนไหวหลังใช้สกิลโดยที่ยังมีมอนสเตอร์ล้อมรอบมากขนาดนี้อยู่
แล้วก็สกิลของสกิลต่อสู้มือเปล่าถูกออกแบบมาเพื่อสู้หนึ่งต่อหนึ่งหรือสู้กับศัตรูขนาดใหญ่ มีไม่กี่สกิลที่เหมาะกับการต่อสู้กับศัตรูพร้อมกันหลายตัว
นั่นหมายความว่าฉันทำได้เพียงการกระทำธรรมดาๆอย่าง –ต่อย เตะ ขว้าง สามอย่างเท่านั้น
ฉันเป่าบัตเตอร์ฟลาย・มาจิข้างหน้าให้กระเด็นด้วยการกระโดดเตะ จังหวะที่ฉันร่วงลงถึงพื้นฉันคว้าปีกของบัตเตอร์ฟลาย・มาจิด้านขวาและใช้มันแทนโล่รับดวงไฟ—ลูกไฟที่ถูกยิงออกมา
คงจะเป็นเวทมนตร์เดียวกับที่อโพคาลิพส์ใช้ เพียงแต่เมื่อเทียบกับการโจมตีราวกับปืนแก็ตลิ้งแล้ว เจ้านี้ดูเรียบๆไปเลย
เจ้าตัวที่ใช้ลูกไฟเมื่อกี้คือเมจคัลมาแทงโก้ เจ้านี้ไม่เพียงแต่จะตัวใหญ่เหมือนบัตเตอร์ฟลาย・มาจิ มันยังมีสองขาและสี่แขนอีกด้วย(マジカルマタンゴ )
ถ้าจะให้ฉันอธิบายลักษณะ มันดูเหมือนเห็ดชิทาเกะเดินได้ สูงหนึ่งเมตร เป็นมอนสเตอร์ที่ไม่ค่อยน่ามองสักเท่าไหร่น่ะ
แต่ว่าถึงแม้ว่ามันจะมีแขนขาแต่มันกลับไม่มีมือเท้า และยังเคลื่อนไหวช้าอีก
ฉันตัดสินใจที่จะมองว่ามันเป็นปืนใหญ่ที่อยู่กับที่ละกัน
รับรู้ได้ถึงแรงกระแทกของลูกไฟที่กระทบกับปีกของบัตเตอร์ฟลาย・มาจิที่ฉันถือไว้ ฉันขว้างมันไปยังก้อนดินที่พุ่งตรงเข้ามาและอีกครั้งที่ฉันเข้าหาบัตเตอร์ฟลาย・มาจิตัวที่สามซึ่งกำลังสร้างก้อนน้ำแข็งอยู่ ทิ้งน้ำหนักตัวของฉันลงไปด้วยฉันทุ่มมันลงกับพื้นด้วยมือขวาของฉัน
บัตเตอร์ฟลาย・มาจิมีพลังโจมตีทางเวทมนตร์สูงโดยแลกมากับพลังป้องกันทางกายภาพที่เปราะบาง ในศึกชุลมุนอย่างนี้มันจึงเป็นเป้าหมายแรกที่ฉันอยากจะกำจัด
ถ้ามองการเคลื่อนไหวที่ผิดธรรมชาติของมันออกมันก็ไม่ต่างอะไรจากเป้าที่อ่อนบางกับการโจมตีกายภาพนักหรอก
“ถึงจะ-..ไม่ได้มีแค่พวกแก-…ที่เป็นแบบ-…นี้หรอกนะ!”
ฉันกระทืบบัตเตอร์ฟลาย・มาจิที่ฉันฟาดจนร่วง ลดHPของมันจนหมดและใช้แรงนั้นดันตัวเองไปข้างหน้า ฉันพุ่งทยานผ่านบัตเตอร์ฟลาย・มาจิห้าตัว เพื่อลอบโจมตีก็อบลินเมจที่ปรากฏอยู่ด้านหลัง
ฉันฟาดไปยังเป้าของก็อบลินที่ตกใจกับการมาของฉันโดยไม่ทันตั้งตัว และกระแทกไปที่หัวด้วยหัวเข่าของฉันขณะที่มันกำลังก้มตัว แล้วฉันก็ใช้ก็อบลินที่กำลังชะงักเป็นโล่รับเวทมนตร์โจมตีที่ฉันได้ยินจากด้านหลัง
ขณะที่รู้สึกขอบคุณให้กับก็อบลินที่ทำตัวเป็นที่กำบังได้ดีกว่าบัตเตอร์ฟลาย・มาจิให้กับฉัน ฉันก็ปลิดชีพก็อบลินที่กำลังใกล้ตายด้วยการโจมตีจากพวกของมัน
และหลังจากนั้น ทันทีที่ฉันออกมาจากที่กำบังที่ว่า ฉันก็คว้ามีดขว้างไว้สองเล่มในมือทั้งสองข้างที่ฉันหยิบเตรียมเอาไว้และขว้างออกไปโดยเล็งที่ตาของก็อบลินเมจที่เกิดอยู่ไกลออกไปด้านหลังของฉัน
“กี๊!”
“กย๊าาาา!”
“กยี๊!!!”
จากมีดขว้างทั้งหมดสี่เล่ม สองเล่มควักเข้าไปในดวงตาของก็อบลินสองตัว หนึ่งเล่มพลาดและปักเข้าไปยังคอของก็อบลินเมจอีกตัว และเล่มสุดท้ายแทงไปยังเมจิกคัลมาแทงโก้ที่ไม่ส่งเสียงร้องออกมา
มอนสเตอร์ที่โดนมีดขว้างโจมตีไปก็ได้ปล่อยเวทมนตร์ที่กำลังเตรียมเอาไว้อย่างไม่สนรอบข้าง
คอยหลบเวทมนตร์ที่เคยมีเป้าหมายมาที่ตัวฉัน ด้วยความรู้สึกขอบคุณที่พวกมอนสเตอร์สร้างความวุ่นวายด้วยกันเองฉันก็เหวี่ยงกำปั้นไปยังบัตเตอร์ฟลาย・มาจิตัวที่ห้า
บัตเตอร์ฟลาย・มาจิห้าตัวที่โจมตีฉันในตอนแรกและก็อบลินเมจอีกหนึ่งตัว
ถึงฉันจะกำจัดพวกมันไปได้ภายในหนึ่งนาที ฉันก็ไม่ได้รู้สึกว่ามอนสเตอร์ลดลงไปเลยแม้แต่น้อย
ถ้าจะให้ฉันพูดถึงส่วนที่เป็นปัญหาของสถานการณ์นี้ล่ะก็ อย่างหนึ่งที่ฉันจะบอกก็คือการที่พวกมันทุกตัวต่างเป็นประเภทที่โจมตีทางระยะไกลทั้งนั้น สถานการณ์ของฉันจะแย่ลงไปเรื่อยๆถ้าฉันไม่เป็นคนเข้าหาก่อน
ยิ่งไปกว่านั้นในด้านเวทมนตร์แล้วฉันเปราะบางยิ่งกว่าเต้าหู้เสียอีก พูดไม่ได้ด้วยซ้ำว่าฉันจะพบจุดจบอย่างช้าๆ ถ้าฉันโดนโจมตีเข้าครั้งแรกก็คงจะปางตาย ครั้งที่สองก็คงตายจริงๆ
“ฟู่ว….โอเค มาลองกันสักตั้ง”
ถึงอย่างนั้นฉันก็สูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ และอีกครั้งที่ฉันใส่แรงลงไปที่เท้า
ฉันต้องฆ่าพวกมันให้หมดขณะที่ไม่ใช้อาวุธเลย นั่นเป็นสิ่งเดียวที่ฉันต้องทำเพื่อเอาตัวรอด
ไม่มีทางที่จะมีแค่ห้าลูก เวทมนตร์โจมตีทั้งไฟ น้ำ ลม ดินอัดรวมกันไปทั่ว และฉันก็หลบพวกมันทั้งหมดด้วยการกระโดดขึ้นสูง
ที่นี่คือป่า เหล่าต้นไม้จะเป็นโล่ อาวุธ และฐานยืนให้กับฉัน ยังไงก็ตามฉันได้แต่บอกว่าพื้นที่แสนสะดวกเช่นนี้เป็นประโยชน์ให้กับฉัน
กระโดดขึ้นสูง ฉันคว้ากิ่งหนึ่งของต้นไม้และดึงตัวเองขึ้น ฉันก็ได้ขึ้นมาบนกิ่งไม้
ตามปกติแล้วเพียงแค่นี้ฉันคงไม่สามารถหลบจากการเป็นเป้าของมอนสเตอร์ได้ แต่ดูเหมือนว่าครั้งนี้จะได้ผลเมื่อเวทมนตร์ทั้งหลายกระทบกันราวกับเป็นม่านกำบังสายตา
พวกมันเริ่มที่จะร่ายมนตร์และสร้างเวทต่างๆและในอีกไม่กี่วินาที พวกมันก็จะปลดปล่อยเวทมนตร์ทั้งหลายมาที่ฉันอีกครั้ง
หากแต่ว่าเวลาเท่านี้ก็เพียงพอสำหรับการเตรียมตัวของฉันแล้ว
แบกมันไว้บนไหล่ ความหนักของมันทำให้กิ่งไม้ร้าว ฉันงอเข่าและถีบตัวดันออกมาจากกิ่งด้วยแรงพอที่จะหักมันและฟาดลงไปยังหนึ่งในเมจิกคัลมาแทงโก้ที่กำลังร่ายเวทมนตร์อยู่บนพื้น
“เกือบไปแต่-…ทันพอดี…!”
จากซากศพของมาแทงโก้ที่แบนราบอยู่กับพื้น ฉันค่อยๆยกอาวุธขึ้นมาก่อนจะพาดไหล่อีกครั้ง
เจ้าคฑาสองมือที่สร้างโดยฮารูรุ[Meteor Impact –Type Zero–] อาวุธสุดหนักที่ต้องการค่าความแข็งแกร่งกว่า150
ด้วยเลเวลที่เพิ่มขึ้นจากศึกอโพคาลิพส์และจากเลเวลที่ฉันได้มาจนถึงเมื่อกี้ โดยที่ทุ่มค่าโบนัสทั้งหมดลงไป ในที่สุดฉันก็สามารถที่จะ[ถือ]มันไว้ ฉันกำลังสวมใส่อุปกรณ์ที่หนักมหาศาลอยู่
ค่าความแข็งแกร่งที่ต้องการนั้นถูกนับรวมกัน ถ้าจะให้ฉันเหวี่ยงมันไปมาได้ฉันจะต้องคำนึงถึงค่าความต้องการทั้งของ[Meteor Impact –Type Zero–]และชุดเกราะของฉันด้วย
ถึงแม้ว่าอาภรณ์หมาป่าแดง–โซโล่–จะต้องการค่าความแข็งแกร่งที่ต่ำอยู่ที่5ก็ตาม ค่าความแข็งแกร่งของฉันในตอนนี้อยู่เพียงที่152 ค่าความแข็งแกร่งที่ต้องการของ[Meteor Impact –Type Zero–]อย่างเป๊ะๆก็คือ151 เพราะฉะนั้นในการที่จะเหวี่ยงมันไปมาได้ ฉันยังต้องการค่าความแข็งแกร่งอยู่อีก4
แล้วทำไมฉันถึงถืออาวุธที่ฉันใช้งานไม่ได้เอาไว้ได้ล่ะ?
ก็ถ้าแค่ถืออาวุธล่ะก็ ตราบใดที่มีค่าความแข็งแกร่งมากกว่าค่าความแข็งแกร่งที่ต้องการแล้วล่ะก็สามารถทำได้ล่ะ
ง่ายๆก็คือฉันไม่ได้ถืออาวุธนี้เพื่อจะใช้ฟาดศัตรูล่ะนะ
“โดรย๊าาาาาา!”
ฉันใช้มันเพื่อขว้างต่างหาก
ดูเหมือนว่าพวกมันไม่สามารถตอบสนองกับการถูกขว้างใส่ได้[Meteor Impact –Type Zero–]หมุนวนอยู่กลางอากาศก่อนจะร่วงลงใส่หัวของก็อบลินเมจตัวที่ใกล้ที่สุดจนกระเด็นไป
ขณะที่ศพไร้หัวของก็อบลินเมจกำลังสลายภายในไม่กี่วินาที ฉันเข้าใจได้ว่าสหายร่วมเผ่าของมันคงช็อคในสิ่งที่เห็น
ใช้เวลาที่มอนสเตอร์กำลังชะงักกันชั่วคราว ฉันเก็บ[Meteor Impact –Type Zero–]ขึ้นมาอีกครั้งและขว้างค้อนสีดำสนิทไปยังบริเวณที่มอนสเตอร์รวมตัวกันเป็นกระจุก
คราวนี้เป็นบัตเตอร์ฟลาย・มาจิและเมจิกคัลมาแทงโก้ด้านหลังมันที่ถูกเป่าจนกระเด็น
ฮารูรุเองก็ได้บอกเอาไว้ ความหนักของอาวุธมีส่วนในการคำนวณความเสียหายด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับอาวุธไร้คมแล้วความเสียหายยิ่งเพิ่มมากขึ้น
ถ้าหากเป็นดาบ ความเสียหายพิเศษนี้จะคำนวณจากความคมหรืออะไรพวกนั้น ซึ่งก็จะถูกนำมารวมในการคำนวณความเสียหายด้วย
พวกมอนสเตอร์ในป่าแห่งเวทมนตร์นั้นเชี่ยวชาญในด้านเวทมนตร์ สำหรับฉันที่เชี่ยวชาญในด้านกายภาพและอ่อนแอในด้านเวทมนตร์ มอนสเตอร์ในป่าแห่งเวทมนตร์เองก็อ่อนแอในด้านกายภาพด้วยเหมือนกัน
นั่นหมายความว่าพวกเรามอนสเตอร์และฉันต่างก็เป็นศัตรูที่แพ้ทางให้แก่กัน
ใช่ว่าพลังป้องกันด้านกายภาพของพวกมันจะเปราะบางเท่ากับพลังป้องกันด้านเวทมนตร์ของฉันหรอกนะ แต่ถ้าเทียบกับในเผ่าพันธุ์เดียวกันของพวกมันแล้วก็ถือว่าอ่อนแอกว่า
ถ้าอย่างนั้นแล้วผู้ใช้เวทมนตร์อย่างรินจังใช่ว่าจะมีปัญหาภายในป่าหรอกเหรอ? เพราะพวกมันก็จะมีพลังป้องกันเวทมนตร์ด้วยนี่
หลังจากที่รับรู้ได้ว่า[Meteor Impact –Type Zero–]ได้ผลกับพวกมันอย่างมาก เป็นธรรมดาที่เหล่ามอนสเตอร์จะไม่อยู่เฉยให้ถูกล้างบาง
หยิบขึ้นมา ขว้าง และเก็บค้อนอีกครั้ง การกระทำวนซ้ำแบบนี้ใช้เวลาราวๆ10วินาทีต่อหนึ่งรอบ ระหว่างนั้นฉันเองก็ต้องคอยหลบเวทมนตร์ทุกชนิดที่พุ่งตรงมาทางฉัน
ขณะที่ฉันกระโดดจากต้นไม้หนึ่งไปสู่อีกต้นหรือวิ่งผ่านช่องว่างระหว่างกลุ่มของมอนสเตอร์อย่างใจเย็น ฉันค่อยๆลดจำนวนของพวกมันลงไป
ขว้าง ทุบ ต่อย เตะ เก็บ และขว้างอีกครั้ง สิ่งที่ฉันทำได้มีเพียงเท่านี้และยิ่งเวลาผ่านไปยิ่งยากขึ้นเรื่อยๆ
การที่จะขว้าง[Meteor Impact –Type Zero–]ได้ ฉันไม่สามารถสวมใส่อาวุธอื่นได้พร้อมกัน
ในอีกส่วนหนึ่ง การต่อสู้มือเปล่าจะเพิ่มโบนัสพลังโจมตีให้ถ้าไม่ได้สวมใส่อาวุธ แต่ในตอนนี้ฉันกำลังสวมใส่[Meteor Impact –Type Zero–]อยู่ ฉันจึงไม่ได้โบนัสในส่วนนั้นไป
นั่นหมายความว่าความเสียหายจากการโจมตีปกติของฉันลดลงไป ขณะที่ฉันกำลังวางแผนพร้อมกับที่หยิบอาวุธขว้างออกมาและขว้างมันออกไปเพื่อยกเลิกเวทมนตร์ของศัตรู พวกมันก็ไม่ยอมหยุดเลยแม้แต่น้อย
ขณะที่ฉันสู้อยู่มอนสเตอร์ก็เพิ่มขึ้นมาอยู่ตลอด ในตอนที่ฉันปราบไปได้20ตัว อีก10ก็จะเพิ่มขึ้นมา เป็นสถานการณ์อย่างนี้ล่ะ
การทำแบบนี้จัดการกับพวกมันได้เร็วกว่าคอยไล่ตีทีละตัว แต่เมื่อมาถึงจุดนี้ไม่ว่ายังไงก็แย่อยู่ดี
ฉันคอยจัดการกับค่าSPของฉันอย่างระมัดระวัง แต่ด้วยความที่การโจมตีเดียวก็ทำให้ฉันถึงตายได้ ถ้าฉันประมาทในการหลบไปแม้แต่น้อยสิ่งที่รอคอยอยู่มีเพียงแค่ความตายเท่านั้น
แม้แต่ผลจาก[บทบรรเลงเดี่ยวแห่งคาเมลเลียจันทรา]ซึ่งก็ช่วยทำให้ฉันใช้SPได้มากกว่าเดิมสองเท่าเอง เพราะว่าฉันไม่มีเวลาให้หยุดพักเลยแม้แต่น้อย ค่าSPของฉันจึงถูกใช้ไปกว่าครึ่งแล้ว
ฉันสัมผัสได้ถึงความกดดันจากความตายได้อย่างชัดเจนแต่ในขณะที่ฉันกำลังตกอยู่ในสิ่งที่เรียกได้ว่าแห่มอนสเตอร์ ฉันกำลังสนุกอยู่ล่ะ
จำนวนมอนสเตอร์ที่เหลืออยู่ในตอนนี้มีประมาณ30ตัว เมือคำนึงถึงมอนสเตอร์ที่จะมารวมตัวเพิ่มด้วยแล้ว ฉันคงจะรอดไปได้ถ้าฉันปราบไปอีกสัก50ตัว
“ยังไงก็เป็นไปไม่ได้หรอกน่า!!”
เป็นไปไม่ได้ ฉันคิดแบบนั้น แต่ว่า
ฉันก็ควรที่จะทำเท่าที่ทำได้
ฉันเริ่มที่จะคุ้นชินกับการขว้าง[Meteor Impact –Type Zero–]แล้ว และฉันก็สามารถกวาดมอนสเตอร์ประมาณสามตัวได้จากการขว้างหนึ่งครั้ง ยิ่งไปกว่านั้นฉันยังรู้สึกว่าฉันยังไม่หมดโอกาสสักหน่อย
–––––––––––––––––––––––
ผู้เขียน
จากนี้ไปจะเป็นมุมอธิบายอาวุธล่ะ
–––––––––––––––––––––––
Meteor Impact –Type Zero–
คฑาสองมือ
พลังโจมตี : 55
ค่าความแข็งแกร่งที่ต้องการ : 151
ความทนทาน : 1670
ลูกเล่นพิเศษ : [???]
คฑาสองมือสุดหนักที่สร้างขึ้นจากเฮฟวี่เมทัล
แม้จะดูเรียบง่ายแต่ก็มีลูกเล่นพิเศษอยู่ แต่ด้วยความแข็งแกร่งปัจจุบันของเธอแล้ว ซุคุนะยังไม่สามารถใช้ได้
และอีกครั้งหนึ่ง จะบอกว่าเป็นกับอาวุธทุกชนิดในหมวดคฑาสองมือก็ได้ แต่ในกรณีที่มีค่าความคล่องแคล่วไม่มากพอ ผู้ใช้ก็จะถูกความหนักอาวุธเหวี่ยงแทนเมื่อพยายามใช้ทำให้เหวี่ยงไปมาตามใจไม่ได้
ในอีกด้านหนึ่ง มันมีพลังโจมตีที่มากกว่าคฑามือเดียวถึงสามเท่า เมื่อคำนวณในจุดต่างๆแล้วก็จะได้มาซึ่งพลังทำลายอันมหาศาล
ด้วยลักษณะเด่นที่ได้จากเฮฟวี่เมทัล จึงเด่นในด้านของค่าความแข็งแกร่งที่ต้องการที่สูงและความทนทานที่มากมาย
–––––––––––––––––––––––
ผู้เขียน:
เคยบอกว่าความทนทานมากกว่า1500ไม่ใช่ว่ามีแค่1500สักหน่อย
ถึงจะบอกว่าหนักมากแต่ก็ไม่ถือว่าหนักที่สุดในหมู่คฑาสองมือ
ก็แค่หนักมหาศาลสำหรับระดับผู้เล่นที่มาถึงดูอัลลิส ถ้าเป็นที่แนวหน้าก็จะมีของที่หนักพอกันหรือมากกว่านี้อีก
แต่จากความยากในการใช้งานคฑาสองมือและด้วยความที่ไม่เป็นที่นิยม ฮารูรุเลยได้แต่ทำหมอนเธอเปียกไปด้วยน้ำตา(´;ω;`)
MANGA DISCUSSION