“ทำลายอาวุธที่ฉันพึ่งให้ไปกับมือ…เป็นคนนิสัยยังไงกันคะเนี่ย…?”
“กึ๊…ไม่มีคำพูดจะแก้ตัวเลย…”
หลังจากล็อกอินเข้ามาในเกม
พอคิดว่ายังไงก็ควรมาขอโทษเธอก็เลยมาหาฮารูรุแล้วก็ถูกแทงทะลุด้วยสายตาที่จ้องมา
“เอาเถอะ…ถึงยังไงทางนี้เองก็ได้เงินมาแล้วด้วย…แล้วฉันก็ได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นมาจากโรวแล้วด้วยอีกต่างหาก…”
“เอ๋?”
“ไม่เคยบอกหรอกเหรอคะ…? คนที่สร้าง[เรเปียร์แห่งการยั่วยวน -เมลโลว์เรเปียร์-]ก็คือฉันเองนะรู้ไหม…?”
ฮารูรุคิกคักขณะที่บอกเล่าและฉันก็ได้แต่รู้สึกประหลาดใจ
หมายความว่า? สาเหตุที่โรวถ่อมาถึงที่นี่เป็นเพราะเพื่อมาหาฮารูรุสินะ?
“เธอเป็นลูกค้าประจำคนหนึ่งของฉันเลยนะคะ…เพราะว่าผู้เล่นอาชญากรจะไม่สามารถเข้าภายในเมืองได้…ฉันเลยต้องออกไปหาเธอ…แต่เพื่อแลกกับความไม่สะดวกนั่นเธอก็เพิ่มเงินให้ด้วย…แถมเธอยังจ่ายเยอะอีกต่างหาก…”
ฉัน ผู้ซึ่งหมดคำพูดไป ไม่สามารถเอ่ยปากในสิ่งที่ต้องการได้ ในขณะที่ฮารูรุนั้นบอกเล่าออกมาจนหมดเปลือก
“สำหรับตอนนี้…ฉันรู้แล้วว่าซุคุนะซังได้ใช้สกิลที่ทำให้เหล่าช่างอาวุธต้องพากันร่ำไห้หลายต่อหลายครั้ง…เพราะอย่างนั้นฉันจึงได้เตรียมบางอย่างดีๆให้กับคุณโดยเฉพาะ…”
ฉันกลับสู่ความเป็นจริงอีกครั้ง
ฮารูรุผู้เปลี่ยนบรรยากาศของบทสนทนาได้นำอาวุธออกมาจากห้องด้านหลัง ดูหนักจังเลยนะ เธอถึงกับต้องลากมันมากับพื้น
ขณะที่ฮารูรุนำเสนอคฑาสองมือที่เธอลากมาให้กับฉัน เธอก็ถอนหายใจออกแล้วพูดต่อ
“เจ้านี้มีชื่อว่า[Meteor Impact –Type Zero-](มีทีเออร์ อิมแพ็ค –เซโร่ชิกิ-)….เป็นอาวุธรุ่นใหญ่ในหมู่คฑาสองมือค่ะ…”
มันเป็นอาวุธที่หนักเสียจนฮารูรุไม่สามารถขยับมันได้หากไม่ลากมันออกมา[Meteor Impact –Type Zero-] มีชื่อที่ฟังดูแข็งแกร่งจริงๆล่ะนะ
ในส่วนสำหรับการปะทะนั้นมีปลายส่วนสามเหลี่ยมปิรามิดมุมป้านอยู่ตรงปลายของแต่ละด้าน และส่วนหัวที่ดูเหมือนค้อนหนาๆ พอมองดูแล้วก็เหมือนคฑาสองมือในหมวดค้อนทั่วไป
จะติดก็แค่มันดูดำมืดเกินไปมาก จากหัวจรดปลายแล้วมีเพียงสีดำสนิทเท่านั้น
มีเพียงบางส่วนที่ถูกประดับด้วยสีทองซึ่งทำให้ดูโดดเด่นอย่างมาก
“มันถูกสร้างมาจากแร่ที่มีชื่อว่า[เฮฟวี่เมทัล]….ค่าความแข็งแกร่งที่ต้องการนั้นมหาโหดแต่ว่า….ผลที่ได้นั้นยิ่งกว่าที่เสียไปสำหรับการสร้างมันมาเสียอีก….”
“แล้ว เจ้านี้ต้องใช้ค่าความแข็งแกร่งเท่าไหร่ถึงจะใช้ได้งั้นเหรอ?”
“ประมาณ150ค่ะ….”
“150!?”
ด้วยความตกใจฉันเลยเผลอส่งเสียงออกมาดัง แต่ว่า การที่ต้องการค่าความแข็งแกร่งถึง150นั่นมันบ้าไปแล้ว
เผ่ามนุษย์อ่ะนะ ตามปกติแล้วค่าสถานะหนึ่งจะเพิ่มขึ้นหนึ่งค่าเมื่อเลเวลเพิ่มขึ้นหนึ่งขั้นใช่ไหมล่ะ ถ้ามีค่าสถานะเริ่มต้นอยู่แล้ว10ก็เท่ากับว่าต้องการอีก140เลเวลเลยนะ
ถึงเอาเข้าจริงแล้วจะมีเรื่องของแต้มโบนัสต่อเลเวลเพิ่มขึ้นมาด้วยก็เถอะ เพราะงั้นก็ไม่จำเป็นต้องบวกเลขตรงๆเหมือนเด็กประถม
ถ้าต้องใส่แต้มโบนัสลงไปที่ค่าความแข็งแกร่งเพียงอย่างเดียว ก็ต้องใช้ถึง28เลเวล หนักถึงขนาดที่ว่าเผ่าอื่นๆแม้จะเลเวลเกิน25ไปแล้วยังอาจจะถือไม่ได้ด้วยซ้ำ นั่นล่ะคือ[Meteor Impact –Type Zero-]
ถ้านับรวมแต้มโบนัสที่ฉันยังไม่ได้ใช้กับการเพิ่มเลเวลอีกสักนิดแล้ว ฉันเองก็ยังไม่ถึงจุดนั้นด้วยซ้ำ….
“ซุคุนะซัง คุณอาจจะยังไม่รู้แต่ว่า….สกิลปิดฉากไม่ใช้แค่สกิลที่เพิ่มความเสียหายสามเท่าหรอกนะคะ…?”
“เอ๋? จริงเหรอ?”
“คงต้องโทษศัตรูที่คุณใช้สกิลใส่ไปด้วยล่ะนะ….”
ศัตรูที่ฉันใช้สกิลใส่ไปมีอาเรีย ผู้ซึ่งเหลือHPอยู่แค่1 และอโพคาลิพส์ ผู้ซึ่งมีHPมากมายมหาศาล เพียงเท่านั้น
สกิลปิดฉากนั้นมีพลังที่รุนแรงอย่างมาก เพียงแต่ว่าฉันใช้มันก็ต่อเมื่อฉันต้องการที่จะฟาดด้วยความไว ฉันเลยไม่ได้สนใจเรื่องความรุนแรงของมันเลย
“แน่อยู่แล้วว่ามีพลังโจมตีของอาวุธรวมกับค่าความแข็งแกร่งของผู้ใช้….เมื่อใช้สกิลทำให้เป็น300%แล้วนำมารวมเข้ากับ10%ของความทนทานของอาวุธที่เหลืออยู่….นั่นคือสูตรคำนวณของสกิลปิดฉากค่ะ….ถ้าเป็นตะบองเหล็กที่ซุคุนะซังใช้เมื่อตอนเริ่มต้น….ถ้ามันอยู่ในสภาพสมบูรณ์แบบแล้วล่ะก็….ด้วยความรุนแรงถึง350%นั่นก็คือความรุนแรงของสกิลที่3.5เท่ายังไงล่ะคะ”
ยกนิ้วขึ้นมาพร้อมกับอธิบาย ฉันที่คิดคำนวณตามในใจไปด้วยก็เข้าใจได้
“เข้าใจล่ะ เพราะถ้าไม่มีข้อดีในการใช้สกิลนี้กับอาวุธที่มีค่าความทนทานเหลืออยู่เยอะ มันก็จะกลายเป็นสกิลที่เอาไว้ใช้กับอาวุธใกล้พังอย่างเดียวสินะ”
“ใช่แล้วค่ะ….ถึงอย่างนั้นก็ไม่ใช่สกิลที่จะใช้ได้เรื่อยๆเพราะค่าใช้จ่ายสำหรับการที่จะต้องซื้ออาวุธใหม่ทุกครั้งก็ตาม….แล้วก็ถ้าใช้กับอาวุธเริ่มต้นก็จะเป็นการยกเลิกสกิลไปเองนะคะ….”
“อ่า เพราะว่ามันมีค่าความทนทานเว่อร์สุดๆไปเลยนี่น่ะ”(อาวุธเริ่มต้นค่าความทนทาน5000)
แม้ว่าพลังโจมตีของอาวุธจะต่ำ แต่ถ้าคิดความเสียหายจากค่าความแข็งแกร่งรวมกับความเสียหาย3เท่าของสกิลแล้ว มันจะแข็งแกร่งเกินอาวุธเริ่มต้นไปน่ะสิ
คงเป็นความคิดที่ดีของผู้พัฒนาเกมที่แก้ในส่วนนี้ไว้ก่อนแล้วล่ะนะ
“แล้วก็….ฉันจะขออธิบายเกี่ยวกับมีทีเออร์อิมแพ็คอีกครั้งนะคะ….บอกได้เลยว่าแทบทุกส่วนของอาวุธชิ้นนี้ถูกสร้างมาจากเฮฟวี่เมทัลแต่ว่า….เรื่องค่าความทนทานนั้นไปไกลคนละระดับกันเลย….มีทีเออร์อิมแพ็คมีค่าความทนทานที่สูงเกินกว่า1500ค่ะ….”
“พัน-…!?”
“และด้วยความที่เป็นอาวุธรุ่นใหญ่มาพร้อมกับพลังโจมตีกว่า50….ซึ่งเมื่อนำมาคำนวณด้วยระบบฟิสิกซ์ของเกมแล้วน้ำหนักของอาวุธจะถูกนำมาคิดเพิ่มความเสียหายที่สร้างได้ด้วย….จึงทำให้พลังโจมตีของอาวุธนี้จะมากกว่าที่แสดงในจอนิดหน่อยนะคะ….”
เหมือนว่าวันนี้ฉันจะได้เจอแต่เรื่องน่าประหลาดใจเลยนะ
สุดยอดตะบองเหล็กต้องการค่าความแข็งแกร่งที่20และมีค่าความทนทานอยู่ที่500และมีพลังโจมตี30 มอมาเทียบดูแล้ว มีทีเออร์อิมแพ็คที่ต้องการค่าความแข็งแกร่งถึง150ก็ไม่แปลกหรอกที่จะมีค่าความทนทานสูงขนาดนั้น แต่ยังไงก็ยังประหลาดอยู่ดี
“อาวุธชิ้นนี้ฉันสร้างมาเพื่อลองฝีมือในตอนที่ได้ลองใช้เฮฟวี่เมทัลเป็นครั้งแรก….แต่กลับไม่มีใครที่สามารถใช้มันได้เลย….ถ้าเป็นผู้เล่นแนวหน้าก็อาจจะมีคนที่ใช้ได้นะแต่ว่า….สำหรับผู้เล่นที่มาที่ดูอัลลิสแล้วก็เท่ากับว่าไม่มีใครที่ใช้ได้เลยสักคน….”
“เอ๋ แต่ฉันเองก็ยังมีค่าสถานะไม่พอเหมือนกันนะ?”
“แต้มโบนัสจากหมาป่าแดง มีส่วนนั้นอยู่ใช่ไหมล่ะคะ…?”
“อุ๊…”
“แล้วหลังจากที่เปลี่ยนอาชีพมาเป็น[โดวจิ]แล้ว….ค่าการเติบโตของสถานะเองก็เปลี่ยนไปด้วยอีก….”
“อูว…..”
จะเรียกว่าเป็นสัญชาติญาณของนักธุรกิจหรือเป็นเพียงความรู้อันกว้างขวางของเธอกันนะ?ฉันชะงักไปจากการชี้เป้าอันแม่นยำของเธอ
ก็จริงอยู่หรอกที่ว่าถ้าฉันเพิ่มเลเวลอีกสักนิด เลขนั้นก็สามารถเอื้อมถึงได้….
พูดขึ้นมาอย่างนั้นแล้ว ค่าความแข็งแกร่งของฉันในตอนนี้ก็เกิน100มาแล้วด้วยสิ แล้วยังมีแต้มโบนัสจากการต่อสู้กับอโพคาลิพส์อีก
หลังจากศึกอาเรียฉันก็ได้ทุ่มแต้มโบนัสส่วนใหญ่ลงไปยังค่าความว่องไวและค่าความคล่องแคล้วฉันเลยนับแต้มพวกนั้นไม่ได้ แต่ถ้าฉันได้แต้มโบนัสจากบอสในป่าแห่งเวทมนตร์แล้วเพิ่มเลเวลอีกสักห้าเลเวลฉันน่าจะถึงระดับที่ใช้อาวุธนั้นได้แล้วนะ
“สำหรับตอนนี้นั่นเป็นหนึ่งในตัวเลือก….ยังมีอาวุธอีกชิ้นที่ฉันอยากให้คุณได้ดูนะคะ….”
พูดขึ้นมาอย่างนั้นเธอก็กลับไปยังห้องด้านหลังอีกครั้งพร้อมกับออกมาโดยที่ถือกล่องขนาดใหญ่ที่ดูเหมือนกล่องดูราลูมินออกมาด้วย(ดูราลูมิน=โลหะผสมระหว่างอะลูมีเนียมและทองแดง)
หลังจากที่เปิดล็อกออก ภายในบรรจุสนับแขนหนึ่งคู่
เพราะว่ามีสีดำสนิทเช่นเดียวกัน น่าจะถูกสร้างมาจากเฮฟวี่เมทัลเช่นเดียวกันสินะ
“ซุคุนะซัง คุณน่ะชอบใช้อาวุธไร้คมสินะคะ…?”
“อืม เพราะว่าพวกมันทั้งแข็งแรงและใช้ง่ายล่ะนะ”
“ฉันเองก็ชอบอาวุธไร้คมค่ะ….แต่ว่าลูกค้าส่วนใหญ่ของฉันกลับมีแต่นักดาบทั้งนั้น….อาวุธไร้คมส่วนมากที่ฉันสร้างขึ้นมาเล่นๆจึงได้แต่ถูกเก็บไว้ให้ฝุ่นขึ้นเพียงเท่านั้นเอง….”
ดูเหมือนเธอจะผิดหวังมากเลยนะ? เธอเล่ามาด้วยน้ำเสียงน่าผิดหวัง
ฉันก็คิดอยู่ว่าทำไมเธอถึงมีอาวุธไร้คมเก็บเอาไว้เยอะเหลือเกิน ดูเหมือนจะเป็นเพราะว่าการสร้างมันขึ้นงานอดิเรกของเธอนะ
“เจ้านี้เองก็เป็นอาวุธไร้คมด้วยเช่นกันแต่ว่า….มันชื่อว่า[ถุงมือโลหะเฮฟวี่เมทัล]…..อย่างที่คุณเห็นมันคือถุงมือหุ้มโลหะที่เอาไว้ใช้สู้โดยใช้สกิล[สู้มือเปล่า]…..”
“สู้มือเปล่า….”
“ถ้าจะให้เจาะจงก็คือสกิล[ศาสตร์การต่อสู้ด้วยมือเปล่า]ค่ะ….หรือเรียกสั้นๆว่าสู้มือเปล่า เป็นสกิลสำหรับการต่อสู้ในสภาวะที่ไม่มีอาวุธในมือทั้งสองข้างโดยที่พลังโจมตีของคุณจะเพิ่มขึ้น….แต่คุณสามารถละเลยพลังโจมตีที่เพิ่มขึ้นผ่านสกิลและสวมใส่อาวุธได้เลยด้วยเจ้านี้ค่ะ….”
อัตราส่วนที่เพิ่มขึ้นมาก็ประมาณครึ่งต่อครึ่ง เธอบอกแบบนั้นขณะที่ส่งถุงมือโลหะมากับฉัน เมื่อรับมันมาฉันถึงได้รู้ตัวว่มัหักมากขนาดไหน
ไม่ใช่ว่าฉันจะถือมันไม่ได้หรอกนะ แต่พอมาใส่ที่แขนทั้งสองข้างแล้วฉันบอกถึงความหนักของมันได้เลย เหมือนว่าจะเป็นอาวุธที่ฉันมีค่าความแข็งแกร่งพออย่างหวุดหวิด
“ทั้งสองข้างรวมกันแล้วต้องการค่าความแข็งแกร่งที่100พอดี….มันเป็นอุปกรณสวมใส่ที่ลดค่าความว่องไวแต่ว่า….แลกกับพลังโจมตีที่เพิ่มขึ้นมา….แล้วก็แม้ว่าจะมีระยะที่สั้นแต่ความรุนแรงของมันสูงมาก….”
“อย่างนี้นี่เอง…อืม บางทีอาจจะไหวก็ได้นะ”
แน่นอนว่ามันหนักแต่มันกลับไม่ได้ขัดการเคลื่อนไหวเลย
ชุดกิโมโนล้วน ซึ่งก็คืออาภรณ์หมาป่าแดง รวมกับถุงมือโลหะสีดำสนิทมันวาว ถ้าไม่นับรวมความเข้ากันของชุดแล้ว เพราะว่ามันเป็นถุงมือหุ้มโลหะจึงใช้ว่าจะไม่มีประโยชน์ในเชิงป้องกันเลย
มันเป็นสถานการณ์ที่ว่าสามารถใช้มันสำหรับป้องกันอาวุธของอีกฝ่ายได้แม้ว่าจะได้เพิ่มพลังป้องกันให้กับฉันเลย แต่ถ้ามันทำให้ฉันตั้งรับการโจมตีได้ฉันก็โอเค
“อุฟุฟุฟุฟุ……ดูเข้ากันมากเลยนะคะ”
“อย่างนั้นเหรอ? มันไม่ขัดกับชุดสไตล์ญี่ปุ่นหรอกเหรอ?”
“ไม่หรอกค่ะ….เด็กผู้หญิงอย่างซุคุนะสวมใส่อุปกรณ์ไร้คมที่ดูหม่นและหนัก….ตามแบบที่ฉันชอบเลยค่ะ….”
“เอ๋…”
“อุฟุฟุฟุฮิฮิฮิฮิ”สีหน้าที่ดูเลอะเทอะปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของเด็กหญิงขณะที่เธอหัวเราะอยู่คนเดียว ฉันเลยถอยหลังออกมาห่างๆ
“จะว่าไปแล้ว ราคาเท่าไหร่เหรอ?”
“ทั้งสองอย่างรวมแล้ว150,000ไอริสค่ะ….”
“กึ๊…แล้วถ้าแลกวัตถุดิบด้วยล่ะ?”
“ก็ต้องขึ้นอยู่กับการตกลงราคากันอีกทีนะคะ….”
หลังจากที่เทของส่วนใหญ่ในช่องเก็บของของฉันไปแล้วรวมกับส่วนลดจากการยอมให้ถ่ายภาพหน้าจอของฉันที่กำลังสวมใส่อุปกรณ์พวกนั้น ฉันก็สามารถปกป้องวัตถุดิบหมาป่าแดงในช่องเก็บของเอาไว้ได้
ให้ตายสิ ยัยช่างตีเหล็กนี่ คิดว่าตัวเองเป็นใครกัน…..?
“หลังจากนี้ก็ช่วยมาอุดหนุนกันอีกด้วยนะคะ….อุฟุฟุฟุ….”
ผู้เขียน:ฮารูรุมักจะคอยมองหาผู้เล่นที่มีอวาตาร์เป็นเด็กผู้หญิงเพื่อตอบสนองงานอดิเรกของตน แต่เพราะว่าอาวุธไร้คมนั้นไม่ค่อยเป็นที่นิยมในหมู่ผู้เล่นหญิง เธอจึงต้องหลั่งน้ำตาเป็นสายเลือดอยู่ร่ำไป
สาเหตุที่โรวมาอยู่แถวดูอัลลิส เป็นความผิดเธอล้วนๆ
MANGA DISCUSSION