“นานะ เป้าหมายต่อไปของเธอหลังจากนี้คือเพิ่มเลเวลอย่างจริงจังนะ เข้าใจไหม?”
วันต่อมา ทันทีที่ฉันลืมตาตื่นขึ้นมา รินจังก็มาแจ้งฉันถึงสิ่งที่ต้องทำต่อไปหลังจากนี้
สุดท้ายแล้วเมื่อวานนี้ฉันก็ไม่ได้ล็อกอินเข้าเกมไป และได้กลายเป็นการพักเบรกจากไลฟ์สตรีมอย่างกระทันหัน
โทวกะจังเองก็ดูยุ่งๆกับเรื่องการเรียนของเธอเหมือนกัน เธอเลยกลับบ้านไปชั่วคราว
แต่ก็นะ พอคิดถึงเรื่องเวลาที่เธอใช้ในการเดินทางจากบ้านของเธอไปยังโรงเรียนของเธอ แทนที่จะให้เธอมาด้วยกันกับเรา มันจะสะดวกกว่าถ้าจะนัดเจอกับเธอภายในเกม ซึ่งทำให้เธอมีเวลาสำหรับการเล่นมากขึ้นอีกด้วย
ดูเหมือนว่าซาคุจังจะไปถึงที่เมืองที่สี่แล้ว พวกเราพูดคุยถึงเรื่องที่จะเล่นด้วยกันทันทีที่ฉันตามเขาทันแล้ว เรื่องที่เขายุ่งทั้งเรื่องการเรียน งานพาร์ทไทม์ และเกมของเขานั้นไม่ได้เปลี่ยนไปเลยนะ
“นานะ ยังจำเรื่องเควสที่เธอได้มาอยู่ไหม?”
เมื่อถูกเรียกกลับมาสู่ความเป็นจริงโดยรินจัง ฉันก็ค่อยๆย้อนนึกถึงความทรงจำของฉัน
ฉันได้เจอกับชูเท็นที่ศาลเจ้าลึกลับ แล้วเควสพิเศษมี่ปรากฏขึ้นมาจากการสนทนาของพวกเราก็คือ[ศาลเจ้า ณ สุดขอบเขต -ยมโลกของคิชิน-]
“ฉันคิดว่าพอฉันเพิ่มความชำนาญอาชีพ[โดวจิ]ถึงเลเวล30แล้ว ฉันต้องไปที่จุดเริ่มต้น…อะไรทำนองนั้นล่ะมั้ง”
“อย่าลืมไปเชคให้แน่ใจด้วยล่ะ ที่สำคัญที่สุดคือศาลเจ้าที่สุดขอบเขตของจุดเริ่มต้น หลังจากได้ยินคีย์เวิร์ดพวกนี้ไปแล้วนึกถึงอะไรบ้างไหมล่ะ?”
“เมืองแห่งการเริ่มต้นกับป่าสุดขอบเขตใช่ไหม?”
ตอบคำถามของรินจัง ฉันเองก็นึกถึงสิ่งเดียวกันในตอนที่ได้ยินคำพวกนั้น
ล่วงเลยทุ่งราบทางทิศใต้ของเมืองแห่งการเริ่มต้นไป ในส่วนลึกของสรวงสวรรค์ของเหล่าหมาป่าในที่ที่ฉันสู้กับอาเรีย ที่นั่นมีดันเจี้ยนขนาดใหญ่ที่ชื่อว่า[ป่าสุดขอบเขต]อยู่
แต่เดิมแล้วสกิลตรวจจับที่รินจังแนะนำฉันมาก็เพื่อที่ฉันจะได้ไปปราบดันเจี้ยนป่าสุดขอบเขตได้
แล้วไหนจะยังมีศาลเจ้าที่นั่นอีกด้วย ฉันเองก็ไม่รู้รายละเอียดมากนัก แต่อย่างน้อยๆที่แห่งนั้นก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่นึกถึงเมื่อได้ยินคำว่า[จุดเริ่มต้น]และ[สุดขอบเขต]
“ใช่แล้วล่ะ ในส่วนของศาลเจ้าที่สุดขอบเขต บอกตามตรงฉันเองก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้มากนัก ดันเจี้ยนนั่นมันกว้างมากและยิ่งไปกว่านั้นยังมีมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งมากๆทั้งที่อยู่ใกล้กับเมืองแห่งการเริ่มต้นอีกด้วย ไม่มีใครรู้ว่าทำไมมันถึงไปอยู่ตรงนั้นได้ แต่ต้องขอบใจเควสที่เธอรับมานะ ฉันเริ่มจะเข้าใจแล้วล่ะว่าทำไม”
“คิดว่าเป็นดันเจี้ยนสำหรับ[โดวจิ]เหรอ?”
“จะว่าอย่างนั้นก็ได้แต่ว่า…เป็นไปได้ว่าศาลเจ้านั่นไม่ได้จำกัดสำหรับเผ่าคิจินแต่ยังซ่อนความลับสำหรับเผ่าพันธุ์อื่นๆเหมือนกัน ฉันก็บอกไม่ได้หรอกว่าเป็นสำหรับทุกเผ่าแต่ฉันคิดว่าที่นั่นเหมือนกับอะไรสักอย่างที่ทำหน้าที่เป็นประตูนะ”
ถึงแม้ว่าเธอจะไม่มีหลักฐานอะไรมายืนยัน แต่รินจังก็ดูค่อนข้างมั่นใจในข้อสรุปนั้น
ประตูงั้นเหรอ จากรายละเอียดของเควสที่ฉันได้มา ฉันเองก็มั่นใจว่าศาลเจ้าสุดขอบเขตนั่นคงมีหน้าที่เป็นประตูจริงๆ
[ปิ่นปักผมประดับดอกโฮซุกิ]ที่ถูกส่งมอบให้ฉันมาตามที่ชูเท็นได้บอกมา มันคือกุญแจที่เชื่อมต่อโลกปัจจุบันเข้ากับยมโลก
ฉันไม่รู้หรอกนะว่ายมโลกนั่นทำงานยังไง แต่พอคิดถึงเรื่องที่ว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของเกมแล้ว คงไม่แปลกหรอกที่จะมีไอเท็มสำคัญบางอย่างที่สามารถพาให้เดินทางข้ามทั้งสองโลกได้ จริงๆแล้วบอสสุดท้ายแทบทุกเกมRPGเองก็มีอะไรอย่างนั้นเหมือนกันหมดเลย
“ในโลกนั้นน่ะ มีพื้นที่ที่อยู่คนละมิติออกไปที่เรียกว่า[ประเทศแฟรี่]อยู่ด้วยนะ มีNPCพูดถึงอยู่ด้วยล่ะ”
รินจังที่จู่ๆก็พูดถึงเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกันขึ้นมาทำให้ฉันเอียงคออย่างไม่ได้ตั้งใจ แต่จากบทสนทนาก่อนหน้าทำให้ฉันพอจะเข้าใจว่าเธอกำลังพูดถึงเรื่องอะไรอยู่
“ถึงจะมาจากหญิงแก่ในเมืองกริฟฟิสก็เถอะ ฉันรู้ว่ามันมีข้อมูลบางอย่างอยู่ เพียงแต่ว่าบางทีแล้วนอกจากที่พวกเรารู้อยู่แล้ว พวกเขาคงไม่ปล่อยข้อมูลอื่นออกมาง่ายๆอีก”
“เข้าใจล่ะ ถ้าประเทศแฟรี่นั่นเป็นอะไรที่เหมือนกับยมโลกของคิชิน…”
“ใช่แล้ว ฉันคิดว่าศาลเจ้าสุดขอบเขตจะเป็นฐานที่มั่นในโลกนั้นสู่สถานที่เหล่านั้นยังไงล่ะ”
ฉันไม่รู้หรอกว่าศาลเจ้าสุดขอบเขตจะใช่กุญแจสู่เควสจริงๆหรือเปล่า แต่อย่างน้อยๆมันก็เป็นเหมือนเข็มทิศที่จะพาฉันไปสู่จุดมุ่งหมายต่อไปได้
แม้ว่าตอนนี้ฉันจะยังมีเลเวลไม่มากพอที่จะไปที่ศาลเจ้านั้นก็เถอะ
เพราะท้ายที่สุดฉันก็แพ้ให้กับการต่อสู้กับอโพคาลิพส์ แต่จากการที่หักปลายเขาของมันได้ทำให้ฉันได้รับค่าประสบการณ์มา เลเวลในตอนนี้ของฉันอยู่ที่30แล้วล่ะ
เมื่อรวมถึงแต้มโบนัสที่เหลืออยู่จากการปราบอาเรียได้ ฉันควรจะเริ่มคิดให้รอบคอบแล้วว่าควรจะจัดสรรแต้มอย่างไรสำหรับเควสนี้
หลังจากนั้นฉันก็ต้องเตรียมอาวุธด้วยเหมือนกัน ฉันดันใช้[Kugelschreiber]ไปในศึกจนพัง ตะบองเหล็กของฉันเองก็ถูกเวทมนตร์ทำลายไปแล้วด้วย
ยังไม่ถึงสองชั่วโมงเลยแท้ๆนับจากที่ฉันได้มันมาจากฮารูรุ…
ยังไงก็ต้องไปกับบอกเจ้าตัวด้วยจริงๆสินะ…?
“นี่ยังแค่ส่วนเริ่มต้นของเควสเองนะ? สิ่งที่สำคัญที่สดก็คือเควสนี้ไม่ใช่เควสที่นานะต้องทำเพียงลำพังนะรู้ไหม เข้าใจที่ฉันจะบอกหรือเปล่า?”
“จะมาด้วยกันกับฉันใช่ไหม?”
“แน่นอนอยู่แล้ว เธออาจจะลืมไปแล้วแต่ผู้เล่นของHEROESไม่ได้มีแค่เธอกับฉันหรอกนะ พวกเราจะท้าทายเควสนั้นด้วยกันในฐานะปาร์ตี้ มาใช้เควสของนานะเป็นพลุแสดงความยิ่งใหญ่ของพวกเราและโชว์ฝีมือของเธอกันเถอะ!”
“เย้!”
☆
มีจุดมุ่งหมายมันก็ดีอยู่หรอก แต่ถึงจะพูดอย่างนั้น การจะเพิ่มเลเวลอย่างจริงจังเนี่ย ฉันต้องทำยังไงกันนะ?
พอฉันถามออกมา รินจังก็เปิดแผนที่โลกของWLOขึ้นมาในหน้าจอโทรศัพท์และให้ฉันดู
“จนถึงเมืองที่สี่ ฟีอัส ถนนจะเป็นทางตรงมายังทิศเหนืออย่างเดียว เพราะอย่างนั้นนานะไม่น่ามีปัญหาในการวิ่งผ่านเมืองแรกๆหรอก”
ณ จุดปลายสุดในทางทิศใต้ของแผนที่นั้นเป็นป่าขนาดใหญ่ นั่นคงจะเป็นป่าสุดขอบเขตสินะ
พอมองดูแผนที่อย่างนี้แล้ว เทียบขนาดทางตรงจากเมืองแห่งการเริ่มต้นไปถึงเมืองที่สาม ทรีอาแล้ว ป่าสุดขอบเขตยังยาวกว่านั้นเลย พูดง่ายๆก็คือดันเจี้ยนใหญ่มหึมา
จริงตามที่รินจังว่า ถนนหลักนั้นมุ่งตรงจากเมืองแห่งการเริ่มต้นไปสู่เมืองที่สี่เลย
ถึงจะมีภูเขากั้นระหว่างเมืองแห่งการเริ่มต้นกับดูอัลลิส และมีป่าขวางกั้นระหว่างดูอัลลิสไปสู่ทรีอา แต่พอมองดูทางทิศตะวันออกและตะวันตกข้างๆแล้ว ดูเหมือนว่าฉันจะไม่ต้องอ้อมอะไรเลย
“บอกเผื่อไว้นะ จริงๆแล้วก็มีเส้นทางอื่นสำหรับเดินทางนอกเหนือจากถนนหลักอยู่หรอก แต่พวกนั้นน่ะใช้เวลานานฉันเลยไม่อยากจะแนะนำเท่าไหร่”
“นั่นสินะ ยังไงฉันเองก็อยากได้แต้มโบนัสจากการปราบบอสดันเจี้ยนอยู่เหมือนกัน ฉันว่าฉันเร่งไปทางที่สั้นที่สุดเลยดีกว่า”
“อืม ใช่ว่ามีอะไรพิเศษระหว่างทรีอากับฟีอัสสักหน่อย แต่บอสดันเจี้ยนเองก็แข็งแกร่งอยู่นะ ถึงไม่เท่ากับบอสยูนีคก็เถอะ”
ฟุมุ ฟุมุ การจะผ่านจากเมืองที่สามไปสู่เมืองที่สี่ได้นั้นฉันจะต้องสู้กับบอสที่แข็งแกร่งสินะ
แต่ว่าพอมาคิดดูอีกทีแล้ว ฉันรู้สึกว่าบอสที่ฉันเคยสู้ด้วยส่วนใหญ่ออกจะพิเศษเกินปทั้งนั้นเลยนะ
ถึงจะไม่ใช่ว่าปราบได้ก็เถอะ แต่หลังจากที่ได้ประสบการณ์ในการสู้กับมอนสเตอร์ระดับอโพคาลิพส์แล้ว ฉันคิดว่าจะเจออะไรอีกก็คงไม่กลัวแล้วล่ะ
“ปัญหาอยู่ที่หลังจากฟีอัสไปนั่นล่ะ จากจุดนี้จะตรงไปอย่างเดียวไม่ได้แล้วเพราะบริเวณรอบเมืองไม่ได้ถูกแบ่งเป็นทิศตะวันออก ตะวันตก เหนือ ใต้เหมือนทุกที ระหว่างฟีอัสกับกริฟฟิสมีดันเจี้ยนขนาดใหญ่อยู่สองที่”
จากที่รินจังเล่ามา ดันเจี้ยนทั้งสองคือเส้นทางที่เชื่อมต่อไปยังกริฟฟิส
เส้นทางแรกคือทางบนพื้นแผ่นดิน[โพรงต้นไม้โลกา]ซึ่งเป็นทางที่ทะลุผ่านข้างในของต้นไม้ขนาดใหญ่โต
อีกเส้นทางเป็นทางใต้ดิน[ซากโบราณสถานแห่งเพลิง]ซึ่งเปนดันเจี้ยนใต้ดิน
“ฉันให้นานะเป็นคนเลือกละกันว่าอยากจะไปทางไหน ระดับความยากเองก็พอๆกันทั้งสอง แม้แต่ผู้เล่นโซโล่อย่างนานะเองก็ผ่านได้แน่”
“จะว่าไปแล้ว รินจังไปทางไหนเหรอ?”
“ฉันไปทางโพรงต้นไม้โลกาน่ะ โบราณสถานมีทางเดินแคบใช้เวทมนตร์ลำบาก”
“อย่างนี้นี่เอง”
หมายความว่าฉันเองก็สามารถที่จะไปทางโพรงต้นไม้โลกาได้อย่างง่ายๆ
เพียงแต่ว่า ยังไงก็อยากจะเดินสำรวจซากโบราณสถานดูสักทีล่ะนะ
“อย่างที่ชื่อดันเจี้ยนขนาดใหญ่ได้บอกไว้ ดันเจี้ยนพวกนี้จะต้องใช้เวลานานในการผ่าน หลังจากที่ผ่านมาได้ครั้งหนึ่งแล้วจุดวาร์ปจะเปิดขึ้นทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องเดินทางไปกลับอีก”
“ทั้งที่จะวาร์ปไม่ได้จนกว่าจะถึงเมืองฟีอัสแท้ๆแต่โคเนโกะมารุซังก็วิ่งผ่านทุกอย่างเลยใช่ไหม?”
“เส้นทางจนถึงเมืองฟีอัสก็เป็นเหมือนกับระบบสอนเล่นอยู่หรอก ถึงเควสพิเศษของคิชินจะไปอยู่ที่ใกล้ๆเมืองแห่งการเริ่มต้นก็เถอะ…เดี๋ยวพอเธอถึงเธอก็จะเข้าใจเองนั่นล่ะ แต่มันเป็นดันเจี้ยนที่ใหญ่มากๆจนทำให้อยากวาร์ปผ่านอย่างเดียวเลย”
จากสีหน้าอมทุกข์ของรินจังแล้ว ฉันเดาได้เลยว่าดันเจี้ยนนั้นจะต้องใหญ่มหึมาแน่นอน
อย่างที่คิดไว้เลย ฉันอยากจะไปแถวๆซากโบราสถานจริงๆ บางทีอาจมีกับดักด้วยก็เป็นได้ ตื่นเต้นจังเลย
“สำหรับตอนนี้ก็เล็งเป้ามาที่ทรีอาก่อนละกัน ฉันไม่กังวลหรอกแต่ก็สังหรณ์ใจว่านานะจะต้องโดนลากไปเจออะไรประหลาดๆอีกแน่เลย”
“น-นั่นสินะ ฉันก็เหมือนกัน”
ศึกสู้กับอาเรีย พบเจอกับโรว แล้วก็การรุกรานของอโพคาลิพส์อีก
หลังจากนั้นยังมีการพบเจอกันกับชูเท็นอีก แล้วก็เควสพิเศษด้วย
ภายในสี่วันชีวิตของฉันก็เต็มไปด้วยเหตุการณ์ต่างๆมากมายแล้ว
ฉันรู้สึกว่าทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ที่ฉันปราบอาเรียลงได้ แต่พอมาคิดดูแล้ว สงสัยจังนะว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้อโพคาลิพส์รุกรานขึ้นมา?
แต่ยังไงก็ช่วยไม่ได้อยู่ดี ไม่ว่าจะพยายามคิดถึงเรื่องของสิ่งที่เกิดขึ้นในเกมยังไง ฉันก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมถึงเอาบอสลับมาบุกรุกในพื้นที่ต้นเกมอย่างหนองน้ำลอว์เรสกัน
ถ้าจะบอกว่าเป็นบอสยูนีคประเภทไร้ถิ่นฐาน ข้อสันนิษฐานก็จบลงไปเพียงเท่านั้น
“เพราะสุดท้ายเมื่อวานก็ไม่ได้ไลฟ์สตรีมเลย ฉันเริ่มที่จะคิดถึงผู้ชมขึ้นมาหน่อยๆแล้วนะเนี่ย”
“พอชินแล้วก็รู้สึกเหมือนกับว่าได้มีเพื่อนที่เล่นด้วยกันมานานเลยล่ะนะ ดีแล้วล่ะที่ชินกับการสตรีมได้น่ะ”
ฉันยังคงประหม่าอยู่บ้างนิดหน่อย แต่มาถึงจุดนี้แล้ว ฉันรู้สึกได้ว่าระยะห่างระหว่างผู้ชมกับนักสตรีมในตอนนี้กำลังพอดีทำให้ค่อนข้างมีความสุขมากเลยล่ะ
รินจังที่ได้ยินฉันพูดออกมาอย่างนั้นก็ยิ้มอย่างยินดี
MANGA DISCUSSION