(มุมมองบุคคลที่สาม)
เพียงประมาณสามร้อยวินาที หรือ ราวห้านาที เธอจะมีพละกำลังเพิ่มขึ้นอย่างมาก นั่นคือสกิล[หมาป่าผู้หิวโหย]
เป็นสกิลหายากที่มีที่มาเหมือนกับ[หยาดอสรพิษ]ของโรว แต่ในขณะนี้ไม่มีสิ่งใดเกินขึ้นนอกจากMPของโรวที่ถูกใช้ไปเมื่อเธอกำลังเทียบสกิลของเธอกับ[หมาป่าผู้หิวโหย] สกิลซึ่งมีผลเสียอันยิ่งใหญ่ที่ถูกซ่อนไว้อยู่
ไม่ใช่เพียงแค่เพิ่มบทลงโทษจากการตายหรือลดค่าพลังด้านการป้องกันลง
ผลเสียที่ยิ่งใหญ่ที่สุดไม่ใช่สิ่งที่เห็นกันได้ง่ายๆ นั่นก็คือสภาพการรับรู้ของผู้ใช้ที่ไม่เปลี่ยนไปต่างหาก
เช่นเดียวกับหมาป่าแดงที่ซุคุนะสู้ด้วย มันมีความเร็วมากจนทำได้เพียงแค่การโจมตีอย่างเรียบง่าย สกิลนี้เองก็มีผลเหมือนเดียวกัน
ร่างกายของคนเราไม่ใช่เครื่องจักรที่สามารถคำนวณการเคลื่อนไหวด้วยโปรแกรมได้ เมื่อได้อะไรมาจนเกินกว่าจะรับไหวจะทำให้ไม่สามารถควบคุมได้
ด้วยความที่สกิลนี้เพียงแค่ให้ค่าสถานะอย่างมากกับคุณ ถ้าควบคุมได้ก็จะไม่เป็นปัญหาอะไรเลย
มันเป็นเรื่องง่ายที่จะถูกหลอกว่าผลเสียของสกิลมีเพียงที่แสดงในคำอธิบายสกิล แต่ว่าในความเป็นจริงแล้วคุณควรจะ[ทำความเคยชิน]กับการใช้สกิลก่อนที่ความสามารถที่แท้จริงจะได้เฉิดฉาย
หากแต่ว่า
นั่นเป็นกรณีสำหรับผู้ใช้ที่เป็นเพียงผู้เล่นธรรมดาเท่านั้น
ในเกมVRนั้น ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่จะได้รับความสามารถกายภาพแบบที่เทียบไม่ได้กับโลกความจริง ซึ่งคุณสามารถที่จะฝึกฝนจนชำนาญและทำความ[เคยชิน]กับมันได้
ถ้าเป็นผู้เล่นที่ชำนาญเกมVRแล้วใช้สกิลนี้เป็นครั้งแรก พวกเขาก็จะพอสามารถควบคุมสกิลนี้ได้
แต่แล้วก็มีอีกหนึ่งข้อยกเว้น
☆
รับรู้ได้ว่าแรงกดจากการก้าวเท้าของเธอแข็งแกร่งขึ้นอย่างเทียบไม่ได้ ซุคุนะยิ้มออกมาเล็กน้อย และหลังจากนั้นทันทีเธอกดเท้าจนจมลงไปกับพื้นแล้วความเร็วกว่าสองเท่าจากเดิมของเธอก็ระเบิดออกมา
ศัตรูต่อหน้าเธอได้แสดงไพ่ตายให้เธอเห็น ขณะที่กำลังอิ่มเอมไปกับความรู้สึกยินดีจากเรื่องนั้น จู่ๆโรวรู้สึกถึงความขนลุกคลืบคลานมากทางด้านหลังของเธอ ทำให้เธอโต้ตอบในทันทีด้วยการแทงดาบออกไปด้านหลัง
“…!”
เสียงโลหะแหลมคมดังขึ้นเมื่ออาวุธปะทะกัน
ก้าวแรกของซุคุนะเพื่อพุ่งตัวมายังด้านหลังของเธอและก้าวที่สองเพื่อบดขยี้หัวของโรว
เป็นเพียงชั่ววินาที เธอไม่ทันตั้งตัวจริงๆ
แต่ว่า จากการที่หัวของเธอเกือบถูกบดไป ภายในอกของโรวกลับเต้นระรัวขึ้น
“อ่า–ฮ่า”
ฆ่าทุกสิ่งที่ขวางหน้า
ทรมานลูกกระจ๊อกจนกว่าพวกมันจะตาย
ไม่ลังเลที่จะใช้กลสกปรกหรือลอบโจมตีตราบใดที่เป้าหมายคือการฆ่า
ทุกสิ่งเหล่านี้ทำให้เธอมีความสุข
แต่ว่าคนตรงหน้าเธอ….โรวรู้สึกได้ถึงความสุขที่คลืบคลานไปทั่วทั้งร่างกาย
ตะบองเหล็กและเรเปียร์ปะทะซึ่งกันและกัน แต่ว่าแม้จะพึ่งพาความแข็งแกร่งที่ได้เพิ่มมาจากสกิลของเธอแล้ว ดูเหมือนว่าความแข็งแกร่งของโรวจะยังคงสูงกว่า แม้ว่าจะอยู่ในท่าทางที่เสียเปรียบแต่เธอก็ยังไม่แพ้ให้กับการแข่งความแข็งแกร่งขณะที่สะเก็ดไฟกระจายไปทั่ว
หากแต่การงัดอาวุธใส่กันได้หยุดลงเมื่อซุคุนะปล่อยมืออกจากอาวุธของเธอกะทันหัน เรเปียร์ที่โรวใส่แรงกดไว้ได้ขาดเป้าหมายและพุ่งไปยังที่ว่างข้างหน้า
“ร่าห์!”
“กึ๊…!?”
ซีกซ้ายของเธอถูกคว้านโดยเท้าขวาของซุคุนะ ในจังหวะที่ซุคุนะปล่อยตะบองในมือ เธอหมุนตัวและใช้แรงนั่นเตะเป็นวงกว้าง
เหมือนกับเมื่อก่อนหน้า ความเสียหายจากการโจมตีไม่ได้สูงนักเพราะว่าไม่ใช่สกิล
แต่ว่าการถูกเตะขณะที่อยู่ในสภาพที่ไม่มั่นคงทำให้ร่างกายของโรวกระเด็นออกไปไม่กี่เมตร
ด้วยท่วงท่าราวกับล้อหมุน โรวได้จัดท่ายืนขึ้นใหม่และหลังจากที่ปัดมีดขว้างที่ขว้างมาหมายจะปิดฉากเธอ เธอก็แทงอย่างรวดเร็วไปยังข้างหลังของเธอซึ่งไม่มีสิ่งใดอยู่
“แค่ก นั่นมันจะ….ปฏิกิริยาโต้ตอบดีไปแล้ว”
ราวกับจะแสดงให้เห็นว่าเกิดอะไรขึ้น เสียงโลหะปะทะกันยืนยันว่าซุคุนะได้พุ่งตัวเข้าไปหวังจะโจมตีจากด้านหลังและได้ถูกโรวปัดป้องออกก่อนจะเป็นฝ่ายป้องกันการลอบโจมตีจากโรวด้วยส่วนกลางของตะบองเหล็ก
“รู้ได้ยังไงน่ะ?”
“ลางสังหรณ์ของผู้หญิง….ถ้าพูดไปอย่างนั้นจะเชื่อไหมนะ?”
พูดขึ้นขณะที่โจมตี เสียงดังขึ้นสามครั้งเมื่อการโจมตีทุกครั้งนั้นถูกกันไว้ด้วยตะบองเหล็ก
เพียงแต่ว่าแม้จะสู้กันไปได้ไม่กี่วินาที โรวก็สังเกตได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของซุคุนะ
“เห สกิลนั่นน่ะ ใช้ค่าHPในการใช้สินะ”
“ก็ใช่ล่ะนะ แต่ว่า ถ้าไม่ใช้ฉันก็ชนะโรวไม่ได้น่ะสิ”
โรวเองก็รู้ว่าสกิลที่ใช้HPขณะใช้งานนั้น ยิ่งพูดคุยระหว่างสู้ยิ่งเสียเวลาเปล่า
ถึงกระนั้นแล้วซุคุนะก็ยังคงคุยด้วยตามเธอ
นั่นหมายความว่าจะต้องมีเหตุผลเบื้องหลังอยู่
“เธอน่าจะระวังข้างบนหน่อยนะรู้ไหม?”
โรวที่ก้าวถอยหลังออกไปทันทีที่ได้ยินก็แทบปล่อยเรเปียร์ในมือเมื่อถูกกระแทกจากลูกเหล็กที่ร่วงลงมาใส่หัวไหล่ของเธอ
“โดนเข้าให้แล้ว” โรวคิดขึ้น เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันถูกขว้างออกไปเมื่อไหร่ แต่ก่อนที่เธอจะรู้ตัว กับดักจากเวหาก็ถูกตั้งไว้แล้ว
ซุคุนะยังคำนวณไว้อีกด้วยว่าเธอจะก้าวถอยหลังหลบ เธอเลยพูดออกมาอย่างนั้น
โรวเลิกทิ้งระยะห่างจากซุคุนะที่ไล่ตามเธออยู่
เธอไม่รู้ว่าผลเอฟเฟคของสกิลคืออะไร แต่ที่เธอรู้คือความว่องไวของซุคุนะนั้น–เหนือกว่าเลเวล60–ซึ่งนั่นมากกว่าของเธออย่างมาก
ในเมื่อเธอแพ้ในด้านความว่องไว จึงไม่ใช่ความคิดที่ดีเลยที่จะสร้างระยะห่างระหว่างที่สู้
และเพื่อที่จะใช้ความแข็งแกร่งที่เธอมีเหนือกว่า เธอจะต้องเข้าประชิด ซึ่งโชคดีสำหรับโรว ซุคุนะนั้นมีระยะเวลาที่จำกัดสำหรับสกิลของเธอ
ผลเอฟเฟคระดับนั้นคงมีระยะมากสุดไม่เกินสิบนาที
ขณะที่ตั้งสมมุติฐานเธอก็ถึงบทสรุปของสกิลได้สามรูปแบบ
หนึ่ง HPของซุคุนะจะถูกใช้ไปเรื่อยๆจนหมดและเมื่อถึงตอนนั้นเธอก็จะตาย
สอง HPของเธอจะลดลงไปจนถึงหนึ่งแล้วผลเอฟเฟคก็จะหยุดลง
สาม HPของเธอจะถูกลดลงไปถึงหนึ่งทำให้ลดลงไปไม่ได้อีกแต่เอฟเฟคจะยังคงอยู่เรื่อยๆ ไม่ว่าจะกรณีไหนก็จินตนาการตามได้ไม่ยากที่สกิลจะทำให้เธออยู่ในสภาพปางตายเมื่อระยะเวลาหมดลง
ปัญหาก็คือความสามารถในการมองอันสุดยอดของซุคุนะและปฏิกิริยาตอบสนองของเธอ
ราวกับจะเยาะเย้ยโรวผู้ทุ่มเทเวลาไปกับการทำความเคยชินกับค่าสถานะของตัวละครที่สูงกว่าในโลกความเป็นจริงอย่างเทียบไม่ได้ โอนิสาวนั่นกลับควบคุมอวาตาร์ของเธอได้อย่างสมบูรณ์แบบ
การโจมตีครึ่งๆกลางๆไม่มีทางโดน กลับกันจะเป็นการเปิดช่องว่างให้โจมตีด้วยซ้ำ
ถ้าโรวใช้สกิลไปแล้วถูกรับมือได้ ในช่องว่างที่เกิดขึ้นจากการชะงักนั้น มีความเป็นไปได้ที่โรวที่ไม่ได้ใส่แต้มโบนัสไปยังพลังป้องกันเลยจะได้รับความเสียหายถึงตายจากสกิลของซุคุนะ
แม้กระทั่งสกิลยูนีคของอาวุธ[เรเปียร์แห่งการยั่วยวน]และสกิลหายากของโรวเองก็จัดการกับซุคุนะได้ลำบากเพราะสกิลนั้นเป็นประเภทที่จะต้องทำความเสียหายทางกายภาพแก่เป้าหมายให้ได้ก่อนที่ผลเอฟเฟคสกิลจะทำงาน
ดูเหมือนว่าความเข้ากันได้ของเหยื่อในครั้งนี้จะไม่เหมาะกับโรวเลย
เพียงแต่ว่า ในฐานะนักฆ่าผู้เล่นแล้ว โรวตัดสินใจที่จะฆ่าเป้าหมายที่เธอเลือกไว้ให้ได้ทุกครั้ง
แม้ว่าเธออาจจะกำลังทำสิ่งที่จะส่งผลร้ายให้กับเธอ แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลที่จะหยุดการฆ่าผู้เล่นแต่อย่างใด อีกอย่างนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอพบกับสถานการณ์เช่นนี้เสียหน่อย
จนถึงตอนนี้เธอได้จัดการผู้เล่นไป66คนแล้ว และเธอมั่นใจว่าจะฆ่าซุคุนะให้ได้อย่างแน่นอน
ไม่ว่าผลที่ออกมาจะเลวร้ายแค่ไหน ไม่ว่าจะต้องเล่นสกปรกเพียงใด ทุกอย่างจะเรียบร้อยตราบที่เธอเหลือรอดเป็นคนสุดท้าย
(ไม่ใช่เรื่องที่จะล้อเล่นได้เลยนะ)
แม้ว่าเธอเพียงแค่จะมาตรวจสอบความผิดปกติบริเวณหนองน้ำเฉยๆและฆ่าผู้เล่นอื่นเล่นไปเรื่อย ก่อนกลับเธอดันพบเข้ากับม้าพยศซะได้
ขณะที่ตรวจสอบสิ่งที่ตัวเองทำได้ เธอเหลือบไปยังคิจินที่มุ่งหน้าเข้ามา
ซุคุนะไม่ใช่คนเดียวที่มีไพ่ตาย มีทางที่จะฆ่าเธอได้อย่างแน่นอน นั่นเป็นเหตุผลที่โรวตัดสินใจให้ศึกนี้กลายเป็นการแข่งขันความอดทน
☆(มุมมองซุคุนะ)
การที่โรวตัดสินใจแข่งความอดทนเป็นอะไรที่ฉันคาดไว้อยู่แล้ว
ไม่ว่าฉันจะมีความว่องไวมากแค่ไหน ค่าสถานะอื่นๆของฉันนั้นน้อยกว่าโรวทั้งนั้น ฉันจำเป็นต้องใช้หมาป่าผู้หิวโหยเพื่อที่จะไม่ถูกฆ่าในทันที ถ้าฉันถูกโจมตีแม้สักครั้งเดียว ระยะเวลาที่จำกัดของหมาป่าผู้หิวโหยก็จะยิ่งลดลงไปอีกอย่างมาก ซึ่งนั่นเป็นข้อเสียเปรียบอย่างชัดเจน
ยิ่งไปกว่านั้น เกมนี้ทีสิ่งที่เรียกว่าSP
โดยการทำงานของมันคือยิ่งฉันเคลื่อนที่ไวแค่ไหน SPของฉันก็ยิ่งถูกใช้ไปมากเท่านั้น แต่ด้วยเวลาที่จำกัดของหมาป่าผู้หิวโหยฉันจึงต้องโจมตีอยู่เรื่อยๆยิ่งทำให้สถานการณ์นี้แย่ลงไปตามความยืดเยื้อ
แล้วก็มีหญิงสาวตรงหน้าฉันที่เคยชินกับการสู้กับผู้เล่นคนอื่น ฉันไม่อาจประมาทเธอได้เลยว่าเธอไม่มีวิธีจัดการกับศัตรูที่เร็วกว่า
จากท่าทางที่เธอแสดงออกมาและวิธีที่เธอรับมือลูกเตะทั้งสองของฉันจนถึงตอนนี้ ไม่ผิดแน่ที่เธอเป็นประเภทนักดาบที่เน้นความว่องไวที่มีพลังป้องกันต่ำ
การควบคุมร่างกายของเธอไม่ดีดีมากนักแต่จากความรวดเร็วอย่างมากของดาบของเธอ ค่าความคล่องแคล่วของเธอควรจะสูงมากเลย
แล้วเธอยังแข็งแกร่งพอที่ฉันจะต้องไม่ประมาทในการต่อสู้ระยะประชิดอีกด้วย
จนถึงตอนนี้ฉันคอยทำให้เธอเสียสมดุลด้วยกลวิธีต่างๆ แต่จากตรงนี้ไปฉันควรจะทำอะไรด้วยความคิดที่ว่าฉันจะโจมตีไม่ได้จนกว่าฉันจะทำลายการป้องกันของเธอไปได้
เสียงอาวุธปะทะกันดังสะท้อนไปทั่วหนองน้ำ
ในการต่อสู้นี้ฉันไม่ได้ใช้ตะบองสองมือ
แม้ว่านั่นจะดูเหมือนอาวุธที่จะชนะได้ง่ายๆแต่ในศึก1ต่อ1แล้ว อาวุธนั้นยากที่จะควบคุมมากเกินไป
พูดให้ถูกคือมันไม่เหมาะที่จะใช้โจมตีต่อเนื่องในขณะที่ปะทะกันด้วยความเร็ว
เมื่อดูระยะการโจมตีของอาวุธนี้แล้ว จริงอยู่ว่าไม่ว่าจะใช้ส่วนไหนตะบองสองมือในการโจมตีก็สร้างความเสียหายได้สูง
แต่ในการต่อสู้จริงแล้ว สุดท้ายฉันก็จะได้แต่คอยตั้งรับถ้าเลือกใช้มัน
ระยะโจมตีของอาวุธถูกคำนวนในการใช้สกิลอย่าง[กวาดเรียบ]ซึ่งทุกส่วนของอาวุธนั้นสร้างความเสียหายได้มาก แต่นอกเหนือจากนั้นแล้ว ก็ไม่มีประโยชน์อะไรไปมากกว่านี้
จริงๆแล้วฉันคิดว่ามันเหมาะกับการต่อสู้ระยะประชิดที่คุณถูกบังคับให้อยู่กับที่เสียมากกว่าอีก
ถ้าเอาไว้ใช้กับมอนสเตอร์ล่ะก็ จะต้องมีสถานการณ์ที่อาวุธนี้ได้เฉิดฉายอย่างแน่นอน
เพียงแต่ว่า สำหรับตอนนี้แล้ว ฉันจะต้องคอยกดดันโรวที่เน้นหลบหลีกการโจมตีของฉัน
แล้วยังต้องคิดถึงกรณีที่ฉันอาจจะต้องใช้อาวุธขว้างพร้อมกันด้วย ฉันจึงตัดสินใจหลีกเลี่ยงตะบองสองมือไป ฉันอยู่ในการต่อสู้ที่ทำให้ไม่ได้ใช้อาวุธใหม่เลยนี่นา
ตะบองเหล็กฟาดเฉียงจากทางด้านขวนถูกปัดออก
ลูกเตะวงกว้างที่เตะหลอกแล้วสับเปลี่ยนเป็นเตะกวาดขาถูกหลบด้วยการกระโดดถอยหลัง
แล้วก้อนหินที่ฉันดีดใส่ไปก็เฉี่ยวแก้มเธอเท่านั้น
“ชิ!”
ฉันลุกขึ้นจากการก้มราวกับเต้นเบรกแดนซ์แล้วพยายามจู่โจมโรวที่ชะงักไปชั่วครู่จากความเสียหาย แต่ราวกับจะเย้ยการโจมตีของฉัน เธอปัดออกแล้วสวนกลับ
ฉันใช้ส่วนหนามของตะบองเพื่อปัดป้องก่อนจะก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวแล้วใช้[หวด]เข้าที่ด้านข้างลำตัวเธอ
อย่างที่คิดไว้ โรวไม่สามารถหลบได้พ้นและถูกบังคับให้ใช้ดาบรับเอาไว้ ซึ่งดูเหมือนจะยังเข้าเป้าไปเล็กน้อยและลดHPของเธอ
ผ่านมาสองนาทีแล้วหลังจากที่เริ่มสู้ HPของฉันเหลืออยู่ราวๆ60%แต่โรวเองก็ได้รับความเสียหายไปพอๆกัน
พอคำนึงถึงความไวในการตอบสนองของโรวแล้ว ฉันไม่สามารถใช้สกิลที่มีช่องว่างกว้างได้ฉันเลยใช้[หวด] สกิลที่ใช้ง่ายและรวดเร็วที่สุด แต่อย่างที่คาดไว้ว่าการโจมตีนั้นไม่เข้าเป้าเป๊ะ
แม้ว่ารอบข้างจะมีต้นไม้อยู่บ้าง…..ฉันได้แต่บ่นกับตัวเองที่ที่นี่คือหนองน้ำราบเรียบ อาวุธขว้างของฉันอย่างมากก็เป็นได้แค่ตัวล่อ
“ฟุฟุ เป็นแบบนี้ต่อไปใครจะตายก่อนกันนะ?”
“อยากรู้ก็ให้ฉันฆ่าเธอสิ”
“เป็นข้อเสนอที่น่ารักมากเลยล่ะ”
แลกเปลี่ยนทั้งเทคนิค การหลบหลีก และคำพูด ต้องขอบใจความไวของฉันที่เหนือกว่าเธอจึงทำให้ดูเหมือนว่าฉันเป็นฝ่ายโจมตี แม้ในความเป็นจริงแล้วสถานการณ์ของฉันจะค่อนข้างร้ายแรงเลยก็เถอะ
ความสามารถในการวิเคราะห์ของโรวนั้นสูงกว่าที่ฉันคาดคิดเอาไว้มาก พอมาลองคิดดูดีๆแล้วเธอเองก็เป็นผู้เล่นที่สามารถปราบบอสยูนีคได้เหมือนกัน แน่นอนว่าเธอมีฝีมือพอที่จะทำถึงขนาดนี้อยู่แล้ว
แทนที่จะบอกว่าฉันโจมตีโดนเธอ ควรจะบอกว่าเธอยอมให้โดนมากกว่า แทนที่จะยอมโดนโจมตีอย่างเต็มเป้า เธอยอมสละHPของเธอเล็กน้อยแทน นี่คือผลจากความสามารถของเธอ
ในขณะที่เวลาซึ่งเต็มไปด้วยการปะทะฝีมือได้ผ่านไป เสียงอาวุธปะทะกันยิ่งเพิ่มมากขึ้น ราวกับเป็นเสียงของเครื่องดนตรีที่กำลังบรรเลงเพลงดังสะท้านไปทั่วหนองน้ำ
หนึ่งคนไล่ตาม,ฉัน หนึ่งคนถูกไล่ตาม,โรว จากมุมมองของคนอื่นที่มองมาคงจะเหมือนกับว่าพวกเรากำลังร่ายรำกันอยู่
ถึงจะพูดแบบนั้นแต่ในตอนนั้นฉันถูกเติมเต็มไปด้วยความสุขล่ะ
เหมือนกับตอนที่ได้สู้กับหมาป่าแดง การต่อสู้ที่สนุกสุดๆที่ต้องใช้ทุกสิ่งที่มีอยู่ในการหาทางฆ่าศัตรู
โลกที่รินจังชวนฉันเข้ามา ความสามารถในการทำในสิ่งที่ทำไม่ได้ในโซ่ตรวนของโลกความจริง โลกที่ฉันเข้ามาหวังไว้เพียงสิ่งนั้น
ยังไม่พอหรอก ฉันยังใช้งานมันได้ไม่พอ ขีดจำกัดของฉันยังไม่ถึงขีดสุด ฉันยังไปได้อีก เร็วกว่านี้ เร็วขึ้นกว่านี้อีก สู่การโจมตีที่เฉียบคมยิ่งกว่านี้!
ก่อนที่ฉันจะรู้ตัว ทั้งฉันและโรวก็กำลังยิ้มอยู่
ลืมไปเลยว่านี่เป็นศึกถึงตาย พวกเราก็ได้หัวเราะออกมา
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม
เพราะพวกเราคอยแต่สนใจอีกฝ่าย
พวกเราถึงไม่ทันสังเกตถึง –มัน–
ด้วยเสียงกู่ร้องคำราม ความสิ้นหวังได้เข้าปกคลุมหนองน้ำ
☆(มุมมองบุคคลที่สาม)
ด้วยเสียงกู่ร้องคำราม มันได้บินลงมา
หนองน้ำสั่นสะเทือน ราวกับได้มีระเบิดลง พื้นดินได้กลายเป็นหลุมบ่อบริเวณเท้าของมัน
ใช่แล้ว มอนสเตอร์นั่นปรากฏตัวขึ้นจากบนฟากฟ้า
เปลือกหุ้มดำสนิท ร่างกายที่ใหญ่โต
ตัดทุกอย่างเป็นชิ้นได้ง่ายดาย กรงเล็บของมัน
ดวงตาประกายทองคำ–เยงแค่สะบัดหางก็สร้างลมโหมกระหน่ำ
ทุกๆคนรู้จักถึงสิ่งมีชีวิตนี้
สัญลักษณ์แห่งความหวาดกลัว หรือบางทีอาจเป็นร่างกำเนิดใหม่ของปีศาจ ตัวตนที่ปรากฏขึ้นในทุกตำนาน พร้อมกับความแข็งแกร่งไร้ผู้เทียบเคียง
[มังกรบริสุทธ์แห่งสัจธรรม –อโพคาลิพส์– Lv.???]
นี่คือการบุกรุกของมังกร
————————————–
ไม่ค้างเนอะ
ชื่อของมังกรอีกชื่อที่แปลได้คือมังกรแห่งความจริง โดยที่ผมเลือกใช้มังกรแห่งสัจธรรมแทนโดยคิดว่ามันเข้ากับการเป็นชื่อมากกว่าครับ
MANGA DISCUSSION