“แปลกจังเลยนะ”
หญิงสาวในชุดโกธิกชักดาบเรเปียร์ในมือของเธอขึ้นมาพร้อมกับมองที่มันพูดขึ้นอย่างสงบ
ในชั่วขณะที่ฉันคิดอย่างนั้น ระยะห่างระหว่างสองเราก็ถูกย่นลงพร้อมกับคมดาบที่พุ่งมายังคอของฉัน–ซึ่งถูกฉันรับไว้ด้วยตะบองเหล็ก
ขณะที่เสียงโลหะปะทะกันดังก้องขึ้น เรเปียร์ก็ถูกปัดออกไป ทันทีที่คิดอย่างนั้นมันก็กลับมาในท่าแทง
ฉันใช้ตะบองเหล็กรับไว้แทนโล่พร้อมๆกับโยกตัวหลบ และใช้แรงจากการเอนตัวเพื่อเตะกวาดออกไปใส่เจ้าของดาบซึ่งเธอกระโดดถอยหลังออกไปราวกับกำลังลอยตัว
“ฉันไม่คิดเลยว่าจะฆ่าเธอไม่ได้น่ะ ทั้งที่เป็นการลอบโจมตีอย่างสมบูรณ์แบบแล้วแท้ๆเลยนะ แปลกจังเลย สายตาของเธอดีขนาดนั้นเลยอย่างนั้นเหรอ? หรือว่าลางสังหรณ์ของเธอจะดีกัน? แปลกจังเลยนะ”
หญิงสาวที่ฉันช่วยไว้ก่อนหน้านี้ชี้นิ้วขึ้นมาใกล้ริมฝีปากก่อนจะเอียงคอ เธอเป็นผู้หญิงที่ตัวเล็กกว่าฉันเสียอีกและใส่ชุดโกธิก
เธอน่าจะสูงราวๆ150ซม. พอมองดูอีกครั้งแล้ว ผมสีบลอนด์ลอนยาวกับดวงตาสีแดงก็ดูเหมาะสมกันมาก เป็นรูปลักษณ์ที่ต่างจากคนญี่ปุ่นทั่วไป
ถึงอย่างนั้นรายละเอียดพวกนั้นเองก็ปรับแต่งได้ในช่วงสร้างตัวละคร แต่ชุดโกธิกนั่นดูยังไงก็เป็นฝีมือของผู้เล่นสร้างขึ้นมา
“จู่ๆก็โจมตีกัน ต้องการอะไร?”
“โรว อายุ16ปี มาสนิทกันเข้าไว้ดีกว่านะ?”
“ฉันไม่มีงานอดิเรกที่จะสนิทกับคนที่พยายามฆ่าฉันหรอกนะ”
“น่าเศร้าจังนะ ทั้งที่ฉันอยากจะสนิทกับเธอให้มากกว่านี้แท้ๆ”
“ก่อนอื่นช่วยหยุดฟันใส่ฉันสักทีได้ไหม–”
เธอพุ่งตรงเข้ามาอย่างไม่เกิดเสียง แล้วฉันก็ใช้ตะบองเหล็กแทนโล่ป้องกันการแทงที่โหมกระหน่ำเข้ามา
ท่ามกลางเสียงปะทะกันของโลหะที่ราวกับเสียงโอดครวญ จู่ๆมุมปากของหญิงสาวก็ยกยิ้มขึ้น
ชั่ววินาทีนั้นฉันสัมผัสได้ถึงลางร้าย ณ จุดที่มีการแทงของเรเปียร์มาตลอดกลับไร้ซึ่งการแทงไป
“[Death Thrust]”
จู่ๆเรเปียร์ที่ถูกดึงกลับไปนั้นได้ถูกหุ้มไปด้วยไอพิษสีม่วงก่อนจะพุ่งตรงเข้ามาที่ฉันด้วยความเร็วสองเท่าจากเดิม
“หว–เกือบ–ไป!”
เพื่อที่จะหลบเรเปียร์ที่ถูกแทงออกมา ฉันฝืนตัวองก้าวหลบไปด้านข้าง
ขณะที่รู้สึกได้ถึงข้อเท้าที่ปวดขึ้นจากการขยับที่ผิดธรรมชาติ ฉันก็ได้เตะกวาดสุดแรงไปยังท้องของหญิงสาวที่ชะงักหลังจากที่ใช้สกิล
“อ๊าก!?”
ลูกเตะปะทะตัวเธอพร้อมกับเสียงดัง หญิงสาวก็ได้กระเด็นออกไป
แต่ว่าเมื่อเธอกำลังจะถึงพื้น เธอก็ได้ใช้มือข้างหนึ่งยันตัวแล้วจัดท่ายืนอย่างง่ายดายเมื่อถึงพื้น
“แค่ก แค่ก……..ทำอะไรเลวร้ายใส่กันได้นะ”
“พูดเรื่องอะไรน่ะ เธอต่างหากที่ใช้สกิลอะไรที่ดูอันตรายอยู่เมื่อกี้ไม่ใช่เหรอไง?”
“เธอพูดถูก ถ้าโดนเข้าไปล่ะก็ เธอจะติดพิษร้ายแรงเข้าเลยล่ะ”
“เห็นไหม! ฉันไม่ผิดสักหน่อยนะ!”
หญิงสาวยิ้มให้อย่างไม่อายทั้งที่ไอออกมาอย่างรุนแรง
ฉันไม่รู้หรอกว่าเธอแข็งแกร่งแค่ไหน แต่จากการโจมตีของฉันเมื่อสักครู่ ซึ่งมาจากค่าความแข็งแกร่งของฉันที่ได้รับโบนัสจากอาชีพมาแล้วนั้น–ฉันลดHPของเธอไปได้ราวๆ10%
ถึงอย่างนั้นรอยยิ้มบนหน้าของหญิงสาวก็ไม่หายไปหน ดูเหมือนเธอจะผ่อนคลายพอที่จะชวนคุยอีกด้วย
“เธอน่ะ ชื่ออะไรอย่างนั้นเหรอ?”
“……ซุคุนะ”
“อย่างนั้นเหรอ ซุคุนะสินะ ฉันขอแนะนำตัวเองอีกรอบละกัน ฉันชื่อโรว หลายคนเรียกฉันว่า[เจ้าหญิงนักฆ่า] แต่ฉันอยากจะให้เธอเรียกฉันว่าโรวนะ”
“นักฆ่า…ผู้เล่นชื่อแดงสินะ? ทั้งที่มีแต่ข้อเสียแท้ๆ”
บทลงโทษจากการตายเพียงแค่จำกัดค่าสถานะและการได้รับค่าประสบการณ์ชั่วขณะหนึ่ง สำหรับเกมWLOที่ซึ่งในเมืองนั้นปลอดภัยแล้ว การฆ่าผู้เล่นนั้นเป็นการกระทำที่ไม่มีข้อดีให้เลย
ไม่เพียงแค่นั้น ถ้าคุณเป็นผู้เล่นที่ฆ่าผู้เล่นอื่น คุณจะไม่สามารถเข้าเมืองได้ แล้วถ้าก่อเรื่องใกล้ๆเมือง NPCทหารยามก็จะเข้ามาแล้วจับตัวคุณไป ทำให้เสียเงินและไอเท็ม
แล้วถ้าเกิดพ่ายให้กับมอนสเตอร์แล้วเกิดใหม่ NPCทหารยามก็จะเข้ามาจับตัวแล้วคุณก็จะได้รับบทลงโทษอยู่เหมือนเดิม
ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าถูกผู้เล่นคนอื่นฆ่าได้ คุณก็จะเสียเงินและไอเท็มทั้งหมดที่มี แล้วเลเวลก็จะลดลงไปครึ่งหนึ่งด้วย
ข้อดีอย่างเดียวเกี่ยวกับการฆ่าผู้เล่นในเกมWLOก็คือการที่ไม่มีผลประโยชน์อะไรจากการกระทำนั้นเลย นั่นล่ะคือการฆ่าผู้เล่นในเกมนี้
“ถ้าพูดถึงผลประโยชน์ล่ะก็ มีอยู่แล้วสิ เธอจะฆ่าคนกี่ครั้งก็ได้ตามที่ใจต้องการ สำหรับฉันแล้วนั่นคือผลประโยชน์อย่างไม่ต้องสงสัยเลยนะ”
ผู้หญิงคนนี้––โรว–ขณะที่เลนกับเรเปียร์ในมือก็ได้พูดออกมาราวกับเป็นเรื่องธรรมดา
ดวงตาคู่นั้นดูใสซื่อจนน่ากลัว ทำให้เชื่อได้ว่าเธอไม่ได้ปิดบังอะไรเลย
“ฉันจะเอาจริงแล้วนะ? ถ้าเป็นซุคุนะล่ะก็ไม่ตายหรอก เพราะงั้นช่วยอยู่รอดด้วยนะ?”
โรวตั้งท่าพร้อมกับพูดขึ้น แล้วฉันก็เข้าใจได้ว่าต้องเตรียมรับมืออย่างจริงจังเช่นกัน
ฉันเปลี่ยนวิธีคิดของตัวเอง
สิ่งที่โรวต้องการคือการสู้กันจนถึงตาย
ถ้าไม่ฆ่าก็จะถูกฆ่า แม้ว่านี่จะเป็นเกมแต่ก็ทำให้รู้สึกได้อย่างนั้น ความกระหายเลือดที่โรวปล่อยออกมานั้นเย็นเฉียบและชัดเจนจนฉันขนลุก
ชั่วขณะนั้นโรวได้ปรากฏตัวต่อหน้าฉันเล็งที่จะฟัน ฉันจึงขยับตะบองเหล็กก้นระหว่างเราแล้วป้องกันเอาไว้
ฉันยังเห็นได้และขยับตัวรับมือได้ทัน แต่ว่า เทียบกับท่าทีเล่นๆก่อนหน้าของเธอแล้ว ในตอนนี้เร็วเทียบกันไม่ติด
หรือว่าเธอจะคาดเดาได้ว่าฉันจะป้องกัน? ก่อนที่ฉันจะรู้ตัวเธอก็มีมีดสั้นอยู่ในมืออีกข้าง เธอหมุนตัว180องศาเพื่อที่จะแทงมีดมาใส่ฉัน
ขณะที่ฉันพยายามที่จะหลบด้วยการก้าวถอยหลัง ความรู้สึกเสียวสันหลังในชั่วขณะสุดท้ายทำให้ฉันเอื้อมคว้าจับข้อมือของเธอไว้แทน
มีดเป็นแค่ตัวล่อ การโจมตีจริงๆจะมาก็เมื่อตอนที่ฉันเปิดช่องว่างจากการถอยหลังหรือสวนกลับ เธอวางแผนที่จะแทงเรเปียร์ที่ซ่อนอยู่ข้างหลังเอาไว้
ในตอนนี้พวกเราทั้งสองกำลังเผชิญหน้ากัน อยู่ในสภาพคุมเชิงไว้ทั้งคู่
คนที่ทลายสภาพความนิ่งนี้คือโรว ขณะที่เธอพยายามที่จะฟันเรเปียร์ใส่มือของฉันที่จับข้อมือเธอไว้ ฉันก็ปล่อยมือของเธอเพื่อหลบแล้วเธอก็อาศัยจังหวะนั้นกระโดดถอยหลังไป
“ทั้งที่คิดว่าฉันจะเสียบทะลุตัวเธอได้แล้วเชียวนะ”
โรวพึมพำออกมาอย่างผิดหวัง แต่ว่าดวงตาของเธอใสแจ๋วกว่าทุกที
โดยที่เข้ากับอารมณ์ของเธอ เรเปียร์ในมือเธอปัดแกว่งไปมา และจากปลายดาบที่ฉันเห็นได้ถึงความตื่นเต้นที่เอ่อล้นออกมา
“ฉันไม่ยอมโดนอย่างนั้นง่ายๆหรอกนะรู้ไหม”
“อ่าฮะ ต้องอย่างนั้นล่ะ ฉันจะเพิ่มอีกระดับหนึ่งนะ ตามให้ทันล่ะ”
พูดขึ้นอย่างนะนั้นโรวได้พุ่งตัวเข้ามา เธอเลือกที่จะปะทะกันซึ่งหน้า
แม้ว่าเดิมทีแล้วจะถูกออกแบบมาเพื่อการแทงโดยเฉพาะ แต่ว่าดาบเรเปียร์ก็ยังคงเป็นดาบสองคมอยู่
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ ถ้าเธอต้องการแล้วล่ะก็ เธอก็สามารถใช้มันในการฟันได้ จริงๆแล้วโรวมักเลือกที่จะฟันมากกว่าแทงด้วยซ้ำ
แต่ว่านั่นเป็นเพียงกรณีที่พูดถึงวิธีการใช้ดาบเรเปียร์ในทางทฤษฎี
อย่างน้อยแล้วใบดาบของเรเปียร์นั้นบางไม่เหมาะกับการปะทะ และยิ่งในเกมนี้ที่มีกฎสำหรับค่าความทนทานแล้ว อาวุธยิ่งหนายิ่งเหมาะกับการปะทะมากกว่าอาวุธบางๆ
สรุปแล้วเรเปียร์ไม่น่าจะถูกสร้างมาเพื่อการต่อสู้แบบปะทะโดยตรง
แม้ว่าจะผ่านมาหลายนาทีแล้วกับการป้องกันการโจมตีจำนวนมากจากเธอ เธอก็ยังคงไม่มีท่าทีที่จะหมดความอดทน
“เรเปียร์นั่นทนทาน–ดีจังนะ!”
“อืม อาวุธชิ้นโปรดของฉันเลยล่ะ ฉันเห็นแวบแรก็รู้ได้เลยว่าเป็นแบบเดียวกัน ชุดเกราะของซุคุนะน่ะ”
ด้วยท่าทีดีใจ โรวได้พูดขึ้นมา
ชุดเกราะของฉันถูกสร้างมาจากวัตถุดิบของบอสยูนีค แล้วในตอนนี้เองก็ถือว่าเป็นอุปกรณ์สวมใส่ที่ขึ้นชื่อในด้านค่าสถานะที่สูง
ถ้ารวมปิ่นปักผมที่สร้างมาจากไอเท็มดรอปหายาก[จิตวิญญาณ]ของบอสยูนีคด้วยแล้ว นี่เป็นอุปกรณ์สวมใส่ที่เรียกได้ว่าขี้โกง
สำหรับคนที่มีอุปกรณ์ประเภทเดียวกัน จากที่โคเนโกะมารุซังบอกไว้ มีเพียงสามคนไม่นับฉัน
หมายความว่า…
“อาวุธยูนีคสินะ?”
“ใช่แล้วล่ะ สร้างมากจากบอสยูนีค[อสรพิษแห่งการยั่วยวน–วาลเดีย–] ถึงจะเห็นๆกันอยู่ว่าฉันมีเพื่อนช่วยล่าก็เถอะ นั่นน่ะเป็นการต่อสู้ที่วิเศษสุดๆไปเลย”
โรวผู้ซึ่งหยุดการโจมตีแล้วลูบไล้อาวุธของเธอเบาๆดูจะอารมณ์ดีสุดๆ และได้พูดถึงต้นกำเนิดของอาวุธของเธอ
ไม่สิ เธอมีเพื่อนด้วยเหรอ? เธอมีเพื่อนสินะ
ถ้าเป็นเพื่อนกับผู้เล่นชื่อแดงแบบนี้ได้ คงจะเป็นคนที่มีปัญหาเหมือนกันแน่เลย
แม้ว่าเธออาจจะไม่ได้มีเพื่อนไปมากกว่าหนึ่งคน แค่ความคิดที่ว่าเธอมีเพื่อนที่สู้กับบอสยูนีคได้ทำให้ฉันรู้สึกประหลาดใจ
“[เรเปียร์แห่งการยั่วยวน –เมลโลว์ เรเปียร์–] คือชื่อของอาวุธนี้ล่ะ [ทุกครั้งที่ฟันคู่ต่อสู้ ความต้านทานสถานะผิดปกติของอีกฝ่ายจะลดลง] เป็นดาบที่มีผลแบบนี้ล่ะรู้ไหม?”
“…อย่างงั้นเหรอ”
นั่นเป็นผลเอฟเฟคที่รุนแรงจริงด้วย
ทั้งติดพิษ,เหน็บชา,หลับใหล เพียงแค่เอฟเฟคธรรมดาเหล่านี้ ถ้าสามารถเมินความต้านทานของศัตรูไปได้ก็สามารถทำให้เอฟเฟคเหล่านั้นมีผลได้สูงสุด
เพียงแต่ว่า สำหรับอาวุธยูนีคที่น่าจะถูกสร้างมาจาก[จิตวิญญาณ]แล้ว ผลของมันยังคงต่ำเกินไปหน่อย
“คิดอยู่ใช่ไหมล่ะว่าผลของมันน้อยกว่าที่ควรสินะ ฟุฟุ ในเมื่อซุคุนะเองก็ปราบบอสยูนีคได้ เธอก็รู้เหมือนกันสินะ? ถ้าปราบบอสได้แล้วก็สามารถได้รับสกิลหายากด้วยน่ะ สิ่งที่ฉันได้จากการปราบวาลเดียก็คือสกิลหายากที่ชื่อว่า[หยาดอสรพิษ] ผลก็คือ[ใช้MPเพื่อเพิ่มพิษให้แก่อาวุธ] เป็นคำอธิบายที่ดูธรรมดาสินะ เพียงแค่สกิลเองก็แข็งแกร่งอยู่แล้วแต่เมื่อรวมคู่กับเรเปียร์แห่งการยั่วยวนแล้ว…นึกออกใช่ไหม?”
ราวกับเพื่อแสดงให้เห็น โรวเคลือบเรเปียร์ของเธอด้วยไอสีม่วง ดูเหมือนนั่นจะเป็นผลขอสกิล[หยาดอสรพิษ]สินะ
หมายความว่าสกิล[Death Thrust]ก่อนหน้านี้จริงๆต้องไม่มีพิษงั้นเหรอ?
เอาจริงๆนะสกิลนั่นไม่ใช่ธรรมดาเลย สามารถใช้งานเมื่อไหร่ก็ได้ แล้วผลเอฟเฟคของอาวุธยังเข้ากับสกิลราวกับถูกสร้างมาเพื่อให้เข้าคู่กัน พอคิดถึงเรื่องความทนทานของอุปกรณ์ยูนีคแล้ว ฉันหมดหวังที่จะให้มันพังก่อนเลย
ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังเป็นผู้เล่นชื่อแดงที่น่าจะมีค่าสถานะที่มากกว่าฉันอีก
สถานการณ์ที่แย่จนน่าขัน–นั่นล่ะคือสิ่งที่ฉันกำลังเผชิญอยู่ตอนนี้
“เปิดเผยมาหมดอย่างนั้นจะไม่เป็นไรเหรอ?”
“ทั้งฉันและสกิลของฉันค่อนข้างโด่งดังเลยนะรู้ไหม ไม่มีเหตุผลอะไรให้ต้องปิดบังแล้วล่ะ ยิ่งไปกว่านั้นนี่เป็นสิ่งที่ฉันใช้เฉพาะเวลาที่ฉันอยากจะเล่นกับมอนสเตอร์หรือทรมาณพวกลูกกระจ๊อก ส่วนใหญ่แล้วกับผู้เล่นอย่างซุคุนะก็ไม่ค่อยจะเหมาะเท่าไหร่ เพราะสุดท้ายก็ตายกันไปหมดอยู่ดีน่ะ”
“มั่นใจสุดๆไปเลยนะ…มีความสามารถมากขนาดนี้คงเป็นเพราะ–”
จากที่สู้กับผู้หญิงคนนี้มา ฉันสัมผัสได้ถึงบางอย่าง
วิธีการต่อสู้ของเธอไม่ได้แย่แต่ก็ไม่ได้ดี เป็นการสู้อย่างระมัดระวังสุดขีดและยังมีการแปรเปลี่ยน ณ จุดนั้นอีก เธอจะคอยสังเกตคู่ต่อสู้อย่างละเอียดและลอบโจมตีย่างมีเหตุผล
เพราะงั้นฉันเลยไม่ได้จะบอกว่ามันเป็นเรื่องง่าย แต่ว่า ไม่มีการโจมตีไหนเลยที่มาจากมุมที่เป็นไปไม่ได้ และถ้ามองเห็นล่ะก็ การจะจัดการก็ไม่ใช่เรื่องยาก
เพียงแต่ว่าสิ่งที่เป็นปัญหาก็คือการที่เธอโจมตีมาด้วยค่าสถานะที่สูงผิดปกติ
พูดง่ายๆก็คือ เธอมีค่าสถานะทางกายภาพมากกว่าฉัน นั่นรวมถึงการที่เธอเป็นเผ่ามนุษย์ แล้วยังค่าสถานะจากอาภรณ์หมาป่าแดงของฉันอีกด้วย
ไม่ผิดแน่ที่เธอเป็นผู้เล่นที่เลเวลสูงกว่ารินจังด้วยซ้ำ
ไม่ว่าการโจมตีของเธอจะรับมือได้ง่ายแค่ไหน ถ้าตราบใดที่เธอยังคงโจมตีมาอย่างไม่หยุดยั้งเป็นระยะเวลานานแล้วล่ะก็ มันจะกลายเป็นเรื่องน่ารำคาญแน่ๆ
ถึงแม้ว่า สมมุติ ฉันเป็นฝ่ายบุกเข้าไปแทนล่ะก็ ด้วยความห่างของค่าสถานะทำให้ฉันคงถูกหลบได้ง่ายๆเหมือนกัน
แม้แต่การใช้SPครึ่งเดียวจาก [บทบรรเลงเดี่ยวแห่งคาเมลเลียจันทรา]ก็ยังไม่แน่ว่าฉันจะได้เปรียบเลย
ดูเหมือนว่าฉันจะต้องเตรียมใจรับสิ่งที่จะต้องเกิดขึ้น
ใช่ว่าฉันจะเสียทุกสิ่งสักหน่อย อย่างน้อยๆก็ขอให้ได้ดิ้นรนจนสุดกำลังก่อนละกัน
“นี่โรว”
“อ่าฮะ มีอะไรเหรอ? เป็นครั้งแรกเลยนะที่เธอยอมเรียกชื่อฉันน่ะ”
“แลกกับที่เธอบอกความลับของเธอ ฉันจะให้เธอได้เห็นความลับของฉันเหมือนกันนะ”
“จริงเหรอ? ดีใจจัง”
ตรงข้ามกับโรวที่มีสีหน้าเริงร่า ฉันกลับรู้สึกอยากจะถอนหายใจออกมา
พูดตามตรงฉันไม่คิดว่าจะได้ใช้มันเร็วขนาดนี้
อย่างน้อยๆก็โชคดีที่ฉันไม่ได้ไลฟ์สตรีมอยู่ในตอนนี้ล่ะนะ
สาเหตุที่ต้องปิดไพ่ตายเป็นความลับก้เพื่อสถานการณ์อะไรอย่างนี้นี่ล่ะ
แม้จะมีความรู้สึกเสียดายอยู่บ้าง แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างฉันไม่อยากที่จะแพ้ให้กับเธอโดยที่ยังไม่ได้เอาจริงสุดฝีมือ
คำสั่งใช้งานเพียงแค่ประโยคเดียว
แล้วฉัน–…กู่ร้องออกมา
“[หิวโหยและกลืนกิน, คมเขี้ยวราชันหมาป่า]”
ทันใดนั้นร่างกายของฉันก็ถูกปกคลุมด้วยออร่าสีแดง
สกิลหายาก [หมาป่าผู้หิวโหย] สกิลที่ได้รับมาจากหมาป่าแดงอาเรีย…..กลืนกินHPของตัวเองมากสุด5นาทีเพื่อค่าความแข็งแกร่งและค่าความว่องไวที่เพิ่มขึ้นมา…..เป็นสกิลดั่งดาบสองคม
ความรู้สึกตื่นเต้นครอบคลุมทุกส่วนของร่างเหมือนกับค่าสถานะที่เพิ่มขึ้นมา
“นี่สินะไพ่ตายของซุคุนะ”
“ไพ่ตายแรกและอันเดียวเลยล่ะ”
“ยอดเยี่ยมที่สุดไปเลย หัวใจฉันเต้นไม่เป็นจังหวะเลยนะ”
ด้วยสีหน้าเคลิบเคลิ้ม โรวได้กล่าวออกมา
ไม่จำเป็นต้องมีการพูดคุยอีกต่อไปแล้ว
ไม่สิ ทำแบบนั้นไม่ได้แล้วต่างหาก
หลังจากที่แลกเปลี่ยนสายตากัน ศึกตัดสินก็ได้เริ่มต้นขึ้น
—————————————-
ลงตอนสู้ติดกันสองตอนติดจะได้ไม่ค้างกันนะครับ
อ่านต่อตอนถัดไปได้เลย—–>
MANGA DISCUSSION