ลูกพลับสีหม่น (Mpreg) - ตอนที่ 6 ห้ามกลับคำ
หนุ่มน้อยร่างเล็กนั่งตัวเกร็งเป็นตุ๊กตาหน้ารถให้แทนไทมาเรื่อย ๆ โดยไม่รู้จุดหมายปลายทาง เจ้าตัวปรายตามองคนขับอยู่บ่อยครั้ง เห็นเขายิ้มมุมปากราวกับมีแผนการร้ายในใจ ระหว่างนั่งครุ่นคิดอะไรไปต่าง ๆ นานา เสียงริงโทนจากมือถือก็ปลุกให้หลุดจากภวังค์ ลูกพลับรีบล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าสะพาย ยกมันขึ้นมาดูว่าใครกันที่โทร.มาได้ถูกเวลา
“พี่ดาว”
“บอกไปว่ามึงกำลังจะกลับบ้าน ไม่งั้นวันนี้กูไม่รับรองความปลอดภัยของมึง” แทนไทส่งเสียงขู่มาก่อนอีกฝ่ายจะกดรับสายไปเสียก่อน
ลูกพลับได้แต่ถอนหายใจ เหลือบมองเขาอย่างไม่สบอารมณ์ แล้วกดรับสายพี่สาว
“ครับพี่ดาว”
(แกอยู่ไหนพลับ ฉันออกมาหาที่หน้าโรงพยาบาลก็ไม่เจอ)
“ขอโทษครับพี่ดาว ผมกำลังจะกลับบ้าน พอดีว่าลืมของไว้ที่นั่นเลยต้องกลับไปเอา แล้วก็คิดว่าจะค้างที่บ้านเลย”
(แล้วทำไมไม่โทร.บอกพี่ล่ะจะได้ไม่ต้องลงมา แกเป็นอะไรหรือเปล่า ปกติไม่เห็นลืมอะไรง่าย ๆ แบบนี้)
“เปล่าครับพี่ดาวผมสบายดี งั้นแค่นี้ก่อนนะครับ เอาไว้ผมจะโทร.หาใหม่”
(โอเค ๆ แค่นี้นะ ฝากความคิดถึงไปหาแม่ด้วยนะ)
“ครับ”
วางสายแล้วลูกพลับก็นั่งเงียบ ปรายตามองคนขับก็พบว่าเขายังคงนั่งทำหน้ามึนเช่นเดิม เห็นหน้าทีไรทำให้นึกถึงวันนั้น ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าตัวเองจะกลายเป็นเมียคนอย่างนี้ไปได้ คิดแล้วมันก็น่าโมโหตรงที่แทนไทตั้งใจจะไปปล้ำพี่สาวเขา
“คุณจะพาผมไปไหน”
“ไปที่ไหนก็เรื่องของกู มึงลืมเรื่องที่ทำกับกูไว้หรือยังล่ะ”
“ทำอะไร ผมไม่เข้าใจ” ลูกพลับทำหน้าเลิ่กลั่กเมื่อได้ยินอย่างนั้น
“หรือต้องให้กูเอาหลักฐานให้มึงดูถึงจะยอมรับผิด”
“ก็ผมบอกไปแล้วว่าเราเจ๊ากัน คุณจะอะไรนักหนา”
“ก็มึงมันตัวขัดลาภกูยังไงล่ะ วันนั้นถ้าไม่ใช่มึงกูคงจะได้ดาวเป็นเมียไปแล้ว ส่วนวันนี้ถ้าไม่มีมึงกูก็คงได้อึ๊บน้องคนนั้นแล้ว เพราะฉะนั้นมึงจะต้องรับผิดชอบ”
“ผมไม่รู้จะพูดคำไหนกับคุณแล้ว ยิ่งกว่าเลว คิดจะปล้ำแฟนพี่ชายตัวเองเนี่ยนะ คุณมันไม่ใช่คน”
“แล้วมึงคิดว่ากูเป็นอะไรล่ะถ้าไม่ใช่คน”
“เป็นควาย!”
“ถ้าอย่างนั้นมึงก็เป็นเมียควายอย่างกูไปแล้ว สมสู่กับควายเป็นยังไงล่ะ ถึงใจดีไหม” ว่าแล้วก็ยกยิ้มมุมปากแล้วหันกลับไปมองทาง
“ไม่นับว่าเป็นเมีย เพราะผมไม่ได้สมยอม ถือซะว่าทำทานให้สัตว์เดียรัจฉาน เผื่อผลบุญจะทำให้เกิดชาติหน้าไม่ต้องพบเจอคนอย่างนี้อีก”
“ปากเก่งจังนะมึงอ่ะ หรือจะเอาอีก”
“เอาอะไร”
ลูกพลับทำหน้าเลิ่กลั่กเพราะรู้ว่า ‘เอา’ ของเขาหมายถึงอะไร อีกฝ่ายไม่ยอมตอบได้แต่ตั้งใจขับรถมุ่งหน้าออกจากเมืองหลวงสู่เขตแดนภาคตะวันออก ลูกพลับได้แต่นั่งนิ่งไม่อยากจะเสวนา เขาจะทำอะไรก็ตามใจขออย่างเดียวแค่อย่าฆ่ากันให้ตายก็พอ
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ลูกพลับรู้สึกตัวอีกครั้งเพราะเสียงปลุกจากใครบางคน เมื่อเริ่มรู้สึกตัวเปลือกตาสวยก็เปิดขึ้นช้า ๆ ด้วยอาการงัวเงีย หันไปมองก็พบว่าตอนนี้แทนไทกำลังจ้องมองอยู่ก่อนแล้ว
“ถึงแล้วเหรอ”
“เออ ถึงแล้ว รีบลงไป” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงห้วนสั้นราวกับโกรธอะไรนักหนาเสียอย่างนั้น
เมื่อลงจากรถแล้วลูกพลับก็พบว่าตอนนี้รถจอดอยู่ริมฟุตบาทติดกับชายฝั่งทะเล ช่วงพลบค่ำไม่มีคนลงเล่นน้ำเหมือนช่วงกลางวัน แต่เริ่มมีการจับกลุ่มกันนั่งปูเสื่อริมหาด สังสรรค์ร้องเพลงตามประสาคนที่เพิ่งจะเลิกงาน ไม่อยากเชื่อเลยว่าแทนไทจะพาเขามาถึงที่นี่ ระยะทางก็ไม่ใช่ใกล้ ๆ แล้วพามาเพื่อจุดประสงค์ใดกันแน่ เมื่อเกิดคำถามจึงหันไปมองคนที่เป็นตัวต้นเหตุของเรื่อง
“คุณพาผมมาที่นี่ทำไม”
“ชอบเล่นน้ำไม่ใช่เหรอเลยพามา”
“คุณจะแกล้งอะไรผมอีก มีแผนอะไรแน่ ๆ”
“ก็รู้ดีนี่ กูว่าจะพามึงมาล้างซวยสักหน่อย กลับไปจะได้ไม่ต้องเป็นตัวซวยอีก” แทนไทกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจังน่ากลัว สัมพันธ์กับดวงตาคมคู่นั้นที่จ้องมองมา ราวกับกำลังจะกระชากวิญญาณเขาออกจากร่างซะอย่างนั้น
“ผมจะกลับ!”
เมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังจะเจอกับอะไร ลูกพลับก็รีบสาวเท้าหนีไปจากตรงนั้น ทว่าข้อมือน้อย ๆ กลับถูกรั้งไว้แล้วดึงเข้าหาตัว ร่างเล็กปะทะร่างกำยำเข้าอย่างจัง มือหนาทั้งสองประทับบนแผ่นหลังบางเพื่อรั้งตัวไว้ จนลูกพลับต้องเงยขึ้นมองหน้าเขา
“ปล่อยผม”
“ไม่ปล่อย! จนกว่าจะได้เอาคืนมึงให้สาสม”
ว่าแล้วก็อุ้มขึ้นในท่าเจ้าสาวอย่างง่ายดาย นั่นเพราะลูกพลับตัวเล็กกว่าแทนไทมาก
“คุณจะทำบ้าอะไร! ผมอายคนอื่นนะ”
“ไม่มีคนรู้จักเราสักหน่อยมึงจะอายอะไร เห็นอย่างนี้คงคิดว่าเป็นแฟนกัน ไม่มีใครสนใจหรอก หึ ๆ”
แทนไทอุ้มร่างเล็กเดินตรงไปยังริมหาด ถอดรองเท้าเดินลงไปจนตอนนี้ท่อนขามีมวลน้ำทะเลล้อมรอบเสียแล้ว ลูกพลับรีบเลื้อยมือขึ้นไปคล้องคอเขาไว้เพราะกลัวว่าจะถูกโยนลงไปในน้ำทะเล นั่นเพราะเขาว่ายน้ำไม่เป็นกลัวว่าจะมาทิ้งชีวิตไว้ที่นี่
“มึงชอบเล่นน้ำกูเลยพามาไง ลงเลยไหม” เขาถามเสียงเบาใกล้ ๆ กับใบหน้า จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่น ลูกพลับทำหน้าหวาดกลัว กอดร่างหนาไว้แน่นยิ่งขึ้น ไม่มีทางยอมปล่อยเขาเด็ดขาดเพราะรู้ว่าจะต้องโดนอะไร
“พาผมขึ้นไปเถอะนะครับ ผมว่ายน้ำไม่เป็น ผมกลัวจริง ๆ”
“กูรู้ไงว่ามึงว่ายน้ำไม่เป็นเลยพามาที่นี่ ถึงจะสะใจกู” คนพูดก้าวขาลงไปในน้ำเรื่อย ๆ จนตอนนี้น้ำถึงระดับอกแทนไท ทว่ามันกลับถึงคอคนถูกอุ้มไปเสียแล้ว
“คุณแทนผมขอร้องล่ะ ฮึก ผมกลัวจริง ๆ ผมขอโทษถ้าทำให้คุณไม่พอใจ”
“ไม่มีการยกโทษให้ทั้งนั้น ปล่อยมือจากคอกูเดี๋ยวนี้”
“ไม่ปล่อย ผมไม่ยอมปล่อยเด็ดขาด ฮือ ๆ ทำไมต้องทำกันถึงขนาดนี้ด้วย” เมื่อรู้ว่ากำลังจะโดนอะไรลูกพลับก็ปล่อยโฮออกมาเสียงดัง มือน้อย ๆ พยายามโอบรัดต้นคอเขาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย แม้ว่าตอนนี้แทนไทจะพยายามแกะมือออกก็ตาม
“กลัวขนาดนั้นเลยเหรอ” คนพูดแสยะยิ้มอย่างพอใจ
“ใช่ผมกลัว”
“งั้นมึงต้องยอมกูแล้วล่ะ”
“ให้ทำอะไรก็ได้ผมยอมทั้งนั้น ขอแค่คุณพาผมขึ้นไปบนฝั่งทีเถอะนะ”
“มึงพูดแล้วนะห้ามกลับคำเด็ดขาด”
ด้วยความกลัวลูกพลับได้แต่กอดร่างหนาร้องไห้ พยักหน้ารับเพื่อให้อีกฝ่ายเชื่อใจ เขากลัวน้ำเป็นที่สุด เพราะเมื่อสมัยยังเป็นเด็กเคยหัดว่ายน้ำแต่จมน้ำเกือบตาย จากนั้นจึงไม่คิดจะลองหัดว่ายน้ำอีกเลย