ลูกพลับสีหม่น (Mpreg) - ตอนที่ 4 หน้าตามีพิรุธ
“คนนี้สิครับเฮีย นี่ฮ่องเต้แฟนผม ส่วนคนที่นั่งข้างเฮียเป็นเพื่อนของฮ่องเต้ชื่อลูกพลับ”
เมื่อถูกแนะนำจึงหันไปยิ้มน้อย ๆ ทักทาย หัวใจดวงน้อยเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ ไม่เคยรู้สึกตื่นเต้นเมื่อได้อยู่ใกล้ใครอย่างนี้มาก่อนเลย
“เฮียชื่อเจตน์นะครับ ตอนนี้โสด เพิ่งเลิกกับแฟนมาได้สองวัน” เขาทักทายด้วยรอยยิ้มหล่อกระชากใจ ยักคิ้วกวน ๆ ให้อีกต่างหาก
ลูกพลับได้แต่ยิ้มตอบกลับแบบงุนงง นี่เขามาไม้ไหนกันแน่ หากไม่เข้าข้างตัวเองคงคิดว่ากำลังโดนจีบอยู่แน่ ๆ
“อ่อครับพี่”
“เรียกเฮียสิเราจะได้ดูสนิทสนมกันไง”
“อ่อครับเฮีย”
เขายิ้มแหย ๆ ทำหน้าไม่ถูก เหลือบตาไปมองคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามราวกับกำลังตั้งคำถามว่าเกิดอะไรขึ้น
“เฮียก็ ทำเอาน้องพลับไปไม่เป็นเลย ลูกพลับอย่าถือสาเฮียเจตน์เลยนะครับ เฮียก็หน้าหม้ออย่างนี้ไปเรื่อยไม่เคยจริงจังกับใครหรอก”
“ใครบอกว่าเฮียหน้าหม้อไปเรื่อย ถ้าเจอคนถูกใจรับรองไม่ไปเรื่อยแน่นอน” เขาว่าพลางส่งสายตากรุ้มกริ่มมา ลูกพลับทำหน้าไม่ถูก ไม่ใช่อึดอัดหรือกลัวแต่เขินมากกว่า เกิดมาเคยมีใครจีบต่อหน้าอย่างนี้ซะที่ไหนกัน
“อะแฮ่ม เฮียครับน้องเขากลัวจนอยากจะลุกหนีแล้วนั่น”
“อ้าวลืมตัวไป อย่าถือสาเฮียเลยนะครับ เวลาเจอใครถูกใจก็จะรุกหนักอย่างนี้ล่ะ แต่ไม่ได้คิดไม่ดีเลยนะ”
“ไม่เป็นไรครับ ผมแค่ไม่ชินสักเท่าไหร่” ตอบกลับด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร ก็แหงล่ะออกจะหล่อและรวยขนาดนี้ใครจะกล้าวีนใส่ล่ะ
“ใช่ครับเฮียเจตน์ พลับมันไม่เคยมีแฟน ไม่เคยมีใครจีบเลยยังไม่ชิน ถ้าเฮียชอบมันจริง ๆ ผมสนับสนุนเต็มที่” ฮ่องเต้รีบเลือกข้างทันที เพื่อนรักจึงเหยียบที่เท้าเพื่อเป็นการสั่งห้ามไม่ให้พูดต่อ เจ้าตัวได้แต่ยักคิ้วให้สื่อว่ากูไม่หยุดอะไรเทือกนั้น
“งั้นดีเลย เฮียขอจีบเรานะ จีบจริงไม่ได้จีบเล่น”
“เอ่อ…ผมว่าเรื่องนี้ไว้ค่อยคุยกันดีกว่า ตอนนี้เรามาทานข้าวกันดีกว่าไหม เริ่มหิวแล้วครับ”
“อ้อ เอางั้นก็ได้ สงสัยเฮียจะเร่งรัดเราจนเกินไป” เจตน์ยกมือขึ้นเกาหลังคอก่อนจะนึกอะไรขึ้นได้ “อ้อ! งั้นขอเบอร์เราไว้ก่อนได้ไหมเดี๋ยวลืม”
“อ่อ ได้ครับ”
เจตน์ส่งโทรศัพท์มือถือมาให้จากนั้นลูกพลับจึงพิมพ์เบอร์โทร.แล้วยื่นคืนให้ เจตน์ยิงเบอร์มาแล้วก็ยกขึ้นให้ดูพร้อมด้วยรอยยิ้ม
“เรียบร้อยแล้วนะ โทร.ไปให้รับสายเฮียด้วย”
“ครับ”
“แหม ๆ เฮียครับ ผมนัดมาเพื่อฉลองที่เฮียกลับมาจากอเมริกา ไม่ใช่นัดมาเพื่อให้เฮียขายขนมจีบนะครับ โปรดให้เกียรติเพื่อนแฟนผมด้วย”
“เฮียไม่ให้เกียรติตรงไหน แถมยังให้ใจอีกด้วยต่างหาก”
ลูกพลับได้แต่ยิ้มเพราะไม่รู้จะตอบกลับด้วยถ้อยคำไหนดี จะว่าชอบไหมที่มีคนมาจีบก็โอเคนะ แต่ถึงอย่างไรก็ยังไม่อยากมีแฟนอยู่ดี เพราะเขาขอโฟกัสเรื่องเรียนก่อนเป็นอันดับแรก
ในระหว่างทานข้าวกันอยู่นั้นลูกพลับก็สังเกตเห็นใครบางคนที่คุ้นตา นั่งอยู่อีกมุมของร้านอาหาร เป็นแทนไทนั่นเองที่พาหญิงมานั่งดินเนอร์ เห็นรอยยิ้มและเสียงหัวเราะนั้นก็ทำให้เจ้าตัวรู้สึกหมั่นไส้ ภาพที่อีกฝ่ายขับรถเฉี่ยวจนขาแพลงต้องใช้เวลาหลายวันกว่าจะหายยังติดตา วันนี้ล่ะเขาจะหาทางเอาคืนให้สาสมที่สุด
ในระหว่างนั้นก็เอาแต่ส่งสายตามองแทนไทเพื่อรอจังหวะให้ลุกไปเข้าห้องน้ำ ฮ่องเต้เห็นท่าทางแปลก ๆ จึงขมวดคิ้วแล้วจ้องมองมาเชิงตั้งคำถามว่ามีอะไร เจ้าตัวส่ายหน้าเบา ๆ แล้วทำเป็นเบ้ปากปฏิเสธไป
“ขอตัวเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ”
เขากล่าวแล้วรีบลุกขึ้นพรวดพราด ไม่รอให้ผู้ร่วมโต๊ะตอบรับใด ๆ เพราะต้องรีบตามหลังแทนไทไปให้ทันการ
ในที่สุดวันนี้ก็เป็นวันของเขาเพราะในห้องน้ำไม่มีใครเลยสักคน และมีเพียงห้องเดียวเท่านั้นที่ถูกใช้งาน เจ้าตัวมองซ้ายแลขวาแล้วยกถังขยะมากั้นประตูห้องนั้นไว้ ลงมือคุ้ยขยะจนเจอแก้วกาแฟที่ถูกทิ้งไว้จึงยกยิ้มมุมปาก หยิบมันออกมาเดินเข้าไปห้องข้าง ๆ
“วันนี้ขอเอาคืนบ้างเถอะ”
ว่าแล้วก็ใช้แก้วกาแฟตักน้ำในชักโครกแล้วสาดไปยังห้องข้าง ๆ ทำให้เร็วที่สุดด้วยกลัวว่าเขาจะจับได้
“เฮ๊ย! ใครสาดน้ำเหี้ยอะไรใส่กูวะ หยุดเดี๋ยวนี้เลย! หยุดดิวะ”
เมื่อพอใจแล้วก็รีบเปิดประตูออกมา ส่วนแทนไทก็รีบเปิดประตูออกมาเช่นกัน ทว่าชนถังขยะจนล้มไม่เป็นท่า
ลูกพลับออกมาถึงหน้าห้องน้ำแล้วก็ทำตัวให้เป็นปกติ เดินกลับโต๊ะราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งที่ภายในใจเต้นรัว ตื่นเต้นแต่ก็สะใจเป็นบ้า
“ทำไมแกหน้าตาตื่นมาอย่างนั้นล่ะ”
เมื่อหย่อนก้นลงนั่งบนเก้าอี้แล้วฮ่องเต้ก็ยิงคำถามมาทันที
“เอ่อ…ก็ปกติดีนี่ไม่มีอะไร”
“แต่สีหน้าแกมันบอกว่ามีอะไร”
“ก็บอกไม่มีอะไรไง”
“ก็สีหน้าแกมี”
ในขณะนั้นแทนไทก็เดินออกมาจากห้องน้ำ สายตาอันไม่รักดีของตัวต้นเหตุก็ชำเลืองมองอย่างไม่ได้ตั้งใจ ฮ่องเต้หันไปมองด้วยอีกคนจนรู้ว่าเพื่อนไปก่อเหตุอะไรมา เพราะแทนไทเดินมาในสภาพตัวเปียกปอน สีหน้าขึงขังราวกับจะฆ่าคนได้เพียงแค่เสี้ยววินาที
“ฉันรู้แล้ว”
“รู้อะไรเหรอครับที่รัก” กายหันมาถามคนรัก
“ก็รู้ว่าทำไมไอ้พลับมันถึงได้หน้าตามีพิรุธอย่างนี้”
ได้ยินอย่างนั้นคนที่ถูกกล่าวถึงก็ขยิบตาให้เพื่อน เพื่อขอร้องว่าอย่าพูดเรื่องนี้