ลูกพลับสีหม่น (Mpreg) - ตอนที่ 35 อโหสิกรรม
วันเวลาผันผ่านไปพร้อมกับแผลในใจที่เริ่มสมานตัวดีขึ้นแล้ว บัดนี้แทนไทเรียนจบตามความคาดหวังของครอบครัว ในขณะที่ท้องของลูกพลับก็โตขึ้นเรื่อย ๆ จนเดินเหินได้ลำบากมากขึ้น ช่วงเวลานั้นแทนไทไม่ยอมโผล่ไปให้เห็นหน้าเลยสักครั้ง บ้านหลังข้างกันก็ได้ขายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดูเหมือนจะทำตามคำเรียกร้องของลูกพลับอย่างเคร่งครัด ทว่าความเป็นจริงแล้วเขาแอบขับรถมาส่องดูเป็นระยะ แค่ได้เห็นหน้าก็ดีใจมากแล้ว
ในยามที่ไม่มีเขามาดูแลเหมือนแต่ก่อนลูกพลับเองก็รู้สึกเหมือนขาดอะไรไป แต่เจ้าตัวยังคงใจแข็งไม่ยอมรับความช่วยเหลือใด ๆ เช่นเดิม ไม่มีใครกล้าขัดใจ จึงต้องปล่อยให้เป็นไปอย่างนั้น ทว่าความช่วยเหลือจากตระกูลดิษยาวรโชติยังคงมีมาผ่านทางนับดาว โดยมีไททันคอยเป็นผู้เชื่อมสัมพันธ์ทั้งสองฝั่งอยู่เรื่อย ๆ แม้ว่าจะไม่ได้สนทนากับน้องชายเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย แต่ไททันก็ทำตามหน้าที่ ทำสิ่งที่ควรจะทำและเป็นสิ่งที่ถูกต้องมาโดยตลอด
เช้าวันนี้นับดาวแวะเข้ามาหาพร้อมกับไททัน มาส่งข่าวว่าแทนไทจะปลงผมวันนี้แล้ว จะลองชวนลูกพลับว่าจะไปด้วยกันไหม นั่นเพราะแทนไทเป็นฝ่ายโทรบอกทุกคนด้วยตัวเองว่าอยากจะให้มา อยากขออโหสิกรรมกับสิ่งที่ได้ล่วงเกิน และคนที่อยากจะขออโหสิกรรมมากที่สุดกลับไม่กล้าโทรหา ด้วยกลัวว่าจะสร้างความรำคาญใจให้เจ้าตัวนั่นเอง
“พลับ”
“อ้าวพี่ดาว คุณไททัน สวัสดีครับ” เมื่อเห็นแขกทั้งสองเดินเข้ามาก็ยิ้มแล้วยกมือไหว้
“หวัดดี เป็นยังไงบ้าง มีอาการอะไรผิดปกติบ้างหรือเปล่า” ไททันถาม
“ไม่มีเลยครับ ผมแข็งแรงปกติดี”
“ดีแล้วล่ะ ทุกคนจะได้สบายใจ ทุกคนเป็นห่วงลูกพลับมากเลยนะรู้ไหม”
“ขอบคุณครับที่เป็นห่วง เชิญนั่งก่อนเดี๋ยวผมจะไปเอาน้ำเย็น ๆ มาให้”
“ไม่ต้องหรอก วันนี้พวกพี่แค่แวะมา พอดีว่า…จะมาชวนไปบ้านโน้นน่ะ” นับดาวพูดอย่างไม่เต็มเสียงนัก เพราะเกรงว่าจะทำให้น้องชายอารมณ์เสีย
“ไปทำไมครับ” ลูกพลับยังคงตีหน้าซื่อทำเป็นไม่รู้ ทั้งที่หลายวันก่อนป้าปิ่นเคยบอกว่าแทนไทจะเข้าพิธีอุปสมบทในวันนี้แล้ว
“แกเองก็น่าจะรู้ดีว่าวันนี้เป็นวันอะไร ไปกับพี่สักชั่วโมงจะได้ไหม คุณแทนไทอยากจะขออโหสิกรรมจากพวกเราทุกคนก่อนบวช”
“พี่ดาวจำไม่ได้เหรอว่าเขาคิดจะทำอะไรกับพี่ และทำอะไรกับผมไว้บ้าง ถ้าพี่จะไปก็ไปเลยผมไม่ไปหรอก” คนพูดยืนกอดอกแล้วหันหน้าหนีไปอีกทางไม่อยากมองหน้าคนทั้งสอง ในระหว่างนี้แทนไทไม่มาดูดำดูดี ไม่มาให้เห็นหน้า ทั้งที่เคยบอกว่าจะตามง้อจนกว่าจะยอมใจอ่อน ผู้ชายคนนี้ไม่มีความจริงใจเลยสักนิด
“อ้าวมากันแล้วเหรอ”
ปิ่นวดีเดินเข้ามาพอดี ไททันเห็นก็ยกมือไหว้ จากนั้นทุกคนจึงหันไปมองลูกพลับเป็นตาเดียวกัน ปิ่นวดีเดินเข้าไปยืนข้างกันแล้ววางมือบนบ่าน้อย ๆ เพื่อลองช่วยเกลี้ยกล่อมอีกแรง
“เอ็งเป็นอะไรพลับ จะไม่ยอมไปจริง ๆ เหรอ อย่างน้อยก็ให้คุณแทนไทได้ขออโหสิกรรมก็ยังดีนะ จะได้ไม่มีอะไรค้างคากันไง”
“ทุกคนไปเถอะครับ ผมขออยู่ที่บ้านดีกว่า ถ้ามันจะทำให้ทุกคนสบายใจฝากบอกเขาด้วยว่าผมยอมอโหสิกรรมให้ก็แล้วกัน ทุกอย่างมันจะได้จบจริง ๆ เสียที”
ได้ยินอย่างนั้นทุกคนก็มองหน้ากันก่อนพยักหน้าเชิงตอบตกลง
“ถ้าอย่างนั้นดูแลตัวเองดี ๆ นะ ไปไม่นานเดี๋ยวป้าจะกลับมา”
“ครับป้าปิ่นไม่ต้องเป็นห่วง”
หลังจากนั้นทุกคนก็เดินไปที่รถเพื่อเดินทางกลับไปยังบ้านดิษยาวรโชติ ลูกพลับทำได้เพียงยืนมองรถแล่นออกอย่างช้า ๆ อยู่บนระเบียงบ้าน ยอมรับว่าน้อยใจที่แทนไทไม่ยอมโผล่หน้ามาให้เห็น คิดไปเองว่าเขาขี้ขลาดตาขาวและไม่มีความจริงใจ ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ไม่ได้เป็นสาระสำคัญสักเท่าไหร่แล้ว
ณ บ้านดิษยาวรโชติ
สนามหญ้าหน้าบ้านตอนนี้ถูกเปลี่ยนเป็นสถานที่จัดงานอุปสมบทลูกชายคนเล็กของตระกูล เต็นท์สีขาวขนาดใหญ่ถูกตั้งเรียงรายกัน เก้าอี้ถูกจัดเรียงรายเป็นแถวแนวอย่างมีระเบียบ เพื่อรองรับแขกผู้ถูกรับเชิญที่กำลังทยอยกันเข้ามาไม่ขาดสาย รวมถึงเพื่อนร่วมสถาบันของแทนไทจำนวนหนึ่งอีกด้วย
ตอนนี้เจ้าตัวกำลังนั่งรอคอยการมาถึงของพี่ชายซึ่งไปรับคนบ้านโน้นเพื่อมาร่วมงาน เมื่อรถที่คุ้นตาแล่นผ่านรั้วบ้านเข้ามาก็มีรอยยิ้ม เขาจ้องมองรถคันนั้นตาไม่กะพริบ ลุ้นว่าลูกพลับจะยอมมาหรือไม่ แต่แล้วก็ต้องพบกับความผิดหวัง เมื่อคนสุดท้ายที่ลงจากรถคือปิ่นวดี หลังจากนั้นก็ไม่มีใครอีกแล้ว
“มึงคงโกรธเกลียดกูมากจริง ๆ สินะ” เจ้าตัวเปรยออกมาเบา ๆ
“เอาเถอะอย่างน้อยลูกพลับก็รับรู้แล้ว แกอย่าคิดอะไรมากเลย” ศรัยฉัตรบีบบ่าหนาของลูกชายเบา ๆ เพื่อให้กำลังใจ
“ครับคุณแม่ ผมคงไม่มีวาสนาจะได้ขออโหสิกรรมจากลูกพลับแล้วล่ะ”
“ถ้าเราสำนึกผิดและคิดดีทำดีแล้วก็ไม่ต้องเป็นกังวล เชื่อว่าสักวันฟ้าดินจะต้องเห็นใจแกแน่”
“เมื่อมากันครบแล้วก็เริ่มเลยละกันจะได้ไม่ต้องเสียเวลา” ทีปกรรีบตัดบทไม่อยากให้ดราม่าไปมากกว่านี้ นั่นเพราะผู้มาใหม่ทั้งสามกำลังเดินมาถึงพอดี
“สวัสดีค่ะคุณท่าน คุณฉัตร”
“สวัสดีค่ะป้าปิ่น ลูกพลับไม่ยอมมาด้วยจริง ๆ สินะ” ศรัยฉัตรว่าพลางถอนหายใจเบา ๆ
“ถึงไม่มาแต่ก็ฝากความมาถึงคุณแทนไทด้วยค่ะ” นับดาวเอ่ยพลางจ้องมองแทนไทที่นั่งทำหน้าเศร้าอยู่บนเก้าอี้ แต่พอได้ยินอย่างนั้นก็ฉายรอยยิ้มออกมาให้เห็น
“ลูกพลับว่ายังไงครับ”
“ลูกพลับฝากบอกว่าอโหสิกรรมให้คุณค่ะ จะได้ไม่ต้องมีเรื่องค้างคากันอีก คือตอนนี้ลูกพลับเดินเหินไม่ค่อยสะดวก เลยไม่ค่อยอยากมาสักเท่าไหร่” ที่ต้องเสริมคำพูดเหล่านี้เข้ามาก็เพื่อให้แทนไทสบายใจมากขึ้น
“นั่นสินะ จริง ๆ แล้วผมควรจะเป็นฝ่ายไปดูแลลูกพลับ”