ลูกพลับสีหม่น (Mpreg) - ตอนที่ 20 รู้สึกอบอุ่น
ในช่วงที่ย้ายมาอยู่ในบ้านหลังใหม่ชีวิตของลูกพลับได้พบปะกับใครเพียงไม่กี่คนเท่านั้น นอกจากป้าปิ่นและเจ้าโชคดีก็มีเพื่อนบ้านที่ชื่อโตนี่ล่ะ ที่คอยเป็นเพื่อนคุยคลายความเงียบเหงา การได้พูดคุยกันมากขึ้นทำให้แทนไทลดทิฐิ สามารถพูดจาหยอกล้อกับลูกพลับได้อย่างไม่เคอะเขินเหมือนช่วงแรก เขามักจะจับตาดูความเคลื่อนไหวของร่างเล็กตลอดเวลาก็ว่าได้ รู้สึกเป็นห่วงในทุกฝีก้าวกลัวว่าจะเกิดอุบัติเหตุจนกระทบกระเทือนถึงลูกในท้อง ทั้งที่ปากบอกว่าไม่ยอมรับ แต่ภายในใจรู้สึกเป็นห่วงยิ่งกว่าสิ่งใด
ส่วนธุรกิจขายอาหารออนไลน์ของลูกพลับได้ผลตอบรับที่ดีเกินคาด ทำให้วัน ๆ ต้องเร่งมือเตรียมวัตถุดิบและผลิตอาหารตามสั่งของลูกค้า มีทั้งอาหารคาวและหวาน ส่วนมากที่ขายดีก็จะเป็นพวกอาหารทานเล่นเช่นเปาะเปี๊ยะ เกี๊ยวและอาหารอื่น ๆ ที่กินกับน้ำจิ้มรสเด็ด เสน่ห์ปลายจวักของป้าปิ่นยังคงเป็นที่หนึ่งเสมอ
แทนไทแอบสังเกตการณ์มาหลายวันก็พอจะรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น ช่วงหลังมานี้ลูกพลับไม่มีเวลามาทักทายเหมือนก่อน เขาจึงแบกสังขารแสร้งเดินขาเป๋มาหาถึงที่บ้าน ช่วงแรกก็แอบลืมตัวไปเดินปกติบ้างแต่หลัง ๆ มาเริ่มจะชินไปแล้ว แกล้งทำอย่างนี้ก็รู้สึกเสียวสันหลังกลัวว่าสักวันจะพิการเข้าให้จริง ๆ เมื่อมาถึงที่หมายแล้วก็เห็นไอ้โชคดีนอนใส่เฝือกอยู่ที่เสาบ้านจึงเดินตรงเข้าไปหา เพราะเขาเองที่ทำให้มันต้องอยู่ในสภาพนี้
“มึงเป็นยังไงบ้างวะไอ้โชคดี โชคดีสมชื่อนะมึงอะ ถ้ากูเบรกไม่ทันป่านนี้คงตายคาล้อรถกูไปแล้ว”
คนพูดยิ้มพลางลูบหัวเจ้าหมาน้อยอย่างเอ็นดู ไม่รู้จะไถ่โทษด้วยวิธีไหนได้ คงทำได้เพียงส่งกำลังใจให้มันหายป่วยไว ๆ เท่านั้นเอง
ในขณะนั้นลูกพลับเดินถือของพะรุงพะรังเดินออกมาจากบ้านพอดี เขาเตรียมตัวจะไปส่งของให้ลูกค้า เมื่อเห็นแทนไทอยู่กับไอ้โชคดีก็ยืนยิ้มด้วยความปลาบปลื้มใจ แม้อีกฝ่ายจะพิการและมีรูปลักษณ์ภายนอกจะไม่เหมือนคนอื่น แต่ก็เป็นคนรักสัตว์เหมือนกัน
“อ้าวพี่โต มาตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย”
“มาเมื่อครู่นี่เอง เลยมาทักทายไอ้โชคดีมันก่อน”
“หมอบอกอีกนานกว่ามันจะเดินได้ปกติ ไม่รู้ว่าโดนไอ้คนไร้จิตสำนึกที่ไหนขับรถชน ถ้าเจอหน้าอีกครั้งอีกรับรองว่าผมจะชกมันให้หนำใจเชียวล่ะ”
“บางทีเขาอาจจะไม่ได้ตั้งใจก็ได้ ใครจะอยากไปมีเรื่องกับหมาล่ะ” แทนไทรีบแก้ตัวแทน แต่ไม่ยักจะมองหน้าอีกฝ่าย สายตาอันเลิ่กลั่กมองไปที่ไอ้โชคดีแทน
“ไม่มีเจตนาแต่ก็ไม่ลงมาดูดำดูดี ขับรถหนีซะงั้น ใจร้ายใจดำ สาธุ! ขอให้เป็นหมันทีเถอะหรือไม่ก็เมียไม่รัก ว่าแต่พี่โตมาถึงที่บ้านมีอะไรหรือเปล่าครับ”
“นายจะไปไหนน่ะ ทำไมถือของเยอะแยะอย่างนี้”
“ผมจะไปส่งอาหารให้ลูกค้าครับ วันนี้สั่งเยอะเลย”
“จะขับมอ’ไซต์ไปเองเหรอ”
“ใช่ครับ ถ้าผมไม่ไปส่งเองใครจะไปส่งให้ล่ะ ว่าแต่พี่โตมีอะไรครับ”
“เปล่า แค่มาทักทาย เห็นนายเงียบไป ไปส่งคนเดียวไหวแน่นะ”
“ไหวสิครับ งั้นผมไปส่งของแล้วนะ เดี๋ยวกลับมาคุยด้วย”
ลูกพลับยิ้มแล้วเดินถือของไปที่รถมอเตอร์ไซค์ที่จอดอยู่ โชคดีที่มีตะแกรงหน้าทำให้มีที่วางของ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ล้นอยู่ดี จึงไปแขวนไว้ที่แฮนด์รถอีกจำนวนหนึ่ง แทนไทรู้สึกเป็นห่วงจึงเดินไปคว้าแขนเรียวไว้ก่อนที่ลูกพลับจะขึ้นรถเสียก่อน
“มีอะไรครับพี่โต”
“เดี๋ยวขับให้เอง”
“ไม่เป็นไรครับ ไม่รบกวนดีกว่า”
“หรือรังเกียจที่พี่เป็นคนพิการ กลัวจะพานายล้มหรือไง”
“เปล่านะครับ ผมแค่ไม่อยากรบกวน”
“นายกำลังเอ่อ…” เกือบหลุดปากว่าท้องแล้วเชียว โชคดีที่แทนไทยั้งปากไว้ทัน เจ้าตัวทำหน้าเลิ่กลั่ก หลบสายตา นั่นทำให้ลูกพลับเกิดความสงสัย
“ผมกำลังอะไรหรือครับ”
“เอากุญแจรถมาเดี๋ยวขับให้เอง ถึงขาจะไม่ดีแต่รับรองพานายขับไปส่งของอย่างปลอดภัยแน่นอน” คนพูดคว้าเอากุญแจรถจากมือน้อย ๆ ก่อนขึ้นควบรถแล้วทำการสตาร์ตเครื่องรอ
“พี่ไหวแน่นะครับ”
“แค่พิการไม่ได้ป่วยสักหน่อย ไว้ใจได้ รีบขึ้นรถเร็ว”
“ครับพี่โต”
ลูกพลับยืนยิ้มแล้วก้าวขาขึ้นคร่อมรถอย่างระมัดระวัง เมื่อนั่งได้ท่าถนัดแล้วจึงเอื้อมมือจะไปจับที่เอวคนขับ ทว่ากลับเปลี่ยนมาจับที่หน้าขาตัวเองแทน
“กอดเอวพี่ก็ได้นะ”
“ครับผม”
แม้ปากจะเอ่ยตอบรับแต่มือยังคงอยู่ที่เดิม เห็นอย่างนั้นแทนไทจึงรู้สึกหงุดหงิดที่อีกฝ่ายชักช้าอยู่ได้ คว้ามือน้อย ๆ มาวางหมับที่หน้าท้อง เมื่อสัมผัสได้ถึงลอนซิกแพคแน่น ๆ ก็ทำให้ดวงตาคู่สวยเบิกโพลงด้วยความตกใจ แปลกใจว่าคนที่พิการอย่างโตเอาเวลาไหนไปเล่นฟิตเนสจนมีซิกแพคแน่นขนาดนี้
“พร้อมหรือยัง”
“เอ่อ พร้อมแล้วครับ”
เมื่อได้รับเสียงตอบรับจากคนซ้อนแล้ว คนขับก็ขึ้นเกียร์แล้วบิดคันเร่งออกไปจากหน้าเรือนไทยหลังนี้ มุ่งหน้าเข้าสู่ยังชุมชนที่แออัดกว่า ที่นั่นเป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่จึงทำให้มีผู้คนอาศัยเป็นจำนวนมาก ประจวบเหมาะกับยุคสมัยที่ใช้เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัสหน้าจอมือถือ ก็ได้สิ่งของที่ต้องการมาบริการถึงบ้าน จึงทำให้เกิดช่องทางสร้างรายได้ขึ้นเยอะแยะมากมาย
แม้ว่าระยะทางจะไม่ไกลสักเท่าไหร่ แต่ทุกวินาทีที่ได้นั่งกอดเอวซ้อนท้ายก็ทำให้ลูกพลับรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก ทำไมนะ ทำไมรู้สึกอบอุ่นเมื่อมีใครบางคนยื่นมือมาช่วยเหลือ แม้โตจะไม่สมประกอบโดนคนอื่นดูถูกและรังเกียจ แต่เขาจะไม่ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกเหมือนคนพวกนั้นเด็ดขาด อยากจะเป็นหนึ่งคนที่คอยสร้างกำลังใจให้รู้สึกเข้มแข็งและก้าวผ่านห้วงเวลาที่เจ็บปวดนั้นไปได้
รถมอเตอร์ไซต์คันโปรดของลูกพลับถูกขับไปส่งของที่บ้านหลังแล้วหลังเล่า จนในที่สุดก็มาถึงบ้านหลังสุดท้าย แทนไทจอดรถไว้ที่หน้ารั้วบ้านหลังหนึ่ง ลูกพลับลงไปหยิบถุงเปาะเปี๊ยะทอดที่หน้าตะแกรงรถก่อนเงยขึ้นยิ้มให้คนขับ