ลูกพลับสีหม่น (Mpreg) - ตอนที่ 12 ตัดขาด
“ผมรู้ว่าคุณไม่ได้ตั้งใจให้น้องเกิดมา แต่ถึงยังไงนั่นก็ลูกของคุณนะครับ ไม่ว่าจะยังไงก็ตามเด็กคนนี้คือผู้บริสุทธิ์ คุณต้องรักษาเขาไว้นะครับ มีอะไรมาปรึกษาหมอได้ตลอดเวลา” คุณหมอพอจะเข้าใจว่าเรื่องนี้มันใหญ่เกินกว่าเด็กคนหนึ่งจะยอมรับได้
“ใจเย็น ๆ นะพลับ ฉันจะจัดการเรื่องนี้เองไม่ต้องห่วง หลานฉันจะต้องมีพ่อแน่นอน”
“ไม่เอานะพี่ดาว ผมไม่อยากให้ใครรู้ ผมอายเหลือเกิน อายที่จะต้องบอกใครว่าผมท้อง และท้องเพราะสาเหตุอะไร ฮือ ๆ” ลูกพลับสวมกอดพี่สาวไว้แน่น นับดาวได้แต่มองหน้ามารดาอย่างเหนื่อยใจ มือเรียวลูบบนเรือนผมน้องชายอย่างรู้สึกสงสาร
หลังจากทราบผลแล้วทั้งหมดก็เดินทางกลับ นับดาวขอลางานครึ่งวันเพื่อสะสางปัญหาให้มันจบภายในวันนี้ เธอจะไม่มีทางให้น้องชายต้องท้องโดยไม่มีพ่อ ลูกพลับต้องมารับกรรมแทนเธอ หากไม่ใช่ลูกพลับป่านนี้คงเป็นเธอที่ต้องเป็นคนร้องไห้เจ็บปวดในตอนนี้
เมื่อกลับมาถึงบ้านภิรมย์การันแล้ว นับดาวก็พาน้องชายและมารดาเข้าไปพบคุณผู้ชายและคุณผู้หญิงของบ้าน เรื่องนี้แฟนหนุ่มยังไม่ทราบเพราะไม่อยากรบกวนเวลาทำงานเขา เธอจะจัดการมันด้วยตัวเองโดยไม่ยอมให้ไททันต้องมาออกรับแทน เพราะรู้ดีว่าผู้ใหญ่ทั้งสองท่านไม่ชอบใจที่เธอและลูกชายคนโตคบหากัน แม้ว่าจะส่งเสียให้เรียนจนจบแต่เรื่องสะใภ้ใหญ่นั้นต้องมีหน้ามีตาและเชิดชูวงตระกูลได้ ซึ่งเธอไม่ใช่อย่างที่ท่านทั้งสองหวังเอาไว้
เป็นเรื่องโชคดีเมื่อคนที่อยากพบอยู่กันครบทุกคน ทีปกรกำลังนั่งจิบชาพลางอ่านบทความทางธุรกิจในแท็บเล็ต ส่วนศรัยฉัตรกำลังนั่งคุยสายกับเพื่อนในแวดวงสังคมไฮโซ แทนไทเพิ่งจะลงมาจากชั้นบนเพื่อหาอะไรทาน เมื่อเห็นคนทั้งสามเดินเข้ามาต่างก็เกิดความประหลาดใจ โดยเฉพาะแทนไทที่จ้องมองร่างเล็กตาแทบไม่กะพริบ เด็กคนนั้นตาบวมราวกับร้องไห้มาอย่างหนัก แถมยังหลบตาเขาอีกต่างหาก มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“มีอะไรกันหรือถึงได้ยกโขยงกันมาทั้งบ้านเลย” ทีปกรเอ่ยถามผู้มาใหม่ทั้งสาม
ศรัยฉัตรรีบวางสายแล้วหันมาสนใจคนที่นั่งอยู่ตรงหน้า สายตาที่มุ่งมั่นของนับดาว เสียงสะอื้นไห้ของลูกพลับ สีหน้าที่ไม่สู้ดีนักของแม่บ้านคนเก่าคนแก่ ทำให้ผู้เป็นเจ้าของบ้านเกิดความสงสัยและอยากจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“หนูมาเรียกร้องความยุติธรรมให้กับลูกพลับค่ะ”
“พี่ดาว ผมว่าอย่าเลยนะ” ลูกพลับจับมือพี่สาวพร้อมทั้งส่งสายตาเว้าวอนขอร้องให้หยุด แต่มีหรือที่นับดาวจะหยุด เธอต้องจัดการให้มันเด็ดขาด รู้กันไปเลยว่าจะเอายังไงต่อไป เงยขึ้นไปถลึงตามองแทนไทด้วยแววตาแข็งกร้าว เพราะผู้ชายคนนี้เป็นตัวต้นเหตุทำให้น้องชายของตนต้องมาเจอกับอะไรอย่างนี้
“พี่จะเรียกร้องความยุติธรรมให้พลับเอง อย่างน้อยทุกคนควรได้รู้ว่าคุณแทนไททำอะไรเลว ๆ กับแกไว้”
“หมายความว่ายังไงนับดาว มันเกิดอะไรขึ้นฉันงงไปหมดแล้ว” ทีปกรวางแท็บเล็ตในมือลงบนโต๊ะตรงหน้าแล้วตั้งใจมอง ไม่ต่างจากภรรยาที่นั่งอยู่ข้างกัน แทนไทเองเริ่มพอจะรู้แล้วว่าวันนี้มันจะเกิดอะไรขึ้น เขาไม่นึกเลยว่าลูกพลับจะกล้าเอาเรื่องนี้ไปฟ้องพี่สาวและป้า
“ฉันทำอะไรไว้อย่างนั้นเหรอ ไหนลองพูดมาสิ” แทนไทยืนกอดอกมองหน้าอย่างเอาเรื่อง ตอนนี้ลูกพลับเอาแต่ก้มหน้า เขารู้ว่าแทนไทไม่มีทางรับผิดชอบ แต่มาถึงขั้นนี้แล้วควรจะพูดให้หมดทุกเรื่อง เพราะถึงอย่างไรป้าปิ่นของเขาก็สัญญาแล้วว่าจะย้ายออกไปจากที่นี่ จึงไม่มีเหตุจำเป็นจะต้องพบเจอกับแทนไทอีกแล้ว
“คุณเข้าไปปล้ำพลับถึงในห้องรู้ไหมว่าพลับมัน…”
“ฉันตั้งใจจะไปปล้ำเธอต่างหาก แต่ไอ้นี่มันเสือกอยู่ในห้องเองช่วยไม่ได้”
ไททันเดินเข้ามาได้ยินพอดีก็โกรธจนหน้าสั่น รีบเดินเข้ามาซัดหมัดเข้าที่ใบหน้าน้องชายโดยไม่ทันตั้งตัว ความชุลมุนจึงเกิดขึ้นทันที
“อย่าค่ะคุณไททัน” นับดาวรีบลุกขึ้นไปรั้งแขนแฟนหนุ่มเอาไว้ แยกตัวออกมาก่อนจะมีเรื่องไปมากกว่านี้ ทางฝั่งน้องชายก็ได้ผู้เป็นมารดารั้งตัวไว้เช่นเดียวกัน
“มีอะไรก็ค่อยพูดค่อยจากันก็ได้ พวกแกเป็นพี่น้องกันนะ”
“มันคิดอย่างนี้กับแฟนผมจะให้ใจเย็นได้ยังไงกันครับคุณแม่”
“แล้วไง ในเมื่อดาวยังไม่ได้เป็นเมียมึงตามกฎหมาย เพราะงั้นกูก็ยังมีสิทธิ์” แทนไทแสยะยิ้มมุมปากต่อหน้าพี่ชายอย่างเป็นต่อ เขาสะใจที่ทำให้พี่ชายเดือดดาลได้อย่างนี้ นับว่าประสบผลสำเร็จแล้ว แม้ว่านับต่อจากนี้ไปจะเจอกับอะไรก็ตาม
“ก็ดูมันสิครับคุณแม่จะให้ผมใจเย็นได้ยังไง มันเป็นอะไรกับผมนักหนาถึงได้อยากจะเอาชนะตั้งแต่เด็กจนโต มันคงไม่เห็นผมเป็นพี่ชายมันแล้ว”
“ก็มึงมันไม่ใช่พี่ชายที่ดียังไงล่ะ แล้วใครจะรักและเทิดทูนมึงฮะ!”
“แล้วมึงเป็นน้องชายที่ดีนักหรือไงไอ้เหี้ย!”
“ก็ใช่ไง เพราะกูไม่อยากเป็นน้องชายคนอย่างมึง”
สองพี่น้องตะโกนตอบกลับไปมาอย่างนั้น ทำให้เรื่องที่นับดาวกำลังจะมาเรียกร้องเป็นอันต้องชะงักไป ทว่าเสียงของทีปกรดังขึ้นอีกครั้งทำให้ทุกคนต้องยอมสงบนิ่ง
“หุบปากทั้งสองคน! สิ่งที่ฉันอยากรู้ตอนนี้ไม่ใช่เรื่องของพวกแก แต่เป็นเรื่องของลูกพลับต่างหาก ไอ้แทนแกทำอย่างที่นับดาวพูดจริง ๆ ใช่ไหม!”
“ใช่ครับ แล้วทำไมเหรอ ผมก็แค่พลาดไปมีอะไรกับผู้ชาย น่าขยะแขยงจะตาย อย่าบอกนะว่าจะมาเรียกร้องให้รับผิดชอบ ถ้าท้องได้ค่อยมาว่ากันดีกว่าไหม” แทนไทกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ แสยะยิ้ม ปรายตามองลูกพลับที่นั่งอยู่ตรงพื้น คิดจะมาเล่นงานเขาด้วยวิธีนี้มันไม่ง่ายหรอก
“ฉันรู้อยู่แล้วว่าคนอย่างคุณไม่มีความเป็นลูกผู้ชายพอ แล้วถ้าฉันบอกว่าตอนนี้ลูกพลับกำลังท้องล่ะคุณจะเชื่อไหม คุณจะกล้ารับผิดชอบไหมล่ะ” นับดาวประกาศกร้าวต่อหน้าทุกคน เป็นเธอที่แสยะยิ้มบ้าง
“ฮ่า ๆ ไอ้เด็กเนี่ยนะท้อง เป็นถึงพยาบาลกลับมาใช้วิธีนี้หลอกลวงคนอื่น เรียนจบมาได้ยังไง อย่าคิดว่าจะเอาน้องชายเธอมาจับฉันด้วยวิธีนี้ คนอย่างฉันก็แค่อยากได้เล่น ๆ เท่านั้นล่ะ คนอย่างพวกเธอมันไม่ได้มีค่าในสายตาฉันเลย”
นับดาวรู้ว่าถึงอย่างไรก็คงไม่มีใครเชื่อ เธอจึงขอใบรับรองแพทย์มาด้วย แถมยังถ่ายเอกสารมาแจกอีกต่างหาก เมื่อทุกคนได้อ่านผลการตรวจต่างก็ประหลาดใจ นั่นรวมถึงแทนไทที่เริ่มไม่สนุกแล้ว สีหน้าเคร่งเครียดมากยิ่งขึ้น หรี่ตามองลูกพลับอย่างชั่งใจ
“ลูกพลับเป็นผู้ชายที่พิเศษกว่าคนอื่น สามารถตั้งท้องได้ เรื่องนี้มีแค่แม่ที่รู้แต่ก็ไม่ได้บอก เพราะอยากให้ลูกพลับใช้ชีวิตเหมือนผู้ชายปกติ ไม่คิดว่ามันจะเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น รู้อย่างนี้แล้วจะรับผิดชอบน้องชายฉันได้หรือยังคะ”
“ถึงมันจะท้องได้แต่แม่งก็มั่ว ไปเอากับใครบ้างก็ไม่รู้ วันก่อนมันยังไปค้างแรมกับผู้ชายคนอื่นอยู่เลย แล้วอย่างนี้จะให้มั่นใจได้ยังไงว่าเป็นลูกฉัน อย่าพยายามให้เสียเวลาเพราะถึงยังไงคนอย่างพวกเธอก็คงหนีไม่พ้นเรื่องเงิน อยากได้เงินฉันจะยอมให้เพื่อเป็นค่าเสียหาย แต่จะให้ยอมรับบอกไว้เลยว่าไม่มีทาง” เขาจ้องมองไอ้เด็กนั่นตาเขม็ง สื่อให้รู้ว่าถึงอย่างไรก็ไม่มีทางรับผิดชอบ และมั่นใจว่านั่นไม่ใช่ลูกของเขาอย่างแน่นอน
“พอได้แล้วพี่ดาว แค่นี้ผมก็อายมากพอแล้ว ผมไม่ได้อยากให้ใครรับผิดชอบ ถึงอยากผมก็ไม่ต้องการ ผู้ชายคนนี้จะไม่มีทางได้เป็นพ่อของลูกผมเด็ดขาด” ลูกพลับจ้องเขม็งมองเขาด้วยแววตาเศร้า ลุกขึ้นแล้วเดินออกไปจากตรงนั้นแม้จะยังลงน้ำหนักเท้าได้ไม่เต็มที่ก็ตาม
“ลูกพลับเดี๋ยวก่อน”
“ช่างเถอะลูก ให้มันจบแค่นี้เถอะ แค่นี้ลูกพลับมันก็เจ็บมากพอแล้ว ตามไปดูแลน้องเดี๋ยวแม่จะคุยกับคุณผู้ชายครู่หนึ่ง”
“ค่ะแม่”
นับดาวจ้องหน้าแทนไทอย่างไม่พอใจ ยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองแล้วเดินตามหลังน้องชายไป ไม่สนใจแม้กระทั่งแฟนหนุ่มของตัวเอง
“คุณผู้ชาย คุณผู้หญิงคะ อิฉันมีเรื่องจะแจ้ง”
“ฉันต้องขอโทษแทนไอ้แทนมันด้วยที่ทำอย่างนั้นกับลูกพลับ ถึงมันจะไม่รับผิดชอบแต่ฉันจะรับผิดชอบเอง สมัยนี้มันตรวจกันได้ว่าใช่พ่อลูกกันไหม ฉันมั่นใจว่าลูกพลับคงไม่โกหก” ทีปกรว่าอย่างเข้าใจ
“ไม่เป็นไรค่ะคุณผู้ชาย ลูกพลับมันคงไม่อยากให้ใครมารับผิดชอบ ที่มาก็เป็นเพราะดาวมันอยากเรียกร้องความยุติธรรมให้น้องเท่านั้น อิฉันคิดดีแล้วว่าจะขอลาออกแล้วย้ายไปอยู่ที่อื่นค่ะ”
“อ้าว! ไม่เห็นจะต้องทำอย่างนี้เลยป้าปิ่น” ศรัยฉัตรกล่าว เธอตกใจไม่น้อยเพราะปิ่นวดีทำงานที่นี่นานมากจนกลายเป็นเหมือนสมาชิกในบ้านไปแล้ว
“ตอนนี้อิฉันก็แก่ตัวมากแล้ว อีกอย่างตอนนี้ลูกพลับมีก็มีน้อง อิฉันอยากจะออกไปเลี้ยงลูกให้มัน เพราะมันยังเรียนไม่จบ ใจจริงก็อยากจะออกไปนานแล้วแต่ยังไม่มีความจำเป็นมากพอ ตอนนี้มันคงถึงเวลาแล้วค่ะ แต่ถึงยังไงอิฉันก็จะไม่มีทางลืมบุญคุณคุณทั้งสองแน่นอนค่ะ หากมีโอกาสจะแวะเข้ามาเยี่ยมบ่อย ๆ”
“ฉันยอมรับว่าใจหายมาก แต่ฉันคงห้ามป้าปิ่นไม่ได้แล้วสินะ เอาเป็นว่าฉันยอมตามใจป้าปิ่นก็แล้วกัน เห็นแก่ที่ป้าปิ่นทำงานมานานฉันจะมีเงินพิเศษให้ไปตั้งตัว แต่ถึงยังไงฉันก็ยืนยันว่าจะรับเด็กคนนั้นเป็นหลาน ถึงแม้ว่าพ่อมันจะไม่ยอมรับก็ตาม”
“ขอบพระคุณมากค่ะ แต่คงไม่เป็นไร การที่ไม่มีพ่ออย่างนี้มันคงจะเป็นผลดีกับเด็กมากกว่า อิฉันกราบลาค่ะ”
ปิ่นวดียกมือไหว้แล้วเงยขึ้นมองหน้าแทนไทอย่างโกรธแค้นแทนหลานชาย รีบเดินออกไปจากบ้าน แทนไทยืนนิ่งอยู่ในห้วงแห่งความคิด เขาจะเอายังไงดีกับไอ้เด็กนั่น แต่จะให้ยอมรับคงไม่มีทางแน่ หากนั่นคือลูกของเขาจริง ๆ จะเป็นยังไง ความรู้สึกที่ขัดแย้งกันตีวนในหัวจนรู้สึกปวดตุบที่ขมับ
“แกมันเกิดมาทำลายชีวิตคนอื่นจริง ๆ ฉันไม่รู้จะพูดอะไรกับแกแล้ว”
กล่าวจบทีปกรก็เดินส่ายหน้าหนีไปจากตรงนั้น ศรัยฉัตรเดินมาตบบ่าลูกชายเบา ๆ เพื่อให้กำลังใจ หลังจากถูกใครต่อใครเมินหน้าหนีและรังเกียจ แต่คนเป็นแม่ถึงลูกจะเลวอย่างไรก็ไม่มีทางเกลียดลงอย่างแน่นอน