ลืมรักเลือนใจ - ตอนที่ 739 เค้นถามเหตุผล / ตอนที่ 740 ตอนนี้มอบให้เป็นหน้าที่ฉันเอง
ตอนที่ 739 เค้นถามเหตุผล
ทีมงานแสยะยิ้ม “ขอโทษด้วยจริงๆ ฉันเองก็ทำตามหน้าที่ บัตรเชิญถูกยกเลิกเป็นการตัดสินใจของทางฝ่ายจัดงาน คุณกดดันฉันก็ไม่มีประโยชน์ ยิ่งไปกว่านั้น ทำไมถึงถูกยกเลิกพวกคุณไม่รู้เหตุผลเลยจริงๆ เหรอ”
คำพูดของทีมงานทำให้ตัวตัวโมโหแทบตาย คนพวกนี้เห็นอยู่ชัดๆ ว่าจงใจทำให้หลินเยียนดูแย่
“ถ้าถูกยกเลิกแล้วทำไมถึงไม่แจ้งล่วงหน้า จะต้องรอให้มาถึงงานก่อนถึงจะรู้” ตัวตัวปกป้องสิทธิเต็มที่
“ก็บอกไปแล้วว่าเป็นการตัดสินใจของทางฝ่ายจัดงาน ถ้าคุณต้องการเหตุผลก็ไปหาฝ่ายจัดงานสิ” ท่าทางของทีมงานเห็นได้ชัดว่าไร้ความเกรงกลัว ไม่ยอมให้เหตุผล
เวลานี้แขกที่อยู่ด้านข้างเริ่มสนใจเหตุการณ์ทางนี้ เริ่มพากันกระซิบกระซาบ
“บัตรเชิญของหลินเยียนถูกยกเลิกเหรอ แต่ก็ไม่แปลกนะ ฝ่ายจัดงานจะปล่อยให้เธอเข้างานได้ยังไง!”
“ฉันว่านะ หนังหน้าของหลินเยียนก็หนาพอตัว ขนาดถูกตัดสิทธิ์ไปแล้วก็ยังอุตส่าห์ไปหาบัตรเชิญจะมางานให้ได้!”
“ฮ่าๆ ถามหาเหตุผลจากฝ่ายจัดงาน เธอจะมีหน้าไปถามเหตุผลกับฝ่ายจัดงานได้อีกเหรอ”
…
เวลานี้หลินซูหย่าที่ยืนดูเหตุการณ์จนพอใจแล้วได้ค่อยๆ เดินเข้ามาช่วยคลี่คลายสถานการณ์ “พี่คะ พี่เลิกให้ผู้ช่วยกดดันทีมงานเถอะ เรื่องนี้ทีมงานเองก็ตัดสินใจไม่ได้หรอก”
“กดดันอะไร ฉันกดดันเขาเมื่อไรกัน ฉันก็แค่ขอเหตุผล บัตรเชิญใบนี้พวกเราได้มาจากช่องทางที่ถูกต้อง เหตุผลของการถูกยกเลิกคืออะไร ทำไมถึงไม่มีใครแจ้งพวกเรา”
คำพูดของตัวตัวไม่ผิด แต่คนอื่นๆ ต่างไม่สนใจเรื่องนี้ คิดแค่ว่าหลินเยียนกำลังสร้างความวุ่นวายอย่างไร้เหตุผล
ทีมงานคนนี้เห็นทุกคนต่างอยู่ฝั่งตัวเองก็ยิ่งมีความกล้ามากขึ้นไปอีก “เชิญพวกคุณออกไปด้วย อย่ามาเกะกะคนอื่นที่จะเข้ามาตรวจ ถ้าพวกคุณยังก่อกวนตรงนี้ต่อ ฉันจะเรียกรปภ.มาแล้วนะ!”
ตัวตัวยังอยากพูดต่อ แต่ถูกหลินเยียนลากไปข้างหลัง “ไม่ต้องเสียเวลาพูดด้วยหรอก”
ตัวตัวโมโหจนขอบตาเริ่มแดง “มีสิทธิ์อะไร! พี่เยียน พวกเขาจะรังแกกันมากเกินไปแล้วนะ!”
ทีมงานได้ยินดังนั้นก็เอามือเท้าสะเอวพลางพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว “นี่ เป็นแค่ผู้ช่วยตัวเล็กๆ อย่ามาพูดจาเหลวไหลใส่ร้ายคนอื่นนะ อะไรที่เรียกว่ารังแกกันเกินไป ฉันรังแกอะไรเธอ ดาราของเธอเป็นคนยังไงเธอไม่รู้เลยเหรอ ยังจะมีหน้ามาที่นี่อีก! ยังจะตื๊อให้ฉันปล่อยเข้าไปในงานอีก!”
“ทำไมพวกเราจะมาไม่ได้ ไม่ใช่แค่ฉันจะถามเธอ ฉันยังจะไปถามฝ่ายจัดงานด้วย ต่อให้ถูกตัดสิทธิ์เข้าร่วมคัดเลือกแอมบาสเดอร์เพื่อการกุศลแล้ว แต่พวกเขามีสิทธิ์อะไรมายกเลิกบัตรเชิญที่ได้มาอย่างถูกต้องล่ะ…”
ทีมงานย่อมตอบไม่ได้ เพราะการที่ฝ่ายจัดงานทำแบบนี้ไม่ถูกต้องตามกระบวนการจริงๆ เพียงแต่ไม่มีใครนึกถึงว่าทางหลินเยียนจะกัดไม่ปล่อย
ด้วยความโมโหทีมงานจึงผลักตัวตัวออก “ถ้ายังโวยวายไม่เลิกฉันจะเรียกรปภ.จริงๆ แล้วนะ! รปภ. มีคนก่อความวุ่นวาย!”
ทีมงานผลักตัวตัวพลางเอาบัตรเชิญในมือปาใส่หน้าของตัวตัว “เอาบัตรเชิญที่ถูกยกเลิกของพวกเธอคืนไปแล้วรีบไสหัวออกไปซะ! ไม่รู้ว่าใช้เงินซื้อมาหรือเปล่า!”
หลินเยียนเห็นดังนั้นจึงยื่นมือไปบังบัตรเชิญที่กำลังลอยมาโดนหน้าตัวตัว
เพียงแต่ขอบที่แหลมคมของบัตรเชิญก็ยังคงบาดโดนแก้มของตัวตัวอยู่ดี วินาทีนั้นใบหน้าของตัวตัวก็มีรอยเลือดที่เห็นได้ชัด เลือดค่อยๆ ไหลซึมออกมา
“โอ๊ย…” ตัวตัวเจ็บจนร้องออกมา จากนั้นก็สังเกตเห็นว่าหลังมือของหลินเยียนก็ถูกบาดเหมือนกัน
หลินเยียนไม่สนใจบาดแผลบนหลังมือ จ้องใบหน้าที่ได้รับบาดเจ็บของตัวตัว แววตาของเธอเปลี่ยนไปทันที
ตอนที่ 740 ตอนนี้มอบให้เป็นหน้าที่ฉันเอง
หลินเยียนหยิบกระดาษทิชชู่ออกมาช่วยเช็ดคราบเลือดบนใบหน้าของตัวตัว หยิบพลาสเตอร์ยาที่พกติดตัวมาติดให้ตัวตัวด้วยความระมัดระวัง สุดท้ายยังยื่นมือไปดึงตัวตัวมาปกป้องไว้ข้างหลังตัวเอง
ตัวตัวยังอยากพูดต่อ หลินเยียนยกมือขึ้นเพื่อบอกให้เธอเงียบ จากนั้นจึงพูดด้วยสีหน้าที่อ่อนโยนผิดแปลกไปจากปกติ “เอาล่ะ ตัวตัวที่รัก ตอนนี้มอบให้เป็นหน้าที่ฉันเอง”
วินาทีที่หลินเยียนเอ่ยปากตัวตัวก็หวั่นใจขึ้นมาทันที
ปกติหลินเยียนจะวางตัวไม่ทุกข์ไม่ร้อน นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นหลินเยียนมีท่าทีจริงจัง ดูแล้ว…ดูแล้ว…พึ่งพาได้…
ราวกับว่าไม่ว่าเรื่องอะไร แค่มีเธอก็แก้ปัญหาได้…
เอาเกรดเอไปเลย!
ขณะพูดอยู่ รปภ.ทั้งหมดก็แห่มากัน
บรรดาแขกเหรื่อที่อยู่รอบตัวเวลานี้ต่างมองมาด้วยสายตาเหยียดหยาม
“คุณพระ นี่เธอยังจะกล้าดื้อด้านอีกเหรอ มารยาทแบบไหนกันเนี่ย!”
“ขายหน้าวงการบันเทิงของพวกเราจริงๆ!”
“ซูหย่า ทำไมเธอถึงมีพี่สาวแบบนี้ได้…”
ทีมงานเห็นหลินเยียนเดินเข้ามาก็ถอยหนึ่งก้าวตามสัญชาตญาณพลางพูดขึ้น “ทำอะไรน่ะ! เธอจะทำอะไร! ยังอยากทำร้ายคนด้วยเหรอ ยังคิดจะใช้กำลังด้วยเหรอ! บอกแล้วไงว่าบัตรเชิญของเธอมันถูกยกเลิกไปแล้ว! ฟังภาษาคนไม่เข้าใจหรือไง”
หลินเยียนหลุบตาลงพลางยิ้ม
เดิมทีเธอก็ไม่ได้สนใจอะไรงานการกุศลใหญ่นี่นัก
แต่ตอนนี้ พอไม่ให้เธอเข้าไป เธอก็ชักอยากจะเข้าไปให้ได้แล้วสิ
หลินซูหย่าเห็นดังนั้นก็เดินเข้าไปได้อย่างถูกเวลา พูดเกลี้ยกล่อมหลินเยียน “พี่คะ ใจเย็นหน่อย อย่าทำแบบนี้ ถ้าพี่ใช้กำลัง รปภ.ก็จะจับตัวพี่ออกไปจริงๆ อย่าเอาเรื่องทีมงานเลยนะ…”
หลินเยียนกวาดตามองหลินซูหย่าเล็กน้อย จากนั้นก็ยกมือขึ้น
เวลานี้ทุกคนเห็นแค่ปลายนิ้วของหลินเยียนถือบัตรเชิญสีทองอ่อนอยู่หนึ่งใบ
หลินเยียนยื่นบัตรเชิญไปข้างหน้าทีมงานคนนั้นพลางเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ใบนี้ก็ถูกยกเลิกด้วยหรือเปล่า”
ทีมงานเห็นหลินเยียนหยิบบัตรเชิญขึ้นมาอีกใบก็อดตกใจไม่ได้
หลังจากที่เห็นบัตรเชิญในมือของหลินเยียน ทีมงานก็ตกใจยิ่งกว่าเดิม
บัตรเชิญในมือของหลินเยียนเป็นสีทองอ่อน บัตรเชิญสีทองอ่อนเป็นบัตรเชิญวีไอพีไม่ใช่เหรอ
ทีมงานรับมาด้วยความสงสัย มองปกของบัตรเชิญอย่างละเอียด เป็นบัตรเชิญวีไอพีของงานเลี้ยงการกุศลใหญ่ไม่ผิดแน่
ทันใดนั้นทีมงานก็มีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาทันที “หลินเยียน เธอคงไม่ได้ไม่รู้นะว่าบัตรเชิญของงานนี้จัดทำตามชื่อจริง! ต่อให้เธอใช้เงินซื้อบัตรเชิญของคนอื่นมา เธอก็เข้าไม่ได้อยู่ดี!”
หลินเยียนแสยะยิ้ม “มีคนขายบัตรเชิญวีไอพีกันด้วยเหรอ”
ความหมายแฝงในคำพูดก็คือ คำพูดของทีมงานช่างดูเหมือนคนไร้สมองเสียจริง
ด้วยสถานะของแขกวีไอพีพวกนั้น ใครจะทำเรื่องอย่างขายบัตรวีไอพีได้
พอทีมงานได้ฟังสีหน้าก็เริ่มแย่ลง เธอยังไม่ได้เปิดดูก็ตัดสินแล้วว่าหลินเยียนซื้อมา เพราะหลินเยียนไม่มีทางมีบัตรวีไอพีได้
พอได้ฟังทีมงานถึงเปิดบัตรเชิญดู เวลานี้ได้เห็นอย่างชัดเจนแล้ว ในบัตรเชิญมีชื่อของหลินเยียนอยู่จริงๆ ไม่มีทางผิด
อีกอย่าง ที่น่าตกใจที่สุดก็คือ ตำแหน่งที่นั่งของบัตรเชิญใบนี้คือ ลำดับที่แปดแถวที่หนึ่ง…
คนที่ได้รับบัตรเชิญวีไอพีล้วนเป็นคนใหญ่คนโต และคนที่สามารถนั่งแถวแรกได้ก็ล้วนเป็นคนใหญ่คนโตในหมู่คนใหญ่คนโตอีกที!
อย่าว่าแต่ทีมงานคนนี้กับบรรดาแขกที่อยู่รอบๆ แม้แต่ตัวตัวที่อยู่ข้างหลังหลินเยียนก็ยังตกใจ
โห! นี่มันเรื่องอะไรกัน
ในขณะที่หลินเยียนกำลังจะถูกไล่ออกไปแล้ว ปรากฏว่าเธอกลับหยิบบัตรเชิญอีกใบออกมา แถมยังเป็นบัตรเชิญวีไอพีแถวแรกเสียด้วย