ลืมรักเลือนใจ - ตอนที่ 699 ในฐานะที่เป็นคุณนายเผยในอนาคต / ตอนที่ 700 ช่างให้เกียรติเกินไปแล้ว!
- Home
- ลืมรักเลือนใจ
- ตอนที่ 699 ในฐานะที่เป็นคุณนายเผยในอนาคต / ตอนที่ 700 ช่างให้เกียรติเกินไปแล้ว!
ตอนที่ 699 ในฐานะที่เป็นคุณนายเผยในอนาคต
เห็นแก่หน้าเธอสักหน่อย?
หลินเยียนเพิ่งจะพูดจบ ทุกคนต่างมองไปที่หลินเยียนทันที
สายตาเผยอวี้เฉิงไปอยู่บนร่างหลินเยียน เขาเอ่ยปากพูดเบาๆ ขึ้นมาว่า “หมายความว่ายังไง?”
หลินเยียนครุ่นคิดเพื่อรวบรวมคำพูดอยู่ครู่หนึ่ง “คุณเผย พอจะให้อภัยผู้หญิงที่ชื่อหลิงเย่ว์คนนั้นได้หรือเปล่าคะ…”
เมื่อหลินเยียนพูดจบ ซิงเฉินที่อยู่ด้านข้างก็มีสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อย กระทั่งว่ายังรู้สึกเหลือเชื่ออยู่บ้างอีกด้วย
ก่อนหน้านี้ซิงเฉินเคยฝากฝังหลินเยียน อยากให้หลินเยียนขอร้องให้เธอจริงๆ แต่ว่าซิงเฉินกลับคิดไม่ถึงว่าหลินเยียนกลับจะขอร้องให้หลิงเย่ว์จริงๆ มิหนำซ้ำยังภายใต้สถานการณ์แบบนี้อีกด้วย
“ฉันไม่ได้หูฝาดหรอกนะ”
สวีเหยามองหลินเยียน ความดูแคลนภายในดวงตาไม่อาจปกปิดเอาไว้ได้ “คุณผู้หญิงคนนี้ คุณออกจะใส่ใจเรื่องของคนอื่นมากเกินไปหรือเปล่า คุณไม่เข้าใจความสัมพันธ์ที่มีอยู่ทั้งหมด ฉันรู้สึกว่าคุณอย่าขอร้องให้ใครซี้ซั้วจะดีกว่า”
ถึงแม้จะไม่เห็นผู้หญิงคนนี้อยู่ในสายตาสักแค่ไหน แต่เมื่อครู่ซิงเฉินก็บอกไปแล้วว่าเป็นแฟนของเผยอวี้เฉิง ไม่ว่าจะแค่เล่นๆ หรืออะไรก็ตามแต่ ถึงอย่างไรก็ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟน สวีเหยาจึงไม่กล้าพูดอะไรให้เกินเลยไปนัก เพราะเห็นแก่หน้าเผยอวี้เฉิง
แต่สวีเหยาก็แสดงเจตนาออกมาแล้ว บอกให้หลินเยียนอย่ายุ่งไม่เข้าเรื่อง
“คุณผู้หญิงคนนี้ คุณเข้าใจสถานะของตัวเองผิดไปหรือเปล่า” ทันใดนั้นชายหนุ่มที่เป็นหัวหน้าก็มอง หลินเยียนพร้อมกล่าวระคนหัวเราะเบาๆ
เขาไม่เหมือนสวีเหยา พูดจาตรงไปตรงมาอย่างยิ่ง
สวีเหยาพูดต่อไปโดยไม่ปล่อยให้หลินเยียนได้เอ่ยปากเช่นกัน “ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนของพี่อวี้หรือเปล่า หรือต่อให้ใช่ คุณก็ไม่มีคุณสมบัติมาสอดเรื่องการทำงานของพวกเรา”
หลินเยียนไม่สนใจคนทั้งสองแม้แต่น้อย เธอขอร้องเผยอวี้เฉิง ส่วนคนอื่นไม่จำเป็นต้องสนใจเลยสักนิด
หลินเยียนแค่อยากทดสอบท่าทีดูเท่านั้น นี่คือสิ่งเดียวที่เธอจะทำให้ซิงเฉินได้แล้ว
“เหตุผล”
หลังจากผ่านไปเนิ่นนาน เผยอวี้เฉิงก็มองหลินเยียนพร้อมพูดด้วยท่าทีสงบนิ่ง
“เหตุผล?”
เมื่อได้ยินหลินเยียนก็อึ้งเล็กน้อย
นี่ทำให้เธอลำบากแล้วจริงๆ
“พี่อวี้ พี่อย่าโทษคุณหลินเลยนะครับ ก่อนหน้านี้ผมรบเร้าคุณหลิน ฝืนให้คุณหลินช่วยขอร้องแทนผมเอง ดังนั้นคุณหลินเยียนถึงได้เข้ามายุ่งกับเรื่องนี้…”
เมื่อเห็นว่าอาจสร้างความลำบากให้หลินเยียน ซิงเฉินจึงรีบอธิบาย
เผยอวี้เฉิงไม่พูด มองหลินเยียนต่อไป
หลินเยียนสบสายตากับผู้หญิงที่ชื่อสวีเหยาที่อยู่ด้านข้าง ขณะนี้อีกฝ่ายกำลังมองตนเองด้วยสีหน้าเย้ยหยัน ใบหน้าเขียนว่าเธอคือตัวตลกเมื่ออยู่ต่อหน้าคุณหนูหรงผู้สูงส่งคนนั้น
ใจของหลินเยียนผุดเพลิงโทสะอันไร้ต้นสายปลายเหตุขึ้นมาอย่างน่าประหลาด มองสวีเหยาด้วยท่าทางคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม จากนั้นก็มองเผยอวี้เฉิง เอ่ยปากพูดด้วยเสียงอันแผ่วเบา “เหตุผลก็คือในฐานะที่ฉันจะเป็นคุณนายเผยในอนาคต ฉันคิดว่าเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ยังพอจะมีสิทธิ์พูดอยู่บ้างใช่หรือเปล่าคะ?”
ซิงเฉิน “…”
สวีเหยา “…!!!”
คุณนายเผยในอนาคต???
เป็นแค่ผู้หญิงที่มีก็ได้ไม่มีก็ได้เท่านั้น ใครให้ความกล้ากับเธอพูดจาใหญ่โตแบบนี้ออกมาได้?
ภายใต้สายตาอันตกตะลึงของทุกคน สายตาที่เหมือนดั่งห้วงมหาสมุทรอันล้ำลึกของ
เผยอวี้เฉิงบังเกิดระลอกคลื่นระยิบระยับวับวาว เขาหัวเราะเสียงต่ำเบาๆ ครั้งหนึ่ง จากนั้นก็จ้องมองดวงตาที่เปล่งประกายเจิดจ้าดั่งดวงอาทิตย์ของหญิงสาว เอ่ยปากพูดอย่างแช่มช้าขึ้นมาว่า “อืม มีเหตุผลมากจริงๆ ”
ซิงเฉิน “…”
พวกของสวีเหยา “…”
หลินเยียน “…???”
แม้แต่หลินเยียนเองก็ยังคืนสติกลับมาไม่ได้ชั่วขณะ
เมื่อครู่เธอแค่พูดจาใหญ่โตอย่างหน้าไม่อายเพียงเพราะโมโหไปชั่วขณะเท่านั้น คิดไม่ถึงว่าเผยอวี้เฉิงกลับพูดกับเธอว่า…มีเหตุผล…มาก?
ตอนที่ 700 ช่างให้เกียรติเกินไปแล้ว!
“ก็ได้ ฉันรับปากเธอ” เผยอวี้เฉิงพูดต่อทันที
หลินเยียน “…”
นี่…เรียบร้อยแล้วเหรอ
เธอฟังไม่ผิดใช่ไหมนะ หรือว่ากำลังฝันอยู่หรือเปล่า
เดิมหลินเยียนนึกว่านี่เป็นการท้าทายระดับนรกเสียอีก แต่ใครจะนึกว่านี่มันนรกที่ไหนกัน นี่มันระดับฝีปากต่างหากเล่า แค่ขยับปากพูดจาเพ้อเจ้อไปประโยคหนึ่ง…ก็สำเร็จแล้ว?!
อย่าว่าแต่หลินเยียนที่อึ้งอยู่กับที่ แม้แต่ซิงเฉินซึ่งเดิมทีมีสีหน้าร้อนรน กลัวว่าจะทำร้ายหลินเยียนที่อยู่ด้านข้างก็ยังงุนงงเช่นเดียวกัน
เสี่ยวเย่ว์…ไม่เป็นไรแล้ว?
แค่นี้ก็ไม่เป็นไรแล้ว?
“พี่อวี้!”
ชายหนุ่มที่เป็นหัวหน้าขมวดคิ้วมุ่น “พี่อวี้ คุณหนูหรงไม่ชอบนังสารเลวหลิงเย่ว์คนนั้นมาก ทำไมเพราะคำพูดประโยคเดียวของผู้หญิงคนนี้ พี่ก็…”
อย่างไรก็ตามชายที่เป็นหัวหน้ายังพูดไม่ทันจบก็ได้ยินเสียงดังปึงขึ้นมาครั้งหนึ่ง
หลินเยียนกับซิงเฉินต่างตกใจจนสะดุ้งโหยง
ตอนนี้หลินเยียนกับซิงเฉินล้วนมีสีหน้าประหลาดใจ
เห็นเพียงศีรษะของชายที่เป็นหัวหน้าถูกกระแทกลงบนโต๊ะอย่างหนักหน่วงเท่านั้น ช
มือซ้ายของเผยอวี้เฉิงซึ่งเมื่อครู่ยังอ่อนโยนดั่งอาบไล้ด้วยสายลมแห่งฤดูใบไม้ผลิกดอยู่บนศีรษะของชายหนุ่ม การเคลื่อนไหวนั้นดูเหมือนสบายๆ ทว่าไม่ว่าชายหนุ่มจะดิ้นรนเพียงใด มือข้างนั้นของเผยอวี้เฉิงก็ไม่ขยับเขยื้อนประดุจขุนเขา
“พี่อวี้…”
สถานการณ์ในตอนนี้ทำให้สีหน้าของพวกสวีเหยาล้วนแปรเปลี่ยน
เพียงแต่ยังไม่ทันให้พวกเธอได้พูดต่อไป สายตาอันเย็นเยียบเสียดกระดูกของเผยอวี้เฉิงกลับกวาดมองคนเหล่านี้
เพียงแค่ชั่วพริบตา พวกของสวีเหยาก็ไม่มีใครกล้าพูดอีกแม้แต่ครึ่งคำ
“พี่อวี้…นะ…นี่พี่…” หน้าผากของชายหนุ่มผู้เป็นหัวหน้าซึ่งศีรษะถูกเผยอวี้เฉิงกดอยู่บนโต๊ะหนังสือ มีเหงื่อเย็นซึมออกมา เขาไม่เข้าใจว่าเหตุใดเผยอวี้เฉิงต้องบันดาลโทสะ และเหตุใดต้องลงมือกับเขาด้วย
“อยากรู้งั้นเหรอ” เสียงเผยอวี้เฉิงประหนึ่งสายธารน้ำแข็ง ทำให้คนเสียวสันหลังวาบ
“พี่อวี้ ผะ…ผมไม่เข้าใจ…” ชายหนุ่มกัดฟันกรอด
เผยอวี้เฉิงเหลือบมองชายหนุ่มแวบหนึ่งโดยพลัน “หลิงเย่ว์กับซิงเฉินเป็นลูกน้องฉัน”
เผยอวี้เฉิงพูดด้วยท่าทีเรียบเฉยต่อไปว่า “ต่อให้พวกเขาทำตัวไม่เหมาะสมแค่ไหน ก็ไม่ถึงคราวที่คนอื่นจะมาลบหลู่”
เมื่อได้ยิน ร่างของชายหนุ่มที่เป็นหัวหน้าก็สั่นเทาเล็กน้อย รีบพูดขึ้นมาว่า “พี่อวี้ ผม…รู้แล้ว พวกเราคิดไม่รอบคอบเองครับ…”
“ยังมีอีก” เผยอวี้เฉิงมองหลินเยียนที่อยู่ด้านข้าง “คำพูดของคุณหลินเมื่อครู่…”
พอพูดจบสายตาของเผยอวี้เฉิงก็ไปอยู่ที่ร่างสวีเหยา “ได้ยินชัดเจนแล้วหรือยัง”
“ชะ…ชัดเจนค่ะ พี่อวี้” สวีเหยารีบส่งเสียง
ผ่านไปครู่หนึ่งเผยอวี้เฉิงจึงคลายมือ ชายหนุ่มถึงถอนตัวออกมาได้
“ทำสิ่งที่พวกนายควรจะทำ” เผยอวี้เฉิงโบกมือด้วยท่าทีเรียบเฉย
เมื่อเผยอวี้เฉิงพูดจบ ชายหนุ่มหญิงสาวทั้งหลายต่างสบตากัน จากนั้นก็จากไปโดยไม่เหลียวหลังกลับมาทันที
เมื่อพวกของสวีเหยาจากไปแล้ว ซิงเฉินก็มองเผยอวี้เฉิงด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ “พี่อวี้ คุณหนูหรงทางนั้น…”
“ตอนนี้ได้สติแล้วเหรอ” เผยอวี้เฉิงพูดกับซิงเฉิน
“พี่อวี้ ขอโทษครับ…ผมขอสาบานว่าวันหลังจะต้องควบคุมตัวเองให้ได้ ไม่มีครั้งที่สองแน่นอนครับ!” ซิงเฉินรีบเอ่ย
“หลิงเย่ว์ ให้เธอกลับมาได้แล้ว” เผยอวี้เฉิงพูดต่อไป
ไม่ได้ยินคำพูดนี้ของเผยอวี้เฉิง ซิงเฉินก็มีสีหน้าตื่นเต้นเป็นล้นพ้น “พี่อวี้ ขอบคุณครับ!”
“ไม่เกี่ยวกับฉัน” เผยอวี้เฉิงเอ่ย
ซิงเฉินย่อมเข้าใจความหมายแฝงของเผยอวี้เฉิง เขามองไปที่หลินเยียนทันที “คุณหลิน ขอบคุณครับ!”
ตอนนี้หลินเยียนยังคงงุนงงไม่หาย เหมือนกำลังฝันอยู่อย่างนั้น
เมื่อใคร่ครวญอย่างละเอียด เมื่อครู่เธอไปเอาความกล้าแบบนั้นมาจากที่ไหน…แถมยังไม่รู้สึกกลัวเลยสักนิด หรือว่าเธอเกิดมาก็มีขวัญกล้าอย่างยิ่ง?
มิหนำซ้ำสิ่งที่ทำให้หลินเยียนคิดไม่ถึงอีกเรื่องก็คือคำขอร้องของตนเองกลับเป็นผลง่ายดายเสียขนาดนี้ ง่ายดายจนถึงขั้นที่ว่าตัวเธอยังไม่กล้าเชื่อเลย
ทั้งที่ไม่ว่าจะดูอย่างไรวันนี้ก็ไม่ใช่โอกาสที่เหมาะสมเลยสักนิดนี่นา
เผยอวี้เฉิงช่างให้เกียรติเกินไปแล้วจริงๆ!