ลืมรักเลือนใจ - ตอนที่ 331 มีความสามารถในการเป็นเนวิเกเตอร์ / ตอนที่ 332 ระดับเทพขั้นสุดยอด
- Home
- ลืมรักเลือนใจ
- ตอนที่ 331 มีความสามารถในการเป็นเนวิเกเตอร์ / ตอนที่ 332 ระดับเทพขั้นสุดยอด
ตอนที่ 331 มีความสามารถในการเป็นเนวิเกเตอร์
เฮ่อซานซานแสดงสีหน้าไม่แยแส “พี่ซูหย่าวางใจได้เลย ฝีมือการแสดงย่ำแย่ ฉากที่แสดงกับราชาภาพยนตร์เผยวันนี้ก็ถ่ายเสียไปตั้งหลายสิบครั้ง! หนังเรื่องนี้มีดาราใหญ่ตั้งหลายคน แถมยังมีพี่ซือเฟยที่เป็นราชินีภาพยนตร์อีก ถึงเวลามีเธอมาประกบ ยังไม่กลายเป็นตัวตลก ไม่ถูกด่าตายก็แปลกแล้วล่ะค่ะ!”
เจี่ยงซือเฟยหัวเราะพ่นเสียงออกจมูกเบาๆ “ก่อนหน้านี้เธอยังรนหาที่ตาย พนันกับเจ้าหงหลิงว่าจะได้อันดับหนึ่งภายในสามเดือนด้วยนะ”
หลินซูหย่าถอนหายใจเบาๆ พร้อมส่ายหน้า “ฉันยังนึกว่าเจ้าหงหลิงจะมีความสามารถสักเท่าไหร่ คิดไม่ถึงว่าก็แค่นี้เอง”
เจี่ยงซือเฟยดวงตาฉายประกายวูบเล็กน้อย “คุณหลิน ถึงเวลาก่อนหนังเข้าฉาย พวกเราใส่ไฟเพิ่มอีกก็ได้ ให้เธอไสหัวออกจากวงการบันเทิงไปเลย…”
…
เมื่องานเลี้ยงเสร็จสิ้น หลินเยียนก็กลับมาที่บ้าน
คืนนั้นหลินเยียนได้รับสายจากผู้เฒ่าเฮ่อติ้งคุน บอกให้เธอไปกินข้าวเที่ยงที่บ้านเก่าในวันพรุ่งนี้
เพราะฉากในเรื่องคู่ปรับมหากาฬของตัวเองถ่ายปิดกล้องไปแล้ว ไม่มีอะไรให้ทำอีก หลินเยียนจึงตกลงทันที
วันต่อมา ตอนเที่ยง หลินเยียนเรียกรถแท็กซี่แล้วมุ่งหน้าไปยังบ้านเก่า
…
ขณะนี้ภายในบ้านเก่าตระกูลเฮ่อกลับคึกคัก สมาชิกทีมตระกูลเฮ่อแทบจะอยู่ครบกันทุกคน
“คุณตาครับ คุณตาให้พี่เยียนเป็นเนวิเกเตอร์ของพี่หมิงไข่ ผมคิดว่าไม่ค่อยเหมาะ…ถ้าไม่ไหวจริงๆ ให้พี่เยียนเป็นเนวิเกเตอร์ของผมดีกว่า ถึงยังไงผมก็เคยแข่งกับพี่เยียนมาแล้วครั้งหนึ่ง เข้าขากันแล้วครับ” เฮ่อเล่อเฟิงมองผู้เฒ่าเฮ่อติ้งคุนที่อยู่ไม่ไกลพร้อมเอ่ยปากพูด
“ฮ่าๆ เล่อเฟิง นายน่ะช่างเถอะนะ ฝีมือการเป็นเนวิเกเตอร์ของหลินเยียนถือว่าไม่เลวแล้ว จับคู่กับ
หมิงไข่ไม่น่าจะมีปัญหามาก แต่ถ้าเป็นนาย ฉันรู้สึกว่าออกจะเสียของไปสักหน่อย นี่ฉันพูดความจริงนะ นายอย่าโกรธล่ะ!”
นักแข่งรถในทีมตระกูลเฮ่อคนหนึ่งมองเฮ่อเล่อเฟิงพร้อมกล่าวระคนหัวเราะ
เมื่อได้ยินแบบนี้ ความรู้สึกไม่ยินยอมก็ปรากฎกลางหว่างคิ้วเฮ่อเล่อเฟิงเล็กน้อย ถ้าครั้งก่อนไม่ใช่เขาทำงานประสานกับหลินเยียนเป็นอย่างดี คนพวกนี้จะมีใครบ้างที่เข้าถึงเส้นชัย ตอนนี้กลับมาพูดจาแบบนี้เสียได้
…
“กี่โมงแล้ว ยังไม่มาอีกเหรอ?”
ไม่นานนักนักแข่งรถทีมตระกูลเฮ่อคนหนึ่งก็เริ่มมีสีหน้ารำคาญใจเล็กน้อย พูดด้วยเสียงเย็นชาออกมาว่า “ถึงเธอพอจะมีคุณสมบัติของเนวิเกเตอร์ขั้นมือโปรอยู่บ้าง แต่เมื่อเทียบกับชิงหลี่ก็คงห่างไกลมากเลยสินะ วันนี้ให้เธอมาคารวะชิงหลี่เป็นอาจารย์ แต่กลับไม่รักษาเวลาแบบนี้”
“นั่นสิ ถ้าไม่ใช่ชิงหลี่ป่วย ร่างกายอ่อนแอ แล้วจะถึงตาเธอมาเป็นเนวิเกเตอร์ให้หมิงไข่ได้ยังไง”
ชายหนุ่มคนหนึ่งยิ้มแย้มอยู่ด้านข้าง ถึงกระนั้นกลับไม่ได้พูดอะไรมาก หลินเยียนคนนั้น ในสายตาเขามันก็แค่นั้น อาจเพราะเป็นผู้หญิง ผู้บรรยายในตอนนั้นเลยพูดโม้เกินจริงไป
“ชิงหลี่ นายว่าพีซโน้ตที่หลินเยียนพูดออกมาในการแข่งครั้งก่อน พูดสภาพเส้นทางออกมาละเอียดเสียขนาดนั้น นั่นเป็นการทำสดๆ ตอนนั้นเลยรึเปล่า?” ขณะนี้เอง สายตาของนักแข่งรถคนหนึ่งในทีมก็ไปอยู่ที่ร่างชิงหลี่
พอได้ยิน ชิงหลี่ก็ยิ้มเล็กน้อย พูดเรียบๆ ออกมาว่า “เป็นไปไม่ได้ว่าจะทำเดี๋ยวนั้นอยู่แล้ว ต่อให้เป็นเนวิเกเตอร์ระดับสุดยอดในการแข่งระดับโลกลีกที่สามพวกนั้นก็ไม่แน่ว่าจะทำได้ถึงขั้นนี้ หลินเยียนท่องสภาพเส้นทางไว้ตั้งแต่แรก ดังนั้นพีซโน้ตเลยละเอียด เพียงแต่ของพวกนี้ถือเป็นคุณสมบัติขั้นพื้นฐานของเนวิเกเตอร์มืออาชีพ พูดได้แค่ว่าหลินเยียนมีคุณสมบัติของการเป็นเนวิเกเตอร์มืออาชีพก็แล้วกัน”
“พูดไปก็ใช่นะ”
“อีกอย่างท่าดริฟต์ขวางแฉลบข้างนั่นทำออกมาได้ยังไง มันน่าแปลกเกินไปแล้ว…”
หลังจากชิงหลี่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก็พูดขึ้นมาว่า “เล่อเฟิงอาจบังเอิญทำได้เอง น่าจะไม่เกี่ยวอะไรกับหลินเยียน”
ตอนที่ 332 ระดับเทพขั้นสุดยอด
“ใครบอกว่าไม่เกี่ยว?”
เมื่อได้ยินคำพูดของชิงหลี่ เฮ่อเล่อเฟิงที่อยู่ด้านข้างพลันลุกขึ้นมาทันที ขมวดคิ้วพร้อมพูดขึ้นมา “พี่เยียน…”
“หลินเยียนทำไมเหรอ?” ชิงหลี่ยิ้มพลางเอ่ยถาม
เฮ่อเล่อเฟิงมีสีหน้าสงสัยเล็กน้อย จริงด้วย ดริฟต์ขวางแฉลบข้างในวันนั้นเกิดขึ้นรวดเร็วเกินไป ที่จริงเหมือนพวกเขาไม่ได้ทำอะไรเลยก็ดริฟท์ออกไปแล้ว แต่ทำได้อย่างไรนั้น ด้วยความเข้าใจของเฮ่อเล่อเฟิง เขากลับพูดอะไรไม่ออกจริงๆ
“เอ่อ…ฉันก็ไม่รู้ ถึงยังไงก็เพราะฉันกับพี่เยียนประสานงานจนทำออกมาได้ก็แล้วกัน” เฮ่อเล่อเฟิงกล่าวยืนยัน
“ไร้สาระ ก็ต้องพวกนายร่วมมือกันจนทำออกมาได้อยู่แล้วสิ ถ้าไม่ใช่พวกนาย ยังจะมีผีที่ไหนทำอีก” หนึ่งในนักแข่งหัวเราะพร้อมพูดต่อไปว่า “รู้อยู่แล้วว่าพวกนายทำ แต่อยากให้นายพูดว่าทำออกมาได้ยังไงกันแน่”
ทำท่าดริฟต์ขวางแฉลบข้างออกมาได้ยังไงกันนะ…
เฮ่อเล่อเฟิงครุ่นคิดครู่หนึ่ง จากนั้นก็เอ่ยด้วยความงุนงง “เหมือนว่าพี่เยียนจะให้ฉันเยียบเบรก จากนั้นฉันก็เหยียบเบรกลงไป มันก็ดริฟต์ไปแล้ว…”
เมื่อเฮ่อเล่อเฟิงพูดจบ นักแข่งรถทีมตระกูลเฮ่อทุกคนต่างมองหน้ากัน ทุกคนต่างอดหัวเราะออกมาไม่ได้
“ฮ่าๆ เล่อเฟิง นายดูสิ แม้แต่นายก็ยังพูดได้ไม่ชัดเจน แถมแค่เหยียบเบรกก็ดริฟต์ได้แล้วอีก พวกนายไม่ได้โชคดีแล้วจะเรียกว่าอะไร”
“ฉันบอกแล้วไม่ใช่รึไงว่าไม่ค่อยแน่ใจ ถึงยังไงฉันก็เหยียบเบรก เป็นพี่เยียน…”
อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทันรอให้เฮ่อเล่อเฟิงพูดจบ ชิงหลี่ก็หัวเราะเบาๆ ออกมา “เล่อเฟิง ถึงยังไงนายก็เป็นนักแข่งรถมืออาชีพคนหนึ่งนะ คำพูดบางอย่างพูดกับพวกเราได้ พวกเราแค่หัวเราะก็จบกัน แต่ถ้าพูดออกไป จะเป็นที่หัวเราะเยาะกันไปทั่วนะ
หลินเยียนอย่างมากก็แค่เนวิเกเตอร์ที่มีคุณสมบัติเป็นมือโปรเท่านั้น ทฤษฎีและความรู้ของเธออาจเก่งกว่านายก็จริง แต่เรื่องฝีมือในการขับรถที่แท้จริง เธอเทียบนายไม่ได้เลย”
แม้เฮ่อเล่อเฟิงจะไม่ยอม แต่กลับไม่รู้ว่าควรโต้แย้งกลับไปอย่างไรดี
เพราะการสั่งการของหลินเยียนที่อยู่บนรถตอนนั้นมันเรียบง่ายเหลือเกิน ส่วนพวงมาลัยก็ถูกหลินเยียนบังคับอยู่ตลอดเวลา เฮ่อเล่อเฟิงมองเห็นไม่ชัดเจนเช่นเดียวกัน
เฮ่อเล่อเฟิงในตอนนี้มีเหตุผลแต่พูดไม่ออกจริงๆ รู้สึกคับข้องใจมาก
เพียงแต่ก็ดีเหมือนกัน การแข่งกับทีมระดับสุดยอดอย่างทีมดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยูกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว ต่อให้ไม่ชนะ แต่ก็เพียงพอให้คนพวกนี้ได้รับรู้ความสามารถในการเป็นเนวิเกเตอร์ของพี่เยียน!
กระทั่งว่าการแข่งกับทีมดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยูอาจไม่ใช่การแข่งแรลลี่ ถ้าเป็นการแข่งในสนามที่ใช้กติกาปกติทั่วไป ไม่จำเป็นต้องใช้เนวิเกเตอร์ แบบนี้พี่เยียนอาจได้ลงสนามด้วยตัวเองด้วยซ้ำไป!
เพียงแต่เฮ่อเล่อเฟิงกลับไม่มั่นใจ เขารู้แค่ว่าระดับในการเป็นเนวิเกเตอร์ของหลินเยียนอยู่ในระดับเทพขั้นสุดยอด แต่ถ้าให้หลินเยียนเป็นนักแข่งรถ…เกรงว่าอาจจะยากไปสักหน่อย
“ชิงหลี่ ฝีมือของหลินเยียนมีคุณสมบัติที่จะเป็นเนวิเกเตอร์ของหมิงไข่รึเปล่า” ผ่านไปครู่หนึ่ง เฮ่อสยงก็มองชิงหลี่พร้อมเอ่ยถาม
พอได้ยิน ชิงหลี่ก็ยิ้มแย้มพร้อมตอบว่า “ลุงสยง ก่อนหน้านี้ผมก็บอกไปแล้วไม่ใช่เหรอ ให้ผมสอนเธอสักหลายวัน พอผมสอนเสร็จแล้วก็น่าจะไม่มีปัญหา พอฝืนจับคู่กับหมิงไข่ได้”
“อืม นายพูดแบบนี้ฉันก็วางใจ หลินเยียนได้เรียนกับนาย นั่นถือเป็นวาสนาของเธอ” เฮ่อสยงกล่าวระคนหัวเราะ
ยังไม่ทันให้ทุกคนได้พูดต่อไป หลินเยียนก็หิ้วถุงน้อยถุงใหญ่เข้ามาในบ้านเดิมแล้ว
“เสี่ยวเยียน มาแล้วเหรอ”
เมื่อเห็นหลินเยียนเข้าประตูมา นายผู้เฒ่าเฮ่อติ้งคุนก็หัวเราะพร้อมเอ่ยทักทาย
“คุณตา หนูซื้อของเล็กน้อยมาฝากค่ะ” หลินเยียนวางของไว้ในห้อง จากนั้นก็หันมาพูดกับเฮ่อติ้งคุน
หลังจากปิดกล้อง กองถ่ายก็จ่ายค่าแรงส่วนที่เหลือให้เธอ
“กว่าเธอจะหาเงินมาได้ ตาไม่ได้ขาดเหลืออะไร ไม่ต้องซื้อของมาหรอก นั่งลงแล้วคุยกันเถอะนะ” เฮ่อติ้งคุนเอ่ย
“จริงด้วย คุณตารีบร้อนเรียกหนูมาที่นี่ มีเรื่องด่วนอะไรรึเปล่าคะ” หลินเยียนนั่งลงบนโซฟา