ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - ตอนที่ 786 มุดรูหมา + ตอนที่ 787 ปลอมตัวเข้าไป
ตอนที่ 786 มุดรูหมา
เหยียนหมิงซุ่นเจตนาหยุดอยู่ที่สันกำแพงครู่หนึ่ง เป็นอย่างที่คาดไว้ทิเบตันแมสติฟฟ์สี่ตัวนั้นก็สังเกตเห็นอีกแล้ว ดวงตาสีเขียวส่องประกายสะดุดตาท่ามกลางความมืด มองจนคนหวาดกลัวหัวหด
ครั้งนี้เหยียนหมิงซุ่นไม่กลัวเลยแม้แต่น้อย เขาหยิบไส้กรอกออกมาหนึ่งชิ้นแล้วโยนลงไป หมาใหญ่ทั้งสี่ตัวไม่ได้กินในทันที แต่กลับดมไส้กรอกอยู่นาน เมื่อมั่นใจว่าไม่มีพิษพวกมันจึงเริ่มแย่งอาหารกัน
เหยียนหมิงซุ่นแอบดีใจ โยนไส้กรอกลงไปอีกครั้ง หมาใหญ่ก็แย่งกันในทันที กินกันอย่างมีความสุข เนื้อที่เจ้าหนุ่มปีนกำแพงคนนี้โยนมาหอมอร่อยกว่าเนื้อที่พวกมันกินกันประจำเป็นไหน ๆ อร่อยจริง ๆ!
ฉวยจังหวะตอนที่พวกมันกำลังต่อสู้แย่งอาหารกันอยู่นั้น เหยียนหมิงซุ่นก็รีบสไลด์ตัวลงไปอย่างว่องไว หันไปทางหมาใหญ่แล้วโยนไส้กรอกให้อีกครั้ง
ตามคำพังเพยกินของเขาแล้วก็ต้องหาตอบแทนเขาด้วย สำหรับหมาก็เหมือนกัน หมาใหญ่ดุร้ายสี่ตัวจึงรู้สึกเกรงใจที่ไปขัดขวางเหยียนหมิงซุ่นอีก คาดไม่ถึงว่าจะปล่อยไปอย่างง่ายดาย
“ขอบใจนะ ให้ไส้กรอกกับพวกนายอีกอันแล้วกัน!”
เหยียนหมิงซุ่นโยนลงไปอีก ปราบหมาสี่ตัวได้อยู่หมัด เขาเริ่มสังเกตสภาพแวดล้อมรอบ ๆเดินไปตามทางที่มีแสงสว่าง เขาเพิ่งเข้าไปได้ไม่นานเท่าไรก็มีหัวขโมยลับ ๆล่อ ๆสองคนโผล่ออกมาจากรูตรงกำแพง
ได้กลิ่นของคนแปลกหน้า พวกหมาใหญ่ก็เริ่มคำรามอีกครั้ง ล้อมเหมยเหมยที่เข้ามาคนแรกไว้ตรงกลาง จ้องมองอย่างดุร้าย
เหมยเหมยตกใจจนเข่าอ่อน แต่เธอเห็นว่าพวกหมาทำเพียงแค่ล้อมตัวเธอเอาไว้ ไม่ได้กระโจนเข้าใส่ ในใจก็สงบลงเล็กน้อย ตอนนี้ฉิวฉิวที่อยู่ในกระเป๋าเป้ก็ส่งเสียงออกมา
“เจ้านายอย่ากลัว มีฉันและเสี่ยวฉาอยู่ พวกมันไม่กล้าทำอะไรหรอก”
เหมยเหมยพลิกฝ่ามือไปตบฉิวฉิวที่อยู่ในกระเป๋าเป้ ใจก็ยิ่งสงบลง เซียวเซ่อที่อยู่ข้างหลังก็โผล่ตัวออกมาจากรู ทั้งหัวทั้งหน้าเต็มไปด้วยหญ้า เธอโมโหจนด่าพึมพำไม่หยุด
หมาสี่ตัวใหญ่ได้กลิ่นอันคุ้นเคยอย่างรวดเร็ว ดีใจจนส่งเสียงเห่าเรียก หางกระดิกส่ายไปมาไม่หยุด แต่ละตัวต่างก็พุ่งเข้าหาอ้อมกอดของเซียวเซ่อ
เซียวเซ่อเห็นพวกเพื่อนเก่าก็ดีอกดีใจ เล่นกับพวกมันอยู่สักพักก็พาเหมยเหมยเดินเข้าไปข้างในอย่างคุ้นเคยเป็นอย่างดี แต่โชคของพวกเธอไม่ค่อยดีเท่าไร เพิ่งเดินไปได้ไม่เท่าไร ก็เห็นผู้ชายผู้หญิงคู่หนึ่งกอดรัดฟัดเหวี่ยงพุงตรงมาทางนี้ ทั้งจูบทั้งลูบคลำ แค่มองก็รู้เลยว่าจะไปทำเรื่องอะไรกัน
“ครั้งนี้เธอรู้แล้วใช่ไหมล่ะ แค่เพียงออกมาจากรูนี้ ไม่อยากดูแค่ไหนก็ทำไม่ได้” เซียวเซ่อแบมือ ยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้ เธอกับเหมยเหมยปีนขึ้นต้นไม้ในละแวกนั้นและเพลิดเพลินกับการชมหนังสดตรงหน้า
ส่วนทางด้านเหยียนหมิงซุ่นก็เดินเข้าไปในห้องรับแขกแล้ว ที่นี่และข้างนอกต่างกันอย่างกับคนละโลก ดูสวยงามโอ่อ่า หรูหรามีมนต์ขลัง มีผู้ชายแต่งตัวดีโอบกอดผู้หญิงที่แต่งหน้าจัดจ้านอยู่ตลอดทั่ว กลิ่นเหล้าแรงหึ่ง
จู่ ๆเหยียนหมิงซุ่นก็ไม่รู้ว่าควรจะทำตัวอย่างไรดี ต่อให้เขาเก่งกาจมีความสามารถเช่นไร สุดท้ายก็เป็นเพียงแค่ผู้ชายที่ขาดประสบการณ์เกี่ยวกับสังคมพวกนี้อยู่ดี ไม่รู้ว่าควรจะเริ่มจากตรงไหน!
“คุณคะไม่ทราบว่านัดใครไว้คะ?” มีผู้หญิงวัยกลางคนหน้าตาสะสวยเดินปรี่เข้ามา โผประชันหน้าพร้อมกลิ่นน้ำหอม กลิ่นฉุนจนเหยียนหมิงซุ่นอยากจะจาม
เหยียนหมิงซุ่นพลันนึกอะไรบางอย่างออกพูดขึ้นว่า “พี่เฉิงให้ผมมาหาครับ เขามีเรื่องจะให้ผมไปทำ”
“เธอเป็นลูกน้องของพี่เฉิง? ทำไมเมื่อก่อนฉันไม่เคยเห็นเธอมาก่อนเลย?” ผู้หญิงสวยคนนี้มองเหยียนหมิงซุ่นอย่างระแวงสงสัย
“ผมเป็นคนที่พี่เฉิงเพิ่งจะรับเข้ามาใหม่ คุณไม่รู้จักผมก็เป็นเรื่องปกติ พี่เฉิงอยู่ไหนครับ รบกวนคุณพาผมไปพบเขาหน่อย ผมจะสายแล้ว พี่เฉิงจะโมโหได้นะ” เหยียนหมิงซุ่นสีหน้าท่าทางสงบนิ่งมาก ตาไม่กระพริบสักนิด
ผู้หญิงสวยคนนี้ทำท่าทางเชื่อครึ่งสงสัยครึ่งแต่ก็ไม่กล้าไม่เชื่อ ถ้าหากเป็นเรื่องจริงคงทำให้ธุระของพี่เฉิงล่าช้าเสียเวลา เธอก็อาจจะต้องรับผลที่ตามมาด้วย
เธอตบมือเรียกบริกรเข้ามา “เสี่ยวหนาน นายพาเขาไปหาพี่เฉิงที่สวนกล้วยไม้ไป”
……………………………………
ตอนที่ 787 ปลอมตัวเข้าไป
บริกรตอบกลับด้วยความเคารพและพาเหยียนหมิงซุ่นไปตามทางเดินลาดยาว จนมาถึงลานที่เงียบสงบซึ่งแตกต่างจากลานด้านหน้าที่มีชีวิตชีวาและหรูหราก่อนหน้านี้ ที่นี่มีกลิ่นอายความโบราณ ของที่จัดไว้ในห้องรับแขกเป็นของแท้ทั้งหมด คุณหนูใหญ่เฝิงใช้เงินมือเติบจริง ๆ!
บริกรพาเหยียนหมิงซุ่นมาถึงห้องที่อยู่ลึกที่สุดของทางเดิน เคาะประตูเบา ๆข้างในมีเสียงต่ำของผู้ชายตอบกลับมา บริกรพูดอย่างกล้า ๆกลัว ๆว่า “พี่เฉิง พี่หงให้ผมพาคน ๆหนึ่งมาหา บอกว่าพี่เรียกเขามาเพื่อให้มาจัดการธุระให้”
บรรยากาศเงียบอยู่หลายวินาที เหยียนหมิงซุ่นเกิดอาการตึงเครียดจนกลืนน้ำลาย ฝ่ามือก็มีเหงื่อซึมออกมา ตอนนี้เขากลับหวังว่าตรงทางเดินจะมีเสียงดังขึ้นมาบ้าง แบบนี้มันทำให้เขารู้สึกกดดัน
“ให้เขาเข้ามาเถอะ” เสียงดังขึ้นมาอีกครั้ง
บริกรกับเหยียนหมิงซุ่นพรูลมหายใจพร้อมกัน บริกรผลักประตูเปิด ผายมือเชิญให้เหยียนหมิงซุ่นเดินเข้าไป พูดอีกว่า “พี่เฉิงยังมีเรื่องอื่นต้องการสั่งงานอีกหรือไม่ครับ?”
“ลงไปเถอะ ไม่มีธุระของนายแล้ว”
บริกรรีบวิ่งหนีหายไปอย่างรวดเร็วเหมือนนักโทษที่ได้รับนิรโทษกรรม เหยียนหมิงซุ่นหายใจเข้าลึก ๆก้าวเท้าเดินมุ่งเข้าห้องไป
ห้องไม่ได้ใหญ่มาก อย่างมากใหญ่พอ ๆกับห้องรับแขกของคนธรรมดา ของที่จัดเรียงก็ธรรมดาเช่นกัน แตกต่างกับห้องรับแขกที่หรูหรานั้นอย่างสิ้นเชิง เหยียนหมิงซุ่นกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ก็พอจะมองสภาพห้องออกอย่างคร่าว ๆ
ตรงกลางห้องมีโต๊ะรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวซึ่งมีผู้ชายประมาณห้าหรือหกคนนั่งโอบกอดเด็กสาวสวยๆไว้ในอ้อมแขน เด็กสาวเหล่านี้มีความแตกต่างกับผู้หญิงงดงามที่เห็นในลานอื่นก่อนหน้านี้อย่างเห็นได้ชัด
รูปร่างหน้าตาสวยสะอาด สายตาสดใส อีกทั้งมองดูแล้วยังเด็กมาก ใส่เสื้อผ้าแต่งหน้าแต่งตัวก็ไม่โป๊ ไม่ต่างกับสาวมหาวิทยาลัยที่เดินอยู่ตามท้องถนนหรอก
ที่เหยียนหมิงซุ่นไม่รู้ก็คือ เด็กผู้หญิงพวกนี้เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยจริง ๆบางส่วนยังเป็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยชื่อดังอีกต่างหาก!
ผู้ชายพวกนี้กำลังเล่นโป๊กเกอร์อยู่ซึ่งเป็นเกมที่นิยมมากในระดับนานาชาติ เหยียนหมิงซุ่นเคยได้ยินจากลุงหมิงมาก่อน และเขาก็ศึกษาการเล่นอยู่พักหนึ่ง การเล่นนั้นง่ายมาก แต่ก็ง่ายต่อการถูกโกงเช่นกัน แพ้ชนะเป็นไปอย่างรวดเร็ว ภายในคืนเดียวก็สามารถสูญเสียบ้านและของมีค่าได้อย่างง่ายดาย
มองการแต่งตัวของพวกผู้ชายพวกนี้และราศีแล้วคิดว่าน่าจะเล่นกันไม่น้อย มุมห้องยังมีโซฟายาว ตรงนั้นก็มีคนนั่งอยู่เจ็ดแปดคน มีทั้งผู้ชายผู้หญิง อีกทั้งการกระทำของพวกเขาก่อนหน้านี้กำลังทำบางสิ่งที่ไม่ค่อยหน้ามองนัก ตอนนี้ทุกคนกลับหยุดชะงักกันหมด แล้วเพ่งมองเหยียนหมิงซุ่นที่ยืนอยู่หน้าประตูกันอย่างพร้อมเพรียง รอยยิ้มบนใบหน้าดูมีเลศนัย ผู้ชายพวกนี้เพิ่งจะพนันกันไปแล้วหลายเกม กำลังเบื่อ ๆพอดีได้ยินว่ามีคนสวมรอยเป็นลูกน้องของพี่เฉิงจึงต่างพากันให้ความสนใจ จึงให้พี่เฉิงเรียกเจ้าหนุ่มน้อยใจกล้าเข้ามาถามไถ่เพื่อฆ่าเวลาเล่น ๆ
พวกผู้ชายส่วนใหญ่อายุยังน้อยมาก มากที่สุดก็น่าจะประมาณสามสิบกว่าปีได้ ยังมีบางคนที่น่าจะเพิ่งยี่สิบต้น ๆด้วยซ้ำถึงแม้ว่าหน้าตาของพวกเขาจะไม่เหมือนกัน แต่กลับมีบางอย่างที่เหมือนกันมาก เพราะบนตัวพวกเขาต่างก็มีกลิ่นอายความหยิ่งในศักดิ์ศรีอย่างรุนแรงเหมือนกัน สายตาที่มองมาที่เขาคล้ายกับกำลังมองบุคคลที่ต่ำต้อยกว่าก็ไม่ปาน
นี่ทำให้เหยียนหมิงซุ่น ๆรู้สึกอึดอัดเป็นไหน ๆ หลังเหยียดตั้งตรงโดยไม่รู้ตัวเหมือนกับต้นสนก็ไม่ปาน
“หมอนี่อายุไม่มาก แต่ความกล้าไม่เบาเลยนะเนี่ย”
มีผู้ชายคนหนึ่งเปล่งเสียงพูดขึ้น อายุน่าจะประมาณสามสิบกว่าปีได้ หน้าตาธรรมดา หากโยนเขาเข้าไปท่ามกลางผู้คนเพียงครู่เดียวก็หายกลมกลืนไปกับคนอื่นแล้ว แต่สายตาของผู้ชายคนนี้กลับมีอะไรซ่อนเร้นอยู่ ไม่เหมือนคนดีเท่าไรนัก
ผู้ชายที่อายุยี่สิบต้นก็หัวเราะออกมา พูดหยอกล้อว่า “คลื่นทะเลซัดขึ้นมาจากทางด้านหลังเป็นระลอกไม่มีหยุด เด็กเดี๋ยวนี้มันใจเด็ดนะ เห็นเด็กวัยรุ่นพวกนี้ฉันก็รู้สึกว่าตัวเองแก่ไปเลยทีเดียว”
ผู้ชายอีกคนหัวเราะและด่าออกมาว่า “นายอย่ามาพูดจาไร้สาระ ถ้าเอาตามที่นายพูด ฉันไม่ต้องกระโดดลงไปในหลุมแล้วเอาดินกลบฝังหรือไง?”
ทุกคนต่างปล่อยเสียงหัวเราะออกมา เด็กสาวก็หัวเราะไปกับพวกเขาด้วย แม้ว่าพวกเธอจะไม่คิดว่ามันตลก แต่พวกเธอก็จำเป็นต้องหัวเราะไปด้วย
……………………………………….