ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - ตอนที่ 696 สมองพวกเขามีปัญหา + ตอนที่ 697 ซื้อต้นไม้
ตอนที่ 696 สมองพวกเขามีปัญหา
โม่ป๋อเฉียงไม่ฟังคำโน้มน้าวอะไรทั้งสิ้นยืนยันจะตัดต้นไม้ท่าเดียว ที่บ้านยังมีคนแก่และเด็กมากมายรอกินข้าวอยู่ เขาไม่มีเวลาว่างมากพอมาต่อล้อต่อเถียงกับเด็กในเมือง เดินตรงดิ่งไปกระชากสยงมู่มู่กับเจ้าอ้วนน้อยลงมาอย่างง่ายดาย
“หมิงซุ่น พาแขกกลับบ้านไปซะ !”
โม่ป๋อเฉียงโบกมือให้ชาวบ้านที่ยืนอยู่ด้านหลังแบ่งออกเป็นสองคนต่อหนึ่งกลุ่มเตรียมเลื่อยต้นไม้ เจ้าอ้วนน้อยมองอย่างปวดใจ โถมตัวเข้าไปอย่างไม่กลัวตาย ใช้แรงกระชากโม่ป๋อเฉียงพลางน้ำตาคลอเบ้า
“ขอร้องล่ะอย่าตัดเลย พวกมันเจ็บนะ ผมจะเอาเงินค่าขนมให้พวกคุณหมดเลย อย่าตัดเลย!”
เจ้าอ้วนน้อยล้วงกระเป๋าเสื้อทีปรากฏว่าล้วงได้ธนบัตรหน่วยสตางค์ที่ยับยู่ยี่กำหนึ่ง เป็นเงินค่าขนมที่เขาเก็บหอมรอมริบมาตลอดหนึ่งเทอม เงินทองทั้งหมดของเขาที่พกติดตัวน่าจะมีสักสี่ถึงห้าหยวนได้
“เงินของฉันก็ด้วย เจ้าอ้วนหยุดร้องไห้ได้แล้ว น่าอายจะตายชัก!”
สยงมู่มู่เองก็ล้วงเงินที่พกติดตัวของตนออกมาด้วยเช่นกันซึ่งมีมากกว่าเจ้าอ้วนเยอะ คงมีราวๆ สิบกว่าหยวน เขาพับเงินธนบัตรที่มีทั้งหมดยัดใส่มือโม่ป๋อเฉียงแล้วหันไปตบเจ้าอ้วนป๊าบหนึ่งอย่างนึกรังเกียจ
ลูกผู้ชายเสียเลือดห้ามเสียน้ำตา โดยเฉพาะต่อหน้าคนอื่น ร้องไห้ได้น่าเกลียดขนาดนี้ ขายหน้าบรรพบุรุษหมด!
เจ้าอ้วนเช็ดน้ำตาพลางพูดเสียงสะอึกสะอื้นว่า “ฉันรู้สึกแย่เลยทนไม่ได้!”
โม่ป๋อเฉียงมองเงินในมืออย่างทำตัวไม่ถูก นี่มันเรื่องอะไรกัน แต่เด็กที่มาจากเมืองสองคนนี้มีเงินจริงๆ น่าจะมีสักสิบกว่าหยวนได้!
“หมิงซุ่นเธอรีบเอาเงินไปแล้วพาแขกกลับไปด้วย แขกของเธอสมองไม่มีปัญหาแน่นะ? แค่ตัดต้นไม้เอง ทำไมร้องไห้เหมือนพ่อแม่ตายเลย ?”
โม่ป๋อเฉียงยัดเงินคืนให้เหยียนหมิงซุ่นอย่างอาวรณ์ เขาจะรับเงินของเด็กสองคนนี้ไม่ได้ เดี๋ยวจะกลายเป็นขี้ปากชาวบ้าน
“พี่หมิงซุ่น พี่บอกพวกเขาอย่าตัดต้นไม้เลย ถ้าเงินไม่พอจากนี้ไปผมจะเอาเงินค่าขนมของผมให้พวกเขาทั้งหมด ฮือ ผมรู้สึกแย่ สู้ให้พวกเขามาตัดแขนผมดีกว่า!”
น้ำตาเจ้าอ้วนตัวน้อยที่หยุดไหลไปแล้วพรั่งพรูออกมาอีกครั้ง มองเหยียนหมิงซุ่นอย่างเว้าวอน หวังว่าเขาจะช่วยอ้อนวอนให้ไว้ชีวิตต้นไม้ได้
สยงมู่มู่พูดอย่างขุ่นเคือง “ถ้าพวกคุณจะตัดต้นไม้อยู่อีกผมจะโทรหากรมป่าไม้ว่าพวกคุณตัดไม้ทำลายป่า ถึงตอนนั้นพวกคุณต้องโดนปรับแน่ !”
“หุบปาก นี่ต้นไม้ที่คนเขาปลูกกันเองบนภูเขา นายจะโทรหากรมป่าไม้ทำซากอะไร ไสหัวไปอยู่เงียบๆซะ !”
เหยียนหมิงซุ่นตำหนิด้วยใบหน้าเย็นยะเยือก แม้สยงมู่มู่จะไม่พอใจแต่ก็ไม่กล้าท้วงอะไร ได้แต่นั่งยอง ๆ อยู่ข้างเจ้าอ้วนตัวน้อย อย่างไรเสียเขาก็คิดไว้แล้วว่าถ้าคนพวกนี้กล้าตัดต้นไม้อีก เขาจะโทรหากรมป่าไม้
ต้นไม้ของบ้านตัวเองแล้วอย่างไร ทำลายไม่ได้อยู่ดี!
“พี่ป๋อเฉียงอย่าถือสาเด็กเลย พวกเขาไม่รู้เรื่องอะไรก็พูดจาเหลวไหลไปอย่างนั้น”
เหยียนหมิงซุ่นพูดจาไกล่เกลี่ยได้ไม่กี่ประโยค โม่ป๋อเฉียงก็มีสีหน้าดีขึ้น มั่นใจแล้วว่าสยงมู่มู่กับอู่เชาต้องผิดปกติแน่นอน หน้าตาก็ดูดีนะแต่กลับมีปัญหาที่สมอง น่าเสียดายจริง ๆ
เหมยเหมยดึงที่แขนเสื้อเหยียนหมิงซุ่น แล้วพูดด้วยเสียงอันเบาว่า “พี่หมิงซุ่น เราซื้อต้นไม้พวกนี้ไว้เถอะ ได้มั้ย?”
ในเมื่อคนพวกนี้ยืนกรานจะตัดต้นไม้ ถ้าอย่างนั้นก็ซื้อมันไว้ วันหลังทั้งช่วยหาเงินได้แล้วยังช่วยชีวิตต้นไม้เหล่านี้อีกด้วย ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว
เหยียนหมิงซุ่นก้มหน้ายิ้มปลอบประโลมเธอ “วางใจได้ ให้ฉันจัดการเองเถอะ”
เขาล้วงธนบัตรใบใหม่เอี่ยมสองใบยัดใส่มือโม่ป๋อเฉียงแล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงใจ “พี่ป๋อเฉียงพูดไม่ผิด สองคนนั้นไม่ค่อยปกติเท่าไหร่เลยเจอเรื่องกระทบกระเทือนใจมากไม่ได้ วันนี้ต้องขอโทษด้วยจริงๆ เงินยี่สิบหยวนนี้พี่ป๋อเฉียงเอาไปซื้อเหล้าซื้อเนื้อนะ ไว้ค่อยมาตัดต้นไม้วันหลังได้มั้ย?”
เหยียนหมิงซุ่นพูดภาษาถิ่นของที่นี่ซึ่งไม่ต่างจากภาษาเมืองจินเท่าไร แต่เหยียนหมิงซุ่นพูดเร็วกว่าปกติอยู่มากโขทำให้เหมยเหมยกับอู่เชาฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสยงมู่มู่ เขาพูดภาษาเมืองจินไม่ได้ด้วยซ้ำไป
……………………
ตอนที่ 697 ซื้อต้นไม้
ในยุคนี้เงินยี่สิบหยวนนับว่าเป็นเงินที่มีค่ามหาศาล โดยเฉพาะกับหมู่บ้านชนบทที่ล้วนปลูกผักปลูกข้าวทานเอง ปกติใช้ซื้อแค่น้ำมันเครื่องปรุงอาหารต่างๆ ดังนั้นเงินยี่สิบหยวนจึงใช้ได้หลายเดือน
โม่ป๋อเฉียงมองเงินยี่สิบหยวนอย่างลังเล เขาต้องยินดีกับข้อเสนอของเหยียนหมิงซุ่นอย่างเต็มใจอยู่แล้ว แต่แค่รู้สึกเกรงใจ ไม่ว่าอย่างไรก็คนหมู่บ้านเดียวกัน รับเงินก้อนโตมาอย่างนี้มันน่าลำบากใจ !
“ฉันก็ว่าเด็กสองคนนี้แปลกๆ ชิ…เวรกรรมจริงๆ ก็ได้ วันนี้ฉันไม่ตัดต้นไม้แล้ว รอแขกบ้านเธอกลับไปค่อยมาตัดก็ได้ เธอให้เงินฉันสิบหยวนก็พอ ไว้ฉันจะเอาไปเลี้ยงข้าวเลี้ยงเหล้าพวกเขา”
โม่ป๋อเฉียงไม่กล้ารับเงินยี่สิบหยวนจึงหยิบมาเพียงใบเดียว เหยียนหมิงซุ่นกลับยัดเงินทั้งสองใบให้เขา ไม่รู้ว่าเขากระซิบกระซาบอะไรกัน โม่ป๋อเฉียงถึงยอมรับไว้ พาคนทั้งกลุ่มเดินจากไปอย่างมีความสุข ขณะเดินผ่านพวกสยงมู่มู่ยังส่ายศีรษะถอนหายใจไปพลาง คนอื่นๆ ก็มีท่าทีไม่ต่างกัน
สยงมู่มู่เห็นว่าในที่สุดก็รักษาต้นไม้ไว้ได้จึงดีใจยกใหญ่ ขณะเดียวกันก็แปลกใจเช่นกันจึงถามเหยียนหมิงซุ่นว่า “คนพวกนั้นส่ายหัวถอนหายใจใส่เราทำไม? เป็นบ้าหรือไง!”
เหยียนหมิงซุ่นไม่สนใจเขา ตอบกลับด้วยเสียงบางเบาว่า “ลงเขาเถอะ จะไปมั้ย?”
พูดจบก็ยัดเศษเงินในมือใส่อ้อมแขนเจ้าอ้วน คร้านจะสนใจพวกเขาต่อเลยจูงเหมยเหมยเดินกลับไปเอาหน่อไม้และจอบเพื่อเตรียมลงจากเขา
สยงมู่มู่รีบเอาเงินตัวเองคืนจากอ้อมแขนเจ้าอ้วน ตบก้นปุๆ แล้ววิ่งตามไป อู่เชานับเงินของเขาพักหนึ่งก็เปลี่ยนสีหน้าเล็กน้อยแล้วรีบวิ่งตามไป “สยงมู่มู่ นายเอาเงินฉันเกินไปยี่สิบสตางค์ รีบคืนฉันมานะ!”
“เหลวไหล นี่ฉันเป็นถึงอัจฉริยะ จะนับเงินผิดได้ยังไง!”
“ก็มันผิดจริงๆ ฉันมีเงินทั้งหมดห้าหยวนกับอีกสี่สิบสตางค์ ตอนนี้มีแค่ห้าหยวนยี่สิบสตางค์ ถ้าไม่ใช่นายเอาผิดไปมันจะน้อยลงได้ยังไง?”
“ไม่มีทาง ฉันมีเงินทั้งหมดสิบเอ็ดหยวนยี่สิบสตางค์ นายเบิกตาดูให้ดี เอ่อ ติดมือมา ใครใช้ให้เงินของนายยับยู่ยี่ขนาดนั้นล่ะ มันเลยติดมากับมือฉันเอง”
สยบมู่มู่รีบคืนเงินยี่สิบสตางค์ที่เกินมาให้เจ้าอ้วนน้อยไปพลางลูบจมูกปอย ๆ อย่างรู้สึกผิด ไม่กล้าแค่นเสียงใส่อีก
“หึ โง่เองแล้วยังมีหน้ามาโทษเงินของฉัน!”
อู่เชาเก็บเงินห้าหยวนสี่สิบสตางค์ไว้อย่างดีแล้วรีบวิ่งตามหลังพวกเหมยเหมยไปติดๆ วันนี้เขาช่วยชีวิตต้นไม้ไว้หลายสิบต้น อารมณ์ดีชะมัด!
เหมยเหมยพูดขึ้นอีกว่า “พี่หมิงซุ่น เราซื้อต้นพีแคนเมื่อกี้ไว้กันเถอะ โตขนาดนั้นแล้วตัดไปน่าเสียดายออก !”
เธอไม่ได้บอกไปว่าต้นพีแคนจะกลายเป็นต้นเงินต้นทองในอนาคต พูดเรื่องนี้ไปตอนนี้ก็ไม่มีใครเชื่อ อ้อนเหยียนหมิงซุ่นแทนยังมีผลเสียกว่า เหยียนหมิงซุ่นต้องช่วยเธอแน่ๆ
“ได้ ฉันจะลองหาทางดู”
เหยียนหมิงซุ่นไม่ได้ปฏิเสธอย่างที่คิดไว้ แค่ต้นไม้ที่ไร้ค่าเท่านั้นเอง ในเมื่อเหมยเหมยสงสารมันล่ะก็ ถ้าอย่างนั้นก็ใช้เงินซื้อมันเสีย ในอดีตมีแต่บุรุษใช้เงินนับพันชั่งเพื่อแลกกับรอยยิ้มเดียวของหญิงงาม ตอนนี้กับแค่ต้นไม้ไม่กี่ต้น เขาต้องยอมจ่ายเงินนี้ได้
“พี่หมิงซุ่นดีจังเลย!” เหมยเหมยยิ้มอย่างดีใจ
เย็นนี้เหยียนหมิงซุ่นลงมือทำอาหารด้วยตัวเอง ทั้งผัดหน่อไม้ใส่หมู ต้มหน่อไม้ใส่เนื้อชิ้น รสชาติเยี่ยมยอดสดใหม่หาใครเทียมไม่ได้ เหมยเหมยดื่มน้ำซุปไปสองถ้วยติดจนอิ่มแปร้
โม่จื้อหย่วนปรายตามองสยงมู่มู่และอู่เชาอย่างสงสัยอยู่หลายหน อ่ำอึ้งเหมือนอยากจะพูดอะไรสักอย่าง จนสุดท้ายทนไม่ไหวจึงยื่นหน้ามากระซิบถามเหยียนหมิงซุ่นว่า “เพื่อนสองคนของเธอไม่ปกติจริงๆ เหรอ? ทำไมฉันดูแล้วไม่เหมือนเลยล่ะ?”
ในหมู่บ้านชนบทเล็ก ๆ ไม่มีอะไรที่เป็นความลับได้หรอก เพิ่งผ่านไปไม่ถึงครึ่งวันเรื่องที่สยงมู่มู่กับเจ้าอ้วนน้อยสติไม่สมประกอบก็รู้กันไปทั่วทั้งหมู่บ้าน คุณตาโม่เองก็ได้ยินมาเช่นกัน
เหยียนหมิงซุ่นไม่แม้แต่จะเชยตามอง ตอบกลับว่า “หลอกพี่ป๋อเฉียงน่ะ ไม่งั้นคงไม่จบง่ายๆ!”
โม่จื้อหย่วนถึงบางอ้อ พูดต่ออย่างปวดใจ “ทำไมเธอให้เงินป๋อเฉียงตั้งยี่สิบหยวนล่ะ? มีเงินเยอะมากหรือไงกัน !”
เหยียนหมิงซุ่นไม่ได้โต้ตอบบทสนทนานี้ ถามกลับเพียงว่า “ผมอยากซื้อต้นพีแคนของบ้านพี่ป๋อเฉียง พี่ช่วยพูดให้ผมหน่อยสิ ดูว่าต้องทำสัญญาอะไรมั้ย!”
………………….