ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - ตอนที่ 690 วางแผนอนาคตอย่างจริงจัง + ตอนที่ 691 ไม่มีใจให้คิดเรื่องอื่น
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- ตอนที่ 690 วางแผนอนาคตอย่างจริงจัง + ตอนที่ 691 ไม่มีใจให้คิดเรื่องอื่น
ตอนที่ 690 วางแผนอนาคตอย่างจริงจัง
เหยียนหมิงซุ่นส่ายศีรษะปฏิเสธอย่างเด็ดเดี่ยว “อย่าเลย เหมยเหมยอย่าไปพูดเด็ดขาด เชื่อเถอะนะ”
แม้การมีเส้นสายจะประสบความสำเร็จในค่ายทหารได้ง่ายกว่าหน่อย แต่เขาจะไม่ยอมให้ตระกูลจ้าวอุ้มชูเขาไว้หรอก ต่อให้ลำบากสักแค่ไหน เขายอมอาศัยความสามารถของตัวเองก้าวไปถึงจุดหมายจะดีกว่า เช่นนี้แล้วเขาจะได้ขอเด็กสาวอันเป็นที่รักแต่งงานได้อย่างภาคภูมิใจ
ดีเลย ว่าที่ผู้บังคับบัญชาในอนาคตของเราเริ่มวางแผนชีวิตอนาคตอย่างจริงจังแล้ว
เหยียนหมิงซุ่นไม่เคยกังวลว่าตนจะไม่ประสบความสำเร็จ เขามีความมั่นใจว่าอนาคตเขาจะต้องปีนป่ายไปอยู่บนความสูงทัดเทียมเจ้าหญิงตัวน้อยแห่งตระกูลจ้าวได้อย่างเหมาะสม ไม่ให้เหมยเหมยต้องลดตัวมาแต่งงานด้วย
เหมยเหมยไม่พูดอะไรอีก เธอแค่อยากให้คุณลุงสามของตนช่วยดูแลสักหน่อยเพื่อไม่ให้เหยียนหมิงซุ่นลำบากเกินไป ในเมื่อเขาไม่ยอมก็ช่าง เธอรู้ดีว่าเหยียนหมิงซุ่นต้องประสบผลสำเร็จแน่นอน
“พี่หมิงซุ่น พี่จะไปเกณฑ์ทหารเมื่อไหร่เหรอ?” เหมยเหมยเอ่ยถาม
“น่าจะฤดูใบไม้ร่วง ปกติจะมีการเกณฑ์ในเวลานั้น ปีนี้น่าจะไม่ต่างจากเดิม” เหยียนหมิงซุ่นอุ้มเหมยเหมยไปไว้อีกทาง แบบนี้จะได้ไม่โดนลม
เหมยเหมยรู้สึกเศร้าใจอยู่บ้าง การไปเกณฑ์ทหารหมายความว่าเธอต้องแยกจากเหยียนหมิงซุ่น เธอที่ชินกับการพึ่งพาเหยียนหมิงซุ่นมีแต่จะรู้สึกใจหาย
“พี่หมิงซุ่น หรือว่าฉันไปเป็นทหารด้วยดี?” เหมยเหมยคิดได้อีกวิธี ถึงเวลานั้นให้คุณปู่ช่วยหาทางให้เธอไปเป็นทหารที่ค่ายเดียวกับเหยียนหมิงซุ่น แบบนั้นเธอจะได้อยู่ด้วยกันกับเหยียนหมิงซุ่นอีกครั้ง
เหยียนหมิงซุ่นหัวเราะ “เป็นทหารมันลำบากเกินไป เธออยู่บ้านน่ะดีแล้ว ถ้าวันหยุดฉันก็จะกลับมาหาเธอไง”
เขาทำใจให้เหมยเหมยไปตกระกำลำบากที่ค่ายทหารไม่ได้หรอก เหมยเหมยชอบนอนตื่นสาย ทั้งยังไม่ชอบให้ใครมาบังคับ เธอไม่มีทางชินกับชีวิตในค่ายทหารได้
เหมยเหมยก็พอจะรู้ตัวอยู่บ้าง ทันทีที่ได้ฟังกฎระเบียบของค่ายทหารจากปากเหยียนหมิงซุ่นพลันกลัวจนหัวหด พูดเสียงตะกุกตะกักว่า “งั้นปิดเทอมฉันก็จะไปหาพี่เหมือนกัน ฉันจะนั่งเครื่องบินไป ใช้เวลาไม่นาน”
“ได้!”
เหยียนหมิงซุ่นดีดจมูกเธอทีหนึ่งก่อนที่ทั้งคู่จะไม่พูดอะไรอีก นอนชมท้องฟ้าอยู่เงียบ ๆ คอยฟังเสียงหัวใจเต้นของกันและกัน ทุกอย่างดีเสียจนอยากหยุดเวลาไว้ตรงนี้
ลมอ่อนๆ พัดแผ่วเบา เหมยเหมยที่นอนไม่พอจากเมื่อกลางวันเผลอหลับใหลไปในอ้อมแขนเหยียนหมิงซุ่นทั้งอย่างนั้น
“เหมยเหมยหนาวมั้ย?”
เหยียนหมิงซุ่นส่งเสียงถามแต่กลับไม่ได้รับคำตอบ พอก้มหน้ามองถึงเห็นว่าเหมยเหมยหลับปุ๋ยเหมือนหมูตัวน้อยไปเสียแล้ว นอนยิ้มหวานเสียด้วย ไม่รู้ว่ากำลังฝันหวานอะไรอยู่
เขายิ้มพลางส่ายหน้าไปมาแล้วดึงมือกลับเบา ๆ เริ่มพายเรือเข้าฝั่ง บนเรืออากาศเย็นเกินไป หากนอนค้างที่นี่สักคืนต้องเป็นหวัดแน่ๆ ต้องรีบกลับบ้าน
ตอนเกือบถึงบ้านโม่เหมยเหมยก็ตื่นพอดี เห็นว่าตัวเองซบอยู่บนหลังเหยียนหมิงซุ่น แผ่นหลังที่กว้างและมั่นคงให้ความรู้สึกอุ่นใจ เธอไม่อยากลงมาจึงหลับตาแกล้งหลับต่อ เหยียนหมิงซุ่นหลุดขำแต่ไม่ได้ว่าอะไรเธอ ยังคงแบกเธอเดินต่ออย่างมั่นคง
พวกสยงมู่มู่กลับถึงบ้านก่อนนานแล้ว สยงมู่มู่เห็นเหยียนหมิงซุ่นก็พลันนึกโมโหคิดอยากสะสางคดีกับเขาสักทีแต่เหยียนหมิงซุ่นแค่ปรายตามองด้วยสายตาเรียบนิ่งแวบหนึ่ง สยงมู่มู่ก็กลัวจนหัวหด ไม่กล้าส่งเสียงใดๆ อีก
เหยียนหมิงซุ่นวางเหมยเหมยลงบนเตียง นี่เป็นห้องที่เขาจัดเก็บด้วยตัวเอง แถมชุดเครื่องนอนยังเป็นของใหม่ทั้งหมด กลางวันเพิ่งเอาไปตากแดดมาจึงยังมีกลิ่นหอมแดดติดอยู่
“นอนเถอะ พรุ่งนี้ฉันจะพาเธอไปปีนเขา!”
เหยียนหมิงซุ่นจูบหน้าผากเหมยเหมยแล้วจัดแจงห่มผ้าให้เธอก่อนจะเปิดประตูออกไป เหมยเหมยกลับนอนไม่หลับมัวแต่คิดถึงจูบเร่าร้อนก่อนหน้านี้ รู้สึกอายจนเธอรีบมุดหน้าเข้ากองผ้าห่ม พยายามไม่นึกถึงแต่ยิ่งห้ามก็ยิ่งนึกถึงอยู่เรื่อย มันควบคุมไม่ได้เลยสักนิด
…………….
ตอนที่ 691 ไม่มีใจให้คิดเรื่องอื่น
สยงมู่มู่กับอู่เชาขึ้นไปนอนชั้นบน แต่ผู้ใหญ่ตระกูลโม่กลับรออยู่ที่ห้องนั่งเล่น พวกเขาอยากคุยกับเหยียนหมิงซุ่นสักหน่อย
“หมิงซุ่น หลานคิดดีแล้วหรือว่าจะไปเป็นทหาร?” คุณตาโม่ถาม
“ครับ” เหยียนหมิงซุ่นพยักหน้ารับก่อนจะหาที่นั่งลง
โม่จื้อหย่วนกล่าวปนเสียดายว่า “หมิงซุ่นคะแนนสอบดีขนาดนี้ ไม่มีปัญหากับการสอบเข้ามหาวิทยาลัยแน่ๆ ทำไมถึงอยากเป็นทหารล่ะ? เป็นทหารลำบากขนาดไหนรู้ไหม !”
คนอื่นก็พูดเป็นเสียงเดียวกันล้วนไม่เห็นด้วยกับเหยียนหมิงซุ่นที่จะไปเป็นทหาร คุณน้าชายใหญ่เป็นชายชนบทที่ซื่อสัตย์สุจริตแถมพูดน้อยยังอดพูดไม่ได้ว่า “ตอนนี้ฐานะที่บ้านดีขึ้นไม่น้อย พอจะส่งเสียให้เธอไปเรียนมหาวิทยาลัยได้ จบจากมหาวิทยาลัยก็จะได้งานทำ พอมีงานทำชีวิตนี้จะได้ไม่ต้องกังวลอะไรอีก หมิงซุ่นเธอลองคิดดูดี ๆ อีกทีนะ ถึงเวลานั้นแล้วอย่าเสียใจทีหลังล่ะ!”
โม่เหวินต้งรู้พื้นฐานครอบครัวเหยียนหมิงซุ่นดี ต่อให้ไม่เรียนมหาวิทยาลัยตลอดชีวิตนี้ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องชีวิตความเป็นอยู่
“พ่อ พี่ใหญ่ หมิงซุ่นเขามีความคิดเป็นของตัวเอง พวกพ่ออย่ายุ่งเลย” โม่เหวินต้งพูดเกลี้ยกล่อม
คุณยายโม่ตบหัวเขาไปทีพลางเอ่ยเสียงตำหนิว่า “จะไม่ยุ่งได้ยังไง? หมิงซุ่นจะฉลาดขนาดไหนก็เป็นแค่เด็ก บางเรื่องที่ยังคิดไม่รอบคอบเราก็ต้องคอยตักเตือนเขา หมิงซุ่น เชื่อฟังที่คุณตากับคุณน้าพูดนะ เราไปเรียนมหาวิทยาลัย จบมาก็ไปนั่งทำงานในห้องทำงาน ไม่ต้องมาตากฝนโดนลมโดนแดด สบายกว่าทหารเยอะเลย”
เหยียนหมิงซุ่นรู้ว่าคนตระกูลโม่เป็นห่วงเขาจริงๆ จึงยิ้มปลอบใจแล้วตอบกลับไปว่า “ผมไม่ได้เข้าสอบเลือกมหาวิทยาลัย ไปเรียนไม่ได้แล้ว ต้องไปเป็นทหารอย่างเดียว”
คนตระกูลโม่อึ้งกับคำตอบ ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน คุณตาโม่ร้อนใจ “ทำไมหลานทำอะไรโง่ ๆ แบบนี้ ทำไมไม่เข้าสอบเลือกมหาวิทยาลัย นี่หลานกำลังตัดอนาคตตัวเองอยู่นะ!”
เหยียนหมิงซุ่นยิ้มแต่ไม่ตอบ เขาต้องการทุบหม้อข้าวให้จมเรือ ไปตายเอาดาบหน้าไม่เหลือทางเลือกให้ย้อนกลับได้ และไม่เหลือทางเลือกให้เหยียนโฮ่วเต๋อเช่นกัน
“พวกคุณตาอย่าเป็นห่วงผมเลย ผมอยากเป็นทหารจริง ๆ ผมไม่คิดว่าชีวิตในค่ายทหารจะลำบาก ถึงจะลำบาก ผมก็เต็มใจ” เหยียนหมิงซุ่นตอบ
คุณตาโม่ถอนหายใจ เขารู้นิสัยผู้เป็นหลานคนนี้ดี เรื่องที่ตัดสินใจไปแล้วต่อให้เอาช้างมารั้งก็ฉุดไม่กลับ
“ในเมื่อหลานคิดดีแล้วงั้นก็ทำตามความคิดของหลานเถอะ ตาจะไม่ถ่วงรั้นหลานไว้”
เหยียนหมิงซุ่นฉีกยิ้มกว้างกว่าเดิม แม้คนตระกูลโม่จะคัดค้านหรือสนับสนุนก็ไม่ส่งผลต่อการตัดสินใจของเขา แต่การได้รับความเข้าใจพร้อมสนับสนุน เขาย่อมต้องดีใจกว่าอยู่แล้ว
คุณน้าสะใภ้ใหญ่ถามด้วยความสงสัย “หมิงซุ่น คนที่มากับเธอด้วยคือลูกสาวของนายกเทศมนตรีจริงเหรอ?”
เหยียนหมิงซุ่นพยักหน้ารับ “ครับ พ่อของเหมยเหมยคือรองนายกเทศมนตรีของเมืองจิน”
เขาไม่ได้บอกไปว่าเป็นตระกูลจ้าว แค่ตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีก็ทำคนตระกูลโม่ตะลึงพอแล้ว สูดหายใจเข้าอย่างพร้อมเพรียง
“ลูกสาวนายกเทศมนตรีอยู่บ้านเราแหนะ โอ้ กับข้าวคืนนี้น้อยเกินไปจริงๆ พรุ่งนี้ฉันจะต้องทำของอร่อยๆ เยอะกว่านี้” คุณน้าสะใภ้ใหญ่พูดด้วยความตื่นเต้น
คุณตาโม่กลับกังวลถึงเรื่องอื่น เขาอาบน้ำร้อนมาก่อนแค่มองปราดเดียวก็รู้ถึงความสัมพันธ์ของหลานชายกับลูกสาวนายกเทศมนตรี ศักดินาที่ไม่คู่ควรกัน เขาเป็นห่วงว่าหลานชายจะเสียใจเอาได้!
“หมิงซุ่น หลานอายุยังน้อย เรื่องชีวิตคู่รออีกหน่อยค่อยคิดนะ เราไม่ต้องรีบร้อนไป !” คุณตาโม่พูดโน้มน้าว
“ผมไม่รีบหรอกครับ ยังไม่ประสบความสำเร็จก็จะยังไม่คิดเรื่องพวกนี้”
คำตอบของเหยียนหมิงซุ่นทำให้คุณตาโม่สบายใจขึ้น หลานชายเป็นคนรักษาคำพูด หากเขาบอกว่าไม่คิดก็คือไม่คิด ไม่แน่หลายปีผ่านไปหลานชายอาจเปลี่ยนใจไปชอบหญิงอื่น!
เหยียนหมิงซุ่นกลับคิดในใจว่าอย่างน้อยต้องรออีกหกปีเหมยเหมยถึงจะแต่งงานได้ หากหกปีนี้เขายังไม่ประสบความสำเร็จ แล้วเขาจะมีสิทธิ์อะไรไปขอเจ้าหญิงตัวน้อยของตระกูลจ้าวแต่งงานได้เล่า ?
ดังนั้นในหกปีนี้เขาต้องมุ่งมั่นพยายามโดยไม่คิดถึงเรื่องอื่น แน่นอนว่าไม่มีใจให้คิดถึงเรื่องอื่นแล้วด้วย
…………………..