ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - ตอนที่ 1894 ความยากจนจำกัดความฝัน + ตอนที่ 1895 อย่าทีละหมื่น ปัดเศษขึ้นมาเลย
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- ตอนที่ 1894 ความยากจนจำกัดความฝัน + ตอนที่ 1895 อย่าทีละหมื่น ปัดเศษขึ้นมาเลย
ตอนที่ 1894 ความยากจนจำกัดความฝัน
ความอิจฉาในใจของอู่เยวี่ยก็เหมือนกับลาวาที่กำลังเผาอวัยวะภายในทั้งหมดของเธอจนมอดไหม้ เสียงซุบซิบของผู้คนรอบข้างลอยเข้าหูเธอไม่หยุด พอพวกเขาต่างพากันอิจฉาจ้าวเหมยนั่นจึงยิ่งทิ่มแทงใจเธอ
พิธีกรงานเลี้ยงการกุศลขึ้นบนเวที ประกาศเริ่มการประมูลที่เปี่ยมไปด้วยอารมณ์ฮึกเหิม แขกในงานด้านล่างเวทีรู้สึกคึกคักพลางมองดูของประมูลบนเวทีด้วยสายตาเป็นประกาย
สินค้าประมูลส่วนใหญ่เป็นเครื่องประดับเก่า ๆหรือภาพวาดพู่กันเป็นต้น แน่นอนว่ามันไม่ใช่ของธรรมดา
แต่ก็ไม่ใช่ของหายากอะไร ผู้ที่มาร่วมงานต่างก็ไม่ขาดแคลนเงินทอง เพียงให้ความสำคัญแค่เรื่องชื่อเสียงเท่านั้นเอง
“ของประมูลชิ้นแรกคือสร้อยข้อมือคาร์เทียร์ที่คุณนายเฮ่อเหลียนบริจาคมา ราคาเริ่มต้นคือหนึ่งพันหยวน เพิ่มอีกห้าร้อย…”
ในฐานะที่อู่เยวี่ยเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยง ของชิ้นแรกที่ประมูลเป็นของเธอนั้นถือเป็นเรื่องปกติ ผู้ชมด้านล่างเวทีรีบช่วยกันเสนอราคา เอ่ยตัดราคากันเสียงดังเซ็งแซ่ ไม่ถึงหนึ่งนาทีสร้อยข้อมือนี้ก็ถูกเพิ่มราคาเป็นหนึ่งแสน และยังไม่หยุดเพียงเท่านั้นด้วย
แม้ว่าคนเหล่านี้จะเหยียดหยามอู่เยวี่ยแต่ก็ต้องให้เกียรติเธอบ้าง ถึงอย่างไรเธอก็คือภรรยาของเฮ่อเหลียนเช่อ อีกทั้งในท้องยังมีลูกรักสุดหวงแหนอยู่ด้วย ขอแค่ไม่ทำเรื่องผิดใหญ่โตเกินไป คุณนายเฮ่อเหลียนก็จะนั่งบนบัลลังก์นี้ได้อย่างมั่นคงแน่นอน
แน่นอนว่าต้องประจบสอพลอไว้ด้วย!
“สองแสนห้าหมื่น…มีใครให้ราคามากกว่านี้ไหมครับ สองแสนห้าหมื่นครั้งที่หนึ่ง สองแสนครั้งที่สอง…สองแสนห้าหมื่นครั้งที่…” เสียงตื่นเต้นของผู้ประมูลดังก้องในห้องโถง และก่อนที่เขาจะฟาดค้อน——
“สามแสน!”
เหมยเหมยชูป้าย เสียงนุ่มนวลถึงแม้ว่าจะไม่ดังนักแต่ตัวเลขที่เอ่ยขึ้นมานั้นน่ากลัวมากทีเดียว ทันใดนั้นห้องโถงก็เงียบราวกับป่าช้าและทุกคนต่างหันมามองเธอด้วยความประหลาดใจ
ไม่ใช่ว่าเมื่อครู่เธอเพิ่งพองขนสู้กับคุณนายเฮ่อเหลียนหยั่งกับไก่ชนหรอกเหรอ?
ตอนนี้ทำไมถึงได้ประมูลสร้อยข้อมือของคุณนายเฮ่อเหลียนในราคาสูงขนาดนั้นล่ะ?
หรือว่าสองคนนี้จะเป็นตำนานคู่รักคู่แค้นที่เล่าขานต่อกันมา?
อู่เยวี่ยก็ตกใจเช่นกัน สามแสนไม่ใช่จำนวนเงินน้อย ๆ สร้อยข้อมือของเธอไม่ได้แพงที่สุดในคาร์เทียร์ รุ่นใหม่ก็มีราคาเพียงหมื่นกว่า ๆเท่านั้นเอง นี่เป็นของขวัญวันเกิดจากคนรวยที่เธอพัวพันด้วยตอนเรียนอยู่อเมริกา
เหมยเหมยหันไปมองอู่เยวี่ยพลางพยักหน้ายิ้มตาหยี ด้วยเหตุนี้จึงยิ่งทำให้อู่เยวี่ยสงสัยว่าเหมยเหมยจะทำบ้าอะไรอีก!
บริกรลงมาพร้อมถาดและสร้อยข้อมือที่เพิ่งประมูลเมื่อครู่ ตอนนี้สร้อยข้อมือนี้เป็นของเธอเรียบร้อยแล้ว
แต่เหมยเหมยกลับเหลือบมองอย่างเย็นชา ไม่แตะต้องมันด้วยซ้ำ แถมยังพูดอย่างรังเกียจว่า “สกปรก…”
ทุกคนต่างสีหน้าเปลี่ยนยกใหญ่ นี่หมายความว่าอย่างไร?
เหยียนหมิงซุ่นมองเธออย่างขบขัน “รังเกียจเธอก็ยังซื้อมาอีกเนี่ยนะ?”
“ซื้อมาทิ้งไง จะได้ไม่แปดเปื้อนสายตาของคนอื่น” เหมยเหมยตอบกลับเสียงกร้าว พูดกับบริกรที่ทำหน้าประหลาดใจว่า “ขอโทษนะแต่รบกวนโยนสร้อยข้อมือนี้ลงหน้าต่างให้ฉันที โยนทิ้งตอนนี้เลย ระวังอย่าให้ไปโดนใครเข้าล่ะ!”
บริกรค่อนข้างฉลาด ถึงแม้ว่าจะปวดใจแต่เขารู้ดีว่าคนที่นั่งในที่แห่งนี้ล้วนเป็นคนใหญ่คนโตที่เขาไม่สามารถล่วงเกินได้จึงพยักหน้าด้วยความนอบน้อม “คุณหนูจ้าววางใจได้ ด้านล่างโรงแรมเป็นสระว่ายน้ำ ไม่มีใครเดินผ่านไปผ่านมาครับ”
เขาเดินไปที่หน้าต่างอย่างไม่ลังเล เปิดหน้าต่างแล้วหยิบสร้อยข้อมือโยนทิ้งไปแต่ไม่มีเสียงใดดังขึ้นมาเลย ตอนนี้ถาดว่างเปล่าเรียบร้อยแล้ว
ทุกคนเหมือนกำลังดูการแสดงจ้องแน่นิ่งไม่ละสายตาไปไหนเลย ไม่เข้าใจเหมยเหมยว่ากินยาผิดสำแดงอะไรเข้าไป?
สามแสนเลยนะ!
โยนทิ้งไปอย่างนี้เลยเหรอ?
คุณชายหมิงเงินเยอะจนไม่มีที่ให้ใช้แล้วหรือไง?
เหมยเหมยพอใจกับการกระทำของบริกรเป็นอย่างมาก จากนั้นก็หันไปโบกมือให้กับผู้ประมูลว่า “ต่อเลยสิคะ ยังมีของมากมายรอประมูลอีกนะ!”
ตอนนี่เองผู้ประมูลถึงได้สติกลับมาและดำเนินการประมูลต่อไป แต่ในใจกลับสบถไม่หยุด
ความยากจนจำกัดจินตนาการของเขา!
เขาไม่มีอิทธิพลพอจะไปตำหนิด้วยซ้ำ…
……………………………………………………………….
ตอนที่ 1895 อย่าทีละหมื่น ปัดเศษขึ้นมาเลย
อู่เยวี่ยโกรธจนหน้าเขียว ท้องน้อยสั่นกระเพื่อมขึ้นลงถี่ เดิมทีเธออยากจะถามจ้าวเหมย แต่อาการปวดท้องน้อยทำให้เธอไม่กล้าโมโหอีกต่อไป หากเกิดอะไรขึ้นกับเด็กในท้องขึ้นมาหนิงเฉินเซวียนต้องฆ่าเธอแน่นอน
แต่อารมณ์โมโหนี้ช่างสะกดลงยากจริง ๆ!
นังแพศยาจ้าวเหมยทำให้เธออับอายต่อหน้าผู้คนมากมาย หากเธอไม่สู้กลับบ้างคนอื่นจะคิดว่าเธอกลัวนังจ้าวเหมยเอาได้!
เหยียนหมิงซุ่นมองเหมยเหมยที่ดูท่าลำพองใจเหมือนฉิวฉิวที่แอบขโมยกินช็อกโกแลตยังไงอย่างนั้น หางเกือบจะชี้ขึ้นฟ้าแล้ว อดไม่ได้ที่จะหยิกหน้าเธออีกครั้ง “ตอนนี้มีความสุขแล้วหรือยัง?”
“อืม มีความสุขมาก ถึงอย่างไรพี่ก็เงินเยอะเกินไป ฉันช่วยพี่ใช้หน่อยแล้วกันเนอะ!” เหมยเหมยพูดเสียงน่ารักออดอ้อนพร้อมรอยยิ้มสดใส
ทุกคนต่างมองมาทางนี้เป็นตาเดียว เดิมทียังคิดว่าเหยียนหมิงซุ่นจะด่าว่าคุณหนูจ้าวเป็นผู้หญิงล้างผลาญครอบครัวเสียอีก แต่ที่ไหนได้คุณชายหมิงกลับทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ช่างสะเทือนใจทุกคนเหลือเกิน
ผู้ชายปวดใจ ผู้หญิงหวั่นไหวใจเต้น!
“ต่อไปนี้เป็นต่างหูเพชรที่คุณจ้าวเหมยบริจาค ราคาเริ่มต้นที่หมื่นหยวน เพิ่มขึ้นหนึ่งพัน…”
สิ่งที่เหมยเหมยบริจาคแน่นอนว่าไม่ใช่ของราคาถูก นี่เป็นของขอบคุณของโจวจื่อหัวที่มอบให้เธอและเหยียนหมิงซุ่นที่มีบุญคุณช่วยชีวิตพวกเขาเอาไว้ ราคาขายได้อยู่หลายแสน และเหมยเหมยก็ไม่เคยใส่เลยสักครั้งเพราะเธอไม่ชอบที่มันหนักเกินไป ครั้งนี้จึงนำออกมาประมูล
ทุกคนที่นั่งอยู่ในงานนี้ล้วนเป็นพวกมีความรู้ แค่มองปราดเดียวก็รู้ว่าต่างหูคู่นี้เป็นของดีและแพงกว่าสร้อยข้อมือคาร์เทียร์ชิ้นก่อนของอู่เยวี่ยมาก บรรยากาศในห้องโถงคึกคักอยู่พักหนึ่ง ในไม่ช้าต่างหูก็ราคาพุ่งทะลุถึงสามแสน ผู้ประมูลก็คืออู่เยวี่ยนั้นเอง
เหมยเหมยมองแวบเดียวก็รู้ความคิดของนังสารเลวคนนี้แล้ว ไม่มีอะไรมากไปกว่าอยากแก้แค้น หลังจากประมูลได้ก็คงจะโยนมันทิ้งลงหน้าต่างเหมือนที่เธอทำเพื่อสร้างความอับอายให้กับเธอ
เธอเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าท้ายที่สุดแล้วอู่เยวี่ยมีเงินมากมายขนาดไหน!
“สามแสนห้าหมื่น…” เหมยเหมยยกป้ายประมูล แค่ครู่เดียวก็เพิ่มขึ้นห้าหมื่น พลางขยิบตาให้อู่เยวี่ยอย่างยียวน
อู่เยวี่ยกัดฟันกรอด ท้องน้อยเริ่มขยายตัวขึ้น เธอหายใจเข้าลึก ๆทำใจให้สงบลงพร้อมชูป้ายประมูล “สามแสนหกหมื่น”
ต้องสู้ให้ถึงที่สุด ความอัปยศที่นังจ้าวเหมยทำไว้เธอต้องเอาคืนให้ได้ ความโมโหนี้เธอปล่อยผ่านไปไม่ได้จริง ๆ
“สี่แสน!”
เหมยเหมยพูดสี่แสนโดยไม่ลังเล เหยียนหมิงซุ่นสีหน้าเรียบนิ่ง เขาก้มมองเหมยเหมยที่อยู่ข้าง ๆเป็นครั้งคราว หางตาแฝงรอยยิ้มดูเหมือนกำลังหัวเราะกับความซุกซนของเธออยู่
“พี่…พี่คอยดูนะว่าฉันจะทำยังไงให้เสียทั้งหน้าเสียทั้งทรัพย์…” เหมยเหมยขยิบตาให้อย่างทะเล้น หันไปพูดกับอู่เยวี่ยว่า “คุณนายเฮ่อเหลียน เธอกล้าได้กล้าเสียหน่อยสิเพิ่มทีละหมื่นแบบนี้ช่างไม่สนุกเอาเสียเลย เรียบแบบฉันนี่ พวกเรามาสู้กันแบบเต็มที่หน่อยสิ!”
ผู้ชมต่างสูดลมหายใจเข้าลึก ปิดป้ายในมือกันหมดโดยไม่ได้นัดหมาย
ผู้ใหญ่เขาจะเล่นกัน เด็ก ๆอย่างพวกเขาดูการแสดงอย่างเงียบ ๆจะดีกว่า
ภาพตรงหน้าของอู่เยวี่ยมืดลง เธอแทบจะกระอักเลือดออกมา ฝ่ามือของเธอชื้นไปด้วยเหงื่อ
เพิ่มทีละหมื่นเธอก็เหนื่อยแล้ว คาดไม่ถึงว่านังแพศยาจ้าวเหมยจะให้เธอสู้ครั้งละห้าหมื่นอีก?
ถึงแม้ว่าเธอจะแต่งงานกับเฮ่อเหลียนเช่อแล้วแต่อำนาจทางการเงินของเฮ่อเหลียนเช่อยังอยู่ในมือของเหมยซูหาน เธอไม่ได้สักแดงเดียวด้วยซ้ำ ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเมื่อก่อนเธอขูดรีดจากพ่อบุญธรรมมาไม่น้อย ไหนเลยจะมีความมั่นใจมาสู้กับจ้าวเหมยได้?
แต่เงินพวกนั้นเป็นเงินในอนาคตเธอจะใช้หมดไม่ได้ ไม่อย่างนั้นหากวันหลังเกิดอะไรขึ้นเธอก็คงหมดทางหนีทีไล่!
เหมยเหมยเหลือบมอง จงใจพูดว่า “โอ๊ย คงไม่ใช่ว่าคุณชายเช่อไม่ได้ให้เงินคุณใช้หรอกนะ? งั้นก็ช่างเถอะ พวกเราเพิ่มทีละหมื่นก็ได้ ถึงแม้ว่าจะน่ารำคาญไปสักหน่อยแต่ก็เพราะว่าเธอมีความลำบากอยู่นี่เนอะ!
…………………………………………………….