ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - ตอนที่ 1720 ลืมกำพืด + ตอนที่ 1721 โอหยางซานซาน
ตอนที่ 1720 ลืมกำพืด
เซี่ยเข่ออิ๋งเป็นคนกระฉับกระเฉงว่องไวใช้เวลาไม่ถึงสองชั่วโมงก็ให้หลินฮั่นเหวินส่งเทปอัดรายการมาให้ดู ซึ่งเอามาให้แค่สามตอนที่ถ่ายทอดในช่วงนี้จึงมีเทปทั้งหมดสามแผ่น
หลินฮั่นเหวินอยากช่วยภรรยาเลยกล่าวว่า “เหมยเหมยต้องดูนะ คนพวกนั้นมันน่าโมโหมากจริง ๆ แต่สิ่งที่ทำให้ฉันรู้สึกเศร้าใจกว่าคือมีวัยรุ่นมากมายที่ปกป้องพวกเขา ฉันความรู้ตื้นเขินจริง ๆไม่อย่างนั้นฉันยังอยากไปสั่งสอนคนพวกนั้นด้วยตัวเองเลย!”
ชายผู้นอบน้อมสง่าคนนี้ดูท่าทางจะโกรธเข้าจริง ๆจึงทำหน้าขึงขังและแดงก่ำด้วยความโมโห
“คุณอาเหวินสบายใจได้ อีกเดี๋ยวจะดูเลยค่ะ” เหมยเหมยก็ชักจะแปลกใจว่าคนพวกนี้พูดอะไรไปกันแน่?
เดิมทีแผนของวันนี้ว่าจะไปเที่ยวโอเชี่ยนปาร์คแต่เหมยเหมยได้ล้มเลิกแผนการไปแล้วเลือกจะดูเทปอัดรายการอยู่บ้าน เซียวเซ่อที่หวังอยากให้เป็นเช่นนั้นอยู่แล้วพลางถือไอศกรีมนั่งดูเป็นเพื่อนเธอรวมถึงพวกสยงมู่มู่ที่กลับมาได้ทันเวลาพอดี
รายการมีชื่อว่า ‘ตั้งใจเล่าเรียน’ ฟังดูเหมือนเป็นรายการเพื่อการศึกษาแต่ความจริงเป็นรายการวาไรตี้เพื่อความบันเทิง ครูประจำชั้นก็คือพิธีกรคิวทองคนนั้น นอกจากนี้ยังมีนักเรียนนั่งอยู่หลายคนซึ่งก็คือแขกรับเชิญที่ล้วนเป็นวัยรุ่นที่เพิ่งอายุยี่สิบต้น ๆ
วัยรุ่นกลุ่มนี้พื้นเพเป็นชาวฮ่องกงแต่ก็มีชาวต่างชาติหลายคนที่มีประวัติการศึกษาสูงลิ่ว คนที่ด้อยสุดต่างเป็นนักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ระดับปริญญาตรี นอกจากนี้ยังมีถึงขั้นปริญญาเอกบ้างประปราย แต่นี่เป็นข้อมูลจากทางรายการเอง จริงหรือเท็จก็ไม่มีใครพิสูจน์ได้
เนื้อหาเรียนหลากหลายวิชาไล่ตั้งแต่ประวัติศาสตร์ด้านวัฒนธรรมของจีนและต่างชาติตั้งแต่สมัยโบราณยันปัจจุบันรวมถึงเครื่องดนตรี การเต้นรำและดนตรีต่าง ๆล้วนถูกพาดพิงถึงทุกศาสตร์ทุกแขนง
เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องรอง เหมยเหมยเพิ่งดูไปครึ่งเดียวก็เริ่มมีน้ำโห มิน่าเซี่ยเข่ออิ่งกับหลินฮั่นเหวินถึงโกรธขนาดนี้ แขกรับเชิญรวมถึงพิธีกรรายการเป็นคนต่อต้านชาวจีนกันทั้งสิ้น ไม่ว่าจะพูดอะไรก็สามารถโยงเข้าฮวาเซี่ยได้ทั้งนั้น ก่อนจะตามมาด้วยถ้อยคำวาจาเชิงดูถูกเหยียดหยาม
สิ่งที่น่าโมโหที่สุดไม่พ้นผู้ชมในห้องส่งที่เป็นพวกไม่มีสมองเหมือนกันอย่างสิ้นเชิง ทุกครั้งที่พวกเขากล่าวว่าจีนแผ่นดินใหญ่เทียบตะวันตกไม่ได้ผู้ชมไร้สมองกลุ่มนี้ก็จะปรบมือเฮลั่นอย่างขันแข็ง!
ราวกับชื่นชอบความรู้สึกที่ได้เหยียบย่ำประเทศต้นกำเนิดไว้ใต้เท้าตนเองเสียเหลือเกิน!
มันน่าซัดให้น่วมจริง ๆ!
“พูดเหลวไหลทั้งเพ…ประวัติศาสตร์ของอเมริกาเทียบได้แค่น้ำซุปหนึ่งหม้อของชาติเราเท่านั้นแหละ พวกเขามีวัฒนธรรมบ้าอะไรกันบ้างล่ะ ลืมตาพูดจาเพ้อเจ้อกันทั้งนั้น!” สยงมู่มู่โกรธจนกระเด้งตัวขึ้นมา
หากจะว่าคุณปู่จ้าวไม่ใช่คนดีเด่อะไรแต่เรื่องรักชาตินั้นเป็นเรื่องที่ไร้ซึ่งข้อกังขาใดเลย ฉะนั้นสยงมู่มู่ที่เติบโตมาท่ามกลางตระกูลจ้าวตั้งแต่เด็กย่อมได้รับอิทธิพลมาด้วย ทนฟังคนกลุ่มนี้พูดจาห้าวหาญไม่ได้
“น่าขำจริง ๆ เครื่องดนตรีของชาวจีนสู้เครื่องดนตรีชาวตะวันตกไม่ได้? กบในกะลา มองการณ์ตื้นเขิน พวกหมูโง่เง่า…”
อู่เชาแค่นหัวเราะ เขารำคาญเครื่องดนตรีตะวันตกที่สุดเลย แต่สิ่งที่ชื่นชอบมากที่สุดกลับเป็นดนตรีพื้นบ้าน
เซียวเซ่อที่ได้ฟังก็โมโหไม่แพ้กันพลางแค่นเสียงทีหนึ่ง “เอาหน้าที่ไหนมาบอกว่าภาพวาดสีน้ำมันเป็นราชาในบรรดาภาพวาด? แค่ดูก็รู้เลยว่าไม่เข้าใจเรื่องศิลปะเลย คนแบบนี้ยังเป็นถึงดอกเตอร์? จบมาจากมหาวิทยาลัยเส็งเคร็งที่ไหนเนี่ย?”
สยงมู่มู่ฟาดต้นขาอู่เชาหนึ่งทีแล้วคำรามอย่างโกรธเคือง “บอกน้าเหวินว่ารายการนี้ฉันเข้าร่วมแน่!”
อู่เชานวดคลึงต้นขาไปมาอย่างน้อยใจก่อนจะขยับหนีไปอีกฝั่งหลายก้าว ฟาดต้นขาเขาทุกครั้งเลย ทำไมไม่ฟาดขาตัวเองล่ะ?
เขาไม่เจ็บหรือไงกัน?
เซียวเซ่อกลอกตาใส่เขาแวบหนึ่งแล้วพูดเสียงเย็นชา “นายไปแล้วจะทำอะไรได้? แข่งสวยกับพวกเขาเหรอ?”
สยงมู่มู่กระอักเลือด…
“ทอมบอย เธอคิดว่าฉันกลัวเธอจริง ๆงั้นเหรอ? เพราะฉันเป็นสุภาพบุรุษเลยยอมให้เธอหรอก เธออย่าได้คืบจะเอาศอกนักเลย!”
“ฉันยังต้องขอให้นายยอมด้วยเหรอ? นายปล่อยมาเต็มที่เลย แค่นิ้วเดียวของฉันก็สั่งสอนนายได้แล้ว!” เซียวเซ่อกระดิกนิ้วก้อยใส่เขาพร้อมทำหน้าดูถูกดูแคลน
“พวกเธอจะหยอกล้อหยอกเอินอะไรก็เข้าห้องไป อย่ามากวนฉันคุยโทรศัพท์ข้างนอก!”
เหมยเหมยตบรางวัลเหวี่ยงขาคนละข้างเตะเจ้าสองคนนี้ไปคนละฝั่ง กดโทรหาเซี่ยเข่ออิ๋งเพื่อบอกจุดประสงค์ของพวกเขาไปว่าต้องการจะร่วมรายการด้วย
………………………….
ตอนที่ 1721 โอหยางซานซาน
“ฉันรู้อยู่แล้วว่าเหมยเหมยเธอจะต้องตอบตกลง ฉันจะไปบอกทางช่องให้เดี๋ยวนี้” เซี่ยเข่ออิ๋งดีใจอย่างมาก
“ไม่ใช่ฉันคนเดียว แต่พวกเราทั้งสี่คนจะขอร่วมรายการด้วยทั้งหมดค่ะ” เหมยเหมยกล่าว
ลำพังตัวเธอคนเดียวไม่มีความสามารถจะไปสั่งสอนคนพวกนั้นได้อยู่แล้ว พอมีสี่คนเป็นกลุ่มเป็นก้อนก็พอจะมั่นใจขึ้นมาบ้าง
เซี่ยเข่ออิ๋งค่อนข้างแปลกใจ สยงมู่มู่กับอู่เชาต่างเป็นวัยรุ่นที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่วัยเยาว์อีกทั้งยังมีชื่อเสียงไม่น้อย เดิมทีเธอก็ตัดสินใจจะขอยื่นเสนอทางช่องโทรทัศน์อยู่แล้วแต่เซียวเซ่อกลับไม่มีชื่อเสียงเท่าไร นี่กลับเป็นเรื่องน่าลำบากใจล่ะ
เหมยเหมยรู้ถึงความลำบากใจของเธอเลยยิ้มพูด “น้าเหวินรู้ประวัติของเซียวเซ่อไหมคะ? พ่อของเธอคือเซียวจิ่งหมิงศิลปินชื่อดังระดับโลก คุณปู่คืออาจารย์เซียวเยี่ยน คุณย่าคือท่านเคานต์วิคตอเรียที่สนิทสนมกับราชินี เซียวเซ่อกำลังเรียนระดับปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ฉินหมากรุกบทกวีงานวาดศิลปะฟันดาบขี่ม้า…เขาถนัดทุกอย่าง!”
เซี่ยเข่ออิ๋งกลืนน้ำลายอึกหนึ่ง พระเจ้า นี่ยังเป็นคนอยู่ไหม?
ประวัติวัยรุ่นพวกนี้แต่ละดูไม่ธรรมดากันทั้งนั้น หรือว่าคนประเภทเดียวกันมักจะดึงดูดกันจริง ๆ?
หลานสาวของท่านเคานต์วิคตอเรียอยากร่วมรายการด้วย ทางช่องโทรทัศน์จะไม่ยอมตกลงได้อย่างไร?
เกรงว่าแม้แต่เจ้านายยังต้องออกมาต้อนรับด้วยตัวเองด้วยซ้ำไป!
“ไม่มีปัญหา เธอรอข่าวดีจากฉันได้เลย!” เซี่ยเข่ออิ๋งมั่นอกมั่นใจนักหนา เดิมทีเธอยังกังวลว่าจำนวนจะมากเกินไป แต่ตอนนี้กลับไม่หลงเหลือความกังวลอะไรอีก
การทำงานในฮ่องกงรวดเร็วตามคาด นี่เพิ่งผ่านไปแค่วันเดียวก็ได้ผลสรุปจากเซี่ยเข่ออิ๋งแล้ว เธอบอกว่าเจ้านายตกลงให้พวกเขาสี่คนร่วมรายการซึ่งก็คือเทปถัดไป โดยจะเริ่มอัดรายการหลังอาทิตย์หน้า
เป็นช่วงเวลาที่รายการของสยงมู่มู่เสร็จเรียบร้อยพอดี เวลากำลังดีเลย
“ได้ค่ะ เปิดเผยข้อมูลของแขกรับเชิญอีกสี่คนได้ไหมค่ะ?” เหมยเหมยสอบถาม รู้เขารู้เราถึงจะรบร้อยครั้งชนะร้อยครั้งได้ไง
“เตรียมไว้หมดแล้ว เดี๋ยวฉันจะส่งให้เธอ”
เพิ่งทานมื้อเย็นไปเซี่ยเข่ออิ๋งก็รีบมาอย่างรวดเร็วพร้อมกับข้อมูลหนาหนึ่งปึก นี่เป็นรายชื่อแขกรับเชิญอีกสี่ท่านซึ่งฉบับหน้าสุดกลับเป็นคนคุ้นเคยอย่างดี
“โอหยางซานซานอยู่ฮ่องกงเหรอ? เธอไม่ได้เรียนอยู่อเมริกาหรอกเหรอ?” เหมยเหมยพึมพำกับตัวเองพลันขมวดคิ้ว
หลังจากหวงอวี้เหลียนตายไปโอหยางซานซานก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่มีข่าวคราวมาตลอดสองปีแต่คราวนี้กลับโผล่หัวออกมาเสียอย่างนั้น มันน่าตกใจจริง ๆ!
“ทำไมถึงเป็นยายหมีสีน้ำตาลไปได้? เธอมีสิทธิ์อะไรมาร่วมรายการด้วย?”
สยงมู่มู่ทำหน้ารังเกียจพลางหยิบข้อมูลของโอหยางซานซานขึ้นมาอ่าน บนนั้นมีรูปถ่ายระยะประชิดของเธอที่ดูจะผอมลงไปมากโขและเป็นรูปถ่ายจากบริเวณชายหาด ชุดกระโปรงยาวสายเดี่ยวสีดำปล่อยผมยาวประบ่า ผิวขาวเนียนดุจหิมะที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางบางเบาขับให้ดูโตเป็นผู้ใหญ่ เทียบกับเมื่อหลายปีก่อนแล้วบุคลิกดูดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
“นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด? โอ้โห…มหาลัยออกซ์ฟอร์ดกลายเป็นมหาลัยเส็งเคร็งไปตั้งแต่เมื่อไหร่?” สยงมู่มู่ทำหน้าเหลือเชื่อ
เขาจะไม่รู้ภูมิหลังของโอหยางซานซานได้อย่างไร เก่งกว่าเหมยเหมยในสมัยก่อนไม่เท่าไร ความสามารถแค่นั้นสอบเข้ามหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดได้อย่างนั้นหรือ?
“บางทีอาจจะใช้เส้นสายเข้าล่ะมั้ง?” อู่เชาคาดเดาก่อนจะโดนสยงมู่มู่ฟาดเข้าให้
“เป็นไปไม่ได้ มหาลัยออกซ์ฟอร์ดไม่มีการใช้เส้นสายมีแต่ใช้ความสามารถตัวเองสอบเข้าทั้งนั้น ยายหมีสีน้ำตาลไปเรียนกำลังภายในมาหรือไงกัน?” สยงมู่มู่ทำหน้าขบคิดอย่างหนัก
เหมยเหมยเองก็รู้สึกเหลือเชื่อแต่เธอไม่ได้คิดมาก บางทีโอหยางซานซานอาจค้นพบวิธีการเรียนที่ถูกต้องเหมือนอย่างเธอเจอแล้วก็ได้!
แขกรับเชิญอีกสามคนที่เหลือล้วนเป็นคนในพื้นที่แต่เล่าเรียนอยู่ในต่างประเทศ ทั้งยังเป็นสถานศึกษาชื่อดังกันหมดประวัติส่วนตัวในเอกสารเหมือนแสงประกายเจิดจ้า แต่ละคนล้วนเก่งกาจไม่ธรรมดากันทั้งนั้น
ท้องฟ้ายามค่ำคืนเริ่มมืดลงเรื่อย ๆ บ้านหรูหราแห่งหนึ่งเปิดไฟสว่างไสวเพราะกำลังจัดงานเต้นรำอยู่ ในบ้านเต็มไปด้วยวัยรุ่นหนุ่มสาว บรรยากาศรื่นเริงอย่างยิ่ง!
“อาเมย์ รีบมาเต้นเร็ว!” มีคนเอ่ยเรียก
โอหยางซานซานกระดกเบียร์หมดภายในอึกเดียวแล้วเดินไปยังฟลอร์เต้นรำบิดตัวส่ายไปตามจังหวะเพลง เรือนร่างอรชนยืดหยุ่นราวกับงู พออยู่ภายใต้แสงไฟสลัวก็ยิ่งน่าเย้ายวนใจ
……………………………