ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - ตอนที่ 1688 เป็นมือที่สาม + ตอนที่ 1689 น้ำเข้าสมอง
ตอนที่ 1688 เป็นมือที่สาม
เรื่องพวกนี้คุณย่าหยางกับคุณปู่เหยียนไม่รับรู้อะไรด้วย แต่คิดว่าต่อให้พวกเขารู้ก็ไม่มีทางว่าอะไร
คราวนี้พวกเขาผิดหวังต่อลูกชายคนนี้อย่างแท้จริงแล้ว!
การที่คุณปู่ย้ายจากเมืองจินมายังเมืองหลวงที่ไม่คุ้นเคยกลับมีส่วนช่วยต่อการพักฟื้นของร่างกายเขาอย่างมาก อารมณ์ก็ดีขึ้นตามไม่น้อย เหยียนหมิงซุ่นได้จ้างสองสามีภรรยาที่ซื่อสัตย์ภักดีมาโดยเฉพาะ ผู้ชายดูแลคุณปู่ส่วนผู้หญิงช่วยทำงานบ้านจะได้เป็นการแบ่งเบาภาระของคุณย่าหยาง
วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ไม่นานภาคการศึกษาใหม่ก็ใกล้จะปิดฉากลง ทุกคนต่างวุ่นกับการเตรียมสอบปลายภาคแม้แต่ถังม่านลี่ผู้ที่ไม่เคยเว้นว่างยังงดออกเที่ยวนั่งทบทวนบทเรียนทุกคืน
เทอมนี้สวีจื่อเซวียนมีท่าทีเย็นชาลงเรื่อย ๆ เมื่อก่อนยังคุยกับถังม่านลี่บ้างแต่ตอนนี้กลับไม่สนใจใคร เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนลอบด่าว่าคนเนรคุณลับหลังหลายต่อหลายครั้ง
“เทียบกับถังม่านลี่ไม่ได้ด้วยซ้ำ ถ้ารู้แต่แรกว่าหล่อนเป็นคนแบบนี้ตอนนั้นไม่ควรไปช่วยหล่อนไว้เลย!”
เมื่อครู่เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนสีไม่พอใช้เลยไปขอยืมสวีจื่อเซวียน แต่ปรากฏว่าคุณหนูเขาไม่แม้แต่จะชายตามอง เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนจำต้องวิ่งไปขอยืมฉีฉีเก๋อที่อยู่ห่างกันมากเพื่อแก้ปัญหาไปก่อน หลังเลิกเรียนถึงได้ด่ายาวเหยียดเป็นพรวนแบบนี้
ฉีฉีเก๋อไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับสวีจื่อเซวียน ในเมื่อเรื่องมันเกี่ยวโยงถึงความบริสุทธิ์ของหญิงสาวคนหนึ่งเหมยเหมยกับเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนล้วนไม่ใช่คนปากสว่างอะไร เลยไม่ได้บอกให้ฉีฉีเก๋อรับรู้
“ไม่ควรช่วยอะไร? เกิดอะไรขึ้นกับสวีจื่อเซวียน?” ฉีฉีเก๋อถามด้วยความสงสัย
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนยิ้มเจื่อน “เปล่า เมื่อกี้ฉันแค่หลุดปากพูดเฉย ๆ แค่เห็นแม่นี่ขัดหูขัดตา วันหลังเธออยู่ห่างผู้หญิงคนนี้หน่อยนะ ตายต่อหน้าก็อย่าไปสนใจ แม่นี่มันเป็นพวกเนรคุณ จบเรื่องแล้วก็ไม่ยอมรับความจริง”
เหมยเหมยปากกระตุก จบเรื่องแล้วไม่ยอมความจริงจริงด้วยสินะ!
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนกัดฟันด่าไปยกหนึ่ง เมื่อได้ระบายอารมณ์ไปพอสมควรแล้วก็กลอกตาเอ่ยด้วยท่าทีลึกลับ “จะบอกข่าวใหญ่เกี่ยวกับสวีจื่อเซวียนให้พวกเธอฟังข่าวหนึ่ง”
เหมยเหมยเลิกคิ้ว พูดเสียงยานคางอย่างไม่ค่อยสนใจนัก “เธอไปขายซิการ์ที่สโมสรเศรษฐีอีกแล้วเหรอ?”
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนแค่นเสียงทีหนึ่งแล้วพูดเชิงเหยียดว่า “เธอก็อยากไปอยู่หรอกแต่มีคนไม่ให้เธอไป!”
เหมยเหมยถึงมีท่าทีสนใจขึ้นมาบ้าง “ใครเหรอ?”
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนยิ้มเจ้าเล่ห์ “ก็ต้องเป็นผู้ชายอยู่แล้วสิ!”
เหมยเหมยถลึงตาใส่เธอแวบหนึ่งอย่างขุ่นเคืองพลันมีความคิดหนึ่งวาบขึ้นมาในหัวเพราะนึกถึงใครคนหนึ่งขึ้นมากะทันหัน เลยถามอย่างไม่มั่นใจว่า “คงไม่ใช่อาจารย์เจียงหรอกนะ?”
“โอ้โห เธอลูกครึ่งเซียนเหรอ!เรื่องนี้ยังเดาถูกได้อีก!” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนยกนิ้วโป้งให้อย่างนับถือ
เหมยเหมยย้อนนึกถึงการกระทำที่เจียงจื้อหรู่ปกป้องทะนุถนอมสวีจื่อเซวียนให้เห็นเป็นครั้งคราว รวมถึงเตียงเดี่ยวในห้องทำงานของเขาเลยผุดความคิดหนึ่งขึ้นมา ก่อนจะอดพูดไม่ได้ว่า “สวีจื่อเซวียนคงไม่ได้เป็นมือที่สามหรอกนะ?”
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนยอมพ่ายแพ้อย่างราบคาบ “เธอไม่น่าเรียนวาดรูปเลย น่าจะไปตั้งแผงบนถนนรับจ้างดูดวงเอา รับรองว่างานรุ่งเงินทองไหลมาเทมาแน่นอน!”
เหมยเหมยเองก็ไม่คิดว่าเธอจะเดาได้แม่นยำขนาดนี้ มิน่าสวีจื่อเซวียนในตอนนี้ตาแทบกลอกขึ้นฟ้าอยู่รอมร่อ สงสัยคิดว่าตนมีที่พึ่งอย่างเจียงจื้อหรู่ก็จะเฉิดฉายในเมืองหลวงได้แล้วสินะ?
เหอะ ใสซื่อเสียจริง!
หากเจียงจื้อหรู่มีอำนาจจริงแล้วตอนนั้นเขาจะมาขอร้องให้เธอไปช่วยหล่อนทำไม?
ยิ่งไปกว่านั้นเจียงจื้อหรู่แต่งงานแล้ว อายุมากกว่าสวีจื่อเซวียนเกือบยี่สิบปี นี่เธอโดนหมาแทะสมองไปหรืออย่างไรถึงได้คิดสั้นไปเป็นมือที่สามของตาแก่แบบนั้น?
“เจียงจื้อหรู่ไม่คิดจะหย่าใช่ไหม?” เหมยเหมยเอ่ยชื่อเต็ม ผู้ชายประเภทนี้ไม่คู่ควรเป็นอาจารย์
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนแค่นหัวเราะกล่าว “จะหย่าได้อย่างไร? ตระกูลอาจารย์แม่ของเราเจ๋งกว่าตระกูลเจียง เขาไม่กล้าจะพูดถึงด้วยซ้ำได้แต่แอบเลี้ยงเมียน้อยลับ ๆล่อๆไง!”
………………………
ตอนที่ 1689 น้ำเข้าสมอง
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเริ่มเล่าข่าวอื้อฉาวของครอบครัวเจียงจื้อหรู่อย่างกระตือรือร้น ที่แท้แล้วแม้ตระกูลเจียงจะมีอิทธิพลอยู่บ้าง แต่ท่ามกลางเมืองหลวงที่มีแต่ผู้มีอิทธิพลทั่วทุกหนแห่งแบบนี้ตระกูลเจียงก็ย่อมเทียบกันไม่ติด
อีกทั้งลูกหลานรุ่นของเจียงจื้อหรู่ไม่มีคนไหนโดดเด่นเป็นพิเศษ เจียงจื้อหรู่นับว่าประสบความสำเร็จที่สุดแล้ว แต่กลับไม่ชื่นชอบงานราชการ แค่อยากเป็นครูบาอาจารย์ผู้มอบความรู้ที่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองเท่านั้น เวลาว่างก็วาดรูปขีด ๆเขียน ๆ ใช้ชีวิตเรียบง่ายสุขสบายไปวัน ๆ
ส่วนพี่น้องคนอื่น ๆของเจียงจื้อหรู่ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึง แต่ละคนคือคุณชายลูกเศรษฐีจอมเสเพลที่กินเหล้าแทนน้ำ
ฉะนั้นถึงตระกูลเจียงไม่ขาดแคลนเงินแต่กลับยิ่งอยู่ก็ยิ่งอยู่ห่างไกลจากสังคมนั้นจนถดถอยลงเรื่อย ๆ ภรรยาของเจียงจื้อหรู่กลับมีพื้นหลังครอบครัวไม่ธรรมดา แน่นอนว่าเทียบกับตระกูลเจียงแล้วไม่ว่าอย่างไรก็พอจะกุมอำนาจการตัดสินใจภายในบ้านตระกูลเจียงได้ล่ะ
นับว่าเจียงจื้อหรู่กับภรรยาของเขาแต่งงานในแง่ทางการเมือง เพราะเจียงจื้อหรู่หน้าตาดี สง่าหล่อเหลาทั้งยังเป็นบุคคลมีชื่อเสียงในมหาวิทยาลัยจึงเป็นที่ชื่นชอบของเหล่านักศึกษาหญิงอย่างมาก ซึ่งภรรยาของเขาเองก็เป็นหนึ่งในนั้นที่รักเขาจนถอนตัวไม่ขึ้น
เพียงแต่เจียงจื้อหรู่ไม่ชอบภรรยาที่หน้าตาไม่โดดเด่นคนนี้เพราะเดิมทีเขามีแฟนสาวอยู่แล้ว ทั้งยังรักกันดีถึงขั้นหมายหมั้นเสร็จสรรพ เพียงแต่ต่อให้ความรักลึกซึ้งขนาดไหนก็ต้านทานแรงกดดันจากครอบครัวไม่ไหว
เจียงจื้อหรู่จำต้องทนปวดใจเลิกกับแฟนสาวแล้วแต่งงานกับภรรยาคนปัจจุบันอย่างไม่สมยอมใจเท่าไรนัก ภายหลังแต่งงานความสัมพันธ์ก็ระหองระแหงเรื่อยมาจนเจียงจื้อหรู่ใช้เวลาอยู่ในห้องทำงานนานกว่าอยู่บ้าน
“เธอรู้ไหมว่าแฟนเก่าของอาจารย์เจียงหน้าตาคล้ายใคร?” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนขยิบตาใส่
ฉีฉีเก๋อฟังแล้วก็มึนไปชั่วขณะคอยมองเพื่อนทั้งสองคนอย่างงงงวย เมียน้อยอะไร แฟนเก่าอะไร?
ทำไมเธอถึงฟังไม่เข้าใจสักคำเดียวเลยล่ะ?
เหมยเหมยยิ้มตอบ “คงไม่ได้เหมือนสวีจื่อเซวียนหรอกมั้ง?”
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนตบต้นขาแรง ๆทีหนึ่งพร้อมกับทำตาเป็นประกายวาว “โอ้โห เหมยเหมยเธอมันสุด ๆไปเลยจริง ๆ เดาทีก็ถูกทุกทีแหะ!”
เหมยเหมยมองค้อนใส่เธอแวบหนึ่ง หล่อนสิที่สุด ๆ!
เธอไม่ใช่หมาพุดเดิ้ลสักหน่อย จะมาสุด ๆอะไรล่ะ?[1]
“เธอถามขนาดนี้แล้วถ้าฉันยังเดาไม่ออกก็โง่ยิ่งกว่าหมูสิ!” เพิ่งจะสิ้นเสียงเหมยเหมยเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนก็หลุดขำแล้วแอบชี้ไปที่ฉีฉีเก๋อที่กำลังตาหมุนด้วยความมึนงง จนเหมยเหมยเองก็อดหัวเราะไม่ได้
“พวกเธอก็พูดให้รู้เรื่องสิ ฉันไม่เข้าใจเลย!” ฉีฉีเก๋อเริ่มร้อนใจ เธอเกลียดการที่พูดอะไรครึ่ง ๆกลาง ๆที่สุด
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเล่าความสัมพันธ์ของเจียงจื้อหรู่กับสวีจื่อเซวียนไปคร่าว ๆ ซึ่งแน่นอนว่าตัดเรื่องที่สวีจื่อเซวียนโดนข่มขืนไป ถึงสวีจื่อเซวียนจะเป็นคนไม่มีคุณธรรมแต่เธอจะทำอย่างนั้นไม่ได้ จะปล่อยความลับของคนอื่นรั่วไหลออกไปง่าย ๆ ไม่ได้!
แน่นอนหากภายหลังสวีจื่อเซวียนกวนโมโหเธอเข้าจริง ๆ เธออาจจะไม่ใจดีช่วยเก็บความลับให้แม่นี่ต่อก็เป็นได้ จะแฉออกไปให้หมดเลย!
ฉีฉีเก๋อหน้าถอดสี “พระเจ้า สวีจื่อเซวียนน้ำเข้าสมองเหรอ? อาจารย์เจียงเป็นพ่อของหล่อนได้แล้วนะ!”
ทั้งที่หน้าตาสวยขนาดนี้ ไหนจะผลการเรียนยังดีขนาดนี้ย่อมหาผู้ชายได้ทุกรูปแบบ แต่ดันไปจบกับผู้ชายแก่แต่งงานแล้วคนหนึ่ง มองไม่เห็นความหวังเลย!
“เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเธอเข้าใจผิดไปหรือเปล่า? ฉันว่าสวีจื่อเซวียนไม่โง่ขนาดนั้นหรอก!” ฉีฉีเก๋อไม่ค่อยเชื่อเท่าไร ขอแค่เป็นผู้หญิงที่มีสมองสักนิดก็ไม่มีทางทำเรื่องโง่ ๆแบบนั้นลงได้แน่!
“เหอะ ฉันจะเข้าใจผิดได้อย่างไร? ตอนกลางคืนสองคนนี้ชอบไปเที่ยวสนุกที่บาร์ที่ชื่อหลันเยวี่ยเลี่ยงบ่อย ๆ ที่นั่นถือว่าเป็นสถานที่รวมตัวของพวกศิลปินทั้งหลาย คนที่ไปส่วนใหญ่เลยอยู่ในวงการนี้กันหมด ฉะนั้นเจียงจื้อหรู่กับสวีจื่อเซวียนจู๋จี๋กันในบาร์คนอื่นเลยหลงคิดว่าพวกเขาเป็นสามีภรรยากันเสียอีก!”
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเกิดอาการไม่พอใจแล้ว คุณสามารถสงสัยเรื่องคะแนนสอบของเธอได้เพราะความจริงก็ทุจริตไปครึ่งจากการลอกข้อสอบมา แต่จะสงสัยว่าข่าวเธอเป็นเรื่องเท็จไม่ได้!
มันทนไม่ได้จริง ๆ!
……………………….
[1] เป็นมุกล้อเลียนสุนัขพันธุ์พุดเดิ้ลของชาวจีนจากพฤติกรรมที่พุดเดิ้ลในวัยเด็กมักกระทำอนาจารกับสิ่งของรอบตัว