ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - ตอนที่ 1610 เต็มใจเลือกทางที่ผิด + ตอนที่ 1611 เฉินหมิงอีกแล้ว
ตอนที่ 1610 เต็มใจเลือกทางที่ผิด
เหมยเหมยพูดเจื้อยแจ้วกับคุณยายหยางไปอีกหลายประโยคแล้วถึงวางสาย หน้าแดงก่ำเดินกลับมากินปีกไก่ต่อ เหยียนหมิงซุ่นจึงได้ใช้หลังมือที่มีรอยน้ำมันนั้นปาดใส่หน้าเหมยเหมยเพื่อเอาคืน พลางฉีกยิ้มที่มุมปากอย่างร้ายกาจ
“น่าเกลียด!”
เหมยเหมยเอาหน้าถูเข้าที่แขนเสื้อของเหยียนหมิงซุ่นจนเสื้อเชิ้ตยับยู่ยี่กลายเป็นผักดองถึงจะพอใจ
ชอบที่สุดคือการเอาเปรียบเช่นนี้!
หนำซ้ำเหยียนหมิงซุ่นก็ใจกว้าง ปล่อยให้เธอเอาเปรียบเต็มที่ ดีเสียจริง!
คนที่แสนดีบางคนทำทีพับแขนเสื้อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซดน้ำแกงอย่างใจเย็น แววตากลับดูสุขุม เขาเป็นผู้ชายต้องใจกว้างให้ภรรยาเอาเปรียบนิดหน่อยไม่เป็นไรหรอก บนเตียงเขาค่อยเอาเปรียบมากหน่อยก็ได้
“พี่จะกลับเมืองจินเมื่อไรเหรอ?” เหมยเหมยกัดปีกไก่พลางเอ่ยถาม
เหยียนหมิงซุ่นนิ่งไปสักพักแล้วพูดว่า “เธอต้องอนู่ฉลองส่งท้ายปีกับพ่อแม่ ส่วนพี่มีธุระที่ต้องจัดการนิดหน่อย วันที่สองของตรุษจีนค่อยกลับแล้วกัน”
เหมยเหมยย่นจมูก “วันที่สองกลัวว่าตั๋วเครื่องบินจะซื้อยากนะ รถไฟก็น่าจะแออัด หรือไม่งั้นพวกเราขับรถกลับกันไหม?”
เหยียนหมิงซุ่นนัยน์ตาฉายแววยิ้ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการที่เหมยเหมยแสดงอาการประหม่าออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ นอกจากทะเบียนสมรส ตอนนี้เขากับเหมยเหมยก็เหมือนสามีภรรยากันทุกอย่าง หนำซ้ำยังเป็นคู่สามีภรรยาที่รักกันหวานชื่นเสียด้วย
“ขับรถกลับมันช้า พวกเราขับเครื่องบินไปกัน” เหยียนหมิงซุ่นเอ่ยออกมาด้วยท่าทีสบาย ๆเหมือนกับการพูดว่าวันนี้ฝนจะตกหรือพระอาทิตย์จะขึ้นเท่านั้น
เหมยเหมยตกตะลึงแต่ก็ไม่คิดว่าแปลก เพราะความร่ำรวยของเหยียนหมิงซุ่นในตอนนี้ซื้อเครื่องบินส่วนตัวได้ง่ายเสียยิ่งกว่าง่าย
“กลับไปครั้งนี้คงไม่สนุกนัก พอถึงเวลานั้นเธอไม่ต้องใส่ใจหรอกนะ เดี๋ยวพี่จัดการเอง” เหยียนหมิงซุ่นเอ่ยขึ้น
เหมยเหมยพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย เธอรู้ว่าความวุ่นวายที่เหยียนหมิงซุ่นพูดคืออะไร ถานซูฟางกับเหยียนโฮ่วเต๋อไม่ได้มีชีวิตที่ดีนัก เกรงว่ากลับไปหนนี้อาจจะสร้างเรื่องอีก
อีกสองวันมหาวิทยาลัยก็จะปิดเทอมแล้ว สีอันน่ากับฉีฉีเก๋อต่างก็กลับบ้านแต่สวีจื่อเซวียนไม่กลับ ตามที่เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนพูดให้ฟังถังม่านลี่รับปากจะแนะนำงานให้สวีจื่อเซวียน สวีจื่อเซวียนจึงคืนตั๋วรถที่จองได้ไปเรียบร้อยแล้ว
“ยินยอมพร้อมใจที่จะกระโดดเข้ากองไฟไปเอง สมน้ำหน้า!” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนโมโหมาก สองวันก่อนเธอก็เตือนไปอีกครั้ง แต่ในขณะนี้สวีจื่อเซวียนได้ถลำลึกเข้าไปในวังวนของเงินแล้ว เธอไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น
เหมยเหมยส่ายหน้า การเข้าไปในสถานที่โคมแดงสุราเขียว[1]เช่นนั้น อยากกลับออกมาอย่างบริสุทธิ์คงยาก!
“สวีจื่อเซวียนรู้ลักษณะงานของถังม่านลี่ไหม? ฉันว่าเขาดูไม่เหมือนคนที่เห็นแก่เงินนี่นา!” เหมยเหมยรู้สึกแปลกใจ
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนหัวเราะเยาะ “เธออย่าถูกรูปลักษณ์ของหล่อนหลอกเอาสิ เขาไม่ได้ต่างกับถังม่านลี่สักเท่าไรหรอก เพียงแต่เขาเสแสร้งเก่งกว่าถังม่านลี่ก็เท่านั้นเอง อีกอย่างถังม่านลี่ก็ไม่ได้หลอกเขาสักหน่อย บอกว่าไปที่นั่นเพื่อนั่งดื่มพูดคุยเป็นเพื่อนคนอื่น หากคุยกันถูกคอก็ออกไปหากินมื้อดึกกัน สวีจื่อเซวียนก็ยังอยากไปอยู่ดี”
เหมยเหมยขมวดคิ้วแน่น หากไม่ใช่คนโง่ก็ฟังออก จริง ๆแล้วถังม่านลี่ก็คือสาวนั่งดริ้ง สวีจื่อเซวียนก็ยังเต็มใจเลือกทางที่ผิด คงจะเสแสร้งเก่งกว่าถังม่านลี่จริงนั่นแหละ!
“ไม่ต้องไปสนใจเขาหรอก โตจนบรรลุนิติภาวะแล้ว รู้ว่าตัวเองทำอะไรอยู่”
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนโมโหเดือด “ฉันไม่สนหรอกว่าเขาจะเป็นจะตายอย่างไร เธอคอยดูนะต่อให้ตายอยู่ตรงหน้าฉัน ฉันก็จะไม่ใยดีเลย!”
เหมยเหมยหัวเราะร่า ผู้หญิงแบบนี้แหละที่เป็นคนประเภทปากร้ายแต่ใจดี ปากบอกไม่สนใจแต่มีครั้งไหนบ้างที่คนในหอเกิดเรื่องแล้วเธอไม่เข้าไปยุ่ง?
ใกล้จะถึงสิ้นปีแล้ว ถนนหนทางและตรอกซอกซอยล้วนอบอวลด้วยกลิ่นอายวันตรุษจีน เหยียนหมิงซุ่นไปฮ่องกงอีกแล้วเป็นเพราะลุงหมิงยังไม่กลับมา เขาต้องไปเอาตัวเจ้านั่นกลับมาด้วยตัวเอง
ในวันส่งท้ายปีเก่าเหยียนหมิงซุ่นพาเฉินหมิงกลับมาได้แต่ก่อเรื่องวุ่นวายไม่เป็นสุข หนำซ้ำเหยียนหมิงซุ่นก็ยุ่งมากกว่าเดิม
เหมยเหมยมีใจอยากช่วยแต่ไร้อำนาจจึงช่วยอะไรไม่ได้ เธอเลยเป็นเด็กดีอยู่บ้านเพื่อร่างต้นฉบับ คืนที่สองของวันส่งท้ายปีเก่า เหมยเหมยวาดต้นฉบับอยู่ที่บ้านคนเดียว จินตนาการบรรเจิด เธอทำงานยิงยาวไปจนถึงเที่ยงคืน จังหวะที่จะอาบน้ำเตรียมเข้านอนเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
………………………………………………………….
ตอนที่ 1611 เฉินหมิงอีกแล้ว
“จ้าวเหมย ฉันอาจารย์เจียงเองนะ” เจียงจื้อหรู่เป็นคนโทรมาซึ่งน้ำเสียงฟังดูร้อนรนอย่างมาก
เหมยเหมยนึกแปลกใจเหลือเกินว่าเจียงจื้อหรู่โทรมามีธุระอะไรเวลาดึกดื่นแบบนี้?
“อาจาย์เจียง เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ?”
เจียงจื้อหรู่แอบรู้สึกโชคดีที่จ้าวเหมยยังไม่นอนและโชคดีที่อยู่บ้าน เขารีบอธิบายสถานการณ์ให้ฟัง “ตอนนี้ฉันอยู่ที่สโมสรพวกเศรษฐี เกิดเรื่องกับสวีจื่อเซวียนนิดหน่อยแต่ฉันจัดการไม่ได้”
เหมยเหมยขมวดคิ้ว เกิดเรื่องกับสวีจื่อเซวียนแล้วเกี่ยวอะไรกับเธอ?
แต่ยังต้องไว้หน้าเจียงจื้อหรู่บ้างในเมื่อก่อนหน้านี้เธอติดหนี้บุญคุณเขาเรื่องนิทรรศการศิลปะของคุณตาไว้ไม่น้อย อีกทั้งตอนนั้นมีเพียงเขาที่ออกหน้าช่วยพูดให้ความเป็นธรรมและเธอก็จดจำเรื่องนี้มาตลอด
“อาจารย์เจียง สวีจื่อเซวียนเป็นอะไรไปคะ?” เหมยเหมยถามขณะที่พอจะคาดเดาเรื่องราวได้บ้างแล้ว
สโมสรเศรษฐีเป็นสโมสรบันเทิงที่เพิ่งเปิดใหม่ในเมืองหลวง ได้ข่าวว่าเจ้าของเป็นคุณชายคนหนึ่งในแวดวงสังคมนั่นและตกแต่งสถานที่ได้หรูหราโอ่อ่าเทียบเท่ากับสโมสรอันดับหนึ่ง และถังม่านลี่ก็เป็นสาวนั่งดริ้งอยู่ที่นั้น
สวีจื่อเซวียนก็คงอยู่ที่นั่นด้วยเช่นกัน หญิงสาวหน้าตาสวยคนหนึ่งอยู่ในที่แบบนั้นจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นได้ล่ะ?
อย่างมากก็คงไปล่วงเกินคนใหญ่คนโตสักคนเข้าล่ะนะ!
เจียงจื้อหรู่เล่าเหตุการณ์คร่าว ๆซึ่งไม่ต่างไปจากที่เหมยเหมยเดาไว้สักเท่าไร สวีจื่อเซวียนเป็นที่ถูกตาต้องใจใครคนหนึ่งบอกว่าจะพาเธอไปนอกสถานที่ สวีจื่อเซวียนไม่ยินยอมลูกค้าคนนั้นเลยใช้กำลังในการจับตัวเธอไป
“ถูกพาตัวไปเกือบหนึ่งชั่วโมงแล้ว ฉันจนปัญญาจริง ๆถึงโทรหาเธอ” เจียงจื้อหรู่รู้สึกกังวลใจอย่างมาก เขาชื่นชมเด็กผู้หญิงอย่างสวีจื่อเซวียนและไม่อยากเห็นหญิงสาวที่แสนดีแบบนี้ถูกย่ำยีมีมลทินติดตัว
เหมยเหมยนึกสังหรณ์ใจแปลก ๆ หนึ่งชั่วโมงพอทำอะไรได้มากแล้ว เห็นทีสถานการณ์ของสวีจื่อเซวียนคงไม่สู้ดีนัก
“อาจารย์เจียงพอจะรู้ไหมคะว่าผู้ชายคนนั้นคือใคร?” เหมยเหมยถามอีก
“ฉันไปสืบมาแล้ว ทุกคนเรียกเขาว่าลุงหมิง มีคนใหญ่คนโตคอยหนุนหลังอยู่ คนที่สโมสรไม่มีใครกล้าหาเรื่องเขา” เจียงจื้อหรู่พอจะมีเส้นสายในเมืองหลวงอยู่บ้างเลยไม่เป็นปัญหาหากจะสืบเสาะถามเรื่องใครสักคน
และเพราะลุงหมิงเป็นคนที่มีเส้นสายมากเกินไป หากเปลี่ยนเป็นนักธุรกิจธรรมดาเจียงจื้อหรู่ไม่จำเป็นต้องรบกวนเหมยเหมยด้วยซ้ำ
เหมยเหมยนึกปวดศีรษะ ทำไมถึงเป็นเฉินหมิงอีกแล้ว?
เพิ่งตามเช็ดก้นเรื่องที่ฮ่องกงเสร็จก็มาก่อเรื่องวุ่นวายที่นี่อีก ไม่เคยอยู่นิ่งเลยสักวัน!
ท่าทางเจ้าอ้วนนี้ยังมีความแค้นอยู่ในใจ!
ไม่รู้ว่าจะยอมเห็นแก่เธอหรือเปล่า?
เหมยเหมยไม่ค่อยมั่นใจเท่าไรในเมื่อแม้แต่เหยียนหมิงซุ่นลุงหมิงยังไม่ไว้หน้าเลย อย่างไรเสียก็ไปดูสถานการณ์ก่อนแล้วกัน ถ้าไม่ไหวจริง ๆค่อยโทรหาพี่เฉิน ต่อให้พี่เฉินจะไม่พอใจเหยียนหมิงซุ่นมากแค่ไหนแต่ก็ยังไว้หน้าอยู่บ้าง ไม่เหมือนเฉินหมิงที่โมโหจนไม่ไว้หน้าใครทั้งสิ้น
เธอคิด ๆแล้วก็ให้เจียงจื้อหรู่กลับบ้านไปก่อนในเมื่อเขาก็ช่วยอะไรไม่ได้ แต่เจียงจื้อหรู่กลับไม่ยอม บอกแค่ว่าจะตามเหมยเหมยไปด้วย
“งั้นอาจารย์เจียงรอสักครู่นะคะ ฉันจะไปรับอาจารย์เอง”
เหมยเหมยไม่กล้าฉายเดี่ยว เธอจึงไปปลุกบอดี้การ์ดที่เหยียนหมิงซุ่นส่งตัวมาสองคนเป็นชายหนึ่งคนหญิงหนึ่งคน ผู้ชายชื่อเสี่ยวหลี่ ผู้หญิงชื่อเสี่ยวอวิ๋น ล้วนเป็นคนมีทักษะการต่อสู้ขั้นสูง
“มีเรื่องต้องไปจัดการนิดหน่อย ลำบากพวกเธอหน่อยนะ” เหมยเหมยรู้สึกผิดอย่างมาก
ทั้งคู่ได้ยินว่าเกิดเรื่องแล้วก็ตื่นตัวทันที ขับรถพาเหมยเหมยไปส่งที่สโมสรเศรษฐี ทั้งยังติดต่อลูกน้องคนอื่น ๆให้รอฟังคำสั่งทุกเมื่อ
หากคนรักสุดรักสุดหวงของคุณชายหมิงมีอันเป็นไปแม้แต่น้อย พวกเขาคงต้องเอาชีวิตชดใช้ความผิด!
เจียงจื้อหรู่รออยู่หน้าประตูโดยข้างกายยังมีถังม่านลี่ที่แต่งหน้าเข้มอยู่ด้วย ทั้งยังมีเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนอีกคนโดยทั้งสามคนต่างยืนรอท่ามกลางความหนาวจนจมูกแดงหน้าบวมกันไปหมด พอเห็นรถของเหมยเหมยก็ร่าเริงกันใหญ่
“ขึ้นรถสิ!” เหมยเหมยเปิดประตูรถ
………………………..
[1] บรรยายถึงแสงสีเสียงของสถานบันเทิงยามค่ำคืน หรืออาจหมายถึงสถานที่อโคจร