ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - ตอนที่ 1582 เก็บตัวเล็กไว้ + ตอนที่ 1583 ม้าพันลี้
ตอนที่ 1582 เก็บตัวเล็กไว้
ลุงปาเกินรีบมาอย่างรวดเร็ว พอเขาดูอาการของเสวี่ยถวนก็ทำหน้าถมึงทึงทันที คุยกับลูกชายกันสองคนอยู่ครู่หนึ่งโดยใช้ภาษามองโกล
“ฉีฉีเก๋อ พ่อเธอว่ายังไง? เสวี่ยถวนมีอันตรายไหม?” เหมยเหมยฟังไม่รู้เรื่องก็ยิ่งร้อนใจ
“เสวี่ยถวนอาการไม่สู้ดีนัก พ่อฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน เขาจะทำคลอดให้เสวี่ยถวน” ฉีฉีเก๋อร้อนใจยิ่งกว่า เธอเป็นคนดูแลเสวี่ยถวนมาตั้งแต่เกิดจึงสนิทสนมราวกับเพื่อนสนิทก็ไม่ปาน
เห็นเสวี่ยถวนเจ็บปวดฉีฉีเก๋อก็เหมือนโดนมีดกรีดที่หัวใจ ยิ่งแค้นไอ้สารเลวสองคนนั้นมากกว่าเดิม!
“ถ้าเสวี่ยถวนเป็นอะไรไป ฉันจะฆ่าพวกแก!”
ฉีฉีเก๋อพุ่งเข้าไปเหมือนเป็นบ้าใช้เท้ากระทืบสองคนนั้นอย่างแรงแต่โดนเหมยเหมยห้ามไว้ เฮ่อเหลียนเช่อเป็นคนที่คาดเดาอารมณ์ยาก ทั้งยังเป็นคนชอบเข้าข้างฝ่ายตัวเองสุดขีด อย่างไรเสียสองคนนี้ก็เป็นลูกน้องของเขา หากต่อยพวกเขาก็เท่ากับต่อยหน้าเฮ่อเหลียนเช่อ ฉีฉีเก๋อสู้ไอ้โรคจิตนี่ไม่ไหวหรอก
“แย่แล้ว ลูกม้าเอาเท้าออกมาก่อน ทีนี้จะทำยังไงดีล่ะ?”
ฉีฉีเก๋อน้ำตาไหลพรากปากสั่นเทา ม้าก็เหมือนคน หากตอนคลอดเอาเท้าออกมาก่อนก็บ่งบอกได้ว่ากำลังมีอันตรายถึงชีวิต เป็นไปได้ที่จะรักษาชีวิตทั้งแม่และลูกไว้ไม่ได้
“หรือว่าจะผ่าท้องไหม?” เหมยเหมยแนะนำ
ฉีฉีเก๋อส่ายหน้ายิ้มขมขื่น “พ่อฉันทำคลอดเองตลอดไม่ยอมเชื่อสัตวแพทย์ ในสนามม้าไม่มีสัตวแพทย์มืออาชีพ พาไปส่งโรงพยาบาลสัตว์ที่ใกล้ที่สุดก็ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงคงไม่ทันการหรอก!”
ลุงปาเกินดูถูกดูแคลนสัตวแพทย์สมัยนี้อย่างมาก ม้าที่เขาเลี้ยงมาล้วนใช้วิธีพื้นบ้านที่สืบทอดมารุ่นต่อรุ่น รวมถึงยังเป็นวิธีที่ศึกษาด้วยตัวเองทั้งนั้นซึ่งปรากฏว่าใช้ได้ผลไม่น้อย ไม่ว่าม้าจะป่วยหรือคลอดลูกต่างเป็นเขาและลูกชายทั้งสามคนคอยช่วยกันและราบรื่นปลอดภัยดีมาตลอดหลายสิบปี
แต่คิดไม่ถึงว่าครั้งนี้กลับเกิดเหตุที่ไม่คาดคิดขึ้น
ลุงปาเกินเอามือจุ่มน้ำมันพืชจนชุ่มแล้วสอดเข้าไปหวังจะปรับตำแหน่งลูกม้าให้เข้าที่ แต่พยายามอยู่นานก็ไม่สำเร็จ เสวี่ยถวนกลับเจ็บจนหมอบอยู่กับพื้นไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงจะส่งเสียงร้อง
เหมยเหมยรีบเข้าไปป้อนยาอีกสองเม็ด เสวี่ยถวนถึงรู้สึกมีแรงขึ้นมาบ้างแต่อาการก็ยังไม่สู้ดีนัก
“เลือกเก็บไว้ได้แค่ตัวเดียวแล้วล่ะ!” ลุงปาเกินกัดฟันตัดสินใจ
“รักษาตัวใหญ่หรือเล็กเหรอ?” พี่ใหญ่ของฉีฉีเก๋อถาม
“ตัวเล็ก”
“ไม่นะป๊า อย่าทอดทิ้งเสวี่ยถวน ขอร้องล่ะป๊า เสวี่ยถวนเพิ่งสี่ขวบเอง พ่อต้องช่วยมันนะ ถ้าไม่ไหวจริง ๆเราเก็บเสวี่ยถวนไว้แล้วทิ้งตัวลูกไปดีกว่า!”
ฉีฉีเก๋อร้องไห้สะอึกสะอื้น เธอยอมเสียลูกม้าไปแต่จะไม่ยอมทอดทิ้งเสวี่ยถวนไปเด็ดขาด
“ไม่ได้ ต้องรักษาลูกม้าเอาไว้ เราจะผิดสัญญากับลูกค้าไม่ได้” ลุงปาเกินถอนหายใจเฮือกใหญ่
เขาก็อยากเลือกเก็บเสวี่ยถวนไว้เช่นกัน แต่เหยียนหมิงซุ่นกับเฮ่อเหลียนเช่อไม่ว่าใครต่างก็เป็นคนที่เขาไม่อยากมีปัญหาด้วยทั้งนั้น หากเขาไม่มอบลูกม้าให้ สนามม้าของเขาคงไม่มีวันสงบสุขอีกต่อไป
แม้จะเสียดายเสวี่ยถวนแต่เพื่อความสงบสุขของสนามม้า เขาจำเป็นต้องสละมัน!
“ไม่เอา…ฮือ…เสวี่ยถวนของหนู…” ฉีฉีเก๋อร่ำไห้อย่างเศร้าโศกพลางนึกโทษตัวเองที่ไร้ความสามารถเช่นนี้ ทำไมเธอต้องเลือกเรียนวาดรูป เรียนสัตวแพทย์ไม่ดีกว่าหรือ?
แบบนี้เธอก็ช่วยเสวี่ยถวนได้แล้ว!
ครอบครัวนี้ใช้ภาษามองโกลสื่อสารกันเหมยเหมยเลยฟังไม่รู้เรื่อง แต่เห็นท่าทางของฉีฉีเก๋อก็รู้ได้ว่าไม่ใช่ข่าวดีอะไร
พอถามจนรู้เรื่องแล้วเหมยเหมยก็ช่วยพูดแทนฉีฉีเก๋ออีกเสียง “คุณลุง เลือกเก็บเสวี่ยถวนดีกว่า อนาคตยังมีลูกม้าได้”
แน่นอนว่าก็น่าเสียดายหากสูญเสียลูกม้าไป แต่สถานการณ์นี้การเลือกเก็บตัวใหญ่ไว้จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
“ไม่ทันแล้ว จำเป็นต้องเก็บตัวเล็กไว้ เสวี่ยถวนทนไม่ไหวแล้ว มันเองก็คงหวังอยากให้เราเลือกเก็บลูกไว้เช่นกัน” พี่ใหญ่ของฉีฉีเก๋อยิ้มขมขื่นกล่าว
ทุกคนต่างมองไปยังเสวี่ยถวนพร้อมกันแต่กลับเห็นเสวี่ยถวนร้องโหยหวนไม่หยุด สายตาเริ่มพร่ามัว เลือดไหลเจิ่งนองเต็มพื้น แม้มันจะพูดภาษาคนไม่ได้แต่ทุกคนกลับเข้าใจความหมายมันดี
ว่ามันกำลังเว้าวอนขอให้พวกเขาช่วยลูกของมันอยู่!
………………………….
ตอนที่ 1583 ม้าพันลี้
เหมยเหมยยัดยาให้เสวี่ยถานหนึ่งกำมือด้วยอารมณ์ที่หนักอึ้ง ม้าที่มีปฏิญาณไหวพริบดีขนาดนี้เธอจะปล่อยให้มันตายไปต่อหน้าต่อตาไม่ได้
“ผ่าคลอดเถอะ มาลองดูสักตั้ง ไม่แน่อาจจะรักษาชีวิตไว้ได้ทั้งคู่ก็ได้!” เหมยเหมยตัดสินใจแล้ว
ไหน ๆก็คิดจะสละเสวี่ยถวนทิ้งแล้ว งั้นก็เลือกผ่าท้องทำคลอดเลยดีกว่า มียาวิเศษของเธออยู่เสวี่ยถวนอาจจะมีชีวิตรอดก็ได้!
ลุงปาเกินยังลังเลอยู่ ในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีความเพียบพร้อมแบบนี้การผ่าท้องอาจติดเชื้อได้ง่าย ไม่แน่อาจส่งผลถึงลูกม้า ถ้ารักษาไว้ไม่ได้ทั้งแม่ทั้งลูกก็แย่สิ!
“ป๊า…ขอร้องล่ะ!” ฉีฉีเก๋ออ้อนวอน เธอเชื่อเพื่อนจะช่วยเสวี่ยถวนได้แน่ ๆ
สัญชาตญาณบอกเธอว่าอย่างนั้น!
เหยียนหมิงซุ่นเดินมาให้คำสัญญากับลุงปาเกิน “สบายใจได้ ไม่ว่าลูกม้าจะเป็นอย่างไรก็จะไม่มีใครกล้ามาก่อกวนสนามม้าแน่นอน”
ลุงปาเกินตาเป็นประกาย เขาต้องรู้จักคุณชายหมิงผู้มีชื่อเสียงเลื่องลือจากเมืองหลวงอยู่แล้วที่ช่วงนี้กำลังมาแรงเชียว พอมีคำมั่นสัญญาจากคุณชายหมิงเขาก็ไม่จำเป็นต้องหวั่นเกรงเฮ่อเหลียนเช่ออีก
“ก็ได้ งั้นก็ผ่าท้องแล้วกัน!” ลุงปาเกินตกลงแล้ว
พี่ชายทั้งสามคนของฉีฉีเก๋อทำทุกอย่างอย่างคล่องแคล่ว ไม่ถึงสิบห้านาทีก็ต้มน้ำเสร็จ จากนั้นก็เตรียมเข็มฉีดยากับยาสลบ ของพวกนี้เป็นของที่ต้องมีติดสนามม้าตลอดเวลาแต่สิ่งสำคัญที่สุดใครจะเป็นคนผ่าท้องเสวี่ยถวน?
“ฉันเอง!”
ลุงปาเกินสูดหายใจเข้าลึก ๆด้วยความประหม่าสุดขีด เลี้ยงม้ามาหลายสิบปีนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ได้ผ่าท้องม้า
“ตอนนี้คงต้องอธิษฐานให้เสวี่ยถวนอย่างติดเชื้อล่ะ!”
ฉีฉีเก๋อพนมมือพูดเสียงพึมพำ
เหยียนหมิงซุ่นเรียกลูกน้องมาสั่งเตรียมรถไว้ให้พร้อม รอเสวี่ยถวนคลอดลูกม้าเสร็จก็รีบส่งมันไปยังโรงพยาบาลสัตว์ที่ใกล้ที่สุด
เขาไม่สนใจความเป็นความตายของม้าตัวหนึ่งอยู่แล้ว แต่ใครใช้ให้ภรรยาของเขาสนใจกันล่ะ!
“พี่หมิงซุ่น พี่ดีจัง!” เหมยเหมยมองเขาอย่างนึกขอบคุณด้วยดวงตากลมโตสุกใส
เหยียนหมิงซุ่นก้มหน้าหายใจรดข้างหูเธอ “รอดูความประพฤติของเธอคืนนี้แล้วกัน…”
เหมยเหมยหน้าแดงก่ำในทันทีพลางมองค้อนใส่เขาแวบหนึ่งอย่างเขินอายปนขุ่นเคือง
นี่ยังไม่จบไม่สิ้นอีกหรือ!
เมื่อก่อนเธอหลงคิดว่าเขาเป็นคนสุขุมได้อย่างไรกันเนี่ย?
ทั้งที่หื่นที่สุดเลย!
ฉิวฉิวแค่นเสียงใส่ ก็เธอเป็นคนเริ่มก่อนเองนี่ สมน้ำหน้า!
การผ่าท้องของเสวี่ยถวนประสบความสำเร็จอย่างมาก ลูกม้าคลอดออกมาได้อย่างราบรื่นดี แต่เสวี่ยถวนเองก็สูญเสียเลือดไปมากเช่นกัน หากไม่มียาวิเศษของเหมยเหมยเสวี่ยถวนคงทนไม่ไหวนานแล้ว
ลูกน้องของเหยียนหมิงซุ่นรีบแบกตัวเสวี่ยถวนไปอย่างรวดเร็วโดยมีพี่ใหญ่ของฉีฉีเก๋อตามไปด้วย ลูกม้าตัวดำเงาที่ไม่มีขนสีอื่นติดมาแม้แต่น้อย ดำเงาเหมือนหินออบซิเดียน
“ขี้เหร่จัง!”
เหมยเหมยนึกรังเกียจอย่างมาก เสวี่ยถวนสวยขนาดนี้แต่ลูกที่คลอดออกมากลับน่าเกลียดเหลือเกิน
ลุงปาเกินหัวเราะเสียงดังพลางกอดลูกม้าไว้ในอ้อมอกอย่างรักใคร่ “ไม่น่าเกลียดเลย อนาคตต้องดูดีเหมือนพ่อมันแน่ ๆ!”
ฉีฉีเก๋อก็พยักหน้าตามพลางอธิบายว่า “พ่อของมันก็ขนสีเดียวแบบนี้เหมือนกัน เป็นม้าเร็วพันลี้ที่นาน ๆทีจะมีมาสักหน!”
“ลูกม้าตัวนี้อนาคตจะต้องเป็นม้าเร็ววิ่งพันลี้แน่นอน” ลุงปาเกินมั่นใจอย่างมากแต่ไม่นานก็ส่งเสียงเอะใจ พลิกตัวลูกม้ากลับไปกลับมาตรวจดูซ้ำ ๆด้วยความปลื้มปิติล้นเหลือ
“ลูกม้าตัวนี้ดีกว่าพ่อมันอีก ได้สืบทอดยีนส์เด่นของเทียดปู่มันมาอย่างสมบูรณ์แบบอย่างไม่มีผิดเพี้ยนเลย พระเจ้า ไม่น่าเชื่อเลยจริง ๆ!”
ลุงปาเกินกอดด้วยความรักใคร่แทบไม่วางมือ เทียดของลูกม้าตัวนี้เป็นราชาจ่าฝูงที่สืบเชื้อสายต่อกันมา หากเลือดยิ่งจางลงเรื่อย ๆ คุณภาพของม้าก็ยิ่งตกต่ำลงเรื่อย ๆ ลูกม้าตัวนี้เกินความคาดหมายเขามาก
แต่ลูกม้าแสนดีขนาดนี้กลับไม่ใช่ของเขา
ลุงปาเกินถอนหายใจเฮือกหนึ่งอย่างเสียดาย ลูกสาวรับปากไว้ว่าจะให้เพื่อนแล้ว เขาจะทำให้ลูกสาวเป็นคนผิดคำพูดไม่ได้
………………………….