ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - ตอนที่ 1576 เชื่อฟังคำสั่งของพ่อ + ตอนที่ 1577 ยุงกัด
ตอนที่ 1576 เชื่อฟังคำสั่งของพ่อ
เหยียนหมิงซุ่นที่กินอิ่มจนสำราญใจก็ว่าง่ายเป็นพิเศษ รีบไปต้มโจ๊กอย่างไม่อิดออด ล้างข้าวด้วยกล่องข้าวทหารแล้วก็ฉีกเนื้อวัวแห้งเป็นเส้น ๆ จากนั้นไม่นานกลิ่นหอมก็ลอยโชยเข้ามาในเต็นท์ ท้องของเหมยเหมยก็ยิ่งร้องดังไม่หยุด น้ำลายไหลอย่างกลั้นไว้ไม่อยู่
“ใกล้จะเสร็จแล้ว เธอไม่ต้องใส่เสื้อผ้าหรอก พี่ป้อนเธอเอง”
เหยียนหมิงซุ่นเอาอกเอาใจ อีกเดี๋ยวก็ยังต้องถอดอีก ยุ่งยาก!
เหมยเหมยหน้าแดงพิงตัวอยู่อ้อมแขนของเหยียนหมิงซุ่น กินโจ๊กทีละนิด พอโจ๊กร้อน ๆถูกป้อนเข้าท้องความเหนื่อยล้าก็หายไปมาก เหยียนหมิงซุ่นยิ้มตาหยีและมองไปที่หญิงสาวที่กำลังตั้งหน้าตั้งตากินโจ๊กในอ้อมแขนของเขาอย่างพึงพอใจ
กินเยอะ ๆหน่อย กินข้าวแล้วถึงจะมีแรงทำงาน !
“พี่หมิงซุ่นไม่กินเหรอ?” เหมยเหมยกินโจ๊กไปได้ครึ่งถ้วยก็รู้สึกสบายท้องขึ้นมาก
“อีกเดี๋ยวพี่จะกินน้ำซุป เธอจะกินอีกหน่อยไหม?”
เหยียนหมิงซุ่นกินโจ๊กที่เหมยเหมยเหลือไว้ไม่กี่คำจนเกลี้ยง จากนั้นก็ล้างกล่องอาหารด้วยน้ำสะอาด ตักน้ำสะอาดครึ่งหนึ่งตั้งไฟ และน้ำซุปอีกกล่องที่เขาต้มไว้ก็ได้ที่แล้ว เนื้อวัวแห้งอาหารประจำท้องถิ่นของทุ่งหญ้าถูกต้มจนเปื่อย นับเป็นอาหารเพิ่มพลังงานที่ดีที่สุดในดินแดนอันเหน็บหนาวก็ว่าได้
เหมยเหมยที่กินอิ่มแล้ว พอได้กลิ่นหอมของซุปก็อดใจไม่ไหวจนต้องกินต่อ อาจจะเป็นเพราะหิวเกินไปเธอจึงรู้สึกว่ารสชาติดีขึ้นกว่าเดิม หลังจากกินไปหลายคำท้องก็อิ่มแปร้
“อิ่มมากเลย…”
เหมยเหมยลูบท้องน้อย ๆอย่างทรมาน ขมวดคิ้วเล็กน้อย
เหยียนหมิงซุ่นนวดให้เธอครู่หนึ่งพลันรู้สึกดีขึ้นมาก แต่ก็ยังแน่นท้องอยู่
“พี่หมิงซุ่นได้พกยาย่อยอาหารมาไหม?” เหมยเหมยถาม
“ลืมพกมา ไม่เป็นไร อีกเดี๋ยวก็ไม่แน่นท้องแล้ว!”
เหยียนหมิงซุ่นดื่มน้ำซุปอย่างใจเย็น วิธีที่ดีที่สุดในการย่อยอาหารคือออกกำลังกาย เพื่อช่วยภรรยาของเขาย่อยอาหาร เขาทำได้แค่ออกแรงมากขึ้นก็เท่านั้น!
เหมยเหมยฟังแล้วไม่เข้าใจไปชั่วขณะ มองไปที่เหยียนหมิงซุ่นอย่างสงสัย หมายความว่าไง?
ในไม่ช้าเธอก็เข้าใจ…
“พี่ยังไม่จบไม่สิ้นอีกเหรอ? ถ้าทำอีกฉันคงตายแน่…” เหมยเหมยอยากร้องไห้แต่กลับไร้น้ำตา
ถ้าหากโลกนี้มียาเสียใจภายหลัง เธอคงตัดสินใจเลือกเป็นเด็กดีที่เชื่อฟังคำสั่งสอนของพ่อ
เหยียนหมิงซุ่นออกแรงอย่างขะมักเขม้น ผิวสีน้ำผึ้งปกคลุมไปด้วยเม็ดเหงื่อราวกับไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เขาทำท่วงท่าหลายอิริยาบถโดยไม่ต้องมีครูสอน ลิ้มรสความอร่อยอย่างไม่มีเบื่อ
“มีแต่ผู้ชายเหนื่อยตายเท่านั้น ไม่มีผู้หญิงคนไหนเหนื่อยตายหรอก เหมยเหมยอย่ากังวลไปเลย!” เหยียนหมิงซุ่นปลอบใจ ลูกน้องที่แต่งงานแล้วมักจะพูดแบบนั้นเสมอและเขาก็จำได้ขึ้นใจ
เหมยเหมยคร่ำครวญเบา ๆ พูดเสียงขาด ๆหาย ๆว่า “ที่ฉันกังวลคือพี่ต่างหากเล่า…”
“ไม่ต้องกลัว ฉันได้รับการทดสอบมานานแล้ว ไม่ตายง่าย ๆหรอก…” เหยียนหมิงซุ่นรุกเร้าอย่างรุนแรง จูบปากเล็ก ๆของหญิงสาวที่บ่นอุบอิบไม่หยุด “ที่รัก มีสมาธิหน่อยสิ!”
สิ่งที่ไม่ชอบที่สุดคือทำอะไรแล้วไม่ตั้งใจทำ ดังนั้นเขาต้องลงโทษ!
เดิมทีว่าจะทำสักสามครั้ง แต่เนื่องจากยัยปีศาจตัวน้อยมีเรี่ยวแรงขนาดนี้ ขอจัดเพิ่มอีกสองครั้งแล้วกัน!
……
เป็นอีกหนึ่งค่ำคืนที่แสนอิ่มเอมในฤดูใบไม้ผลิ ผ่านไปสองวันหนึ่งคืนเหมยเหมยไม่เคยได้ลุกจากที่นอน กิน ๆนอน ๆมีเหยียนหมิงซุ่นคอยบริการ ตอนแรกเธอก็รู้สึกละอายใจแต่จะขัดขืนอะไรได้
ในท้ายที่สุดก็ทำได้เพียงทำลายข้าวของ ถือโอกาสแกล้งตายไปเลย
หลังจากสำรวจร่างกายของเหมยเหมยแล้ว เหยียนหมิงซุ่นก็ต้องทำเป็นพอใจอย่างเสียไม่ได้ แล้วพาเหมยเหมยกลับสนามม้า
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เต็มใจนักเพราะอยากอยู่กับสาวงามจับใจ แต่ภารกิจก็ต้องทำจะให้เฮ่อเหลียนเช่อมาแย่งลูกม้าไปไม่ได้
ฉีฉีเก๋อที่กังวลใจมาสองวันพอเห็นเหมยเหมยกลับมาก็ดีใจจนกระโดดเข้าใส่ “เหมยเหมยเธอกลับมาแล้ว ฉันเป็นห่วงแทบแย่ เธอไม่รู้เหรอว่าหมาป่าช่วงนี้ดุมากเลยนะ ฉันกลัวจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอ…”
พูดคุยกันทั้งวัน ฉีฉีเก๋อกลับสังเกตเห็นว่าเพื่อนตนนั้นผิดปกติ คนก็คน ๆเดิมนะแต่ทำไมยิ่งมองยิ่งสวยล่ะ?
…………………………………………..
ตอนที่ 1577 ยุงกัด
“เหมยเหมย เมื่อเช้านี้เสวี่ยถวนมีอาการปวดคลอดอยู่ครู่หนึ่งแต่ยังไม่ชัดเจนขนาดนั้น พ่อบอกว่ายังต้องใช้เวลาอีกหลายวัน”
ฉีฉีเก๋อรู้สึกไม่สบายใจอยู่บ้าง ถ้าหากเสวี่ยถวนยังไม่คลอดลูกอีกวันหยุดสิบวันของพวกเธอคงไม่พอเพราะพวกเธอคำนวณพลาดไป
เหมยเหมยกลับรู้สาเหตุที่เสวี่ยถวนคลอดช้ากว่ากำหนด น่าจะเป็นเพราะเธอป้อนก้อนน้ำตาลแก่มัน เธอยิ้มและพูดว่า “ไม่เป็นไร ฉันบอกแม่ก่อนมาที่นี่แล้วว่าหากกลับไม่ตรงตามเวลา เธอจะขอลาหยุดแทนพวกเราให้”
ฉีฉีเก๋อยิ้มหน้าบานในทันที “ศาสตราจารย์เหยียนนี่ดีจริง ๆเลย”
เหมยเหมยยิ้มบาง แน่นอนว่าเหยียนซินหย่าดีมากจริง ๆ มอบความรักของมารดาที่ดีที่สุดในโลกให้กับเธอ จ้าวอิงหัวเองก็ด้วย เธอพอใจกับพ่อแม่ในชีวิตชาตินี้มาก
เธอและฉีฉีเก๋อไปดูเจ้าเสวี่ยถวนด้วยกัน เดินไปไม่กี่ก้าวเหมยเหมยก็หอบแฮก เป็นครั้งแรกที่ทำเรื่องอย่างว่าติดต่อกันมากกว่าสิบครั้ง ต่อให้ร่างกายของเธอจะได้รับการบำรุงโดยยาอายุวัฒนะเธอก็ไม่สามารถทนได้ ขาทั้งสองอ่อนแรงไปหมด
“เหมยเหมยเธอไม่สบายหรือเปล่า? เมื่อก่อนร่างกายเธอมีแรงมากกว่าฉันด้วยซ้ำ!” ฉีฉีเก๋อรู้สึกแปลกใจมาก
“ไม่เป็นไร แค่เมื่อคืนนี้ฉันหลับไม่ค่อยสนิทน่ะ”
เหมยเหมยก่นด่าเหยียนหมิงซุ่นไปสิบกว่ารอบ ตัดสินใจว่าคืนนี้จะต้องไม่ให้ตานี่ทำแผนชั่วสำเร็จ หากยังเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ช้าก็เร็วเธอจะต้องโดนสูบเลือดหมดตัวแน่!
ฉีฉีเก๋อลูบจมูกอย่างสงสัย รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติกับเพื่อนแต่ดูก็ไม่เหมือนคนป่วย สีหน้าดีมากดูมีเลือดฝาด แต่ความแข็งแรงทางกายนี้แย่เกินไป
หรือว่าเมื่อคืนไปขนอิฐมาหรือไง?
น่าแปลกจริง ๆเลย!
เสวี่ยถวนเห็นเหมยเหมยก็กระตือรือร้นเป็นพิเศษเอาแต่เลียมือเธอ เหมยเหมยป้อนก้อนน้ำตาลให้สองเม็ด พูดซุบซิบกับเข้าเสวี่ยถวนอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากนั้นไม่นานก็ร้อนจนเหงื่อออก
ปาเกินหวงแหนเจ้าเสวี่ยถวนมาก ไม่เพียงแต่มีห้องแยกส่วนตัวและอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการมากที่สุดมอบให้เท่านั้น เครื่องทำความร้อนเองก็ทำงานหนักไม่แพ้กันเพราะกลัวว่าสุดที่รักของตนจะหนาว เหมยเหมยจึงถอดเสื้อคลุมและผ้าพันคอออกถึงจะรู้สึกเย็นขึ้นมาหน่อย
“เฮ้ย เหมยเหมยคอเธอเป็นอะไรอ่ะ? เป็นแผลเหรอ?”
ฉีฉีเก๋อร้องเสียงหลงตกใจเป็นอย่างมาก พระเจ้า…คอของเพื่อนน่ากลัวมากราวกับโดนหมากัดเขียวช้ำเป็นจ้ำ ๆเต็มไปหมด
เหมยเหมยใจเต้นตุบตับรีบพันผ้าพันคอกลับคืน พลันนึกโมโหตัวเองที่ดันลืมรอยคิสมาร์กที่ใครบางคนทำไว้รอบคอไปเสียชั่วขณะ
“เปล่าหรอก แค่โดนยุงกัดเฉย ๆ ยุงที่ทุ่งหญ้าของพวกเธอนี่เก่งจริง ๆ!”
เหมยเหมยเฉไฉไปเรื่อย ฉีฉีเก๋อเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง หน้าหนาวมียุงด้วยเหรอ?
ทำไมแต่ไหนแต่ไรมาเธอถึงไม่เคยเห็นมาก่อนเลยนะ?
“พวกเราไปกันเถอะ ให้เสวี่ยถวนพักผ่อน” ใบหน้าเหมยเหมยร้อนผ่าว โชคดีที่ฉีฉีเก๋อซื่อบื้อหลอกง่ายไม่อย่างนั้นแย่แน่
ทั้งคู่เพิ่งดึงเปิดประตู เหมยซูหานกลับปรากฏตัวที่หน้าประตูอยู่ก่อนแล้ว พอเห็นพวกเธอก็นิ่งชะงักไปครู่หนึ่ง อมยิ้มพลางส่งเสียงเรียก “เหมยเหมย…”
เหมยเหมยหันไปพยักหน้าให้เขาแต่ไม่ได้พูดอะไรด้วย แล้วลากตัวฉีฉีเก๋อเดินจากไป
เหมยซูหานถอนหายใจเงียบ ๆหัวเราะเยาะตัวเอง จากนั้นก็เปิดประตูเดินเข้าไป
ฉีฉีเก๋ออยากรู้เรื่องความสัมพันธ์ของเหมยเหมยและเหมยซูหานมาก จึงอดถามไม่ได้ “ผู้ชายคนนั้นเป็นเพื่อนของเธอเหรอ?”
“เปล่านี่ แค่รู้จักเฉย ๆ”
เหมยเหมยปฏิเสธโดยไม่ลังเลเลยสักนิด แต่ไหนแต่ไรมาเธอไม่เคยคิดจะเป็นเพื่อนกับเหมยซูหาน ทางที่ดีที่สุดก็คือคนแปลกหน้า โดยเฉพาะตอนนี้เหมยซูหานก็กลับมาเกิดใหม่แล้ว เธอยิ่งไม่อยากเจอเขาอีก
ฉีฉีเก๋อลูบจมูก รู้สึกว่าเพื่อนเหมือนจะไม่อยากให้พูดถึงผู้ชายที่ดูดีคนนั้น เธอคิด ๆแล้วก็พูดว่า “หลายวันมานี้ผู้ชายคนนี้มักจะมาที่นี้เพื่อพูดคุยกับเสวี่ยถวนอยู่บ่อย ๆ และเสวี่ยถวนเองก็ไม่ต่อต้านเขาด้วย”
เหมยเหมยไม่ใส่ใจ ม้าน้อยต้องเป็นของเธอ ใครก็แย่งไปไม่ได้
“เหมือนว่าจะมีคนติดตามผู้ชายคนนั้นอยู่” ฉิวฉิวที่ขดตัวอยู่ในเสื้อโค้ทของเธอจู่ ๆก็ส่งเสียงออกมา
………………………………….