ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - ตอนที่ 1334 ทางตำรวจทำคดี + ตอนที่ 1335 ตายแล้วจริงๆ
ตอนที่ 1334 ทางตำรวจทำคดี
เฮ่อเหลียนเช่อยิ้มจนปากแทบฉีก ความรู้สึกหึงหวงเมื่อกี้ก็มลายหายไป ในใจเหลือเพียงความกระหยิ่มใจและพึงพอใจ คนที่เหมยซูหานสนใจคือเขา จ้าวเหมยเป็นใครกัน!
ไม่สิ ยังมีความสำคัญอยู่บ้างที่อย่างน้อยก็เป็นเจ้าหนี้ของเหมยซูหานนี่นา!
ชีวิตสองชีวิตแค่นี้เรื่องขี้ปะติ๋ว หากไม่ได้จริง ๆไว้วันหลังเขาจะสั่งคนไปฆ่าจ้าวเหมยแล้วค่อยให้เหมยซูหานไปช่วยชีวิต สองครั้งก็ถือว่าใช้คืนหมดแล้ว
“อาเช่อ…” เหมยซูหานพูดเร่งเร้า หากไม่รีบไปจัดการคนที่มามุงก็จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
“จะรีบจัดการเดี๋ยวนี้ ไว้ใจได้ แค่เรื่องเล็กน้อย!”
เฮ่อเหลียนเช่อดึงสติกลับมาพลางหันมองอู่เยวี่ยที่นอนอยู่บนพื้นแล้วหยิบสมุดเล่มเล็กจากกระเป๋าแสร้งทำเป็นพูดเสียงดัง “ถอยไปถอยไป…อย่ามาขัดขวางการทำคดีของทางตำรวจ ถอยออกไปไกล ๆ ถ้าทำลายสถานที่เกิดเหตุ พวกคุณมีโทษฐานขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่นะ”
เจ้าหมอนี่แม้มีหน้าตาที่นับว่าหล่อเหลาเอาการแต่ความที่ฆ่าคนมาหลายปีต่อให้เขาไม่อยากฆ่าใครก็จะแผ่ความอาฆาตออกมาจากตัวเป็นธรรมชาติ ทำเอาทุกคนถอยกรูดด้วยความตกใจ
เฮ่อเหลียนเช่อขยิบตาให้เหมยซูหานอย่างได้ใจ มีคุณชายเช่ออย่างเขาออกโรงทีไร เรื่องเล็กน้อยแบบนี้ไม่มีอะไรน่าห่วง!
เขาก้มตัวนั่งยองลงไปแล้วรีบลุกขึ้นอย่างไว หยิบโทรศัพท์เคลื่อนที่ลักษณะคล้ายก้อนอิฐออกมา คุยเสียงไม่ดังใช้เวลาเพียงครู่เดียวเฮ่อเหลียนเช่อก็วางสาย หันกลับมามองเหมยซูหานแวบหนึ่งพลางทำท่าสัญลักษณ์มือที่ให้เขาวางใจได้
ไม่นานลูกน้องของเฮ่อเหลียนเช่อก็มาถึง ไม่รู้ว่าพวกเขาไปหาชุดตำรวจจากไหนมาแถมยังขับรถตำรวจมาอีกคัน ผู้ป่วยที่ยืนมุงอยู่รอบด้านจะไม่เชื่อได้อย่างไรเล่า
เพียงแต่พวกเขารู้สึกว่าสิทธิประโยชน์ของตำรวจเองก็ดีไม่น้อย ออกมาทำคดีหน่อยยังต้องพกโทรศัพท์เคลื่อนที่ ของชิ้นนี้ได้ยินมาว่าราคาตั้งหมื่นหยวนแหนะ!
ลูกน้องเฮ่อเหลียนเช่อทำอะไรคล่องแคล่วฉับไว ไม่นานก็เก็บศพของอู่เยวี่ยเข้าถุงเก็บศพก่อนจะยกขึ้นรถ ทันใดนั้นเองลูกน้องของเหยียนหมิงซุ่นก็วิ่งลงมา เขาได้รับคำสั่งให้มาดูอาการของอู่เยวี่ยเพราะเหยียนหมิงซุ่นยังอยู่ระหว่างทางกลับมา
ลูกน้องเหยียนหมิงซุ่นเห็นเฮ่อเหลียนเช่อเก็บศพอู่เยวี่ยไปก็ตาค้าง แต่นึกถึงคำสั่งของลูกพี่ก็จำต้องแข็งใจเดินไปร้องขอดูศพของอู่เยวี่ย
“คนตายมีอะไรน่าดู? ไปไปไป…อย่ามาขัดขวางเจ้าหน้าที่ทำงาน” เฮ่อเหลียนเช่อไม่สบอารมณ์อย่างมากเลยดึงหน้าขึงขังทันที ลูกน้องเหยียนหมิงซุ่นตกใจจนขาสั่นพรึ่บแต่ก็ขืนใจยืนอยู่ตรงนั้น
“ถ้าคุณชายเช่อไม่ยอมงั้นก็ต้องขอให้คุณชายเช่อรอก่อนสักครู่ รอคุณชายหมิงมาแล้วค่อยคุยกับคุณชายเช่ออีกที”
ดีที่ลูกน้องคนนี้เป็นคนพูดเก่งเสมอมา แม้จะเกรงกลัวเฮ่อเหลียนเช่อแต่ก็ยังใช้เหตุผลเข้าสู้ทั้งยังผิวปากเรียกคนอื่นๆ ที่อยู่ชั้นบนลงมา รวมถึงคนที่เฝ้าเหยียนซินหย่าเองก็มีถึงเจ็ดแปดคนแล้ว ยืนขวางหน้าพวกเฮ่อเหลียนเช่อไว้
ถึงเฮ่อเหลียนเช่อจะอยากบีบคอพวกไม่เจียมตัวพวกนี้ให้ตายให้รู้แล้วรู้รอดแต่เขารู้ว่านี่ไม่ใช่เวลา เขาทำตาวาววับพลางส่งสัญญาณให้ลูกน้องแวบหนึ่ง ลูกน้องเข้าใจความหมายเลยเปิดถุงเก็บศพเผยให้เห็นอู่เยวี่ยที่อาบด้วยเลือด
ลูกน้องเหยียนหมิงซุ่นสอดนิ้วไปตรงใต้จมูกอู่เยวี่ย ไม่มีลมหายใจแสดงว่าตายแล้วจริงๆ เลยไม่กล้าให้เฮ่อเหลียนเช่ออยู่ต่อ กลัวว่าจะทำเจ้าโรคจิตนี่โกรธเข้าจริง ๆ พวกเขาต้องไม่ได้ตายดี
อีกอย่างคุณชายหมิงแค่สั่งให้พวกเขาพิสูจน์ว่าอู่เยวี่ยตายจริงหรือไม่ อย่างอื่นเขาไม่ได้สั่งไว้ ลูกน้องแต่ละคนส่งสายตากันแวบหนึ่งเลยปล่อยให้พวกเฮ่อเหลียนเช่อกลับไปโดยไม่รั้งไว้อีก
ทางเหยียนหมิงซุ่นเองไม่รู้ทำไม ระหว่างทางกลับเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยเลยทำให้รถติดจนต้องเสียเวลาไปเกือบครึ่งชั่วโมงถึงจะเดินทางสัญจรได้ ตอนที่เหยียนหมิงซุ่นตีลีตาเหลือกรีบมาโรงพยาบาลเฮ่อเหลียนเช่อก็พาตัวอู่เยวี่ยกลับไปแล้ว
……………………………………………..
ตอนที่ 1335 ตายแล้วจริงๆ
ในที่สุดเหมยซูหานก็ไม่ได้ไปเยี่ยมเหมยเหมย เขารู้จากเฮ่อเหลียนเช่อว่าคนที่ร่วงตกลงมาคืออู่เยวี่ยจึงเข้าใจทันที เหมยเหมยต้องเคยฝันเหมือนกันแน่ ๆ
ฉะนั้นเมื่อห้าปีก่อนเหมยเหมยถึงได้มีนิสัยเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ เจาะจงเล่นงานอู่เยวี่ยมาตลอด…
ทุกอย่างเป็นเพราะฝันนั่น!
ต่อให้เป็นแค่ฝันแต่ฝันนั่นกลับเสมือนจริง เหมยเหมยไม่เกลียดสิแปลก!
เหมยเหมยน่าจะเกลียดเขาเหมือนกันสินะ ฉะนั้นเขาอย่าไปรบกวนเหมยเหมยเลยดีกว่าจะได้ไม่เป็นการหาเรื่องให้ตัวเอง คอยปกป้องเหมยเหมยอยู่ห่าง ๆจะดีกว่า!
สำหรับการตายของอู่เยวี่ยไม่ได้มีผลต่อใจของเหมยซูหานเลย ต่อให้เหมยเหมยไม่ลงมือเขาก็จะลงมือจัดการอู่เยวี่ยอยู่ดี ตายไปเสียได้ก็ดี
เหยียนหมิงซุ่นรู้เรื่องที่เฮ่อเหลียนเช่อเอาศพอู่เยวี่ยไปจากลูกน้องจึงนึกแปลกใจ ช่วงนี้สิ่งที่เฮ่อเหลียนเช่อทำมันเรียกให้คนเดาทางไม่ถูกจริง ๆ ตอนแรกช่วยตามหา จากนั้นยังช่วยชีวิตเขาไว้หนหนึ่ง ตอนนี้วิ่งแจ้นมาเก็บศพอู่เยวี่ยไปอีก ไม่เข้าใจว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่!
“แน่ใจนะว่าอู่เยวี่ยตายแล้ว?” เหยียนหมิงซุ่นทำหน้าเคร่งขรึม
“ตายแล้ว พวกผมตรวจสอบกันดีแล้ว” ลูกน้องรู้สึกไม่สบายใจ กลัวว่าเหยียนหมิงซุ่นจะไม่พอใจเอา
เหยียนหมิงซุ่นไม่พอใจจริง ๆ แต่เขาไม่พอใจตัวเองต่างหากไม่ใช่ลูกน้องพวกนี้
เขาคิดว่าวิธีการจัดการรับมือต่าง ๆยังเป็นรองพ่อบุญธรรมอย่างเฮ่อเหลียนชิงอยู่มากโข
เลยทำให้พวกลูกน้องของเขาเทียบกับคนที่ผ่านการอบรมจากเฮ่อเหลียนชิงไม่ติด ไม่ว่าจะเรื่องความสามารถในการปฏิบัติภารกิจหรือไหวพริบแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ไม่ใช่ว่าห่างชั้นแค่นิดเดียวแต่ถึงขั้นสู้คนของเฮ่อเหลียนเช่อไม่ได้ด้วยซ้ำ
สิ่งนี้ยิ่งทำให้เหยียนหมิงซุ่นนึกขุ่นใจมากกว่าเดิม แต่เป็นการกระตุ้นความต้องการเอาชนะของเขาขึ้นมา
เฮ่อเหลียนเช่อติดตามเฮ่อเหลียนชิงมาตั้งแต่เด็กซึ่งนานกว่าระยะเวลาสามปีของเขามาก ซึ่งเป็นธรรมดาที่เขาจะเป็นรองเฮ่อเหลียนเช่อ รออีกไม่กี่ปีเขาจะต้องเอาชนะเฮ่อเหลียนเช่อได้แน่นอน!
เขามั่นใจ!
เหยียนหมิงซุ่นไม่ได้ถามต่อ แม้คนพวกนี้จะมีความสามารถด้อยไปบ้างแต่ยังพอมีทักษะตรวจสอบดูว่าคนคนหนึ่งตายไปแล้วหรือไม่ ไม่มีทางดูผิด แต่ปกติเหยียนหมิงซุ่นถือว่าความจริงคือสิ่งที่เห็นแต่ไม่ใช่สิ่งที่ได้ยิน ดังนั้นเขาตัดสินใจไปดูเองกับตาสักครั้ง
ตอนที่เหยียนหมิงซุ่นหาตัวเฮ่อเหลียนเช่อเจอ เจ้าหมอนี่ก็กำลังเตรียมเผาศพอู่เยวี่ยเสียแล้ว ดีที่เขาไปทันเวลาเลยยังเหลือสภาพศพครบส่วนของอู่เยวี่ยไว้อยู่
ใบหน้าของอู่เยวี่ยไม่น่าดูนักเพราะโดนกรีดเหมือนผี แต่เหยียนหมิงซุ่นจำได้ตั้งแต่แวบแรก เขาจึงยื่นมือไปทดสอบดูก่อนจะวางใจ
“ทำไมกัน? คุณชายหมิงคงไม่ได้มีรักแท้กับอู่เยวี่ยหรอกนะ? ตายแล้วยังไม่ยอมปล่อยอีก?”
เฮ่อเหลียนเช่อมองเหยียนหมิงซุ่นอย่างเย้ยหยันพร้อมสายตานึกสนุก
เหยียนหมิงซุ่นตอกกลับอย่างไม่ยอมแพ้ “ช่วงนี้เฮ่อเหลียนเช่อนายมักช่วยฉันช่วยหาคนช่วยออกแรงให้อยู่เรื่อย ต้องขอบคุณจริง ๆ!”
เฮ่อเหลียนเช่อแค่นเสียงเย็นชาทีหนึ่ง รู้สึกอัดอั้นจะแย่แต่ภายนอกกลับต้องทำทีไม่สนใจ
“คนของฉันต้องทำงานเก่งกว่าคนของนายร้อยเท่าอยู่แล้ว ให้คนของนายหัดเรียนรู้ไว้บ้างนะ!”
เหยียนหมิงซุ่นสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย คร้านจะต่อปากต่อคำกับเจ้าหมอนี่ แต่เฮ่อเหลียนเช่อเองก็พูดไม่ผิดที่คนของเขาสู้ไม่ได้จริง ๆ
ไม่นานอู่เยวี่ยก็ถูกส่งเข้าไปในเตาเผา ใช้เวลาเพียงครู่เดียวก็มีกลิ่นเหม็นชวนอ้วกคลุ้งไปทั่วอากาศ สักพักอู่เยวี่ยก็เหลือแค่ผงขี้เถ้า
“เหมยเหมย อู่เยวี่ยตายแล้ว ถูกเผาเหลือแค่ขี้เถ้าแล้ว!”
เหยียนหมิงซุ่นกลับไปที่โรงพยาบาลขณะที่เหมยเหมยยังหลับใหลอยู่ เขากระซิบพูดข้างหูเสียงเบาก่อนที่เหมยเหมยจะฉีกยิ้มที่มุมปากสูงเผยรอยยิ้มหวานกว่าเดิม นอนฝันที่งดงามหาที่เทียบไม่ได้
เรื่องที่อู่เยวี่ยตกตึกไม่ได้เป็นเรื่องฮือฮาในโรงพยาบาลเพราะเหยียนหมิงซุ่นได้สั่งคนไปกระจายข่าวลือข้างนอกว่าอู่เยวี่ยเป็นโรคประสาท คิดสั้นกระโดดตึกตายเอง
ดังนั้นไม่นานก็ไม่มีใครเอ่ยถึงเรื่องนี้อีก จนค่อยๆ เงียบหายไป
……………………………………………….