ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - ตอนที่ 1312 เหอปี้อวิ๋นทำชั่วได้ชั่ว + ตอนที่ 1313 กล่าวโทษผู้อื่น
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- ตอนที่ 1312 เหอปี้อวิ๋นทำชั่วได้ชั่ว + ตอนที่ 1313 กล่าวโทษผู้อื่น
ตอนที่ 1312 เหอปี้อวิ๋นทำชั่วได้ชั่ว
ท่ามกลางซากปรักหักพังเหอปี้อวิ๋นนอนจมกองเลือดไหล แม้ว่าจะยังมีชีวิตอยู่แต่ก็หายใจโรยริน ลมหายใจออกแรงแต่ลมหายใจเข้าแผ่วเบา
ร่างกายส่วนล่างของเหอปี้อวิ๋นถูกรถขุดดินตัดขาดจากส่วนบน เลือดอาบท่วมท่อนร่างแดงเถือก ลำไส้ทะลักออกมาอยู่บนพื้น แต่ท่อนบนของเหอปี้อวิ๋นกลับขยับไปมาไม่หยุด ราวกับคิดจะปีนป่ายออกจากกองซากปรักหักพังนั้น
ภาพเหตุการณ์ตรงหน้า ต่อให้พวกพี่เสือจะชินชาภาพเหล่าเพื่อนทหารที่เคล้าไปด้วยคาวเลือด แต่ตอนนี้กลับรับไม่ได้ สีหน้าดูแย่ไม่หยอก
ลี่เมิ่งเฉินกลับดีขึ้นมาก พลางล้างสมองตัวเองว่า ‘ไม่มีอะไร ก็แค่อวัยวะบนตัวของมนุษย์ถูกจัดวางใหม่ก็เท่านั้น แท้จริงก็ยังเป็นคนนั้นแหละ เพียงแค่ตอนนี้แยกส่วนกระจัดกระจาย และใกล้หมดลมหายใจเต็มที!’
“แชะ แชะ”
ลี่เมิ่งเฉินหยิบกล้องถ่ายรูปออกมาจากกระเป๋าพร้อมกับหันไปเก็บบันทึกภาพเหอปี้อวิ๋นที่ใกล้หมดลมหายใจไว้หลายสิบรูป ถ่ายไว้ทุกมุม สามารถเก็บเอาไว้เพื่อเป็นฐานข้อมูลอันดับหนึ่ง
“ช่วย ช่วย…ฉันด้วย…เยวี่ยเยวี่ย…”
เสียงของเหอปี้อวิ๋นเบามากขาด ๆหาย ๆ เหยียนหมิงซุ่นนั้นหูตาว่องไวจึงพอจับใจความได้บ้าง เขาย่อตัวลงพูดกับเหอปี้อวิ๋นในระยะใกล้ “อู่เยวี่ยหนีไปแล้ว เธอเป็นคนโยนระเบิด”
เขาไม่คิดว่าการแทงด้วยมีดครั้งนี้จะโหดร้ายอะไร สภาพเหอปี้อวิ๋นในตอนนี้เป็นเพราะเธอทำตัวเธอเอง หากจะโทษก็ต้องโทษที่เธอเลี้ยงลูกสาวตัวแสบคนหนึ่งออกมา!
เหอปี้อวิ๋นนั้นมีสติขึ้นมาบ้าง นึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ก่อนที่ระเบิด และรู้ว่าอู่เยวี่ยทอดทิ้งเธอ อีกทั้งยังโยนระเบิดใส่เธอจนต้องได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงเพียงนี้
“เยวี่ยเยวี่ย…ลูกใจร้ายมาก…”
ในจังหวะนั้นเหอปี้อวิ๋นถึงได้รับรู้ถึงความเจ็บปวดตามร่างกาย เธอพยายามมองลงไปหาร่างกายส่วนล่าง แต่กลับเห็นแต่ความว่างเปล่า หนำซ้ำยังมีลำไส้ทะลักกองอยู่ด้านนอก ไหนเล่าจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น?
เหอปี้อวิ๋นนั้นทั้งเกลียดทั้งกลัวทั้งเสียใจทั้งเจ็บปวด จนค่อยๆ ตายทั้งเป็นไปพร้อมกับความเจ็บปวด ดวงตานั้นเบิกกว้าง นอนตายตาไม่หลับ!
เกรงว่าจนวันตายเธอก็ยังไม่เข้าใจว่าเหตุใดลูกสาวที่ตนนั้นรักอย่างสุดหัวใจ ถึงได้ส่งเธอไปลงนรกด้วยเงื้อมือตัวเอง อีกทั้งยังใช้วิธีที่โหดร้ายขนาดนี้!
เหยียนหมิงซุ่นไร้ซึ่งความรู้สึก คนชั่วอย่างเหอปี้อวิ๋น ต่อให้ไม่ถูกรถขุดดินตัดขาดเป็นสองท่อน เขาก็ไม่มีทางปล่อยเอาไว้แน่ และอู่เยวี่ยตัวดีนั่นอีกคน
ผู้หญิงที่ชั่วช้าเลือดเย็นเสียยิ่งกว่าเหอปี้อวิ๋นหลายร้อยเท่า!
“เผาที่นี่ซะ” เหยียนหมิงซุ่นกำชับอย่างเย็นชา
ลี่เมิ่งเฉินกลับรีบพุ่งเข้ามาหา “อย่าเผา อย่าเผา ถึงยังไงนายก็ไม่เอาแล้วนี่ งั้นก็ยกศพให้ฉันสิ!”
พวกพี่เสือสีหน้าเปลี่ยน มองลี่เมิ่งเฉินด้วยความประหลาดใจ ราวกับมองคนวิปริตก็มิปาน
ลี่เมิ่งเฉินรีบเอ่ยขึ้น “ก็คนที่ร่างกายขาดเป็นสองท่อนแล้วยังมีชีวิตอยู่น้อยมากที่จะเจอ ฉันต้องเอากลับไปศึกษาให้มาก ไม่แน่ว่าอีกหน่อยคนเราอาจสับร่างกันได้ก็ได้นะ!”
ทุกคนต่างก็ส่ายหน้าหน่ายใจต่อความคิดแสนประหลาดของลี่เมิ่งเฉิน
คนนะไม่ใช่ไส้เดือนที่ขาดเป็นสองท่อนแต่ยังมีชีวิตอยู่ได้ เหอปี้อวิ๋นก็มีชีวิตอยู่ต่ออีกไม่กี่นาทีไม่ใช่เหรอ?
เพียงไม่เอ่ยถามถึงยาวิเศษอีกเหยียนหมิงซุ่นก็ใจกว้างพอ เขาสั่งให้ลูกน้องแช่แข็งเหอปี้อวิ๋นก่อนแล้วค่อยขนส่งทางอากาศไปให้ถึงตระกูลลี่
“สามชีวิตนั้น ฉันตอบแทนไปแล้วหนึ่งชีวิต ยังเหลืออยู่สองชีวิต”
บัญชีของเหยียนหมิงซุ่นคิดคำนวณออกมาอย่างชัดเจน ครู่เดียวหนี้ชีวิตที่ติดค้างทั้งสามคนก็ลดเหลือเพียงสองคนแล้ว ลี่เมิ่งเฉินมองเขาด้วยความงงงัน ผ่านไปครู่ใหญ่ถึงได้เอ่ยด่าไปที
…ไอ้พ่อค้าหน้าเลือด!
เดิมทีเหยียนหมิงซุ่นอยากจะพูดอะไรกับเฮ่อเหลียนเช่อสักหน่อย ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องพูดดีด้วยบ้าง แต่ไม่รู้ว่าเฮ่อเหลียนเช่อไปตั้งแต่เมื่อไร
“พี่หมิงซุ่น เฮ่อเหลียนเช่อและอู่เยวี่ยหมั้นกันแล้ว”
เขานึกถึงเรื่องก่อนหน้านี้ที่เหมยเหมยเคยบอกเขา เขาเองก็ไม่อยากจะเชื่อ แต่คิด ๆดูแล้วก็พอวิเคราะห์ได้ว่าเหตุใดอู่เยวี่ยถึงมีส่วนเอี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย
………………………………………………….
ตอนที่ 1313 กล่าวโทษผู้อื่น
เหยียนหมิงซุ่นให้พวกพี่เสืออยู่เก็บกวาดซากที่เหลือ ส่วนตัวเขาได้ล่วงหน้าไปที่โรงพยาบาล ไม่รู้ว่าเหมยเหมยเป็นอย่างไรบ้าง ไม่ไปเห็นกับตาเขาคงไม่สบายใจ
ส่วนทางอู่เยวี่ยเขามีวิธีจัดการ และเฮ่อเหลียนเช่อหากตรวจสอบแล้วรู้ว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย เขาก็ไม่มีทางปล่อยไอ้ทรพีนั่นไปเช่นกัน
เหมยเหมยฟื้นแล้ว เธอไม่ได้เป็นอะไรมากแค่ร่างกายยังคงอ่อนแอ สีหน้านั้นแทบดูไม่ได้ จ้าวอิงหัวอยู่เป็นเพื่อนเธอที่โรงพยาบาล ดวงตาแดงก่ำ ดูแก่ลงเป็นสิบปี
เดิมทีจ้าวอิงหัวติดประชุมอยู่ในเมือง การประชุมพึ่งเริ่มได้เพียงครึ่งเดียวเขาก็รู้สึกโหวง ๆไม่สบายใจเอามาก ๆ แต่ตอนนั้นเขาไม่ได้คิดเอะใจอะไร เข้าใจว่าช่วงนี้คงทำงานเหนื่อย ๆ หัวใจจึงได้แสดงอาการต่อต้าน
แต่เมื่อการประชุมสิ้นสุดลง จ้าวอิงหัวก็ได้รับข้อมูลจากพี่เสือว่าได้เกิดเรื่องขึ้นกับภรรยาและลูกสาว ในเวลานั้นราวกับวิญญาณออกจากร่าง จึงรีบกลับมาอย่างรวดเร็ว แม้แต่งานที่ต้องรายงานต่อผู้นำมณฑลยังมอบหมายให้ผู้ช่วยไปทำแทน
ตอนเขากลับมาประจวบเหมาะกับช่วงที่พี่เสือพาตัวเหยียนซินหย่าและเหมยเหมยมาส่งโรงพยาบาลพอดี ซึ่งจังหวะที่เขาได้เห็นสภาพน่าเวทนานั้น จ้าวอิงหัวแทบเป็นลมล้มพับไป นับเป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าฟ้าจะถล่มลงมา
ในขณะนี้เหยียนซินหย่ายังคงอยู่ในห้องผ่าตัดเพื่อทำการช่วยชีวิต เหมยเหมยปลอดภัยดี จ้าวอิงหัวเบาใจลงไปครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งห้อยค้างเติ่งอยู่กลางอากาศ เพียงแค่รอให้เหยียนซินหย่าออกมาอย่างปลอดภัยเขาถึงจะวางใจได้
“เหมยเหมยฟื้นแล้วเหรอ? ดื่มน้ำหน่อยไหม?” จ้าวอิงหัวสำรวจร่องรอยบาดแผลตามตัว แม้หมอจะบอกว่าเป็นแค่แผลถลอก แต่เขากลับปวดใจนัก
ตั้งแต่ลูกสาวกลับบ้านมา แม้แต่คำพูดแรง ๆเขายังทำใจพูดไม่ได้เลย เหอปี้อวิ๋นกับอู่เยวี่ยสองคนนี้ไม่ตายดีแน่ ใช่ว่าเขาจะฆ่าพวกหล่อนไม่ตาย!
เหมยเหมยส่ายหน้าไปมา ในตอนนี้เธอรู้สึกผะอืดผะอม เกรงว่าดื่มน้ำเข้าไปจะอาเจียนออกมา เมื่อนึกถึงเหยียนซินหย่าขึ้นมา เธอจึงรีบเอ่ยถามว่า “พ่อคะ…แม่เป็นอย่างไรบ้าง?”
น้ำเสียงแหบแห้งไม่น่าฟัง ช่วงลำคอก็ปวดแสบปวดร้อนไปหมด ทำให้จ้าวอิงหัวเจ็บปวดใจมากกว่าเดิม แต่พอนึกถึงภรรยาที่นอนอยู่ในห้องผ่าตัดโดยไม่รู้จะเป็นตายร้ายดีอย่างไร ใจของเขาแทบจะแยกออกเป็นสองส่วนเสียให้ได้
“ไม่เป็นไร แม่ของลูกไม่เป็นอะไรหรอก ลูกนอนพักสักหน่อย รอลูกตื่นขึ้นมาพ่อจะพาไปหาแม่เอง!”
จ้าวอิงหัวฝืนทนทำตัวเข้มแข็ง คอยปลอบโยนเพราะกลัวว่าลูกสาวตนจะเสียใจเอาได้
เรื่องความเสียใจให้เป็นเขาเองที่แบกรับไว้!
แต่ความกังวลและความกระวนกระวายของจ้าวอิงหัวกลับไม่อาจปิดบังเหมยเหมยได้ เธอรู้ดีว่าสถานการณ์ของเหยียนซินหย่าไม่ค่อยดีนัก ในใจกระวนกระวาย แต่ใบหน้ากลับไม่ได้แสดงอาการออกมา เพียงแค่หลับตาลงอย่างว่าง่าย
ตอนนี้เธออ่อนแอจนเกินไป สิ่งที่ต้องการมากที่สุดคือการพักผ่อน เธอจะต้องหายดีในเร็ววัน เพื่อไปตามคิดบัญชีกับนางชั่วอู่เยวี่ย
เธอจะต้องเอาความเจ็บปวดของทั้งสองภพชาติ เอาคืนอู่เยวี่ยเป็นร้อยเท่าพันเท่า!
ตอนเหยียนหมิงซุ่นมาถึง เหมยเหมยยังคงหลับอยู่ จ้าวอิงหัววิ่งไปวิ่งมา ครู่หนึ่งแวะไปสอดส่องที่ห้องผ่าตัด อีกครู่หนึ่งก็วิ่งกลับมาดูแลลูกสาว เกรงก็แต่เขาอยากจะฉีกแบ่งเป็นสองร่างเนี่ยสิ!
“คุณไปเฝ้าป้าเหยียนเถอะ เดี๋ยวทางเหมยเหมยผมเฝ้าเอง”
น้ำเสียงของเหยียนหมิงซุ่นติดเย็นชาเล็กน้อย เขานึกกล่าวโทษต่อจ้าวอิงหัว อยู่ในพื้นที่ของตนแท้ ๆ ภรรยากับลูกสาวยังเกือบถูกคนอื่นปองร้ายเกือบถึงตาย ยศอำนาจที่มีไม่มีความหมายเอาเสียเลย!
และแน่นอนว่าเขาเกลียดตัวเองมากกว่า พูดตามตรงเขาก็ไม่ได้ดีไปกว่าจ้าวอิงหัวสักเท่าไหร่ จึงไม่มีสิทธิ์ที่จะไปโทษคนอื่น!
เหมยเหมยหลับได้ไม่นาน ในฝันมีแต่เสียงระเบิด และยังมีภาพเหตุการณ์ในชาติที่แล้วก่อนที่เธอจะตาย พื้นที่รอบ ๆ นองไปด้วยเลือด เธอตกใจจนเหงื่ออาบท่วมตัวจนสะดุ้งตื่น
“ฝันร้ายเหรอ? ไม่ต้องกลัวนะ พี่จะอยู่เป็นเพื่อนเธอเอง”
เหยียนหมิงซุ่นเพิ่งนั่งลงได้ครู่เดียวก็เหลือบเห็นหน้าผากของเหมยเหมยชุ่มไปด้วยเหงื่อ อีกทั้งสีหน้าเหยเก จึงได้โอบเธอเข้ามาไว้ในอ้อมกอดถึงทำให้เธอพอจะสงบนิ่งลงได้
ในเวลานี้เขากลับนึกถึงคำพูดแปลก ๆบางอย่างที่เคยได้ยินมาก่อนหน้านี้ รวมทั้งพลังมหัศจรรย์ของเหมยเหมย เสมือนมิติที่ข้ามไปหยิบของได้ในยุคเทพเซียนโบราณ แล้วยังทำสิ่งของนั้น ๆมาแปลงเป็นของทุกสรรพสิ่งได้
………………………………………………….