ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - ตอนที่ 1222 ไม่ยอมรับความสัมพันธ์ + ตอนที่ 1223 ขิงก็รา ข่าก็แรง
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- ตอนที่ 1222 ไม่ยอมรับความสัมพันธ์ + ตอนที่ 1223 ขิงก็รา ข่าก็แรง
ตอนที่ 1222 ไม่ยอมรับความสัมพันธ์
เฮ่อเหลียนเช่อกัดฟันกรอดอย่างเกลียดชัง นี่เขาพยายามตามหาตัวแทบตายก็ไม่เจอ พอเลิกหากลับเจอง่าย ๆเสียอย่างนั้น!
เขาตามหาเจ้าหมอนี่มาสองปี ที่แท้ก็เป็นไอ้เวรนี้นี่เอง!
ความแค้นทั้งเก่าใหม่ เขาต้องฆ่าไอ้หมอนี่ด้วยน้ำมือของตัวเองให้ได้เลย!
เหยียนหมิงซุ่นรับรู้ได้ถึงสายตาอันอาฆาตของเฮ่อเหลียนเช่อก็หันไปยิ้มให้เขาเล็กน้อย นัยน์ตาของเขาฉายความเหยียดหยามออกมา เฮ่อเหลียนเช่อบีบแก้วแน่นและบีบแรงขึ้นเรื่อย ๆ
“เพล้ง”
แก้วแตกกลายเป็นเศษเล็กเศษน้อย มือของเฮ่อเหลียนเช่อชุ่มไปด้วยเลือด แขกทุกคนต่างตกใจ รีบก้มหน้าก้มตาลงกินข้าว
เสี่ยวเมิ่งเพียงส่งสัญญาณมือ คนที่รักษาบาดแผลของเฮ่อเหลียนเช่อก็เข้ามาอย่างรวดเร็ว จัดการกับอาการบาดเจ็บที่มือของเขาอย่างใจเย็น
เฮ่อเหลียนชิงแค่นเสียงพูดเหน็บแนมว่า “ยิ่งโตยิ่งโง่ ตัวเองไม่มีความสามารถกลับระบายความโกรธกับแก้ว จุ๊ ๆ โง่จนคนอื่นเทียบไม่ติดเลยจริง ๆ!”
เฮ่อเหลียนเช่อมองไปที่เฮ่อเหลียนชิงอย่างดุดัน “ก็แค่หาของธรรมดามาเป็นลูกชาย คุณต้องอธิษฐานว่าลูกชายคนนี้จะมีชีวิตยืนยาวขึ้นหน่อยนะ อย่าตายก่อนคุณไปเสียล่ะ ไม่อย่างนั้นพอถึงเวลาแล้วจะไม่มีใครส่งคุณขึ้นภูเขาในวันตาย!”
เฮ่อเหลียนชิงมองชายหนุ่มที่เมื่อก่อนเคยเรียกเขาว่าพ่อ ความอ่อนโยนพาดผ่านดวงตาแวบหนึ่ง เฮ่อเหลียนเช่อมีริมฝีปากสีแดงและฟันขาวเหมือนตอนเด็ก ผิวขาวนวลเนียน ใครเห็นก็อยากจะหยิกสักที ตอนนั้นเขาทุ่มเทความพยายามทั้งหมดเพื่อเด็กคนนี้
แต่ผลสุดท้าย……
ใจของเฮ่อเหลียนชิงที่กำลังนึกถึงความอ่อนโยนก็รีบดึงกลับมาอย่างรวดเร็ว ดึงเปลือกแข็งที่เขาสร้างเพื่อป้องกันตัวเองกลับขึ้นมาอีกครั้ง
“วางใจเถอะ ลูกชายของฉันจะต้องมีชีวิตอยู่อีกยาวนานแน่นอน แต่นายต่างหากที่ควรระวัง อย่าตายก่อนพ่อก็แล้วกัน ไม่งั้นจะทิ้งศพพ่อแกกองไว้บนถนน แม้กระทั่งเสื่อห่อศพก็ยังไม่มี!”
การปะทะฝีปากของเฮ่อเหลียนเช่อและหนิงเฉินเซวียนรวมหัวกันก็ยังสู้เฮ่อเหลียนชิงไม่ได้เลย พูดเพียงไม่กี่คำอารมณ์โมโหที่รุนแรงของเฮ่อเหลียนเช่อก็ถูกจุดขึ้น
หนิงเฉินเซวียนกดเฮ่อเหลียนเช่อเอาไว้ พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เรื่องหลังความตายของฉันไม่ต้องให้นายลำบากมายุ่งหรอก ถ้าหากยังอยากให้งานเลี้ยงวันนี้ดำเนินไปจนจบ ช่วยหุบปากแล้วเป็นเด็กดีหน่อย”
เฮ่อเหลียนชิงกลอกตามองบน แต่ก็ไม่ได้แหย่เฮ่อเหลียนเช่ออีกต่อไป เหยียนซินหย่าถอนหายใจอย่างโล่งอก จิบซุปต่อไปอย่างใจสั่น
เหมยเหมยรับไมโครโฟนมาจากมือของเหยียนหมิงซุ่น นี่เป็นครั้งแรกที่พูดต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้ ในใจรู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย ถ้าหากไม่ได้เหยียนหมิงซุ่นจับมือเอาไว้ ตอนนี้เธอคงจะไม่สามารถสงบสติลงได้ขนาดนี้แน่นอน
“ที่ฉันอยากพูดก็คือ ฉันชื่อจ้าวเหมย พ่อคือจ้าวอิงหัว แม่คือเหยียนซินหย่า พี่ชายคือจ้าวเสวียหลิน พวกเขาคือครอบครัวของฉัน… อืม ความสัมพันธ์ของครอบครัวพวกเราดีมาก กับพี่หมิงซุ่นก็ดีมากเช่นกัน… ฉันอยากพูดแค่นี้แหละค่ะ”
อันที่จริงเหมยเหมยไม่อยากจะพูดอะไร แต่เธอรู้ว่าเหยียนหมิงซุ่นประกาศไปแบบนี้คงทำให้หลายคนคิดว่าตระกูลจ้าวและเฮ่อเหลียนชิงดองญาติกัน และนี่คือสิ่งที่คุณปู่และพวกจ้าวอิงหย่งต้องการ
แต่เธอไม่ได้คิดแบบนี้
เธอไม่ยินดีให้ตระกูลจ้าวได้ประโยชน์จากบารมีของเหยียนหมิงซุ่นเลยแม้แต่นิดเดียว พวกเขามีสิทธ์อะไร?
แต่เมื่อครู่เหมยเหมยเห็นว่ามีหลายคนไปที่โต๊ะของตระกูลจ้าวเพื่อดื่มอวยพร และความชอบใจที่ปิดไว้ไม่อยู่ของจ้าวอิงหย่ง ในใจของเธอตื่นตระหนกจึงอยากพูดอะไรสักหน่อย แม้ว่ามันจะทำให้คุณปู่โกรธก็ตามแต่เธอไม่สนใจอีกต่อไปแล้ว!
เหยียนหมิงซุ่นลูบมือเธอเบา ๆแล้วจูงมือเธอกลับไปยังที่นั่ง เขาหยิบเหล้ามาหนึ่งขวดและแก้วหนึ่งใบ เพื่อดื่มอวยพรให้ทุกโต๊ะ
คำพูดของเหมยเหมยยังคลุมเครือจึงมีหลายคนฟังไม่เข้าใจความหมาย มีจำนวนน้อยคนนักที่จะมีสมองปราดเปรื่อง พลันฟังเข้าใจในคำพูด
นี่หลานสาวตระกูลจ้าวกำลังขีดเส้นแบ่งความสัมพันธ์กับตระกูลจ้าวอย่างชัดเจน!
คุณปู่ก็ฟังออกถึงความหมายของหลานสาว และอันหย่าฟางก็เช่นกัน อาการดีอกดีใจก่อนหน้านั้นหยุดนิ่งลงในทันที มีเพียงจ้าวอิงหย่งเท่านั้นที่ยังไม่เข้าใจมัวแต่นับถอยหลังสู่การคืนสถานะให้กับตนเองอย่างเป็นทางการ
เหยียนหมิงซุ่นมาดื่มอวยพรถึงโต๊ะตระกูลจ้าว ทุกคนต่างหันมองมาอยากจะดูว่าหลานเขยของตระกูลจ้าวจะเชื่อมสัมพันธ์กับตระกูลจ้าวเช่นไร
……………………………………………………………
ตอนที่ 1223 ขิงก็รา ข่าก็แรง
เหยียนหมิงซุ่นเคารพคุณปู่ก่อน สีหน้าท่าทางดูเคารพนบน้อมมากหาที่ติไม่ได้แม้แต่น้อย แต่ในสายตาของคนนอก กลับดูเคารพนบน้อมมากเกินไปหน่อย ดูห่างเหินอย่างไรไม่รู้
“คุณจ้าว ขอบคุณที่ให้เกียรติมาร่วมงานนะครับ ผมขอดื่มให้คุณก่อนเลย” เหยียนหมิงซุ่นใช้คำพูดอันเหมาะสมอย่างเมื่อครู่ชนแก้วดื่มและใช้ริมฝีปากจิบเพียงเบา ๆเท่านั้น
ไม่ต่างจากคนอื่น ๆ
คุณปู่พยายามอดทนต่อความอึดอัดภายในใจ ทำได้แค่ยกเหล้าขึ้นมาจิบ ทั้ง ๆที่เหล้าเหมาไถหอมและนุ่มลิ้นมากแต่เขากลับลิ้มรสได้แค่ความขมขื่นเท่านั้น
หรือว่าตระกูลจ้าวจะไม่สามารถยืนหยัดได้อีกต่อไป?
จ้าวอิงหย่งกลับไม่ได้สังเกตเห็นถึงความผิดปกติ เขาตะโกนว่า “เสี่ยวเหยียนต้องดื่มรวดเดียวหมดถึงจะถูก มา ๆ ลุงสามจะดื่มกับนายเอง ชน!”
เขากลับตีสนิทเรียกตัวเองว่าลุงสามก่อน อันหย่าฟางสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อยแล้วเตะเขาไปเบา ๆทีหนึ่ง แต่จ้าวอิงหย่งกำลังดีอกดีใจ ใจคิดแค่ต้องการสานความสัมพันธ์กับหลานเขยตัวโชคลาภในอนาคต ไหนเลยจะสนใจเรื่องอื่น
เหยียนหมิงซุ่นยิ้มเบา ๆ เบี่ยงหลบขวดเหล้าที่จ้าวอิงหย่งยื่นออกมา “คุณจ้าวก็พูดตลกแล้ว ผมดื่มไม่เก่ง ขอโทษด้วยครับ”
พูดจบเขาก็ชนกับจ้าวอิงหย่งด้วยท่าทีปกติและใช้ริมฝีปากแตะพอเป็นพิธี จากนั้นก็ไม่สนใจเขาอีกแล้วหันไปมองจ้าวอิงหนานแทน
“เมื่อก่อนอาจารย์จ้าวเคยสอนผมมาก่อน เป็นอาจารย์วันเดียวก็นับว่าเป็นอาจารย์ไปตราบชั่วชีวิต ผมขอดื่มให้อาจารย์ อาจารย์จ้าวตามสบายเลยนะครับ”
เหยียนหมิงซุ่นจริงใจกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด เขารินเหล้าในแก้วของเขาจนเต็มแล้วดื่มหมดในรวดเดียว จ้าวอิงหนานตะลึงไปชั่วขณะ รีบดื่มเหล้าหมดแก้วเช่นกันพลันอบอุ่นไปทั้งหัวใจ
เธอก็แค่เคยสอนดนตรีเหยียนหมิงซุ่นเพียงแค่คาบหนึ่งต่อสัปดาห์เท่านั้น แถมยังโดนคาบวิชาหลักอื่นเอาชั่วโมงไปอีก ยังจะพูดถึงเรื่องศิษย์อาจารย์อะไรได้เล่าแต่เหยียนหมิงซุ่นกลับเคารพเธอต่อหน้าคนมีชื่อเสียงมากมายในเมืองหลวงขนาดนี้ ไม่ใช่เป็นเพราะว่าเมื่อก่อนเธอดีต่อเหมยเหมยมากหรอกหรือ
ท่าทางเย็นชาที่ชนแก้วกับพี่สามของเธอเมื่อครู่ เธอเห็นอย่างชัดเจน ในใจรู้ว่าเหยียนหมิงซุ่นไม่อยากนับญาติกับตระกูลจ้าวแน่นอน
แต่กลับเต็มใจดื่มแก้วเดียวรวดให้เธอคนเดียว จ้าวอิงหนานจะไม่ซาบซึ้งได้อย่างไร?
เหยียนหมิงซุ่นไปโต๊ะอื่นแล้ว ตระกูลจ้าวถูกปล่อยให้โดดเดี่ยวในทันที คนที่เข้ามารุมล้อมก่อนหน้านี้กลับไปที่นั่งของตัวเองอย่างไม่ลังเลเลยแม้แต่นิดเดียว
บรรดาเหล่าคนดังมีชื่อเสียงในเมืองหลวงล้วนฉลาดกันทั้งนั้น เมื่อครู่เหยียนหมิงซุ่นแบ่งแยกอย่างชัดเจน และคำพูดที่จ้าวเหมยพูดก่อนหน้านั้นพวกเขาจะไม่เข้าใจได้อย่างไรเล่า!
หลานสาวตระกูลจ้าวเอาใจออกห่างจากตระกูลจ้าวแล้ว ไม่ใช่เรือลำเดียวกันแล้ว!
คุณปู่แสดงสีหน้าโมโห เขาคิดไม่ถึงว่าหลานสาวของเขาจะใจร้ายขนาดนี้ ไม่คำนึงถึงหน้าตาของตระกูลจ้าวเลยสักนิด
สังเกตเห็นสายตาแปลก ๆของคนอื่นที่ทิ่มแทงมาคุณปู่ก็เหมือนมีก้างติดคอ ยากที่จะกลืนอาหารลงคอได้ คิดแค่เพียงอยากกลับบ้านเร็ว ๆ
ต่อให้จ้าวอิงหย่งจะโง่เขลามากแค่ไหนแต่เวลานี้ก็มองออกถึงความผิดปกติ พวกที่ประจบอยู่ข้างกายเขาเมื่อครู่ ตอนนี้หายไปหมดไม่เหลือสักคนและกลับไปมีท่าทางเมินเฉยเหมือนหลายวันก่อน
“พ่อ เหมยเหมยเธอหมายความว่ายังไง?” จ้าวอิงหย่งใบหน้าเต็มไปด้วยความโมโห
“กลับไปค่อยว่ากัน”
คุณปู่ส่ายหัวเบา ๆ ปรามคำด่าทอของจ้าวอิงหย่งไว้ วันนี้ตระกูลจ้าวเสียหน้ามากพอแล้ว หากให้ลูกสามก่อเรื่องขึ้นมาอีกจะพลอยทำให้คนอื่นหัวเราะเอาเสียเปล่า ๆ
ในที่สุดเหยียนหมิงซุ่นก็มาถึงโต๊ะของเฮ่อเหลียนชิง ดื่มเคารพให้กับแม่ยายก่อนเต็มแก้ว แล้วก็เฮ่อเหลียนชิงอีกครั้ง ในที่สุดก็ถึงคราวของพ่อลูกหนิงเฉินเซวียน เฮ่อเหลียนเช่อลุกขึ้นยืนซึ่งส่วนสูงเทียบเคียงกับเหยียนหมิงซุ่น พลังคุกคามสูสีกัน
“คุณชายหมิงคนดี ๆคนหนึ่งเอาแต่ลอบกัดลับหลัง เลวทรามต่ำช้า!”
“ผมต้องขอบคุณคุณชายเช่อสักหน่อย หลายปีมานี้เป็นพระคุณมากที่คุณชายเช่อคอยดูแลชีวิตลูกน้องผมถือว่าใช้ชีวิตอย่างสุขสบายทีเดียว”
เหยียนหมิงซุ่นเผชิญหน้ากันตาต่อตา ฟันต่อฟัน ทุกคำพูดเหมือนกับใบมีด ถากถางว่าสามปีมานี้เฮ่อเหลียนเช่อให้ผลประโยชน์แก่เขามากมาย ทั้งยังพ่ายแพ้เสียที่ดินและธุรกิจให้เขาไม่น้อย
……………………………………………….