ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - ตอนที่ 1072 วิชาสุขศึกษา + ตอนที่ 1073 เกิดความดีอกดีใจบนความโชคร้ายของคนอื่น
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- ตอนที่ 1072 วิชาสุขศึกษา + ตอนที่ 1073 เกิดความดีอกดีใจบนความโชคร้ายของคนอื่น
ตอนที่ 1072 วิชาสุขศึกษา
“เหมยเหมยวันหลังลูกอย่าไปสนใจหานป๋อหย่วนนะ เชอะ หานซู่ฉินตัวดี ใจดำชะมัด!”
เพียงแค่เหยียนซินหย่านึกถึงหานซู่ฉินที่อยู่ต่อหน้าเธอเมื่อก่อน คุยโวว่าหลานชายของเธอดีแค่ไหน ยังบอกอีกด้วยว่าหานป๋อหย่วนเป็นคนใสซื่อ เขินเวลาจับมือสาวๆ……ถุย!
พูดจามั่วซั่ว!
“หนูรู้ หนูรำคาญคนแซ่หานจนจะทนไม่ไหวแล้ว!” เหมยเหมยเปลี่ยนท่าทีตอบรับไปส่งๆ หานป๋อหย่วนไม่ใช่แม้แต่เพื่อนของเธอ จะหลีกเลี่ยงได้ไกลแค่ไหนก็ได้อยู่แล้ว ทางที่ดีที่สุดไม่ควรเกี่ยวข้องกันไปอีกเลยสิบชาติจะดีกว่า
เหยียนซินหย่ามองดูรูปภาพอีกครั้ง ส่งเสียงยิ้มเยาะออกมา ยิ่งรู้สึกดูถูกอู่เยวี่ยเข้าไปอีก
ช่างเหมาะที่จะเป็นลูกที่เหอปี้อวิ๋นให้กำเนิดมาจริงๆ ลดคุณค่าตัวเอง ตอนนี้ยิ่งหน้าไม่อาย ยอมที่จะมีอะไรกับผู้ชายในสภาพแวดล้อมแบบนั้น!
เป็นผู้หญิงที่แม้กระทั่งไม่ให้คุณค่ากับตัวเอง ผู้ชายจะให้เกียรติเธอได้ยังไง?
เหยียนซินหย่าโยนรูปถ่ายลงบนโต๊ะน้ำชา มองไปที่เหมยเหมยด้วยความโล่งใจ ลูกสาวของเธอทั้งสวยทั้งรู้จักคิด แข็งแกร่งกว่าเหอปี้อวิ๋นหลายพันเท่า
“เหมยเหมยวันหลังลูกจะต้องให้ความสำคัญตัวเองรักตัวเองให้มาก ๆ ห้ามดูถูกตัวเองเหยียบย่ำตัวเองเหมือนอู่เยวี่ยแบบนี้ เข้าใจไหม?” เหยียนซินหย่าพูดประโยคที่มีความหมายสองแง่ และตั้งใจสังเกตท่าทางความเปลี่ยนแปลงของเหมยเหมย
เมื่อก่อนลูกสาวอายุยังน้อย อยู่ด้วยกันกับเหยียนหมิงซุ่นเธอก็ไม่ได้กังวลอะไร แต่ตอนนี้ลูกสาวของเธอมีเสน่ห์ดึงดูดคนได้แล้ว สวยกว่าตอนเด็กอยู่มาก เหยียนหมิงซุ่นเป็นหนุ่มวัยรุ่นเลือดร้อน สามารถอดทนได้สิถึงจะแปลก
นี่ถึงได้ต้องการให้เหมยเหมยรู้จักรักนวลสงวนตัว ดังนั้นเธอถึงได้พูดแบบนี้ไป
เหมยเหมยฟังออกถึงความหมายของคำพูดของเหยียนซินหย่า หน้าก็แดงก่ำไม่หยุด มุดหัวลงอย่างเขินอาย
“พี่หมิงซุ่นไม่ใช่หานป๋อหย่วน เขาไม่ทำอะไรแบบนั้นหรอก”
เสียงบางเบาราวกับยุง เหยียนซินหย่ากดทีวีเพื่อเบาเสียง ถึงจะฟังเข้าใจ อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่ก็ยังเตือนสติไปคำสองคำ สรุปแล้วก็คือให้เหมยเหมยปกป้องรักษาเอาไว้ให้ดี ห้ามชิงสุกก่อนห่าม
เหมยเหมยเขินจนหน้าแดงซ่าน ไหนเลยจะรู้ว่าแค่รูปภาพโป๊เปลือยเพียงแค่สองรูป จะกระตุ้นให้แม่ของเธอสอนวิชาสุขศึกษาได้
พูดถึงเรื่องแบบนี้กับแม่ของตัวเอง ช่างน่าเขินอายจริงๆ!
เหยียนหมิงซุ่นกับจ้าวอิงหัวที่อยู่ในห้องสมุดก็เริ่มพูดถึงประเด็นเรื่องพรหมจรรย์ จ้าวอิงหัวถลึงตาจ้องมอง พูดน้ำเสียงเย็นชาว่า “ถ้านายกล้าแตะลูกสาวของฉันแม้แต่นิ้วเดียวล่ะก็ ฉันจัดการนายเสียคอยดูสิ!”
“คุณจะจัดการผมอย่างไร?”
เหยียนหมิงซุ่นเพียงแค่ตบโต๊ะเสียงเบา โต๊ะหนังสือก็กลายเป็นห้าส่วน เขามองจ้าวอิงหัวที่สะดุ้งตกใจจนสีหน้าเปลี่ยนอย่างไม่ใส่ใจ ดวงตามีความขบขันแฝงอยู่
จ้าวอิงหัวหยิบเศษเสี้ยวของโต๊ะหนังสือที่อยู่บนพื้นขึ้นมา เศาแหลมคมของมันวาววับ แม้กระทั่งเสี้ยนไม้ก็ไม่มี ใจเต้นแล้วเต้นอีก มือก็สั่นแล้วสั่นอีก ถอยหลังกลับไปอย่างไม่ตั้งใจหลายก้าว จ้องมองมือเรียวยาวของเหยียนหมิงซุ่นอย่างเอาเป็นเอาตาย
“ในกองทหารนายเป็นทหารหน่วยรบพิเศษ?” ถึงแม้ว่าจ้าวอิงหัวจะไม่ได้สมัครเป็นทหาร แต่ก็เข้าใจเรื่องราวของกองทัพทหารพอสมควร
เหยียนหมิงซุ่นพงกหัวเบาๆ
จ้าวอิงหัวสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย ชื่นชมเหยียนหมิงซุ่นมากยิ่งขึ้น แต่ปัญหาก็คือ ——
“ทหารหน่วยรบพิเศษไม่ดี หากทำไม่ดีก็จบเห่แล้ว ฉันไม่หวังให้ลูกสาวเป็นม่ายในอนาคตหรอกนะ” จ้าวอิงหัวส่ายหัวไปมาไม่หยุด
เดิมทีที่เหยียนหมิงซุ่นไปเป็นทหารเขาก็ไม่พอใจอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้ว่าภรรยาของทหารนั้นทุกข์ทรมานแค่ไหน แต่ลูกสาวเขาชอบเจ้าหมอนี่เท่านั้น เขาจึงทำได้แค่เพียงเห็นด้วยอย่างไม่เต็มใจ
แต่ตอนนี้เขาก็เปลี่ยนความคิดอีกครั้ง ภรรยาของทหารนั้นต้องทุกข์ทรมาน แต่ภรรยาของทหารหน่วยรบพิเศษนั้นยิ่งขมขื่นยิ่งกว่า เขาจะตัดใจลงได้เช่นไร!
เหยียนหมิงซุ่นพูดเสียงต่ำว่า “ผมมีชีวิตยืนยาวมากกว่าคุณแน่นอน อายุจะยืนยาวเป็นร้อยปีเลย!”
จ้าวอิงหัวถลึงตาใส่เขาอย่างหงุดหงิด กลับไปที่หัวข้อเมื่อครู่ “อย่างไรก็ตามนายจำไว้ อย่าแตะต้องลูกสาวของฉันก่อนแต่งงาน ไม่อย่างนั้นต่อให้ฉันจะเอาชนะนายไม่ได้ ก็ต้องฆ่านายให้ได้!”
ถ้าหากเหยียนหมิงซุ่นเกิดเป็นอะไรไปก่อนแต่งงาน ลูกสาวของเขาก็ยังเป็นหญิงสาวที่สะอาดบริสุทธิ์อยู่ดี!
เหยียนหมิงซุ่นพ่นเสียงออกทางจมูก “คุณคิดว่าผมเป็นตัวคุณเองหรือยังไง? ที่ความสามารถในการควบคุมตัวเองจะแย่ขนาดนั้นน่ะ!”
พูดจบเขาก็เปิดประตูเดินออกไป ขี้เกียจจะสนใจจ้าวอิงหัวที่โมโหจนแทบจะกระโดดลอยได้อยู่แล้ว
…………………………………………..
ตอนที่ 1073 เกิดความดีอกดีใจบนความโชคร้ายของคนอื่น
หลังจากที่เหยียนหมิงซุ่นออกไปก็กลับสู่สภาพสงบเหมือนเดิม ให้พูดยังไงเขาก็เป็นถึงผู้มีอำนาจ ดูแลจัดการคนมากมายขนาดนั้น ไหนเลยจะติดไฟง่าย ๆ เหมือนกับประทัด
ความดุร้ายก็เป็นเพียงหน้ากากที่เขาจงใจต้องการแสดงให้คนนอกเห็น ไม่เพียงแต่เหยียนหมิงซุ่น ส่วนใหญ่ก็เป็นพวกคณะนักการเมืองที่ย้ายมาอยู่ข้างกายเขา
ตอนนี้ดูแล้วการแสดงของเขาสำเร็จไปอย่างงดงาม
เหยียนหมิงซุ่นจะถูกหลอกหรือไม่เขาไม่รู้ แต่พวกคณะนักการเมืองเจ้าเล่ห์พวกนั้นกลับถูกหลอกไปเรียบร้อยแล้ว บางทีในสายตาของนักการเมืองเจ้าเล่ห์พวกนั้น จ้าวอิงหัวอย่างเขาคงจะเป็นถังระเบิดที่เอาแต่พึ่งพาวงศ์ตระกูลล่ะมั้ง!
เขาอยากได้ผลลัพธ์แบบนี้แหละ!
ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการบั่นทอนจิตใจที่คอยหวาดระแวงของศัตรูอีกแล้ว!
จ้าวอิงหัวลูบจมูก อยู่ดีๆก็หัวเราะร่าออกมา ปีนั้นเขารู้จักเหยียนซินหย่ายังไม่ถึงหนึ่งเดือนก็ได้กอดสาวงามแล้ว สามารถเรียกได้ว่าเร็วปานจรวดก็ว่าได้ ใครให้ตอนที่เขารู้จักภรรยาของเขา เหยียนซินหย่าก็บรรลุนิติภาวะแล้วกันล่ะ!
แต่ตอนที่เหยียนหมิงซุ่นรู้จักลูกสาวของเขา ลูกสาวของเขายังเป็นต้นอ่อนถั่วแดงอยู่เลย!
จ้าวอิงหัวอดไม่ได้ที่จะเกิดความดีอกดีใจบนความโชคร้ายของคนอื่น เขาคือพ่อตาในอนาคต ไม่ว่าจะอย่างไรก็ต้องรอจนลูกสาวอายุยี่สิบเจ็ดยี่สิบแปดถึงจะให้แต่งเรือนไปได้!
ให้เจ้าหนุ่มอัปลักษณ์นี่รอไปแล้วกัน!
เอาให้กระวนกระวายตายไปเลย!
แต่จ้าวอิงหัวกลับไม่รู้ ตอนอายุสิบสามลูกสาวของเขาก็เกือบจะโดนใครบางคนกลืนกินเข้าไปแล้ว เหลืออีกก้าวเดียวเท่านั้นเอง!
ต่อให้คุณคิดจะดึงเวลาไปถึงอายุยี่สิบเจ็ดยี่สิบแปดปี แต่ลูกสาวของคุณจะเห็นด้วยไหม?
เหมยเหมยแทบจะเฝ้าภาวนาให้ได้แต่งไปเป็นคุณนายเหยียนเร็ว ๆ แล้ว!
ไม่มีผู้หญิงคนไหนในโลกที่อยากแต่งงานมากไปกว่าเธออีกแล้ว!
เรื่องของอู่เยวี่ยทำให้เหมยเหมยนึกถึงเหอปี้อวิ๋นขึ้นมา ก็ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้ใช้ชีวิตอยู่ที่โรงพยาบาลจิตเวชเป็นอย่างไรบ้าง?
เรื่องต่าง ๆ ในช่วงระยะเวลานี้ ทำให้เหมยเหมยลืมเหอปี้อวิ๋นไปเย เธอยังไม่รู้ว่าเหอปี้อวิ๋นโดนปล่อยออกไปอย่างลับๆแล้ว
“แม่คะ วันหยุดอาทิตย์หน้าพวกเราไปเยี่ยมเหอปี้อวิ๋นกันหน่อยไหมคะ?” เหมยเหมยพูดกับเหยียนซินหย่า
เหยียนซินหย่าขมวดคิ้วแน่น ดูไม่ค่อยมีท่าทีดีใจสักเท่าไร “ไปเยี่ยมเธอทำไม? โรงพยาบาลจิตเวชวุ่นวายจะตาย เหมยเหมยไม่ต้องไปหรอก”
“หนูแค่อยากไปดูว่าเหอปี้อวิ๋นตอนนี้เป็นยังไงบ้าง……” เหมยเหมยกระซิบ
เหยียนซินหย่าแค่มองก็รู้ถึงความคิดของลูกสาว พูดยิ้มๆว่า “แน่นอนว่าไม่ดี โรงพยาบาลจิตเวชไม่ใช่สถานที่ที่ดี เหมยเหมยถ้าลูกอยากจะรู้ ก็ให้พ่อของลูกโทรไปถามสิ”
แววตาของเหมยเหมยประกายวิบวับ ใช่แล้ว ให้จ้าวอิงหัวยกสายโทรหาผู้อำนวยการโรงพยาบาลจิตเวชก็ได้แล้ว
ความต้องการของภรรยาและลูกสาว แน่นอนว่าจ้าวอิงหัวก็ต้องทำตามอย่างเชื่อฟัง ตัวเขาเองไม่สามารถโทรศัพท์ไปหาผู้อำนวยการโรงพยาบาลจิตเวชได้ด้วยตัวเอง จึงโทรหาเลขาโจวให้เลขาโจวไปถามเกี่ยวกับเรื่องนี้
ตัวเลขาโจวเองก็ไม่สามารถไปโรงพยาบาลจิตเวชเพื่อตรวจสอบได้ วันรุ่งขึ้นก็เลยขอให้ผู้ช่วยทำแทน ในความคิดของเขา นี่มันเป็นเรื่องเล็กจิ๊บจ๊อย มันไม่คุ้มที่เขาจะไปทำเอง
ผู้ช่วยตัวน้อยเป็นนักศึกษาที่เพิ่งจบการศึกษาเพียงหนึ่งปี ไหนเลยจะมีประสบการณ์ในการทำสิ่งต่างๆ จึงโทรศัพท์หาผู้อำนวยการโรงพยาบาลจิตเวชแทน
อันที่จริงผู้อำนวยการก็โดนหวงอวี้เหลียนหลอกเข้าคิดว่าเหอปี้อวิ๋นไม่ใช่คนสำคัญอะไร ดังนั้นเมื่อเขาได้รับสายจึงตกใจมาก ไม่รู้ว่าเลขาธิการคณะกรรมการพรรคเทศบาลจะยังจำผู้หญิงป่วยทางจิตคนนี้ได้
โชคดีที่ไม่มีใครมาค้นหาหลักฐานด้วยตัวเองที่โรงพยาบาลจิตเวช ผู้อำนวยการจึงจำเป็นต้องกัดฟันพูดไป พูดแค่เพียงว่าเหอปี้อวิ๋นได้รับการดูแลเป็นพิเศษในโรงพยาบาล ให้เลขาโจววางใจได้เกินร้อยเปอร์เซ็นต์
ผู้ช่วยตอบกลับเลาขาโจว เลขาโจวตอบกลับจ้าวอิงหัว จ้าวอิงหัวตอบกลับภรรยาและคุณหนูน้อยของตัวเอง
เหมยเหมยพอได้ยินว่าเหอปี้อวิ๋นได้รับการดูแลอย่างดี ใจก็สงบลง วางแผนไว้ว่าวันไหนจะหาโอกาสไปทักทายที่โรงพยาบาลจิตเวชเสียหน่อย โดยไม่ให้เหยียนซินหย่ารู้
………………………………………….