ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - ตอนที่ 1050 ครั้งเดียวถึงแก่ชีวิต + ตอนที่ 1051 ลงมือได้ก็อย่าพูดให้เสียเวลา
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- ตอนที่ 1050 ครั้งเดียวถึงแก่ชีวิต + ตอนที่ 1051 ลงมือได้ก็อย่าพูดให้เสียเวลา
ตอนที่ 1050 ครั้งเดียวถึงแก่ชีวิต
ภายใต้สายตาผู้คนมากมาย เหมยเหมยวางถ้วยชามลงบนโต๊ะพลางมองอู่เยวี่ยที่ยังไม่ทันตั้งตัวด้วยสายตาเหยียดหยามแล้วกล่าวอย่างเรียบเฉยว่า “อู่เยวี่ย เธอมีเวลาว่างมาใส่ร้ายคนอื่นแบบนี้ก็ควรไปตั้งใจเรียนมากกว่านี้เถอะ อย่าเป็นตัวถ่วงให้โรงเรียนเลย!”
นักเรียนคนอื่นต่างมองจนตาค้าง จ้าวเหมยใจกล้าเกินไปแล้วหรือเปล่า!
แต่ทำไมพวกเขาถึงรู้สึกพอใจจัง…สะใจมาก…
“กรี๊ด…ฉันจะฆ่าเธอ!”
ผ่านไปครู่ใหญ่อู่เยวี่ยถึงตั้งสติได้ ความรู้สึกมันเยิ้มบนหัวกับน้ำซุปที่หยดลงมาทำเอาอู่เยวี่ยแทบเป็นบ้า!
“เยวี่ยเยวี่ย…”
เหยียนหมิงต๋ารีบคว้าตัวอู่เยวี่ยที่กำลังจะพุ่งเข้าไปตบเหมยเหมยไว้ แน่นอนว่าเขาไม่พอใจต่อเหมยเหมยมาก เทกับข้าวใส่ศีรษะเยวี่ยเยวี่ยได้อย่างไร?
แต่เขาเกรงกลัวเหยียนหมิงซุ่นมากกว่า หากให้พี่ใหญ่รู้ว่าตอนเยวี่ยเยวี่ยตีกับจ้าวเหมยตัวเขาเองก็อยู่ในเหตุการณ์แต่ไม่ห้ามอู่เยวี่ยไว้ พี่ใหญ่จะต้องฆ่าเขาแน่!
“เหยียนหมิงต๋านายอย่าดึงฉันนะ ฉันจะฆ่ามัน…เหยียนหมิงต๋านายช่วยใครกันแน่…นายปล่อยฉันนะ…”
อู่เยวี่ยกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งพร้อมกับข้าวที่มีอยู่เต็มศีรษะ บนเสื้อเปื้อนไปด้วยคราบน้ำมัน สภาพดูไม่จืดเอาเสียเลย
เหยียนหมิงต๋าคอยเกลี้ยกล่อมอย่างใจเย็นแต่มือกลับไม่ยอมปล่อย อู่เยวี่ยใกล้จะบ้าตายเพราะเขาเลยยกเท้าเตะเขาไปรัวๆ หลายทีทำเอาคนข้างๆ เห็นแล้วก็อดสูดปากไม่ได้
เหมยเหมยแค่นเสียงหัวเราะเบาๆ แล้วปรายตามองไปทางโอหยางซานซานแวบหนึ่งด้วยสายตาเฉยชาปนเย้ยหยัน
“คุณโอหยางตอนนี้เป็นถึงนักเขียนวัยรุ่นที่กำลังดังในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เชียว ต้องรอบคอบเรื่องการคบเพื่อนหน่อยนะ อย่าเหมารวมหมาแมวที่ไหนก็ได้เป็นเพื่อนสนิทไปหมด!”
เธอหยุดชะงักไปทีแล้วหัวเราะเสียงเบาก่อนกล่าว “แน่นอนว่าอาจเป็นเพราะคุณโอหยางคบเพื่อนจากโชคชะตาสินะ ในเมื่อมันเรื่องยากจริงๆ ที่จะได้เจอเพื่อนที่มีอุดมการณ์เหมือนกัน!”
โอหยางซานซานตีหน้าขรึม นางแพศยากล้าบอกว่าเธอกับอู่เยวี่ยเป็นเพื่อนร่วมอุดมการณ์งั้นเหรอ?
“ฉันรู้ว่าคุณจ้าวเหมยเป็นลูกสาวของผู้ว่าจังหวัดเลยมีสถานะสูงส่ง ไม่ใช่ชาวบ้านธรรมดาอย่างเราจะสู้ได้ แต่คุณจ้าวเหมยพูดอะไรทำอะไรก็ชักจะเหิมเกริมไปหน่อย ต่อให้คุณอู่เยวี่ยจะมีความผิดมากแค่ไหนเธอไม่เห็นต้องเทกับข้าวใส่ตัวหล่อนท่ามกลางสายตาทุกคนเลยนี่นา?”
โอหยางซานซานระงับอารมณ์ขุ่นมัวไว้แต่ยังคงรอยยิ้มอ่อนโยนไว้เช่นเดิม หากแต่ถ้อยคำที่กล่าวออกมากลับเต็มไปด้วยเจตนาร้าย
พื้นหลังครอบครัวของเหมยเหมยน้อยคนในอีจงที่รู้ เธอไม่มีทางเอาโทรโข่งคอยป่าวประกาศว่าพ่อตัวเองเป็นผู้ว่าจังหวัดอยู่แล้ว เพื่อนนักเรียนส่วนมากรู้แค่ว่าพื้นหลังครอบครัวเธอไม่แย่ ส่วนทำงานอะไรนั้นมีเพียงน้อยคนที่รู้รายละเอียด
พอถูกโอหยางซานซานเปิดโปงเข้าสีหน้าเพื่อนนักเรียนหลายคนก็ยิ่งฉายแววอิจฉาปนแค้นมากกว่าเดิม
หน้าตาสวยขนาดนี้ พื้นหลังครอบครัวไม่ธรรมดาอีก พระเจ้า…
เว้นทางรอดให้พวกเขาบ้างเถอะ!
“ฉันกับอู่เยวี่ยไม่ถูกกันเรื่องนี้คนรู้ไม่น้อย เทียบกับสิ่งที่อู่เยวี่ยเคยทำไว้กับฉันแล้ว ฉันแค่เทข้าวใส่หล่อนนับว่าใจบุญมากแล้ว โอหยางซานซานถ้าเธอสงสาร วันหลังก็อย่าใช้อู่เยวี่ยเป็นอาวุธปืน”
เหมยเหมยเว้นช่วงไปสักพักก็เผยยิ้มแล้วพูดประชดประชัน “โอหยางซานซานเธอนี่น่าสนใจจริงๆ กลัวก็แต่เพื่อนๆ ยังไม่รู้ว่าพ่อของโอหยางซานซานเป็นคนใหญ่คนโตจากที่ไหนสินะ เป็นถึงรัฐมนตรีว่าการทบวงกิจการวิทยุและโทรทัศน์แห่งเมืองจิน ช่องโทรทัศน์ สื่อมวลชน สำนักพิมพ์หนังสือพิมพ์ นิตยสาร โฆษณาอะไรเทือกนี้…ถูกดูแลโดยคุณปู่ของคุณโอหยาง…โอ๊ะ ไม่สิ ต้องเป็นคุณพ่อสิ”
โอหยางซานซานได้ยินคำว่าคุณปู่ที่หลุดจากปากเหมยเหมยก็หน้าซีดทันที
ประวัติการเกิดของเธอกลายเป็นจุดอ่อนของเธอมาตลอดและกลายเป็นต้นตอแห่งความหวาดกลัวของเธอ
เธอเหมือนลูกโป่งที่เจาะเอาอากาศออกจนแฟบ ไม่กล้าปริเสียงพูดอะไรอีกสักคำเดียว
“เธออยู่สงบเสงี่ยมหน่อย ไม่อย่างนั้นฉันจะแปะประกาศไว้ที่โรงเรียนให้คุณครูนักเรียนทุกคนรู้เบื้องหลังชีวิตที่น่าอับอายของเธอ!”
เหมยเหมยมองท่าทางโกรธแค้นแต่ไม่กล้าปริปากของโอหยางซานซานอย่างพอใจ มีความสุขอย่างหาที่เทียบไม่ได้
………………………..
ตอนที่ 1051 ลงมือได้ก็อย่าพูดให้เสียเวลา
เหมยเหมยฉุดเจียงซินเหมยกับอู่เชาออกไปจากโรงอาหารเพราะคร้านจะสนใจอู่เยวี่ยที่ยังกรีดร้องอยู่
“เหมยเหมยเมื่อกี้เธอเท่จังเลย!”
เจียงซินเหมยตาเป็นประกายมองเหมยเหมยด้วยสีหน้ายกย่องชื่นชม เธอไม่เคยคิดเลยว่าเพื่อนที่ปกติดูเป็นคนอ่อนแอปวกเปียกเวลาลงไม้ลงมือแล้วจะแสบได้ขนาดนี้ เหมือนจอมยุทธหญิงในหนังจอเงินเลย
เหมยเหมยแค่นเสียงหัวเราะออกมาอย่างภูมิใจกล่าวว่า “ลงมือได้ก็อย่าพูดให้เสียเวลา เข้าใจไหม!”
นี่เป็นประโยคยอดฮิตบนอินเทอร์เน็ตเมื่อชาติที่แล้ว ตอนนี้เธอรู้สึกเพียงว่ามันมีเหตุผลในตัวของมันที่จะกลายเป็นประโยคยอดฮิตได้!
เจียงซินเหมยพยักหน้ารัว “ฉันจะจำไว้ หลังจากนี้จะไม่ทะเลาะกับคนอื่นอีก ใช้เท้าเลย!”
“ใช่ ใช้เท้าเลย ฉันจะบอกเธอให้นะว่าเวลารับมือกับโรคจิตต้องเตะขึ้นจากด้านล่างแล้วกระทืบหนักๆ ให้มันไม่มีอวัยวะไว้สืบลูกสืบหลานต่อ ส่วนรับมือกับคุณป้ามหาภัยก็ต้องกระชากของเธอแล้วเตะที่ท้องของเธอ ทางที่ดีพกผงปูนขาวไว้ติดตัว…” เหมยเหมยแบ่งปันวิธีการป้องกันตัวให้เพื่อน นี่เป็นสิ่งที่เธอเรียนมาจากคุณเว๋ยเสี่ยวเป่า[1]เชียวนะ
“จะโหดเกินไปหรือเปล่า?” เจียงซินเหมยชักลังเล
เหมยเหมยกลอกตาใส่ “ถ้าใจอ่อนกับคนชั่วก็เท่ากับใจโหดเหี้ยมต่อตัวเอง หรือว่าเธออยากเป็นแม่พระอย่างพระแม่มาลี?”
เจียงซินเหมยรีบส่ายหน้า “ไม่เอา ฉันจะเป็นจอมยุทธหญิงที่คอยปราบมารชั่วร้าย!”
เหมยเหมยเห็นท่าทางกระตือรือร้นของเด็กสาวก็ชักกลัวเหลือเกินว่าภายภาคหน้าสาวผู้นี้จะถูกเอารัดเอาเปรียบเลยพูดเสริมอีกประโยค “ก็ต้องขึ้นอยู่กับแรงตัวเองด้วย ถ้าสู้ไม่ไหวก็วิ่ง เราเป็นผู้หญิงที่ร่างกายอ่อนแอไม่ขายหน้าหรอก!”
“อืม สู้ไม่ไหวก็หนีไว้ก่อน”
เจียงซินเหมยพยักหน้าราวกับรัวกลอง ตอนนี้อยากลองไปท้าทายใครสักคนที่ขัดหูขัดตาจัง!
อู่เชาก้มหน้าเอามือกุมหน้าผากแล้วถอนหายใจยาว เตะเป้า กระชากผม ผงปูนขาว…
ดูเหมือนว่าเมื่อสักครู่เหมยเหมยคงจะปรานีแล้ว!
เหยียนหมิงต๋าพาอู่เยวี่ยที่ยังไม่หายโกรธกลับไปล้างตัวที่บ้านคุณปู่เพราะอยู่ใกล้โรงอาหารแค่ไม่กี่ก้าวก็ถึง เหยียนหมิงซุ่นเองก็อยู่บ้านซึ่งกำลังซ่อมแซมซุ้มองุ่นอยู่ ซุ้มองุ่นมีหลายจุดที่เริ่มหย่อนยานลงบ้างแล้ว
“คุณย่า เยวี่ยเยวี่ยตัวสกปรก ขอมาล้างตัวที่บ้านเราหน่อยนะครับ”
เดิมเหยียนหมิงต๋าคิดจะแอบให้อู่เยวี่ยล้างตัวแล้วรีบกลับแต่ใครจะคิดว่าทั้งคุณปู่คุณย่าและพี่ชายล้วนอยู่บ้านกันหมด ก็เกิดอาการใจสั่นอย่างฉับพลันและเริ่มทำสีหน้ากังวล
คุณยายหยางมุ่นคิ้วน้อยๆ เธอไม่ชอบอู่เยวี่ยจากใจจริง จิตใจต่ำช้าเจ้ามารยาก็เรื่องหนึ่ง ตอนนี้คะแนนสอบแย่ยิ่งกว่า หลานชายกลับยอมจมปลักอยู่กับคนแบบนี้อยู่อีก
แต่ผู้มาเยือนย่อมเป็นแขก จะให้เธอไล่กลับคงไม่ดี คุณยายหยางพยักหน้าด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง “ไปล้างตัวที่ห้องอาบน้ำเถอะ”
ความเย็นชาของคนตระกูลเหยียนเรียกให้อู่เยวี่ยใจหล่นวูบ เดิมทีอยากจะฟ้องสิ่งที่ตัวเองเจอมาหน่อยก็ทำได้แค่กลืนลงคอไป
คนส่วนใหญ่บนโลกนี้ล้วนเป็นคนที่มักใหญ่ใฝ่สูง คงเห็นว่ายามนี้เธอเป็นลูกสาวร้านขายปลาเลยไม่คิดจะสนใจใยดีเธอไงล่ะ
“ถ้าพื้นหลังครอบครัวเธอดีกว่านี้อีกหน่อย หรือมีงานที่มีหน้ามีตาสักหน่อยก็ยังดี เยวี่ยเยวี่ยอนาคตของเธอต้องยาวไกลมากแน่ๆ!”
ถ้อยคำของหวงอวี้เหลียนดังขึ้นข้างหูอีกครั้ง อู่เยวี่ยกัดปากและตัดสินใจบางอย่าง
หลังเลิกเรียนวันนี้ลองไปที่บริษัทคุณพ่ออีกสักครั้งแล้วกัน วันเวลาผ่านไปตั้งนานแล้วอู่เจิ้งซือน่าจะกลับจากงานสัมมนาแล้ว ขอแค่เธอได้กลับไปอยู่กับอู่เจิ้งซือก็จะไม่ให้คนอื่นดูถูกเธอได้อีก!
อู่เยวี่ยรีบสระผมอย่างเร่งรีบก่อนจะขอตัวกลับ เหยียนหมิงต๋าเองก็อยากไปด้วยแต่เหยียนหมิงซุ่นเรียกตัวเขาไว้
“หมิงต๋านายอยู่ต่อ ฉันมีเรื่องจะถามนาย!”
เหยียนหมิงต๋ายืนตัวแข็งทื่อแล้วรีบบอกไป “ใกล้จะเข้าเรียนสายแล้วพี่”
“ตอนนี้บ่ายโมงสิบเอ็ดนาที คาบแรกของช่วงบ่ายเริ่มบ่ายโมงครึ่ง พอได้แล้ว”
เหยียนหมิงซุ่นยกแขนขึ้นมาดูแวบหนึ่งแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ห้ามปฏิเสธเป็นอันขาด
……………………….
[1] พระเอกซีรี่ส์จีน เรื่อง จอมยุทธอุ้ยเสี่ยวป้อ