ลิขิตรักราชินีปีศาจ NC25 (ป่วนหัวใจยัยปีศาจ) - ตอนที่ 87 ข้ายอมบอกท่านแล้ว
หลี่จิ้งกอดอก ใบหน้าของเขาบัดนี้หาใช่งดงามเหมือนเซียนรูปงามแต่กลับดูอำมหิตยิ่งกว่ามารร้ายเสียอีก หลี่จิ้งคันไม้คันมือเดิมทีเขาคือเทพอัคคีผู้ที่ใจร้อนที่สุดบนแดนสวรรค์แต่เพราะลงมาบำเพ็ญเซียนนานเพียงนี้จึงทำให้จิตใจสงบลงหลายส่วน
หาไม่แล้วเขาคงเผาเจ้าหมูตอนตัวนี้ให้กลายเป็นหมูเกรียมไปแล้ว
“หลี่เซียนซือ ข้าไม่รู้เรื่องขอรับ ข้าไม่รู้เรื่อง สวรรค์ได้โปรดให้ความเป็นธรรมกับข้าด้วย”
หลี่จิ้งกระดิกนิ้ว เชือกอัคคีพลันพันร่างของเจ้าเมืองผู้นั้นแน่นขึ้นจนเชือกบาดเข้าไปในร่าง เลือดเริ่มไหลออกมาเป็นสายเสื้อผ้าตัวในสีขาวของเขากลายเป็นสีแดงฉานน่ากลัวยิ่ง
หลิงเสียนตามหลี่จิ้งมาถึงจวนแล้ว นางมองลงมาเบื้องล่างเห็นหลี่จิ้งกำลังทรมานคนอยู่ก็รีบร่อนลงมา
“ศิษย์พี่เกิดเรื่องอันใดกัน เหตุใดท่านจึงจับเขาทรมานเช่นนี้”
หลี่จิ้งใบหน้าทะมึนจนหลิงเสียนหวาดกลัว ที่ผ่านมาเขาเพียงชอบทำหน้าตาเย็นชากับนางเท่านั้นแต่ไม่เคยเผยจิตสังหารเช่นนี้ให้เห็นมาก่อน หลิงเสียนตกใจจนไม่กล้าแตะต้องตัวของเขา
“คนผู้นี้รนหาที่ตาย แต่ข้าไม่ยอมให้ตายหรอก” เขาเดินเข้าไปใกล้แล้วแตะเข้าที่กลางลำตัวของท่านเจ้าเมืองเล่าฉินจนกระอักเลือดออกมา
“ข้าจะทำให้เจ้ารู้จักคำว่าอยู่ไม่สู้ตาย อยากลองดูใช่หรือไม่ ในจวนนี้หากไม่ใช่คำสั่งเจ้าผู้ใดจะกล้ายุ่งกับลูกศิษย์ของข้ากัน และข้าก็ยังได้กลิ่นปีศาจติดอยู่ที่กายของเจ้า เดิมทีคิดว่าคงเป็นเพียงกลิ่นติดตัวเล็กน้อยจากการพบปีศาจโดยบังเอิญ แต่ข้าลืมไปว่าการพบปีศาจโดยบังเอิญแล้วยังมีชีวิตรอดอยู่ มีเพียงอย่างเดียวคือยอมเป็นทาสรับใช้พวกมัน”
เสียงของเขาเหี้ยมเกรียมเป็นอย่างยิ่ง ศิษย์เกือบทั้งสำนักที่ออกมายืนดูได้แต่ตกใจในการสอบสวนที่โหดร้ายของอาจารย์ ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับมนุษย์ไร้ตบะเซียนผู้หนึ่งได้อย่างไร
“ท่านเป็นเซียนผู้สูงส่ง มีใจเมตตาต่อมนุษย์ไม่ใช่หรือ ทำร้ายข้าสวรรค์ต้องลงโทษท่านแล้ว สวรรค์โปรดให้ความเป็นธรรมกับข้าด้วย ข้าไม่รู้เรื่อง ข้าไม่รู้สิ่งใดเลยจริง ๆ ข้าไม่ใช่ทาสรับใช้ปีศาจจริง ๆ ได้โปรดเชื่อข้า สวรรค์ช่วยข้าด้วย สวรรค์”
เพียงคนผู้นั้นเอ่ยออกมาเชือกอัคคีก็รัดร่างของเขาแน่นเข้าไปอีก เล่าฉินหายใจไม่ออก ดิ้นทุรนทุรายราวกับปลาขาดน้ำ กระทั่งเชือกคลายออกจึงสูดหายใจอย่างลนลานเข้าเต็มปอดอีกครั้ง
“สวรรค์หากมีตาจริงป่านนี้ผู้รับใช้ปีศาจเช่นเจ้าได้วิญญาณสลายไปแล้ว”
หลี่จิ้งแค่นหัวเราะ ฟังดูแล้วน่าหวาดผวาเป็นอย่างยิ่ง
ศิษย์ของเขาที่เพิ่งเคยเห็นด้านมืดของหลี่จิ้งถึงกับขวัญผวา พวกเขาไม่กล้าทำผิดกฎเป็นแน่ เพียงแต่นึกสงสัยว่าเป่ยฟางหรงที่ถูกอาจารย์ลงโทษเป็นประจำสามารถรอดพ้นมาได้อย่างไร หรือหนังของสตรีผู้นั้นทำจากหนังสุนัขถึงได้ทานทนเป็นอย่างยิ่ง
“ศิษย์พี่ข้าเห็นกับตา เป่ยฟางหรงนางคือปีศาจตัวจริงท่านต้องเชื่อข้า ปล่อยเขาไปเถิดเจ้าค่ะ ข้าว่าท่านทำเกินไปนะเจ้าคะ”
หลิงเสียนเกรงว่าท่านเจ้าเมืองผู้นี้จะถูกหลี่จิ้งทรมานจนหลั่งเลือดหมดตัวและสิ้นใจในที่สุด นอกจากจะเป็นการสังหารคนโดยไม่สอบสวนให้กระจ่างแล้ว คนผู้นี้ยังเป็นถึงเจ้าเมืองหมายความว่าเรื่องต้องถึงทางการ
แม้พวกเขาจะไม่มีพลังทิพย์แต่สำนักเซียนที่ขึ้นตรงต่อราชสำนักมีไม่น้อย ในยามนั้นนางเกรงว่าศิษย์พี่จะถูกต่อต้านจากสำนักเซียนจนอาจเกิดเรื่องวุ่นวายยากที่จะระงับได้
หลี่จิ้งหาได้สนใจเรื่องพวกนี้ ถึงเขาจะเป็นเทพสงครามแต่ชื่อเสียงเรื่องความเหี้ยมโหดในการปราบปีศาจของเขาไม่เป็นรองผู้ใด สิ่งที่เขาทำมาตลอดอายุขัยคือ
ทรมานและสังหาร เท่านั้น
เมื่อถูกทรมานจนแทบตายโดยที่ไม่คาดคิด ทั้ง ๆ ที่ตนเองวางแผนไว้ดิบดีแล้วแต่ไม่เข้าใจว่าทำไมหลี่จิ้งถึงได้สัมผัสได้ถึงไอปีศาจที่ติดกายเขา ทั้ง ๆ ที่เขากลบมันจนมิดคิดว่าไม่มีเซียนผู้ใดจับได้แม้แต่คนเดียว และตอนนี้ดูเหมือนว่าปีศาจเล่านั้นจะหนีหน้าไม่มีสักตัวที่โผล่มาช่วยเขา
เล่าฉินจึงหวาดกลัวและเอ่ยเบา ๆ น้ำตาไหลพรากออกมา เขาไม่อาจทนการทรมานที่แสนเจ็บปวดทรมานนี้ได้อีกต่อไป
“ก็ได้ข้ายอมแล้ว ท่านปล่อยข้าเถิดข้าจะบอกท่านแล้ว”