ลิขิตรักราชินีปีศาจ NC25 (ป่วนหัวใจยัยปีศาจ) - ตอนที่ 24 ศิษย์ผู้น้องแห่งสำนักซินเซวียน
- Home
- ลิขิตรักราชินีปีศาจ NC25 (ป่วนหัวใจยัยปีศาจ)
- ตอนที่ 24 ศิษย์ผู้น้องแห่งสำนักซินเซวียน
กระทั่งองค์หญิงน้อยมีชันษาได้สิบขวบก็ถูกส่งตัวเข้าสำนักซินเซวียนตามคำสัญญาที่ฝ่าบาทเคยให้ไว้กับหลี่จิ้ง องค์หญิงยังทรงพระเยาว์ย่อมไม่เข้าใจว่าเหตุใดตนเองต้องมาฝึกฝนอาคมที่สำนักแห่งนี้ แต่เพราะเสด็จพ่อทรงบอกว่าพ่อครัวที่สำนักซินเซวียนนั้นมีฝีมือการทำอาหารเป็นหนึ่งในใต้หล้านางจึงยอมมาแต่โดยดี
นางเป็นองค์หญิงไม่ว่าจะอยู่ที่ใดย่อมสมควรได้รับการปรนนิบัติอย่างดีไม่ใช่หรือ การมาที่สำนักแห่งนี้ก็เพียงแค่ย้ายโต๊ะอาหารก็เท่านั้น
วันเวลาผันผ่านไม่นานองค์หญิงน้อยเป่ยฟางหรงก็มีอายุครบสิบเก้าปีแล้ว หลายปีที่ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่นางถูกอาจารย์บังคับขู่เข็ญและใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก หาได้สุขสบายอย่างที่ตนเองเข้าใจในวันแรกไม่
เคยหนีกลับวังไปครั้งหนึ่ง ในครานั้นนางถูกเชือกอาคมของอาจารย์มัดร่างจนหายใจแทบไม่ออก อีกทั้งเขายังไม่ยอมให้นางกินข้าวกินปลาไปทั้งวัน หากลงโทษอย่างอื่นเป่ยฟางหรงยังทนได้แต่หากงดให้ข้าวให้น้ำนางแล้วคนตะกละเช่นนางย่อมทนไม่ได้เป็นแน่ ตั้งแต่นั้นมาเป่ยฟางหรงไม่กล้าหนีกลับวังอีกเลย
ในค่ำคืนหนึ่งหลังจากเป่ยฟางหรงออกล่าปีศาจกับอาจารย์ของนางหลี่จิ้ง นางพลาดท่าถูกพิษหลับใหลของปีศาจตนหนึ่งเกือบเสียทีถูกทำร้ายก่อนที่หลี่จิ้งจะเข้ามาช่วยได้ทัน
เดิมทีนางเป็นคนขี้เกียจจึงไม่ยอมฝึกวรยุทธ์ ถึงความสามารถด้านอาคมจะไร้เทียมทานแต่เซียนที่ไม่วรยุทธ์ต่ำต้อยย่อมพลาดท่าเสียทีให้แก่ปีศาจได้ง่าย ถึงแม้หลี่จิ้งจะเคี่ยวเข็ญนางเพียงใดเป่ยฟางหรงก็ยังไม่คืบหน้าในเรื่องนี้ จะจับกระบี่สักเล่มนางก็บ่นว่าหนักเสียแล้ว
หลี่จิ้งทอดถอนใจเขาสามารถเคี่ยวเข็ญนางในเรื่องฝึกอาคมได้หนึ่งเรื่องก็นับว่าเหนื่อยมากแล้ว หากให้เคี่ยวเข็ญเรื่องวรยุทธ์อีกคิดว่าตนเองถึงจะตายและกลับขึ้นสวรรค์สตรีผู้นี้ก็ยังคงไม่ยอมฝึกเป็นแน่
หลี่จิ้งจึงได้แต่ปล่อยนางไปด้วยไม่อยากมีโทสะ เขายังต้องกลับสู่สวรรค์ไปเสพสุขจากผลงานของตนเอง การพานางฝ่าด่านเคราะห์บำเพ็ญตนครั้งนี้ไม่อาจผิดพลาดได้
หลี่จิ้งอุ้มเป่ยฟางหรงไว้ในอ้อมแขนท่ามกลางสายตาของศิษย์คนสนิทสองสามคน ทุกคนรู้ฐานะของเป่ยฟางหรงเป็นอย่างดี จึงค่อนข้างที่จะเอาใจนางเป็นพิเศษอีกทั้งส่วนหนึ่งก็เลื่อมใสในอาคมของนางด้วย
หากจัดลำดับชั้นฝีมือในสำนัก ถึงนางจะด้อยเรื่องวรยุทธ์แต่เรื่องอาคมแล้วนางนับว่าเป็นรองเพียงอาจารย์เจ้าสำนักหลี่จิ้งเพียงคนเดียว
“อาจารย์ศิษย์น้องจะเป็นอะไรหรือไม่ขอรับ” ศิษย์คนสนิทนามจิงหูเอ่ยขึ้นด้วยความเป็นห่วง
“ไม่เป็นไรข้าถอนพิษให้นางแล้วอีกไม่กี่ชั่วยามก็ฟื้น พวกเจ้าสำรวจที่นี่อีกสักรอบดูว่ามีปีศาจเล็ดลอดหรือไม่ หากมีก็ตั้งค่ายกลกำจัดเสียคิดว่าคงเหลือพวกไม่มีฝีมือไม่กี่ตัวแล้ว”
“ขอรับ”
สั่งเสร็จเขาก็อุ้มเป่ยฟางหรงพาขึ้นเขากลับสำนักซินเซวียน เป่ยฟางหรงยังไม่ฟื้นหลี่จิ้งตรวจดูอาการของนาง พบว่าทุกอย่างยังเป็นปกติคิดว่าที่นางไม่ฟื้นคงเป็นเพราะร่างกายอ่อนเพลียเกินไป หลายวันมานี้ปีศาจออกอาละวาดเขาและนางนำนางออกล่าปีศาจหลายคืนต่อเนื่องคงทำให้นางเพลียไม่น้อย เมื่อได้โอกาสนอนจึงหลับลึกเช่นนี้
กระทั่งกลางดึกของวันถัดมา หลังหลี่จิ้งฟังรายงานจากศิษย์ที่ออกไปล่าปีศาจกลับมา จึงเริ่มเข้านอนเขาถอดอาภรณ์อย่างเรียบร้อย เหลือเพียงชุดสีแดงเพลิงตัวใน หลี่จิ้งยังคงพิถีพิถันกับอาภรณ์เช่นเดิมแน่นอนว่าเสื้อผ้าของเขาล้วนเป็นสาวทอผ้าที่ตัดเย็บให้หาใช่อาภรณ์ที่มนุษย์ทั่วไปใส่ไม่
เขาไม่ได้ลืมอดีต และเขารู้ว่าตัวเขาคือเทพอัคคีผู้สูงส่ง คงมีเพียงเด็กโง่คนนั้นที่ลืม ก่อนดื่มนางยังก่นด่าเขาว่าไม่ได้รับความยุติธรรมแล้วถูกเขาจับกรอกน้ำแกงยายเมิ่งทันใด เขาไม่ต้องการให้นางจำสิ่งใดได้หากจิตนางไร้กังวลการบำเพ็ญเพียรจะง่ายขึ้น
ในตอนนั้นถึงสองวิญญาณจะลงมาจุติพร้อมกัน แต่เป่ยฟางหรงกลับไม่สามารถหากายหยาบที่เหมาะสมกับนางได้ เรื่องนี้ต้องโทษความผิดพลาดในการคำนวนของเทพดวงชะตา เพราะแบบนี้นางต้องกลายเป็นวิญญาณโง่ที่ไม่รู้ว่าตนเองคือผู้ใดคอยวนเวียนอยู่ข้างกายเขาถึงห้าปีกว่าจะพบกายหยาบขององค์หญิงน้อยที่เหมาะสมกับตัวนาง และสามารถจุติได้
กระแสลมพัดไหวเข้ามาในห้องก่อนที่ประตูจะแง้มเปิดและปิดลงอย่างรวดเร็วแทบจะไรัเสียง หลี่จิ้งรับรู้ได้ทันทีว่ามีผู้บุกรุก ในมือเสกลูกไฟก้อนหนึ่งเตรียมจะเขวี้ยงใส่ผู้ที่บังอาจล่วงล้ำเข้ามาในห้องของเขา
คนร้ายที่ไม่กลัวตายกลับทอดกายลงนอนบนร่างของเขา ถูไถใบหน้าเข้ากับอกอุ่นอีกทั้งยังทิ้งกายลงมาอย่างแนบสนิท นางสูดหายใจลึกสูดดมความหอมสบายจากกายของเขา ร่างของนางเย็นเกินไปการได้สัมผัสความนุ่มนิ่มของอาภรณ์ที่ถูกถักทอมาเป็นพิเศษเช่นนี้ทำให้นางรู้สึกดีเป็นอย่างยิ่ง
เขาไม่ได้ผลักนางออกกลับกล่าวประโยคราบเรียบออกไป
“ตื่นนานแล้วหรือ”
“ข้าหิวจังเลยอาจารย์”
“หิวเหตุใดไม่ไปห้องครัว มาที่นี่จะอิ่มหรือ”
“ข้ามาตำหนิท่าน ปล่อยข้านอนลำพังได้อย่างไร คิดว่าเป็นเพราะข้าต้องพิษปีศาจจะทิ้งขว้างเช่นไรก็ได้หรือ”