ใครกันถึงเล่นได้ขนาดนี้? นึกไม่ถึงเลยว่าจะกล้าสวิงริงโก้กันในรถต่อหน้าผู้คนจำนวนมากได้ถึงเพียงนี้
เหยียนสือเซี่ยจ้องภาพในจอทีวีด้วยความสนใจเป็นอย่างยิ่ง ปากก็ส่งเสียงจุ๊ๆ ออกมา “ถ้าไม่กลัวว่าเจ้าตัวเปี๊ยกจะได้ยิน ฉันจะเปิดเสียงให้ดังกว่านี้แน่ อย่างนี้ค่อยได้อรรถรสหน่อย แต่ไม่คิดเลยจริงๆ นะว่าเฉินจิ้นถงที่ปกติออกจะดูเป็นสุภาพบุรุษเรียบร้อยขนาดนั้น พอทำเรื่องแบบนี้กลับไม่ธรรมดาเลยแม้แต่นิดเดียว”
ชื่อของเฉินจิ้นถงช่วยปลุกเฉียวชูเฉี่ยนให้ตื่นจากอาการง่วงเหงาหาวนอนในทันที
“เธอบอกว่าคนที่เป็นข่าวอยู่นี่คือเฉินจิ้นถงหรือ?”
เธอจ้องทีวีอย่างยากที่จะเชื่อ ถึงได้เห็นตัวหนังสือคำว่าคุณชายรองตระกูลเฉินบนจอทีวีอย่างชัดเจนเป็นพิเศษ
“ก็ใช่นะสิ! เมื่อคืนตำรวจปราบปรามการค้าประเวณีและสื่อลามกออกปฏิบัติการเข้าพอดี ตอนนี้คนยังอยู่ในสถานีตำรวจอยู่เลย”
เหยียนสือเซี่ยพูดจบก็อดที่จะส่ายศีรษะไม่ได้ ผู้ชายมีดีตรงไหนกัน ภายนอกอย่างหนึ่งลับหลังอย่างหนึ่ง ปกติออกจะทำตัวสุภาพเรียบร้อย พอปล่อยให้เป็นอิสระทีก็ทำตัวไม่ได้ความ
เฉียวชูเฉี่ยนยังไม่กล้าที่จะเชื่อหูของตัวเอง “เฉินจิ้นถงจะไปทำเรื่องทำนองนี้ได้อย่างไรกัน?”
พวกเขาจัดว่าเคยติดต่อกันอยู่สองสามครั้ง แม้จำนวนครั้งจะไม่มาก แต่ก็จินตนาการไม่ออกอยู่ดีว่าคนที่มีความเป็นสุภาพชนเป็นปกติจะถูกตำรวจปราบปรามนั่นจับไปได้อย่างไร
“รู้คนรู้หน้าไม่รู้ใจ จู่ๆ ฉันก็รู้สึกว่าเฉินเป่ยชวนก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นแล้ว”
เธอเลิกคิ้วหยอกล้อ อย่างน้อยๆ เฉินเป่ยชวนก็ยังไม่เลวร้ายถึงขั้นถูกจับที่ซ่องโสเภณีก็แล้วกัน
เฉียวชูเฉี่ยนรีบย่อยข้อมูลที่ปะทะเข้ามาอย่างเต็มที่โดยเร็ว ถ้าหากเฉินจิ้นถงถูกจับที่ซ่องโสเภณีจริงๆ ล่ะก็ ตระกูลเฉินจักต้องกำลังโกลาหลอยู่เป็นแน่
“คุณแม่ คุณแม่จะต้องคิดหาวิธีนะคะ จิ้นถงไม่มีทางเป็นคนแบบนั้นเด็ดขาด เขาเป็นเด็กดีมาก ขนาดแฟนยังไม่มีเลยแล้วจะไปซ่องโสเภณีได้อย่างไรกันคะ?”
เว่ยชูหรงที่ทราบข่าวเมื่อเช้าออกแรงไปไม่น้อยจนตาบวม ลูกชายเธอพูดถึงรูปโฉมก็รูปงาม พูดถึงสถานภาพก็ดี ถามหาผู้หญิงๆ แทบอยากจะยกให้ทั้งตัวก็มีไม่น้อย จะไปเที่ยวโสเภณีอะไรแบบนั้นไปได้อย่างไรกัน
เรื่องนี้ไม่สมเหตุสมผลโดยสิ้นเชิง จะต้องมีคนใส่ร้ายจิ้นถงแน่ๆ
“ก็เพราะไม่มีแฟนถึงวิ่งไปซ่องโสเภณีนะสิ ถ้าหากเขามีแฟนอยู่ก่อนแล้ว จะไปเกิดเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร”
จิ้นถงเด็กคนนี้ปกติเป็นคนปากหวาน ทำเรื่องอะไรไม่เคยมีช่องโหว่ แต่คราวนี้กลับถูกจับในซ่องโสเภณีได้
“จิ้นถงจะต้องถูกคนให้ร้าย เป็นเฉินเป่ยชวน จะต้องเป็นเขาแน่นอน!”
เว่ยชูหรงพูดเสียงดังขึ้น กลับถูกท่านผู้หญิงหยุดคำพูดด้วยน้ำเสียงที่เด็ดขาด “อะไรๆ เธอก็โยนใส่ตัวเฉินเป่ยชวน ถ้าหากเจ้าตัวไม่ไปซ่องโสเภณีเอง ตำรวจจะมาจับเขาในที่เกิดเหตุได้อย่างไร?”
จิ้นถงก็เป็นหลานของเธอเช่นกัน ถูกตำรวจจับเธอจะไม่กังวลร้อนใจไปได้อย่างไรกัน แต่พอได้ยินผู้หญิงคนนี้เอ่ยปากขึ้นมาก็เอาความรับผิดชอบมาโยนใส่เป่ยชวน ความเจ็บปวดและกังวลใจก็แปรเปลี่ยนเป็นความโมโห
“ค่ะ หนูก็รู้ว่าคุณแม่จะต้องเข้าข้างเฉินเป่ยชวน คุณแม่อย่าลืมว่าจิ้นถงก็เป็นหลานของคุณแม่เหมือนกัน เป็นคนที่จะจุดธูปให้ตระกูลเฉินของพวกเราเช่นเดียวกัน”
“หนูรู้ดีว่าตั้งแต่หนูเดินเข้าประตูบ้านคุณแม่ก็ไม่ชอบหนู คิดอยากจะขับไล่เราสองคนแม่ลูกออกไปตั้งนานแล้ว เรื่องของจิ้นถงอย่าคิดว่าคุณแม่ไม่ช่วยแล้วหนูจะช่วยลูกชายของตัวเองไม่ได้นะคะ”
เพียงแค่คิดว่าลูกชายของตัวเองถูกตำรวจจับไป
“ใครอนุญาตให้เธอพูดกับฉันแบบนี้!”
ท่านผู้หญิงเริ่มหงุดหงิดไปกับคำพูดของลูกสะใภ้ เธออายุปูนนี้เข้าไปแล้ว นึกไม่ถึงว่าจะมาโดนลูกสะใภ้ชี้นิ้วใส่ขณะพูดได้
“หนูไม่จำเป็นจะต้องให้ใครมาอนุญาต ปากของหนูหนูคิดจะพูดอะไรก็จะพูดไปแบบนั้นค่ะ!”
“เสียวหลี่ ยืนอึ้งอยู่ทำไม ส่งฉันไปที่สถานีตำรวจ”
เว่ยชูหรงเสียสติไปเรียบร้อยแล้ว คนตระกูลเฉินล้วนเป็นศัตรูของเธอทั้งนั้น
“ครับ คุณชายใหญ่……” เสียวหลี่ที่พูดและพยักหน้ารับไปเมื่อสักครู่สายตาเหลือบไปเห็นเฉินเป่ยชวนที่กลับมาจากข้างนอก สีหน้าก็ให้รู้สึกลำบากใจยิ่งนัก
พอเว่ยชูหรงเห็นเฉินเป่ยชวนปรากฎตัวขึ้นที่บ้าน ก็พุ่งเข้าไปหาโดยไม่ต้องคิด
“เป็นเพราะเธอ เธอจงใจวางแผนใส่จิ้นถง เธอมันคนต่ำทรามหน้าเนื้อใจเสือ!”
พูดไปมือก็ยื่นออกไปด้วย แต่เฉินเป่ยชวนกลับแสดงสีหน้ารังเกียจออกมา
“ถ้าผมเป็นคนต่ำทราม เฉินจิ้นถงเกรงว่าขนาดคนต่ำทรามก็ยังเทียบไม่ติดเลยครับ”
ดวงตาและคิ้วของเขาเหยียดออกอย่างไม่สนใจ เขามองดูอย่างอารมณ์ดี ในเมื่อเฉินจิ้นถงวางแผนด้วยวิธีการที่เลวทรามใส่ผู้อื่น ก็ควรคิดถึงผลที่จะตามมาเสียบ้าง
“เธอให้ร้ายลูกชายของฉัน!”
เดิมกำลังกระวนกระวายใจและโมโหอยู่ แล้วยังถูกเฉินเป่ยชวนยั่วยุด้วยรอยยิ้มที่มุมปากอีก เว่ยชูหรงจึงยกมือขึ้นกะจะตบหน้าเฉินเป่ยชวน
แต่มือเธอยังเอื้อมไม่ถึงหน้าเฉินเป่ยชวน สร้อยเพชรบนมือเธอก็ถูกเขาบีบและห้อยต่องแต่งอยู่กลางอากาศแล้ว แขนเธอจะรับความแข็งของเพชรไปได้อย่างไร ไม่ทันไรใบหน้าที่กำลังโมโหอยู่ก็เปลี่ยนเป็นความเจ็บปวดขึ้นมาแทน
“เฉินเป่ยชวน ฉันไม่ปล่อยเธอไว้แน่”
“ได้ งั้นผมจะรอครับ เสียวหลี่ยังไม่รีบส่งคุณหญิงไปสถานีตำรวจอีก”
เฉินเป่ยชวนสะบัดแขนบนมือออกแล้วยิ้มเยาะ เขาพูดเสร็จก็กลับหลังหันเดินผ่านเธอเข้าไปในเฉินคฤหาสน์
ข่าวคราวถูกแพร่ออกไปใหญ่โตขนาดนั้น ถึงท่านผู้หญิงไม่คิดจะฟังก็คงจะไม่ได้ พอเห็นเขาเดินเข้ามาก็เอาไม้เท้ากระแทกพื้นหนักๆ สองสามครั้ง “เรื่องนี้ตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ หลานเล่ามาสิ!”
เรื่องของจิ้นถงจะดูบังเอิญอะไรขนาดนั้น ตำรวจปราบปรามการค้าประเวณีและสื่อลามกมาตรวจพื้นที่อะไรกัน จะต้องมีเตรียมการกันไว้เรียบร้อยแล้วแน่ๆ
“คุณย่า อะไรคือเกิดอะไรขึ้นหรือครับ?”
เห็นเขาแกล้งเซ่อ ท่านผู้หญิงถึงได้ถอนหายใจออกมา น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าและจนใจ “เป่ยชวน ถึงอย่างไรเขาก็เป็นน้องชายของเธอ เธอทำเช่นนี้อีกหน่อยเขาจะเผชิญหน้ากับความเป็นจริงอย่างไร”
“เขาใช้อุบายต่ำทรามก่อน ผมก็เลยต้องใช้วิธีหนามยอกเอาหนามบ่งก็เท่านั้นครับ”
แค่เขาบังอาจวางยาเฉียวชูเฉี่ยน เขาก็สมควรตายแล้ว! เมื่อวานถ้าหากไม่เป็นเขาวางแผนการเอาไว้ ข่าวในวันนี้ไม่แน่อาจจะเป็นยัยโง่นั่นก็เป็นได้
ท่านผู้หญิงขมวดคิ้วทันทีหลังจากนั้น ความหมายของเป่ยชวนคือจิ้นถงเขา…….
เว่ยชูหรงเร่งไม่หยุดตลอดทาง รถจึงมาถึงสถานีตำรวจในเวลาไม่นาน เมื่อเจอกับนายตำรวจเจ้าของคดีนี้ก็ยื่นการ์ดใบหนึ่งทันที “คุณตำรวจคะ พอจะปล่อยลูกชายดิฉันออกไปก่อนได้ไหมคะ”
ตำรวจนายนั้นมองไปยังของที่อยู่ในมือ สีหน้าถ้าบอกว่าไม่รู้สึกอะไรก็คงหลอกแล้ว แต่ก็ยังผลักการ์ดปั๊มทองเคใบนั้นกลับไปอย่างอาลัยอาวรณ์
“คุณหญิงเฉิน ไม่ใช่พวกเราไม่ปล่อยนะครับ แต่เนื่องจากเรื่องนี้เป็นข่าวใหญ่ไปแล้ว พวกเราไม่อาจทำผิดกฎด้วยความสัมพันธ์ส่วนตัวครับ เรื่องนี้จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย พวกเราจึงไม่อาจปล่อยคนออกไปง่ายๆ ได้ครับ”
สังคมปัจจุบันนี้ สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือปิดข่าวไม่มิด เมื่อมีชาวเน็ตเข้ามายุ่งด้วย เรื่องนั่นก็ยากที่จะจัดการได้แล้ว
“ดำเนินการตามขั้นตอนคืออะไรหรือคะ คุณตำรวจ ดิฉันรับประกันกับคุณตำรวจได้ว่าลูกชายดิฉันไม่มีทางเที่ยวซ่องโสเภณีแน่นอน จะต้องมีคนให้ร้ายเขาค่ะ”
“คุณหญิง พวกเราทำคดีตามหลักฐานเท่านั้นครับ พวกเราจับกุมคนมาจากโรงแรมที่เกิดเหตุ ทางฝั่งบุคคลที่เกี่ยวข้องก็ยอมรับแล้วครับ เรื่องนี้ผมจึงไม่อาจที่จะช่วยได้จริงๆ ครับ”
นายตำรวจพูดจาบอกความเกรงใจเป็นพิเศษ แต่เว่ยชูหรงกลับแสดงท่าทีโมโหขึ้นมา “พวกคุณเป็นตำรวจไม่ไปตรวจสอบคนที่ใส่ร้ายเขา แต่กลับจับลูกชายดิฉันเข้าคุก พวกคุณรับเงินจากอีกฝ่ายมาเท่าไหร่ ดิฉันให้พวกคุณสองเท่าเลย ขอเพียงพวกคุณรีบปล่อยลูกชายดิฉันออกไปเดี๋ยวนี้”
MANGA DISCUSSION