ผู้จัดการหลิวกล่าวด้วยความจริงจัง แต่ใครจะรู้ว่าจดหมายเชิญนี้เชิญใครจริงๆ กันแน่
“ผู้จัดการ ฉันกลัวว่าจะไม่สามารถเข้าร่วมได้ ให้เลขาหวังหรือคนอื่นๆ เข้าร่วมแทนได้ไหมคะ”
ครั้งสุดท้ายที่เธอไปร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ที่เมืองซั่นเป่ยเมื่อสิบปีที่แล้ว ในวันนั้นเธอได้พบกับผู้ชายที่ผู้หญิงทั้งเมืองซั่นเป่ยต่างก็อยากจะรู้จัก…เฉินเป่ยชวน
“คุณเป็นผู้รับผิดชอบความร่วมมือระหว่างบริษัท Q&C และบริษัทเฟิงฉิง คุณเหมาะสมที่สุดที่จะเข้าร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์นี้ เลขาเฉียว ผมหวังว่าคุณจะยืนอยู่ในมุมของบริษัท ไม่เอาความรู้สึกส่วนบุคคลมาผสมปนเป ”
ผู้จัดการหลิวมีสีหน้าแกมบังคับเล็กน้อย งานเลี้ยงสังสรรค์ในครั้งนี้…เธอจำเป็นจะต้องไป
“… ”
“ก็ได้ค่ะ ฉันจะเข้าร่วม”
หลังจากดื้อดึงอยู่พักหนึ่ง เฉียวชูเฉี่ยนก็ตัดสินใจ เนื่องจากเป็นงานเลี้ยงสังสรรค์ เธอก็แค่ดื่มอย่างเงียบ ๆ ในนามของบริษัท Q&C ก็เพียงพอ
ในห้องทำงานของบริษัทเฟิงฉิง การแสดงออกของเฉินเป่ยชวนได้กลับสู่การแสดงออกเดิมของเขา “จัดเตรียมงานเลี้ยงสังสรรค์ไปถึงไหนแล้ว? ”
“กำลังรีบเร่งเตรียมงานอยู่ค่ะ” เลขาตอบทันที แต่มีสีหน้าสับสนเล็กน้อย งานเลี้ยงเมื่อหลายปีก่อนเป็นช่วงคริสต์มาส ปีนี้เกิดอะไรขึ้น จู่ๆ เจ้านายก็บอกว่าจะเลื่อนเวลางานเลี้ยงให้ไวขึ้นและต้องจัดเตรียมให้เสร็จสิ้นภายในระยะวลาสองวัน
“มะรืนนี้ฉันอยากเห็นงานเลี้ยงสังสรรค์ที่เตรียมมาอย่างดี”
ริมฝีปากบางเผยอขึ้นอย่างไร้อารมณ์ เลขารีบพยักหน้าในทันที “ท่านประธานมั่นใจได้เลยค่ะ”
จากนั้นเลขารีบออกไปเพื่อเตรียมงานสำหรับวันมะรืนนี้ ริมฝีปากของเฉินเป่ยชวนกระตุกเล็กน้อย เฉียวชูเฉี่ยน…คุณไม่สามารถหนีไปได้
ในระยะเวลาสอง มันไม่ได้รีบร้อนเกินไปที่จะเตรียมตัว และเฉียวชูเฉี่ยนก็มาจากครอบครัวที่ร่ำรวย ดังนั้นก็คงไม่ยากอะไรที่จะรับมือสถานการณ์เช่นนี้
เมื่อมองดูตัวเองในกระจก เธอถอนหายใจอย่างแรง บอกกับตนเองว่าต้องเตรียมใจไปให้ดี
“หม่ามี๊ วันนี้จจะไปทำอะไรเหรอครับ ถึงแต่งตัวแบบนี้”
เฉียวจิ่งเหยียนมองไปที่แม่ที่ลงมาชั้นล่าง คิดว่าเขาเข้าใจผิด ถึงแม่หม่ามี๊ของเขาจัดว่าเป็นคนสวย แต่ช่วงเวลาปกติเธอไม่เคยสวมชุดราตรีที่สวยงามเช่นนี้
“เจ้าเด็กน้อย ที่แม่ของเธอใส่ชุดแบบนี้ก็เพราะจะแสดงในมนุษย์บนโลกรู้ว่าอะไรที่เรียกว่านางฟ้ายังไงล่ะ”
เหยียนสือเซี่ยอดไม่ได้ที่จะพูดติดตลก
“งานเลี้ยงสังสรรค์ของบริษัทเฟิงฉิง เธอกับถังอี้ไม่ไปร่วมงานเหรอ?”
ความสัมพันธ์ระหว่างถังอี้และเฉินเป่ยชวนดีมาก เขาขาดหายไปได้อย่างไรในโอกาสนี้
“เธอมันผู้หญิงใจแคบ นิดหน่อยก็ยอมไม่ได้เลยนะ” ไม่ใช่เพราะวันนั้นพูดถึงเฉินเป่ยชวนต่อหน้าเธอหรอกเหรอ ภายในพริบตาก็ชำระแค้นเสียแล้ว
“ฉันใจแคบยังไง แค่คิดว่าถ้ามีเธออยู่เป็นเพื่อนในงานเลี้ยงน่าเบื่อนั้นฉันก็คงจะดีใจมาก”
ดวงตาของเฉียวชูเฉี่ยนหรี่เล็กลง ถ้าคนเหล่านั้นชอบที่ใส่หน้ากากเข้าหากันและพูดคุยเรื่องฟ้าดิน เธอกับสือเซี่ยก็จะนั่งจิบไวน์อย่างเงียบๆ
ยังไงซะขอแค่เธอไป บริษัททางนั้นก็ไม่ว่าอะไรแล้ว
ไม่รู้ว่าสถานที่จัดงานเลี้ยงสังสรรค์เป็นเรื่องบังเอิญหรือเป็นความตั้งใจของเฉินเป่ยชวน ซึ่งจัดขึ้นที่สถานที่จัดงานเลี้ยงสังสรรค์เมื่อสิบปีก่อน
ริมฝีปากแดงอดไม่ได้ที่จะยกขึ้น ถ้าเวลาย้อนกลับไปเมื่อสิบปีก่อน เธอจะยังคงตกหลุมรัก เฉินเป่ยชวนตั้งแต่แรกเห็นหรือไม่?
เธอยกกระโปรงเดินเข้าไปคนเดียว สถานที่นัดพบที่มีชีวิตชีวาแต่เดิมก็เงียบลงเพราการปรากฏตัวของเธอ ทุกสายตาต่างจับจ้องมาที่เธอ
รวมทั้งเฉินเป่ยชวนในระยะไกล
เขาจ้องมองร่างเล็กที่สมบูรณ์แบบถูกห่อด้วยชุดที่มีขนาดพอเหมาะ ซึ่งทำให้รูปร่างของเธอดูเย้ายวนยิ่งขึ้น การแต่งกายที่ค่อนข้างอนุรักษนิยม ไม่ได้เผยให้เห็นผิวส่วนใหญ่ แต่รายละเอียดแสดงให้เห็นถึงรสนิยมของเธอ
พู่คริสทัลวงกลมที่เอวทำให้เอวที่เรียวยาวดูนุ่มนวล และสวยงามยิ่งขึ้นด้วยการตัดเย็บที่เรียบง่ายแต่ประณีต ด้วยการก้าวที่นุ่มนวลของเธอ เธอแกว่งไปมาเป็นวงกลมของแสงราวกับว่าเจ้าหญิงที่มาจากดินแดนอันห่างไกล
“เธอมาได้ยังไงน่ะ?”
ในที่สุดใครบางคนในฝูงชนที่เงียบสงบก็อดไม่ได้ที่จะเริ่มพูดคุยด้วยเสียงกระซิบกับคนข้างๆ
“ฉันได้ยินมาว่าตอนนี้เธอกำลังมีความร่วมมือกับบริษัทเฟิงฉิงในนามของบริษัท Q&C ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องจริงสินะ”
เมื่อทุกคนได้ยิน ใบหน้าของพวกเขาก็แสดงสีหน้าตระหนักรู้ทันที ทุกคนรู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างเฉียวชูเฉี่ยนและเฉินเป่ยชวน ตอนนี้หลินเฟยเอ๋อร์ตายไปแล้ว แต่ไม่แน่ว่าพวกเขาอาจจะกลับมาคืนดีกันอีกครั้งก็เป็นได้
เฉียวชูเฉี่ยนดูเหมือนจะไม่ได้ยินการสนทนาเหล่านั้น และเดินตรงเข้าไป วันนี้เธอมาเพื่อเป็นตัวแทนของบริษัท Q&C เท่านั้น
หลังจากรับเครื่องดื่มจากพนักงานเสิร์ฟ เฉียวชูเฉี่ยนก็มองไปรอบ ๆ หามุมที่เงียบสงบและเพิกเฉยต่อความรู้สึกของการมีอยู่ของเขาอย่างเงียบ ๆ
แต่สายตาของทุกคนต่างจับจ้องมาที่เธอ และยังไม่หยุดที่จะซุบซิบนินทาเธออีกด้วย
“หลินเฟยเอ๋อร์เสียชีวิตไปแล้ว ผู้หญิงคนนี้กำลังจะเริ่มยั่วยวนสามีเก่าอีกครั้ง ใจร้อนจังเลยนะ ไม่กลัวว่าคนตายจะมาแก้แค้นเอาหรือไง”
เธอจำผู้หญิงที่กำลังพูดอยู่ได้ ฉู่ฉิงลูกสาวของเดเลนจิวเวอร์รี่ ซึ่งเมื่อก่อนเฉียวกรุ๊ปเคยร่วมงานกับงเดเลนจิวเวอร์รี่ ฉู่ฉิงอายุไล่เลี่ยกับเธอ แต่ชอบเปรียบเทียบตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า เครื่องสำอาง รองเท้า ไม่มีสิ่งใดที่ไม่เปรียบเทียบ
“ฉิงเอ๋อร์ คืนนี้เธออย่าพูดเรื่องผีขู่พวกเราล่ะ”
ผู้หญิงที่คุยกันอยู่ข้างๆ กันก็พูดด้วยรอยยิ้มทันที แต่แววตาของพวกเธอกำลังรอดูการแสดงสนุกๆ อย่างเห็นได้ชัด
“ผีมีอะไรน่ากลัว คนต่างหากที่น่ากลัว ไม่งั้นหลินเฟยเอ๋อร์อยู่ดีๆ จะตายไปเหรอ ฉันคิดว่าอาจจะมีผู้หญิงบางคนตัดใจไม่ได้ ก็เลย …..”
คำพูดของฉู่ฉิงหยุดกะทันหันและแสดงรอยยิ้มที่ทุกคนเข้าใจต่อเพื่อนของเธอ เฉียวชูเฉี่ยนขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้ และเธอไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมใครบางคนถึงตรึงการตายของหลินเฟยเอ๋อร์ไว้บนศีรษะของเธอ
เธอดูเหมือนฆาตกรหรือเปล่า?
เธอถูกบังคับให้เข้าร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ของวันนี้ มันจะดีที่สุดถ้าเธอสุภาพและสงบเสงี่ยม
“คุณฉู่จะต้องใช้ความพยายามเยอะหน่อยนะเพื่อจะได้เป็นคุณนายเฉิน ดีแต่ปากมันจะไม่ชนะเอานะ”
เฉียวชูเฉี่ยนตอบด้วยรอยยิ้มเบาๆ พลางมองผู้หญิงคนอื่น ๆ ในด้วยสายตาเย็นชาทุกคนแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่มีเสน่ห์สง่างามและมีเกียรติ เธอรู้ดีว่าเธอวางแผนจะทำอะไรในใจของเธอ
“เฉียวชูเฉี่ยน เธอหมายความว่ายังไง มาลอยหน้าตาต่อหน้าฉันแบบนี้ เธอเคยเป็นคุณนายเฉินมาก่อนหรือไง ต่อให้เคยเป็นมาก่อน ก็โดนเขี่ยทิ้งอยู่ดี ”
ฉู่ฉิงเหลือบมองคนรอบข้างที่อยากจะหัวเราะแต่ก็กลั้นขำไม่ได้ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความโกรธและความอับอาย เมื่อสองปีก่อนเธอคบกับผู้ชายเฮงซวยคนหนึ่ง เมื่อดื่มเหล้าเมากลับระเบิดออกต่อหน้าผู้คนมากมาย จนกลายเป็นมลทินในชีวิตของเธอ
“อย่างน้อยฉันก็เคยอยู่ในตระกูลเฉิน”
เฉียวชูเฉี่ยนระบายความโกรธในช่วงสองสามวันที่ผ่านมากับเธอ ตัวเองนั้นไม่ต้องการตำแหน่งของคุณนายเฉินอีกต่อไป
“เธอ! ”
ฉู่ฉิงโกรธเป็นอย่างมาก ไร้ซึ่งสติสัมปชัญญะใดๆ พลางคว้าแก้ไวน์แดงที่วางอยู่บนโต๊ะสาดไปที่หน้าของเฉียวชูเฉี่ยนอย่างแรง
แย่แล้ว!
MANGA DISCUSSION