“งั้นนายลองบอกมาสิว่าจะหาความสุขได้ยังไง?”
เหยียนสือเซี่ยกอดอกพลางพูดด้วยความไม่พอใจ “เอ่อ … ผู้ชายและผู้หญิงสามารถค้นพบความสุขมากมายด้วยกัน เช่น … จับมือกันดูหนัง จูบกันท่ามกลางเสียงคลื่น … ..”
“เล่นจ้ำจี้กันบนเตียงใหญ่สุดหรู”
ก่อนที่เขาจะพูดจบ เหยียนสือเซี่ยได้พูดแทรกขึ้น ผู้ชายเฮงซวยนี่ วันๆ สมองคิดแต่เรื่องพรรค์นี้สินะ
“นี่คุณพูดเองนะ ฉันไม่ได้พูด เรื่องนั้นมันเป็นเรื่องสำหรับผู้ชายที่ไม่มีความมั่นใจตัวเองจึงคิดแต่เรื่องแบบนี้ทุกวัน ผู้ชายที่มีรสนิยมอย่างฉันน่ะให้ความสำคัญกับความโรแมนติกมากกว่า และแน่นอนว่า…ผู้ชายและผู้หญิงเล่นจ้ำจี้กันย่อมเป็นเรื่องที่มีความสุขมากที่สุด”
เขารู้สึกว่าไม่สามารถทนได้อีกต่อไป เขาจึงพูดไปตามตรงว่าผู้ชายและผู้หญิงเป็นสิ่งที่เกื้อกูลกันโดยธรรมชาติและเขาก็คิดว่าเรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร
หลังจากที่เหยียนสือเซี่ยฟังแล้วก็มีแววแห่งความผิดหวังในดวงตา ไม่กี่วันมานี้ สิ่งที่เขาทำไปทั้งหมดก็เพื่อสิ่งที่เขาเองคิดว่าเป็นเรื่องที่มีความสุขมากที่สุด
แน่นอนว่าชื่อของเพลย์บอยคนแรกของเมืองซั่นเป่ยไม่ได้มีกันได้ง่ายๆ
“ถังอี้ นายกับฉันไม่ได้มาจากโลกเดียวกัน นายไม่ต้องเสียเวลากับฉันหรอก กลเม็ดต่างๆ ที่นายเคยใช้กับผู้หญิงคนอื่น มันไม่มีทางใช้กับฉันได้ผลหรอก
หนึ่ง…เธอไม่ขาดแคลนเงิน สอง…เธอไม่เคยคิดเรื่องการแต่งงานกับครอบครัวที่ร่ำรวยสาม…เธอไม่สนใจเพลย์บอย
สิ่งที่เธอรอคอยคือหัวใจดวงเดียวที่รักเธอ และเธอก็ต้องรักเขาอย่างแท้จริง ผู้ชายเพลย์บอยที่อยู่ตรงหน้าในตอนนี้ไม่มีวันจะให้เธอได้
ถังอี้เคยชินกับผู้หญิงมักจะเข้าสู่อ้อมกอดของเขา เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินคำปฏิเสธที่ตรงไปตรงมาเช่นนี้ ความภาคภูมิใจของเขาถูกทำลายอย่างรุนแรงและหัวใจของเขาก็หงุดหงิดมากขึ้นเพราะประโยคที่เธอบอกว่าไม่ใช่คนจากโลกเดียวกัน
“ฉันมาจากโลกไหน? แล้วคุณมาจากโลกไหน? อย่าลืมล่ะว่าเคยสัญญาอะไรไว้กับฉัน”
ผู้หญิงมักจะล้อมรอบเขา ตอนนี้เขาเต็มใจที่จะมอบหัวใจให้กับผู้หญิงคนนี้ แต่เธอกลับไม่รู้ว่าจะถนอมมันอย่างไร
“ฉันยังไม่ลืม ตอนนี้เวลาผ่านไปสี่สิบเอ็ดวันและอีกไม่นานหนึ่งร้อยวันก็จะผ่านไป เมื่อถึงเวลานั้นได้โปรดหยุดรบกวนชีวิตฉันด้วย”
ปากของหยียนสือเซี่ยบอกว่าอยากเป็นอิสระ แต่เล็บของเธอกลับจิกลงบนเนื้อ ทั้งๆ ที่เป็นคำพูดที่เธออยากพูดมาตลอด แต่ทำไมเมื่อพูดออกมาแล้วกลับไม่ได้รู้สึกสบายใจอย่างที่เคยจินตนาการไว้เลยล่ะ แต่กลับมีความรู้สึกพูดไม่ออก?
รอยยิ้มเล็ก ๆ สุดท้ายบนใบหน้าของถังอี้หายไปและมีความโกรธอย่างเห็นได้ชัดในดวงตาของดอกท้อผู้ซึ่งมีรอยยิ้มอยู่เสมอ “คุณหวังว่าหนึ่งร้อยวันนี้จะจบลงโดยเร็วใช่ไหม? ”
“หรือไม่ใช่ล่ะ ชีวิตของฉันจะได้กลับมาปกติสุขซะที”
ไม่อยากให้ความรู้สึกหดหู่ในใจของเธอรั่วไหลออกไป เหยียนสือเซี่ยจึงพยายามฝืนยิ้ม
เขาคือถังอี้ คนที่ไม่ควรคาดหวัง เขาแค่อยากเล่นเกมล่าเหยื่อ เพียงแค่รักษาใจที่มีสติและกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมของเธอถึงจะไม่กลายเป็นเหยื่อให้เขาล่า
ความโกรธในดวงตาทำให้เขารู้สึกหงุดหงิด บวกกับท่าทีเฉยเมยของเธอ หมัดของเขากำแน่นราวกับอยากจะหาใครสักคนมาชำระบัญชี
“นาจะทำอะไร โกรธเป็นฟืนเป็นไฟเลยหรือไง? ”
เหยียนสือเซี่ยก้าวถอยหลัง อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวาดกลัว พระเจ้า! เธอจะไม่ถูกผลักลงไปสู่ความตายเพียงเพราะเธอปฏิเสธเพลย์บอยใช่ไหม
“บอกเงื่อนไขมา ทำยังไงคุณถึงจะยอมเป็นแฟนฉัน”
“… ” แต่ฉันไม่ยอมรับคำปฏิเสธ” ถังอี้มีสีหน้าที่จริงจังมาก ตั้งแต่เขาเกิดมาเขาไม่เคยใช้น้ำเสียงแบบนี้พูดกับผู้หญิงคนไหนมาก่อนเลย
“อย่าล้อเล่นนะ คุณชายถัง”
ถังอี้ไม่มีทางให้เงื่อนไขที่เธอต้องการได้
“ดูเหมือนฉันล้อเล่นหรือเปล่า?”
เมื่อมองไปที่ดวงตาที่โกรธและหงุดหงิดของเขา เหยียนสือเซี่ยรู้สึกงุนงงเล็กน้อยจากนั้นก็บังคับตัวเองให้มีสติขึ้น
“อืม ถ้านายไม่ได้ล้อเล่นละก็ฉันจะบอกเงื่อนไขของฉันให้ก็แล้วกัน กระโดดลงไปจากที่นี่ซะ…แล้วฉันจะยอมเป็นแฟนกับนาย ฉันยังมีเรื่องต้องไปทำ ขอตัวก่อน”
หลังจากพูดคุยกันแบบจริงจัง เธอก็หันไปขึ้นลิฟต์บนดาดฟ้า ตอนนี้ท่าทางของผู้ชายคนนั้นเกือบจะทำให้เธอเชื่อแล้วว่าเขาไม่ได้ล้อเล่น
ลิฟต์ลงไปเร็วมากและในสถานการณ์ไร้น้ำหนักจะสัมผัสไม่ได้ถึงแรงกดดัน แต่ไม่รู้ว่าทำไมฉันกลับรู้สึกหนักใจแบบนี้ล่ะ
เธอหายใจเข้าลึก ๆ และปลดปล่อยอารมณ์ชั่วร้ายในใจวันนี้พูดเขากับเขาให้ชัดเจนก็เป็นเรื่องดี ต่อไปจะได้ไม่มาตอแยเธออีก
“เหยียนสือเซี่ย! ”
ทันทีที่ก้าวออกจากตึกระฟ้า ก็ได้ยินเสียงใครบางคนเรียกชื่อเธออยู่เหนือหัวของเธอ เหยียนสือเซี่ยเงยหน้าขึ้นดวงตาของเธอหรี่ลงเพื่อจ้องมอง ไม่จริงน่า?
“เหยียนสือเซี่ย คุณจะยอมเป็นแฟนของฉัน ถ้าฉันกระโดดจากที่นี่ใช่ไหม? ”
เสียงของถังอี้ผ่านชั้นอากาศสูง 500 เมตร ทำให้คิ้วของเธอกระตุกอย่างรุนแรง ผู้ชายคนนี้ต้องการทำอะไร? คงจะไม่กระโดดลงมาจริงหรอกนะ?
เธอแค่พูดเพื่อความสนุกสนาน
ทันใดนั้นผู้คนก็พากันไปรอบ ๆ มองขึ้นไปที่หลังคาของอาคาร มีคนกำลังจะกระโดดลงจากอาคาร
“ตอบฉันสิ ฉันจะกระโดดลงไปแล้ว คุณจะเป็นแฟนของฉันที่สามารถเล่นจ้ำจี้กันได้ใช่ไหม” เขาก็ไม่ลืมที่จะย้ำถึงความรับผิดชอบของแฟนสาว
จู่ๆ ใบหน้าของเหยียนสือเซี่ยก็แดงระเรื่อ เจ้าบ้านี่…คิดจะทำอะไรอีก
“ถ้าคุณไม่ตอบ ฉันจะถือว่าคุณยอมรับ คนที่อยู่ข้างใต้จะเป็นพยานให้กับถังอี้คนนี้ ถ้าฉันกระโดดลงไป เหยียนสือเซี่ยจะยอมเป็นแฟนของฉัน และสามารถเล่นจ้ำจี้ได้! ”
เสียงของถังอี้ดังขึ้นอีกครั้งและฝูงชนที่กระตือรือร้นก็หยิบโทรศัพท์มือถือของพวกเขาออกมาและโทรไปที่หมายเลขสถานีตำรวจ
“สวัสดีค่ะ 110 ฉันต้องการโทรหาตำรวจ มีใครบางคนกำลังจะกระโดดลงจากอาคารค่ะ”
“ผู้ชายคนนี้มันแน่จริงๆ ว่ะ”
“ตึกสูงกว่า 500 เมตรนะ อะไรตกลงมาก็แตก ยังจะทำอะไรได้อีก”
ใบหน้าของเหยียนสือเซี่ยแปรเปลี่ยนเป็นสีแดง จนแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนี
“นายบ้าหรือเปล่า รีบลงมาเดี๋ยวนี้นะ”
เธอตะโกนขึ้นไปหาเขาอย่างร้อนใจ อีกไม่นานตำรวจก็คงจะมา และไม่แน่ว่าอาจจะมีนักข่าวตามมาด้วย พรุ่งนี้คงจะมีพาดหัวข่าวหน้าหนึ่งว่าถังอี้กระโดดตึกเพื่อต่อรองกับหญิงสาว เธอจะต้องอับอายมากเป็นแน่
“แค่ตอบฉันก็พอว่าถ้าฉันกระโดดลงไปแล้วคุณจะยอมเป็นแฟนที่สามารถเล่นจ้ำจี้กับฉันได้”
คนด้านบนดูเหมือนจะตั้งใจที่จะกระโดดลงมาจริงๆ เหยียนสือเซี่ยที่โกรธเกรี้ยวอ้าปากค้างพูดไม่ออกอยู่เป็นเวลานาน
“… ”
ผู้คนบนถนนด้านล่างมีจำนวนมากขึ้น คนขับหยุดรถและคนเดินเท้าก็เปลี่ยนทิศทางการเดิน พวกเขารวมตัวกันเป็นวงกลมใหญ่อย่างรวดเร็ว ทั้งชายหญิงและเด็กต่างก็เงยหน้าขึ้นและชี้ไปที่เหยียนสือเซี่ย
“สาวน้อบรีบรับปากตกลงเถอะ”
“ใช่ ทำไปเถอะ เดี๋ยวเขาก็กระโดดลงมาจริงๆ หรอก”
เธออดไม่ได้ที่จะคร่ำครวญในใจ ไอ้สารเลวถังอี้ นี่แกจงใจตั้งแต่แรกงั้นเหรอ!
“คุณกระโดดสิ! กระโดดเลย กระโดดแล้วฉันจะรับปาก! ”
ด้วยความโกรธที่โจมตีหัวใจเธอ เธอเงยหน้าขึ้นและตะโกนกลับไป จากนั้นสมองก็ทบทวนบทบัญญัติทางกฎหมายที่เธอเคยเรียนรู้มา ถ้าถังอี้กระโดดลงมาจริงๆ และเสียชีวิต เธอจะไม่ต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย .
เธอไม่เชื่อว่าเขาจะกล้ากระโดดลงมา!
“คุณพูดเองนะ พี่น้องด้านล่างทุกท่าน พวกคุณได้ยินแล้วใช่ไหม? ”
MANGA DISCUSSION