ลาก่อน คุณสามี - ตอนที่ 168 ชะตาของพี่เป็นของผม
หนึ่งแก้วสองแก้ว สามแก้วสี่แก้ว ห้าแก้วหกแก้ว ผู้กำกับจางเชียร์ให้ดื่มเหล้าด้วยความเป็นปกติ ครั้นหากเธอไม่ดื่มก็จะรู้สึกว่าไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไร
ครั้นเมื่อไวน์แก้วที่หกหล่นลงในท้องแล้วนั้น เมื่อสายตาของเธอมองไปทางหนึ่ง สิ่งของที่มองเห็นก็เปลี่ยนเป็นเงาซ้อนขึ้นมา
“เฉี่ยนเฉียย คุณไม่เป็นไรใช่ไหม ?”
เฉินจิ้นถงประคองแขนของเธอ จากนั้นก็ถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง
“ฉันไม่เป็นไรค่ะ” เธอส่ายหน้าอย่างจริงจัง ครั้นไม่ส่ายหน้าก็ยังถือว่าดี เมื่อส่ายหน้าก็ยิ่งมึนหัวรุนแรงขึ้น
“โธ่เอ๊ย ผมนึกว่าคุณเฉียวคอแข็งซะอีก คิดไม่ถึงว่าจะเมาเร็วขนาดนี้ ประธานเฉินครับ หรือไม่วันนี้พวกเราก็ดื่มพอแค่นี้เถอะครับ”
ผู้กำกับจางยิ้มตาหยีให้เฉินจิ้นถง วันนี้เขาตั้งใจสร้างโอกาสให้โดยเฉพาะ ส่วนที่เหลือก็ไม่ใช่เรื่องที่เขาสามารถยุ่งได้แล้ว
“ผู้กำกับจางนี่ใจดีจริง ๆ เลยนะครับ”
แววตาหลังแว่นนั้นมีรอยยิ้มอันอึมครึมแวบขึ้นมา เขาพยุงเฉียวชูเฉี่ยนขึ้น “เดี๋ยวผมไปส่งพี่กลับโรงแรมก่อนนะครับ”
“ขอบใจนะ”
เธอพยักหน้าให้เฉินจิ้นถงด้วยความรู้สึกประทับใจ เธอขึ้นรถตู้ที่โดยสารมาที่นี่ด้วยสติที่ยังถือว่าชัดเจนดีอยู่ ครั้นเมื่อก้นนั่งลงบนเบาะนั่งแล้วนั้น สมองก็เริ่มมึนหนักขึ้นมา แม้แต่ดวงตาก็เริ่มเลื่อนลงมาติดกันไม่หยุด
ไม่ทราบว่าผ่านไปเนิ่นนานแค่ไหน ในที่สุดรถยนต์ก็จอดในขณะที่เธอทดไม่ไหวจนใกล้จะอาเจียนออกมาเสียที
“พี่โอเคหรือเปล่าครับ ?”
ขณะที่น้ำเสียงของเฉินจิ้นถงดังขึ้นข้างใบหู เฉียวชูเฉี่ยนรู้สึกว่าตนเองราวกับกำลังนอนอยู่ภายในกลุ่มเมฆอันอ่อนนุ่มอยู่อย่างไรอย่างนั้น การสัมผัสที่เนียนนุ่มคล้ายความรู้สึกยามหลับใหลเมื่อคืนนี้ เธอน่าจะถึงโรงแรมเรียบร้อยแล้ว
เมื่อมั่นใจในเรื่องที่ตนเองคาดเดาเรียบร้อยแล้ว เธอจึงออกแรงลืมตาที่ใกล้จะปิดเข้าด้วยกันขึ้น เมื่อมองเห็นการจัดวางรอบ ๆ และแก้วน้ำที่ตนเองวางไว้บนตู้หัวเตียงนั้น เธอจึงรู้สึกสบายใจขึ้นมาเป็นปลิดทิ้ง
“รบกวนเธอแล้วนะ”
เมื่ออ้าปากขึ้น เธอแทบจะได้กลิ่นแอลกอฮอล์อันเข้มข้นเหล่านั้น หากไม่เป็นเพราะเฉินจิ้นถงส่งตนกลับมา คงไม่ทราบจริง ๆ ว่าจะเกิดเรื่องอันใดขึ้นบ้าง
“พี่ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว ถ้างั้นพี่นอนหลับให้เต็มที่นะครับ”
หลังจากที่เอ่ยขึ้นอย่างสุภาพบุรุษ เขาก็หันหลังแล้วเดินออกจากห้องนอนไป
เฉียวชูเฉี่ยนมองดูประตูที่ปิดสนิทแล้ว จึงถอนหายใจออกมายาว ๆ จากนั้นก็ปล่อยให้ดวงตาประกบเข้าหากัน
ภายนอกประตู เฉินจิ้นถงไม่ได้จากไป และประตูที่เธอคิดว่าได้ปิดไปแล้วกลับไม่ได้ปิดจริง ๆ เป็นเพียงการตบตาเท่านั้น
เฉินจิ้นถงมองเวลาบนนาฬิกาข้อมือ บนใบหน้าอันสุภาพบุรุษของเขาจึงปรากฏเป็นสีหน้าอันแปลกประหลาดขึ้นมา เวลาต่อมาเขาได้แง้มประตูให้เป็นช่องแคบ ๆ อย่างเบามือ หลังจากมั่นใจแล้วว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงได้หลับใหลไปลึกแล้วจึงเดินเข้าไป
ทันใดนั้นภายในห้องก็มีคนอื่นโผล่เข้ามาเพิ่ม คนที่หลับใหลอย่างหอมหวานอยู่บนเตียงไม่มีความรู้สึกได้เลยสักนิด
ภายในดวงตาอันยาวนั้นจึงเต็มไปด้วยความหลงใหล ถึงขั้นพูดได้ว่าบ้าคลั่ง ไม่มีเงาของความสุภาพเหมือนอย่างในทุกวันโดยสิ้นเชิง
“เฉียวชูเฉี่ยน ชะตาของพี่เป็นของผม อีกไม่นานพี่ก็จะได้รู้ว่ามีแค่ผมเท่านั้นที่จะให้ความสุขที่แท้จริงกับพี่ได้”
สิ้นเสียงก็นอนลงข้างกายเธอ นิ้วมือลูบไปยังแก้มอันเนียนนุ่มของเธอ……
ภายในห้องข้าง ๆ แววตาของเฉินเป่ยชวนจ้องมองภาพเหตุการณ์ที่อยู่ในคอมพิวเตอร์อย่างหนาวสะท้าน ใบหน้าที่คมเข้มเขียวขึ้นทันควัน ดีมาก เฉินจิ้นถง ในที่สุดหางจิ้งจอกของนายก็โผล่ออกมาแล้ว
“บอสครับ ?”
เขานึกว่าบอสต้องการที่จะสังเกตการกระทำของคุณเฉียวทุกประการเสียอีก ครั้นคิดไม่ถึงว่าบอสจะคาดไว้แล้วว่าเฉินจิ้นถงจะทำอะไรบางอย่างออกมา
“ให้นายสามนาที ทำให้มันไสหัวไปซะ”
น้ำเสียงอันเย็นชาราวกับออกจากก้อนน้ำแข็ง พร้อมความรู้สึกอาฆาตแค้นที่ทำให้ผู้อื่นมองข้ามไปไม่ได้ หลินผิงรีบเดินไปยังห้องรับแขกเล็ก ๆ ด้านนอก จากนั้นก็ต่อสายโทรศัพท์ทันที
อย่าว่าแต่บอสเลย ถ้าหากเป็นตนเองเห็นผู้ชายคนอื่นนอนอยู่ข้างผู้หญิงของตน เขาเองก็คงต้องการอยากฆ่าทิ้งไปเสียเช่นกัน
มือของเฉินจิ้นถงเคลื่อนไหวไปมาอยู่บนแก้มของเธอ แววตาอันหลงใหลเริ่มมีความบ้าคลั่งร้อนแรงขึ้นมาทีละนิด จากนั้นสายตาก็เคลื่อนลงมาเบื้องล่าง หล่นลงไปอยู่บนหน้าอกที่กระเพื่อมขึ้นลงเนื่องจากการหายใจ
ขณะที่นิ้วมือสัมผัสโดนกระดุมนั้น โทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงก็สั่นขึ้นมา เขาจึงขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างไม่พอใจทันที
“ให้ตายสิ !”
เขาล้วงโทรศัพท์ออกมาอย่างหงุดหงิด เมื่อเห็นว่าชื่อบนหน้าจอที่โทรเข้ามาเป็นผู้ใดแล้วนั้น สันคิ้วของเฉินจิ้นถงจึงขมวดขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมทั้งสาวเท้าเดินไปยังห้องด้านนอกด้วยความรวดเร็ว เขากดเสียงเบาแล้วเอ่ยขึ้นมา “มีธุระอะไร ?”
“บอสครับ มีคนกำลังสืบเรื่องที่มาของตัวยาครับ”
น้ำเสียงที่ดังขึ้นมาจากสายโทรศัพท์มีความร้อนรนใจอย่างเห็นได้ชัด ตัวยาแอสเปอร์จิลลัสหากเป็นเส้นทางการแพทย์ธรรมดาไม่สามารถหามาได้โดยสิ้นเชิง ครั้นยิ่งเป็นเช่นนี้ก็ยิ่งง่ายต่อการสืบหา
“คนของเฉินเป่ยชวนเหรอ ?”
ริมฝีปากอันเรียวบางเปิดขึ้นมา ความกระตือรือร้นของสื่อสำหรับตามหาสาเหตุการตายของหลินเฟยเอ๋อร์หมดสิ้นไปแล้ว คิดไม่ถึงว่าเขาจะยังสืบอยู่
“ตอนนี้พวกเราต้องทำยังไงครับ ถ้าถูกจับได้…”
ปลายสายมีความกระส่ายกระสับ ถ้าหากถูกจับได้ เช่นนั้นเบาะแสที่กลบไว้ก็จะสามารถทำให้สืบเจอได้ว่าผู้ใดเป็นฆาตกรที่ฆ่าหลินเฟยเอ๋อร์
“เพิ่งเริ่มต้นเองก็กลัวแล้ว โง่จริง ๆ เรื่องนี้นายไม่ต้องยุ่ง ฉันจัดการเอง”
เฉินจิ้นถงกล่าวเสร็จก็วางสายไปทันที จากนั้นก็เดินกลับมาขอบเตียงอีกครั้ง พร้อมจับจ้องไปยังผู้หญิงที่หลับใหลอยู่บนเตียง ภายในแววตาของเขามีความไม่สบายใจผุดขึ้นมา หากพลาดโอกาสวันนี้ไปก็ไม่รู้ว่าครั้งหน้าจะต้องรอไปจนถึงเมื่อไร
ครั้นเมื่อนึกถึงว่าหากถูกเฉินเป่ยชวนสืบเจอเรื่องนั้นขึ้นมา ถึงเวลานั้นตนจะต้องมีปัญหามากมายเป็นแน่ มุมริมฝีปากสงบนิ่งลง จากนั้นก็หยิบแว่นตาที่ถอดวางข้าง ๆ นำกลับมาใส่บนสันจมูกเช่นเดิม และหันหลังเดินออกจากห้องไปทันที
เฉินเป่ยชวนมองดูภาพที่เงาเฉินจิ้นถงเดินจากไปในกล้องวงจรปิด ริมฝีปากอันบางก็ยกรอยยิ้มอันเย็นชาขึ้นมา เฉินจิ้นถง นายจะต้องชดใช้ในสิ่งที่นายทำด้วยความนึกเอาเองว่าตนเองฉลาดในวันนี้
“บอสครับ วิดีโอนี้เราจะมอบให้ทางโรงพักหรือเปล่าครับ ?”
บนใบหน้าอันรอบคอบของหลินผิงมีความยินดีผุดขึ้นมาอย่างน่าเหลือเชื่อ เฉินจิ้นถงจะต้องคิดไม่ถึงแน่ ๆ ว่าสายโทรศัพท์ที่ตนเองรับนั้นจะกลายเป็นหลักฐานในกำมือของพวกขา
“ยังไม่ต้อง”
เฉินเป่ยชวนลุกขึ้นมาจากบนโซฟา “สำหรับจัดการคนอย่างเขา ลงมือแล้วห้ามทิ้งเส้นทางถอยกลับไว้แม้แต่นิดเดียว”
“ผมเข้าใจแล้วครับ”
หลินผิงพยักหน้า โทรศัพท์สายนี้เป็นเพียงการแสดงว่าเฉินจิ้นถงน่าสงสัยเท่านั้น ครั้นสิ่งที่บอสต้องการคือหลักฐานที่ชี้ชะตาไปเลย
เฉินเป่ยชวนเดินออกจากห้องมา พร้อมเดินมาจนถึงหน้าประตูของห้องข้าง ๆ จากนั้นก็รูดการ์ดแม่เหล็กที่คัดลอกมาด้วยความสงบนิ่งสุขุม จากนั้นประตูก็มีเสียงเบา ๆ ดังขึ้นมา และประตูก็เปิดออก
เป็นห้องที่ออกแบบคล้ายกัน เพียงไม่กี่ก้าวเขาก็เข้ามายังห้องนอนแล้ว แววตาอันมืดลึกหล่นลงบนผู้หญิงบนเตียงที่ไม่รู้ว่าเมื่อสักครู่เกิดเรื่องอะไรขึ้นโดยสิ้นเชิง สันคิ้วของเขาจึงอดไม่ได้ที่จะขมวดเข้ามาหากัน
“ผู้หญิงโง่เอ๊ย ถ้าไม่เป็นเพราะฉันเตรียมพร้อมตั้งนานแล้ว ตอนนี้ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น !”
ภายในหัวสมองปรากฏเป็นภาพที่เฉินจิ้นถงนอนลูบใบหน้าของเธออยู่ข้าง ๆ ใบหน้าอันหล่อเหลาคมกริบจึงมีความซับซ้อนขึ้นมา เขาทราบว่าเฉินจิ้นถงต้องการเฉินกรุ๊ปมาครอบครองโดยตลอด ครั้นคิดไม่ถึงว่าเขาก็ต้องการเฉียวชูเฉี่ยนมาครอบครองเช่นกัน
“เรียกร้องความสนใจ……”
เขาพึมพำด้วยความโมโหขึ้นมาเสียงเบา ในขณะเดียวกันที่หงุดหงิดใจอยู่นั้นก็รู้สึกเอือมละอาขึ้นมา ลู่ฉีผู้เดียวก็ทำให้พวกเขาแตกคอกัน เสียเวลามานานหลายปีแล้ว บัดนี้มีเฉินจิ้นถงอีกคน ผู้หญิงคนนี้จะซื่อตรงหน่อยไม่ได้หรืออย่างไร