หวังว่าบนโต๊ะอาหารในอีกสักครู่จะไม่เกิดเรื่องที่น่าลำบากใจขึ้นมาจะดีที่สุด

รถยนต์ขับมาที่คลับส่วนตัวที่มีรูปแบบธรรมดาแห่งหนึ่ง เฉียวชูเฉี่ยนกวาดสายตามองการตกแต่งที่อยู่ข้างในรอบด้าน ดูหรูหราและสง่างามยิ่ง มองดูแล้วไม่เหมือนเป็นสถานที่สกปรกอะไร เธอจึงรู้สึกสบายใจขึ้นมา ครั้นหลังจากที่เดินเข้าไปแล้วนั้นจึงพบว่ามีอะไรแปลก ๆ จึงเริ่มกระวนกระวายขึ้นมาอีกครั้ง

“ผู้กำกับจาง คุณมาแล้วเหรอคะ”

ผู้หญิงหนึ่งคนแต่งตัวยั่วยวนเดินออกมาจากข้างใน การแต่งหน้าที่เซ็กซี่ปกปิดอายุจริงเอาไว้ หญิงสาวไม่พูดพร่ำทำเพลงเอียงตัวเข้ามาซบอกของผู้กำกับจางทันที เฉียวชูเฉี่ยนก็เป็นผู้หญิงเหมือนกัน ครั้นไม่ยอมรับไม่ได้ว่า ผู้หญิงที่อยู่เบื้องหน้านั้นไม่ใช่ระดับธรรมดาที่ผู้หญิงทั่วไปทำได้เลย ทุกสายตาที่มองมาล้วนทำให้ชาไปจนถึงกระดูก

อาจเป็นเพราะสังเกตถึงสายตาของเธอ ผู้หญิงคนนั้นจึงเบี่ยงสายตามามองเธอ เสียงอันนุ่มนวลและมีเสน่ห์ราวกับเป็นวันที่มีหมอกและฝนตกอันงดงามที่สุดในเจียงหนาน “ท่านนี้คือ……”

สายตามองสำรวจเฉินจิ้นถงก่อน จากนั้นก็มองมายังเฉียวชูเฉี่ยน

“ผมกำลังจะแนะนำคุณอยู่พอดีเลย ท่านนี้คือรองประธานเฉินแห่งองค์กรเฟิงฉิง ท่านนี้คือคุณเฉียว เฉียวชูเฉี่ยนแห่ง Q&C”

“ที่แท้ก็ประธานเฉินที่มีชื่อเสียงโด่งดังนี่เอง ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ”

หญิงสาวยิ้มขึ้นกล่าวทักทายอย่างสง่างามดุจดอกไม้ทันที รอยยิ้มบนใบหน้าของเฉินจิ้นถงยังคงอบอุ่นเหมือนเดิม “ผิดแล้วละครับ คนที่ชื่อเสียงโด่งดังคือพี่ผมเฉินเป่ยชวนต่างหาก ผมเพิ่งกลับจากต่างประเทศมาได้ไม่นาน” จากนั้นจึงทำสายตาส่งให้หญิงสาวที่อยู่ข้าง ๆ พร้อมทั้งลากทั้งสองคนไปยังห้องวีไอพีที่ดีที่สุด

“ซินโยวก็เป็นคนพูดจาแบบนี้แหละครับ ประธานเฉินอย่าเก็บมาใส่ใจเลยนะ” ชื่อเสียงของเฉินเป่ยชวนโด่งดังเหลือเกิน ดังจนปกปิดชื่อเสียงเรียงนามของคุณชายรองของตระกูลเฉินไว้

“ผู้กำกับจางพูดอะไรกันครับ ผมจะเก็บมาใส่ใจอะไร ?”

ยิ่งเฉินจิ้นถงตอบพร้อมรอยยิ้มเช่นนี้ ก็ยิ่งทำให้ผู้อื่นไม่ทราบว่าเขาพอใจหรือไม่พอใจอยู่กันแน่ และเวลานี้มีคนมาเคาะประตูห้องวีไอพีพอดี จากนั้นสาวสวยสองคนก็เดินเข้ามา

“เลขาเฉียว ผมดื่มเคารพคุณหนึ่งแก้วนะครับ หวังว่าจากนี้ไปการร่วมมือของเราจะราบรื่นนะครับ”

น้ำเสียงของผู้กำกับจางทำให้ความคิดที่ล่องลอยไปของเธอกลับคืนมา และเพิ่งสังเกตเห็นว่าภายในแก้วเหล้าเบื้องหน้าได้มีไวน์รินจนเต็มแก้วเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“ผู้กำกับจางเกรงใจเกินไปแล้วค่ะ จากนี้ไปถ้ามีปัญหาอะไรพวกเราสื่อสารกันได้ทุกเมื่อ หวังว่าเราจะร่วมสร้างละครเรื่องนี้ให้ดีไปด้วยกันนะคะ”

ก่อนที่จะมา เธอก็ได้เตรียมตัวสำหรับเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นกะทันหันต่าง ๆ นานาเอาไว้แล้ว ยิ่งเธอเคยเป็นเลขามานานหลายปีเช่นนี้ จึงชัดเจนดีว่าตัวเร่งที่จะทำให้เรื่องราวหลายอย่างแก้ไขได้นั้นก็คือเหล้า

เธอชูแก้วไวน์ขึ้นมา จากนั้นก็ดื่มไปหนึ่งอึก และเมื่อกำลังจะนั่งกลับที่เดิมอย่างสุภาพ ก็เห็นเขาพูดขึ้นมาอีกว่า “คุณเฉียวมองแวบเดียวก็รู้ว่าเป็นคนที่คอแข็ง ถ้างั้นผมขอชนอีกแก้วนะครับ”

“……”

เมื่อดื่มหนึ่งแก้วก็มีแก้วที่สอง เช่นนั้นเมื่อดื่มแก้วที่สองก็จะมีแก้วที่สามตามมา

“ถ้าคอไม่แข็งก็ไม่ต้องดื่มหรอกครับ”

น้ำเสียงอันนุ่มนวลของเฉินจิ้นถงดังขึ้นจากข้าง ๆ เฉียวชูเฉี่ยนคิดจะหาข้อแก้ตัวตามนั้นเพื่อถอนตัว ครั้นผู้ใดจะไปทราบว่าผู้กำกับจางจะเอ่ยขึ้นมาด้วยความกรุ้มกริ่มว่า “คุณเฉียว รองประธานเฉินดูแลคุณดีจริง ๆ เลยนะครับเนี่ย”

เดิมที่ต้องการวางแก้วไวน์ลง ครั้นจึงจำยอมยกขึ้นอีกครั้ง ถ้าหากไม่ดื่มแก้วนี้ ก็จะเป็นการแสดงออกอย่างชัดเจนว่าระหว่างเธอกับเฉินจิ้นถงนั้นมีความสัมพันธ์อะไรกัน

“ผู้กำกับจางนี่ชอบพูดล้อเล่นจริง ๆ เลยนะคะ ประธานเฉินอยู่ต่างประเทศมาหลายปี แน่นอนว่าจะต้องมีความเป็นสุภาพบุรุษสิคะ แก้วนี้ถือว่าฉันดื่มเคารพคุณก็แล้วกันนะคะ”

เธอดื่มไวน์ติดต่อกันสองแก้ว บนใบหน้าจึงเริ่มร้อนผ่าวขึ้นมาแล้ว

ผู้กำกับจางเหลือบมองสีหน้าของเฉินจิ้นถงแวบหนึ่ง ภายในแววตาอันเชี่ยวชาญนั้นมีรอยยิ้มขึ้นมา ผู้ชายย่อมเข้าใจผู้ชายด้วยกันเองที่สุดอยู่แล้ว

“คุณเฉียวครับ ผมคนนี้เข้มงวดกับความต้องการเรื่องงานมาก มีบางครั้งก็จะโมโหเพราะทำไม่ถึงความต้องการของผม คนในแวดวงต่างก็ทราบกันดีถึงอารมณ์ร้ายของผม เพราะฉะนั้นวันนี้ก่อนที่เราจะเริ่มร่วมมือกัน ผมต้องขอโทษคุณก่อนล่วงหน้าด้วยนะครับ จากนี้ไปถ้าเรื่องงานมีส่วนไหนที่ทำผิด อย่าได้เก็บมาคิดใส่ใจเลยนะครับ”

พูดคำพูดที่เกรงใจแล้วยังยื่นแก้วไวน์มาให้อีก เฉียวชูเฉี่ยนหาเหตุผลที่จะปฏิเสธไม่เจอ ทำได้เพียงเม้มปากแล้วดื่มไวน์ที่เต็มแก้วจนหมด