หลังจากยาระงับประสาทออกฤทธิ์ไปแล้วจะทำให้ตรวจพบส่วนผสมที่หลงเหลือภายในร่างกายได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งนั่นไม่เพียงพอที่จะนำมาคาดเดาปริมาณยา ทำให้พวกเขายืนยันเวลาที่แน่นอนไม่ได้และพิสูจน์ไม่ได้ว่าใครคือฆาตกร
“คนจากสถานีตำรวจแน่ใจใช่ไหมว่าวันนั้นมีแค่เฉินจิ้นถงที่ไปยังสถานที่ควบคุมตัว”
เฉินเป่ยชวนเลิกคิ้ว การเสียชีวิตของหลินเฟยเอ๋อร์เป็นการฆาตกรรมอย่างไม่ต้องสงสัย และคนที่น่าสงสัยที่สุดก็คือคนที่เคยติดต่อกับเธอ
“แน่ใจครับ แต่พนักงานรักษาความปลอดภัยที่นั่นบอกว่าเขาเพียงแค่พูดโน้มน้าวให้หลินเฟยเอ๋อร์เซ็นชื่อลงในใบหย่า ไม่ได้ทำร้ายเธอแต่อย่างใด”
หลินผิงขมวดคิ้ว เขาเองก็สงสัยเฉินจิ้นถงเช่นกัน แต่ผู้ชายคนนี้เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวมาก คิดไม่ถึงว่าเขาจะใช้ท่านผู้หญิงมาเป็นเกราะกำบัง แม้ว่าจะมีพยานหลักฐานชัดเจนแต่พอถึงเวลาเขาอาจจะดึงท่านผู้หญิงเข้ามาเกี่ยวข้อง ด้วยนิสัยของบอส บอสไม่มีทางยอมให้ท่านผู้หญิงซึ่งอายุมากแล้วต้องเข้ามาพัวพันกับคดีอย่างแน่นอน คงต้องบอกว่าถ้าเขาคือฆาตกรจริงๆ นี่ถือเป็นการวางแผนที่ดีมากจริงๆ
รอยยิ้มเย้ยหยันของเฉินเป่ยชวนขยายกว้างขึ้น “ถ้าอย่างนั้นเราก็ทำให้เขาเชื่อไปก่อนว่าเขาไม่ได้ทำอะไรพลาด”
เฉินเป่ยชวนอ่านความคิดของเฉินจิ้นถงออกมาตลอด ในเมื่อเขาชอบเล่นแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นเขาก็จะลงเล่นเกมนี้กับเฉินจิ้นถงด้วย
หลินผิงที่ยังกังวลอยู่เล็กน้อย เมื่อเห็นสีหน้าที่มุ่งมั่นของเจ้านายความกังวลนั้นก็พลันหายไปทันที ไม่ว่าเฉินจิ้นถงจะวางแผนอะไรไว้เขาก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของบอสอยู่ดี
“มีข่าวจากถังอี้บ้างไหม”
เมื่อเทียบกับเรื่องความมุ่งมั่นของเฉินจิ้นถงที่คุยกันเมื่อครู่นี้ เวลานี้คิ้วของเฉินเป่ยชวนกลับขมวดมุ่น หลินเฟยเอ๋อร์มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลักพาตัวเจ้าเด็กเหลือขอ แต่เรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นเป็นฝีมือของคนกลุ่มอื่น หากเขาเดาไม่ผิด เป็นไปได้มากว่าจะเป็นฝีมือของคนที่มีความแค้นฝังลึกกับเขา
“คาดว่าภายในสองวันนี้คงจะมีข่าวคราวบ้างครับ บอสสงสัยว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกค้ายาก่อนหน้านี้หรือครับ?”
“เฉินจิ้นถงต้องการยืมมือหลินเฟยเอ๋อร์เพื่อทำอะไรบางอย่าง ดังนั้นเขาคงคิดเผื่อความล้มเหลวไว้แล้ว ด้วยนิสัยของเขา เขาไม่มีทางเปิดเผยตัวตนตั้งแต่แรกแน่นอน”
ดังนั้นนอกจากหลินเฟยเอ๋อร์และเฉินจิ้นถง ยังมีคนอีกกลุ่มที่มีอิทธิพลมาก ซึ่งในซั่นเป่ยมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ต่อกรกับเขาแบบนี้ได้
“ถ้าอย่างนั้นผมจะโทรไปเร่งเขา”
หลินผิงมีสีหน้าเคร่งขรึม หากเป็นพวกค้ายาจริงๆ เกรงว่าการจัดการเรื่องต่างๆ จะยิ่งยากขึ้นไปอีก
……
“อย่าเพิ่งรีบร้อน ฉันกำลังรอข่าวอยู่เหมือนกัน นายก็รู้ว่าพวกตำรวจสากลมีคุณธรรมแค่ไหน พวกนั้นชอบแสร้งทำเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ถ้าไม่มีเรื่องอะไร”
ที่ประตูสำนักงานทนายความของเหยียนสือเซี่ย ร่างสูงโปร่งของถังอี้กำลังยืนพิงอยู่ตรงประตูรถคันหรูพลางคุยโทรศัพท์ไปด้วย ก่อนหน้านี้เขาไม่เห็นด้วยกับวิธีของเฉินเป่ยชวนแต่ว่าเขาไม่ยอมฟัง ตอนนี้เข้าใจละ เป็นไปได้จริงๆ ว่าจะมีศัตรูมาแก้แค้นเขา
“แต่ฉันมีเรื่องแล้วว่ะ แค่นี้นะ!”
เมื่อหางตาเหลือบไปเห็นว่ามีคนเดินออกมาเขาก็รีบวางสายแล้วขึ้นรถทันที
“สือเซี่ย คืนนี้เราไปร้องเพลงที่ K ด้วยกันดีไหม”
หนึ่งในเพื่อนร่วมงานสาวสองสามคนที่เดินออกมาด้วยกันเสนอความคิดดีๆ ขึ้น
“ขอบายดีกว่า ฉันมีความหลังที่ K น่ะ”
เธอไม่มีวันลืมสิ่งที่เกิดขึ้นตอนที่เธอไปร้องเพลงที่ K คราวก่อน เพื่อชีวิตน้อยๆ ของตัวเธอเองเธอควรอยู่ให้ห่างไกลจากสถานที่แบบนั้นไว้จะดีกว่า
“เอางั้นก็ได้ ไว้มีโอกาสค่อยนัดกันใหม่แล้วกัน ฉันไปก่อนละ” แต่สายตาเหลือบไปเห็นรถของถังอี้เสียก่อน
เจ้าคนกากเดนนี่ยังกล้ามาอีกเหรอ?
เธอพยายามเดินไปโดยแสร้งทำเป็นไม่เห็น แต่เมื่อได้ยินเสียงแตรรถดังติดต่อกันยืดยาว ไม่ต้องบอกเธอก็รู้ว่ามันจะดึงดูดสายตาของเพื่อนร่วมงานหลายๆ คนที่ยังอยู่ตรงนี้ได้มากแค่ไหน
เหยียนสือเซี่ยขมวดคิ้ว ผู้ชายคนนี้เป็นบ้าไปแล้วหรือไง
“ขึ้นมา ไม่งั้นผมจะเข้าไปว่าจ้างทนายในสำนักงานของคุณให้มาฟ้องร้องว่าคุณทำร้ายคนใกล้ชิดของผมเดี๋ยวนี้เลย”
ถังอี้ชะโงกหน้าออกมาทางหน้าต่างรถแล้วขู่ยิ้มๆ
“ถ้าไม่สบายก็ไปกินยาซะ ฉันไปทำร้ายคนใกล้ชิดของคุณตั้งแต่ตอนไหนไม่ทราบ”
เธอไม่รู้จักญาติพี่น้องของเขาเลยด้วยซ้ำ
“คุณนี่เป็นผู้หญิงที่กล้าทำแล้วไม่กล้ายอมรับ โชคดีที่ผมรู้ว่าคุณจะปฏิเสธเลยเตรียมพร้อมไว้ก่อน เอาไปดูซะ นี่คือรายงานการได้รับบาดเจ็บ”
ริมฝีปากที่เซ็กซี่ของเขากระตุกยิ้มอย่างชั่วร้าย จากนั้นจึงยื่นมือแล้วโยนรายงานผลการตรวจร่างกายใส่มือเหยียนสือเซี่ย
มีการเบิกความเท็จ?
เหยียนสือเซี่ยใจคอเหี่ยวแห้งไปหมด เธอก้มลงดูว่าในเอกสารเขียนไว้ว่าอย่างไร แต่ทันทีที่อ่านเนื้อหาจนจบเธอก็ดูแย่ลงถนัดตาและหน้าแดงระเรื่อขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้
“ไอ้โรคจิต!”
คิดไม่ถึงว่าเจ้าคนกากเดนจะไปตรวจอวัยวะส่วนนั้นของเขาที่โรงพยาบาล แถมยังให้แพทย์เขียนใบรับรองมาอีก ให้ตายเถอะ… เธอไม่เคยเจอใครหน้าด้านเท่านี้มาก่อนเลย
เขาคิดไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเธอจะต้องมีปฏิกิริยาเช่นนี้ จึงโต้กลับได้ทันทีโดยไม่ต้องเสียเวลาคิด “ผมโรคจิตยังไง นี่แหละคนใกล้ชิดที่สุดในชีวิตของผม เกิดมาบนโลกนี้พร้อมกันแล้วก็จะหายไปพร้อมกัน แน่นอนว่าผมต้องรักต้องทะนุถนอมมันถึงจะถูก”
“…”
เดิมทีเมื่ออยู่ภายในศาลเธอเป็นคนที่พูดจาได้ฉะฉานที่สุด แต่เมื่อมาอยู่ต่อหน้าผู้ชายคนนี้เธอกลับตกอยู่ในตำแหน่งที่เสียเปรียบครั้งแล้วครั้งเล่า
“งั้นคุณทะนุถนอมมันดีๆ ก็แล้วกัน”
เธอพูดอย่างโมโหก่อนจะก้าวยาวๆ ไปยังรถของตนเอง แต่พอเธอสตาร์ทรถ ทางข้างหน้าก็ถูกขวางไว้โดยรถอีกคันจนไปไหนไม่ได้
“ผมเตือนคุณด้วยความหวังดี ถ้าคุณทำให้รถของผมเสียหายละก็ คุณอาจจะต้องเสียเวลาเปล่าไปเลยครึ่งปี”
ถังอี้ชี้ไปที่รถโรลส์-รอยซ์แฟนธอมของตนเอง แม้ว่าผู้หญิงคนนี้จะไม่ได้ยากจน แต่ถ้าชนเข้าสักทีละก็ยังไงเธอก็ต้องเสียเวลาฟ้องร้องโดยเปล่าประโยชน์ไปอีกครึ่งปี
“…”
เหยียนสือเซี่ยโกรธแทบเป็นแทบตายแต่เธอก็เหยียบเบรกเอาไว้ ถ้าอีกสักพักเธอควบคุมความโกรธของตัวเองไม่ได้แล้วพุ่งชนเข้าไปจริงๆ คงได้กลายเป็นคดีความไปอีกหนึ่งปีโดยเปล่าประโยชน์
วันนี้เธอเพิ่งบอกว่าจะเป็นฝ่ายเลี้ยงดูเฉี่ยนเฉียนกับลูกชายทูนหัวไปเอง
ทันทีที่เห็นความรู้สึกที่แสดงออกมาทางสีหน้าของเธอ นัยน์ตาคมของเขาก็ปรากฏรอยยิ้มอย่างมีชัย เขาไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรกันแน่ ผู้หญิงที่กล้าหยาบคายกับเขาแบบนี้เขาควรจะสลัดทิ้งไปตั้งนานแล้ว แต่มันกลับเหมือนการเสพติดอะไรสักอย่าง ถึงขนาดที่คิดว่าการคบหากันแบบนี้เป็นสิ่งที่พิเศษและน่าสนุกจนทำให้เขานึกอยากจะหาเรื่องใส่ตัว
“ถังอี้ คุณจะทำอะไรกันแน่”
เหยียนสือเซี่ยทนไม่ไหวแล้วจริงๆ แต่เธอก็ทำได้แค่ถามออกไป
“ไม่ทำอะไรหรอก แค่บอกเฉยๆ ว่าคุณทำร้ายผมแล้วอย่าคิดว่าจะลอยนวลไปได้ง่ายๆ”
“…”
“งั้นฉันจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ พอใจไหม”
ณ เวลานี้ความคิดที่เฉียบแหลมและความมีเหตุมีผลของเธอหายไปจนหมดสิ้น เธอใช้แรงเฮือกสุดท้ายควบคุมความป่าเถื่อนซึ่งไหลเวียนอยู่ในร่างกายของตนไม่ให้ปล่อยเบรกและเหยียบคันเร่งแล้วชนเขาจนถึงแก่ความตาย
“ลืมเรื่องค่ารักษาพยาบาลไปได้เลย ผมต้องการการชดใช้ด้วยหัวใจ”
ถังอี้ไม่พูดเปล่าแต่ยังทำแววตายั่วเย้าเธออีก จะใช้เงินอย่างไรนั่นมันเป็นเรื่องของเขาอยู่แล้ว ทำไมเขาจะต้องสนใจค่ารักษาพยาบาลจำนวนเล็กน้อยแค่นี้ด้วย
“นี่คุณ อย่าให้มันมากนักนะ!”
เหยียนสือเซี่ยระเบิดอารมณ์ทันทีเมื่อได้ยินคำพูดประโยคสุดท้าย ผู้ชายคนนี้ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ!
MANGA DISCUSSION