คิ้วที่ขมวดอยู่ของเฉินเป่ยชวนไม่ได้คลายออกหลังจากที่เห็นถังอี้เดินออกไปแต่อย่างใด เขาชักสายตากลับมา พร้อมกล่าวกับหลินผิงที่อยู่ข้าง ๆ “นายไปดูหน่อยว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น”
เรื่องที่ผู้หญิงคนนั้นให้ถังอี้ไปจัดการ จะต้องไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยแน่นอน
เฉียวจิ่งเหยียนรับประทานมื้อเช้าที่อุดมสมบูรณ์รสชาติโอชาอยู่ เขาได้ลืมความกลัวที่จะต้องได้ฉีดยาเมื่อสักครู่นี้ไปจนหมดสิ้นแล้ว เฉียวชูเฉี่ยนเห็นถังอี้มาแล้วจึงได้เดินออกจากห้องผู้ป่วยไปในทันที
“คุณเรียกผมมามีเรื่องอะไรเหรอ ?”
ภายในใจของถังอี้ร้องทุกข์มิรู้วาย ทั้งที่เขาอยู่ชั้นล่างแท้ ๆ ครั้นต้องแสร้งทำเหมือนคนเร่งรีบขึ้นมาอย่างไรอย่างนั้น ทักษะการแสดงนี้ช่างสุดยอดจริง ๆ รู้สึกว่าออสการ์จะติดค้างถ้วยรางวัลเขาอยู่
“ฉันรู้ว่าฉันอาจรบกวนคุณทำธุระแล้ว แต่ว่าฉันมีเรื่องด่วนจริง ๆ ค่ะ”
เธอพูดพลางหยิบถุงที่ใส่เสื้อผ้าและเข็มฉีดยาออกมา
“นี่คืออะไร ?”
เขาก้มหน้ามองชุดพยาบาลเบื้องหน้า ให้สิ่งของนี้กับเขา นอกจากจะเล่นเครื่องแบบล่อใจแล้ว เขาก็คิดไม่ออกว่ามีประโยชน์อะไรอีก
“ตอนที่ฉันออกไปซื้ออาหารเช้าให้จิ่งเหยียนล่างตึกเมื่อเช้าวันนี้ ฉันเห็นผู้หญิงที่น่าสงสัยคนหนึ่งเข้าโรงพยาบาลมา ฉันสงสัยว่าจะเป็นหลินเฟยเอ๋อร์ ก็เลยกลับห้องผู้ป่วยทันที และมีพยาบาลคนหนึ่งกำลังจะฉีดยาให้จิ่งเหยียนอยู่ในห้องพอดี แต่ว่าหัวหน้าเฉินไม่ได้บอกให้ฉีดยา อีกทั้งนางพยาบาลคนนั้นเห็นฉันเข้ามาก็พูดขึ้นมาหนึ่งประโยคแล้วจากไปทันที ประมาณสิบนาทีฉันก็ไปเก็บของพวกนี้มาได้จากในห้องน้ำข้าง ๆ ลิฟต์ขนส่งค่ะ”
เธอแทบจะสามารถตัดสินได้ว่าพยาบาลที่มาฉีดยาให้จิ่งเหยียนเป็นคนปลอมตัวมา อีกทั้งเธอสงสัยว่าคนคนนั้นก็คือหลินเฟยเอ๋อร์
เมื่อถังอี้ได้ยินดังนั้น นัยน์ตาที่หลุดไปอยู่ในห้วงความคิดก็หนักแน่นจริงจังขึ้นมา “คุณจะบอกว่าหลินเฟยเอ๋อร์ต้องการที่จะลงมือทำร้ายจิ่งเหยียนงั้นเหรอ ?”
“น่าจะใช่ค่ะ เธอจะฉีดยาให้จิ่งเหยียน โชคดีที่ฉันมาถึงทันเวลาเธอเลยทำไม่สำเร็จ อีกทั้งฉันเห็นเข็มฉีดยาที่อยู่ในถังขยะข้าง ๆ ชักโครก แม้ว่าสารยาที่อยู่ในเข็มจะถูกเอาออกพอสมควรแล้ว แต่ว่ายังเหลืออยู่นิดหน่อย”
ถ้าหากผู้หญิงที่ปลอมตัวคนนั้นเป็นหลินเฟยเอ๋อร์ อย่างน้อยบนนี้จะต้องสืบเจอเบาะแสอะไรบ้าง
“ผมเข้าใจความหมายของคุณแล้วครับ ผมจะให้คนไปตรวจสอบรอยนิ้วมือและคุณสมบัติของตัวยาชนิดนี้ตอนนี้เลยครับ”
เมื่ออยู่กับสาว ๆ ถังอี้มักจะมีท่าทางเหมือนเป็นเพลย์บอยที่ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ครั้นสำหรับเรื่องที่ควรจะจริงจัง กลับไม่สะเพร่าเลยแม้แต่น้อย
“ขอบคุณมากนะคะ ตอนแรกฉันว่าจะโทรหาสือเซี่ยแต่ว่าวันนี้เธอเปิดคดี เพราะงั้นเลยต้องรบกวนคุณ”
เมื่อเจอเรื่องตกใจเช่นนั้น เธอก็ยิ่งไม่กล้าหนีห่างจากจิ่งเหยียนแม้แต่น้อย
“รบกวนอะไรกันครับ คุณรอข่าวสารจากผมได้เลย ถ้าได้ผลลัพธ์แล้วผมจะโทรหาคุณเป็นคนแรกเลย”
“ค่ะ ถ้างั้นฉันกลับไปดูแลจิ่งเหยียนก่อนนะคะ”
เฉียวชูเฉี่ยนพยักหน้า จากนั้นก็หันหลังเดินกลับห้องผู้ป่วยไป ถ้าหากเป็นหลินเฟยเอ๋อร์จริง ๆ เช่นนั้นผู้ที่ลักพาตัวจิ่งเหยียนก็ต้องเกี่ยวข้องกับเธอ ไม่ว่าจะเป็นใครที่ทำร้ายลูกของตน ตนจะให้พวกมันชดใช้ในสิ่งที่สมควร
ถังอี้รับของเหล่านั้นมาพร้อมเดินจากไป ครั้นไม่ได้เดินไปห้องปฏิบัติการ แต่ลงตึกกลับไปยังห้องพิเศษของเฉินเป่ยชวน
“หลินผิงบอกนายแล้วใช่ไหม”
เมื่อเดินเข้ามา เขาก็เอ่ยถามขึ้นโดยตรง เป็นเพื่อนรักกันมานานกลายปีก็จะต้องรู้จักนิสัยใจคอกันเป็นเรื่องธรรมดา เป่ยชวนสนใจเฉียวชูเฉี่ยนยิ่งกว่าใคร ๆ เสียอีก
“เอาของให้หลี่จิ้ง ฉันต้องการผลลัพธ์โดยเร็วที่สุด”
เฉินเป่ยชวนที่อยู่บนเตียงผู้ป่วยมีนัยน์ตาที่เย็นชาจนน่ากลัว ดูเหมือนว่าเขาดูถูกความกล้าของหลินเฟยเอ๋อร์ผู้หญิงคนนี้น้อยไปเสียแล้ว
หลินเฟยเอ๋อร์เร่งให้คนขับรถแท็กซี่ขับเร็ว ๆ ตลอดทาง เวลาต่อมารถก็มาจอดอยู่ก่อนถึงคฤหาสน์เป็นระยะทางหนึ่ง เธอหยิบแบงค์ร้อยออกจากกระเป๋าเงิน และไม่รอให้โชเฟอร์ทอนเงินก็รีบเดินมุ่งไปยังคฤหาสน์ของตนเองอย่างรวดเร็วทันที
เธอปิดประตูลง แล้วถึงกล้ากุมหน้าอกที่เต้นอย่างแรงของตนเองเอาไว้ ตลอดทางที่มานี้เธอขวัญเสียแทบแย่ เมื่อนึกถึงว่าตนเองอาจจะถูกคนจับได้คาหนังคาเขา เธอก็หวาดกลัวจนอยากหาสถานที่สักแห่งหลบซ่อน
เธอดื่มน้ำเย็น ๆ เข้าไปหนึ่งแก้ว จึงค่อย ๆ ใจเย็นขึ้นมาจากความกระวนกระวายและหวาดกลัว ภายในดวงตาผุดความไม่สบายใจขึ้นมา อีกนิดเดียวเท่านั้น ขอแค่เฉียวชูเฉี่ยนกลับมาช้าอีกสองสามนาที เธอก็จะสามารถปลิดชีวิตเด็กคนนั้นได้ หลังจากนั้นก็ออกจากโรงพยาบาลโดยไม่มีใครทราบแล้ว
“ให้ตายสิ”
เธอโยนแก้วเปล่าในมือลงบนพื้นอย่างแรง เหตุใดเด็กนั่นจึงดวงแข็งเช่นนี้นะ ทำขนาดนั้นแล้วยังปลิดชีวิตเขามาไม่ได้อีก
เธอนั่งบนเตียงด้วยความเหนื่อยล้า บนใบหน้าของเธอปรากฏเป็นความเป็นกังวลใจขึ้นมาอีกครั้ง ภายใต้สถานการณ์อันเร่งรีบเธอจึงทำได้เพียงทิ้งชุดและเข็มฉีดยานั่นในห้องน้ำ หวังว่าจะถูกคนที่มาทำความสะอาดเอาไปทิ้งตั้งนานแล้ว ไม่อย่างนั้นอาจเป็นปัญหาใหญ่ขึ้นมาแน่นอน
ยิ่งคิดก็ยิ่งร้อนรนใจ เธอลังเลชั่วครู่จากนั้นก็ยังคงโทรไปหาเบอร์นั่นอยู่ดี ปลายสายมีเสียงตู้ด ๆ ขณะรอรับสายดังขึ้นมา นัยน์ตาของเธอมีความตื่นเต้นแวบขึ้น ค่อยยังชั่วที่เขาไม่ปิดเครื่อง แผนการนี้เขาเป็นคนคิดขึ้นมา เขาจะต้องมีวิธีช่วยเหลือตนได้เป็นแน่
“เหมือนว่าคุณจะลืมคำพูดของผมไปแล้วนะ”
หลังจากที่โทรศัพท์กดรับสาย น้ำเสียงอันน่ากลัวก็ดังขึ้นมา หลินเฟยเอ๋อร์จึงตัวสั่นขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว สำหรับคนผู้นี้เธอมีความรู้สึกหวาดกลัวอย่างน่าแปลกประหลาด มักรู้สึกว่าตนเองถูกเขามองทะลุปรุโปร่งตั้งนานแล้วอย่างไรอย่างนั้น และเธอก็เป็นเพียงเครื่องมือที่เขาใช้งานเท่านั้น
“ฉันทำตามวิธีที่คุณบอกแล้ว ตอนแรกฉันจะทำสำเร็จแล้วแท้ ๆ แต่นังเฉียวชูเฉี่ยนอยู่ ๆ ก็เข้ามาจากข้างนอก ฉันเลยต้องวางมือ ฉันทิ้งชุดที่แต่งเป็นพยาบาลและอุปกรณ์ฉีดยาไว้ที่ห้องน้ำ คุณว่าจะมีคนเจอเข้าหรือเปล่า จะตามสืบถึงตัวฉันได้หรือเปล่า ?”
น้ำเสียงของเธอมีความสั่นคลอนเล็กน้อย ถ้าหากมีคนเจอของพวกนั้นจริง ๆ ถึงเวลานั้นสืบมาจนถึงตัวเธอ เช่นนั้นเธอคงจบสิ้นแล้ว
“คุณทิ้งของไว้ในห้องน้ำงั้นเหรอ ?”
เฉินจิ้นถงที่นั่งอยู่ในรถยนต์ มีใบหน้าไม่สบอารมณ์ขึ้นมาทันที แววตาที่อยู่หลังแว่นตานั้นมีความเกี้ยวกราดอยากฆ่าคนผุดขึ้นมา ผู้หญิงคนนี้นี่ทำเรื่องไม่ดีแถมยังทำให้แย่ลงอีกจริง ๆ
“ตอนนั้นฉันตื่นเต้นนี่นา ไม่รู้ว่าควรทำยังไง ฉันกลัวว่ามันจะตอบสนองเร็วแล้ววิ่งตามฉันมา ถึงเวลานั้นถูกจับพร้อมของกลางพอดี เพราะงั้นฉันเลยทำได้แค่ทิ้งชุดและเข็มฉีดยาไว้ในห้องน้ำเท่านั้น แต่ว่ายาที่อยู่ข้างในฉันเอาทิ้งในชักโครกหมดแล้วนะ”
ถึงเวลานั้นหากใช้เพียงชุดหนึ่งชุดและเข็มฉีดยา ก็คงตรวจสอบไม่เจออะไรที่เป็นผลประโยชน์หรอก
“ฉันเข้าใจแล้ว”
เฉินจิ้นถงดันแว่นตาที่อยู่บนสันจมูกของตัวเอง ริมฝีปากอันบางและเย็นชาเกร็งขึ้นมา เก็บผู้หญิงคนนี้ไว้มีแต่จะก่อความวุ่นวายให้เขา อย่างนั้นก็อย่าโทษเขาก็แล้วกัน
ผลการตรวจสอบออกมาในวันต่อมา บนเสื้อผ้าไม่สามารถนำ DNA จากคนใส่ออกมาได้ ครั้นบนเข็มฉีดยาพบลายนิ้วมือของหลินเฟยเอ๋อร์ ภายใต้สถานการณ์ที่คับขันเธอทำได้เพียงใช้เสื้อผ้าเช็ดเข็มฉีดยาหนึ่งรอบแล้วโยนทิ้งถังขยะเท่านั้น แม้ว่าลายนิ้วมือจะเสียหายเล็กน้อย ครั้นกลับทิ้งส่วนหนึ่งไว้ อย่างน้อยก็ไม่ทำให้การยืนยันตัวตนของเธอมีปัญหาอะไร
“ในหลอดเข็มฉีดยาคือยาอะไร ?”
ริมฝีปากเรียวบางของเฉินเป่ยชวนเปิดขึ้นมา น้ำเสียงอันเย็นชาจนทิ่มแทงกระดูก ผู้หญิงคนนี้กล้าเกินไปแล้ว
“เป็นแอสเปอร์จิลลัสที่ทำให้เสียชีวิตอย่างเร็วที่สุด ปริมาณหนึ่งเข็มสามารถทำให้เด็กที่โตขนาดเฉียวจิ่งเหยียนตายได้ร้อยคน”
ถังอี้เอ่ยขึ้นด้วยนัยน์ตาที่เต็มไปด้วยความโมโห หลินเฟยเอ๋อร์ผู้นี้ เมื่อก่อนเขาแค่ไม่ชอบเธอเท่านั้น ครั้นบัดนี้กลับรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ช่างร้ายกาจเหลือเกิน คิดไม่ถึงว่าจะไม่ปล่อยแม้กระทั่งเด็กที่เล็กขนาดนี้ไป
สีหน้าของเฉินเป่ยชวนเย็นยะเยือกเพิ่มขึ้นกว่าเดิม “ไปจับผู้หญิงคนนั้นมาให้ฉัน”
“ไป๋ชวน ฉันคิดว่ายกให้เป็นหน้าที่ของตำรวจจะเหมาะสมกว่านะ”
MANGA DISCUSSION