ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย!! [Yaoi , Boy’s love] - ตอนพิเศษ 30
ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย ตอนที่30 (คม x ใบบุญ)END
Author: 여님 (ยอนิม)
เช้า
ไผ่กับลูกน้องของกมลไปเดินหามอเตอร์ไซค์ของไผ่ ซึ่งถูกไหมเข็นไปไว้ในพุ่มไม้ข้างทาง โชคดีที่ยังไม่หายไปไหน ก่อนที่ไผ่จะขอตัวกลับไปบ้านก่อน ส่วนไหม ตำรวจก็มาคุมตัวไปดำเนินคดี ไม่ว่าหญิงสาวจะอ้อนวอนยังไง ก็ไม่มีใครสนใจและยอมอ่อนให้ เพราะคิมพูดเอาไว้ว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
“เลี้ยงงูเห่าไว้กับบ้านแท้ๆ” คิมพูดบ่นออกมา
“ชั้นเองก็ไม่คิดว่าไหมมันจะกล้าทำถึงขนาดนี้” กมลพูดบอกออกมาบ้าง
“นั่นน่ะสิ อิจฉาแม้กระทั่งเด็ก” คิมว่าออกมาอีก ก่อนที่จะนั่งถอนหายใจเบาๆ
“ใบบุญเราโอเคแล้วใช่มั้ย พี่หมายถึงจิตใจของเราน่ะ” คิมถามใบบุญต่อ
“ฮะ ใบบุญไม่เป็นอะไรแล้วฮะ พรุ่งนี้ก็ไปโรงเรียนได้แล้ว” เด็กหนุ่มพูดขึ้นยิ้มๆ
“ผมว่าใบบุญเข้มแข็งกว่าที่เราเห็นภายนอกอีกนะครับ ถึงแม้ว่าจะรู้สึกกลัวในสถานการณ์ ณ ตอนนั้น แต่พอได้กลับมาอย่างปลอดภัย ใบบุญก็พยายามลืมเรื่องตรงนั้นไปทันที ไม่ได้เก็บเอามาหวาดผวาเหมือนเด็กคนอื่นๆ” กิจพูดขึ้นบ้าง ทุกคนจึงหันไปมองใบบุญ
“คือ ใบบุญไม่อยากให้ใครต้องเป็นห่วงใบบุญไปมากกว่านี้น่ะฮะ” เด็กหนุ่มพูดขึ้นมาเสียงแผ่ว ทำให้ทุกคนยิ้มออกมาน้อยๆ ยกเว้นคมที่นั่งเงียบมาได้สักพัก
“เป็นอะไรไอ้คม” กมลถามขึ้น คมเงยหน้ามองกมลนิดๆ
“เปล่าครับนาย ผมขอออกไปสูบบุหรี่หน่อยนะครับ” คมพูดพร้อมกับลุกเดินออกไปทันที ทำให้ทุกคนที่นั่งอยู่ในห้องรับแขกถึงกับงง ใบบุญทำท่าจะลุกตามไป แต่กมลยกมือขึ้นห้ามก่อน
“ปล่อยมันก่อน มันคงมีเรื่องอะไรต้องคิดคนเดียวน่ะ” กมลพูดขึ้น
“แต่ใบบุญไม่อยากให้พี่คมอยู่คนเดียวนี่ฮะ” เด็กหนุ่มพูดจบก็วิ่งตามคมออกไปทันที คิมหันไปมองหน้าป้านีที่ยิ้มออกมาอ่อนๆ
“หลานชายป้าก็ดื้อน่าดูเหมือนกันนะครับ” คิมพูดขึ้นอย่างเอ็นดู
“ก็เป็นลูกชายสุดรักของนายด้วยไม่ใช่รึไง” กมลพูดแซวขึ้นมาบ้างเพื่อไม่ให้บรรยากาศมันตึงเครียด
..
..
..
คมยืนจุดบุหรี่สูบแต่จุดเท่าไรก็ไม่ติดสักที ทำให้ร่างสูงหงุดหงิดไม่น้อย แต่ก็ไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมา
“ถ้ามันจุดไม่ติดก็ไม่ต้องสูบสิฮะ” เสียงของใบบุญ ทำให้คมชะงัก
“ออกมาทำไมใบบุญ ไปในบ้านไป เดี๋ยวพี่สูบบุหรี่เสร็จแล้วจะตามเข้าไป” คมพูดเสียงเรียบ แต่ไม่ได้หันมามองใบบุญ เด็กหนุ่มเดินเข้ามาหาคมจากทางด้านหลัง ก่อนจะจับมือของคมเอาไว้ ทำให้คมต้องหันไปมอง
“ใบบุญทำอะไรให้พี่คมโกรธรึเปล่าฮะ” ใบบุญพูดถามออกมา ทำให้คมนิ่งไปนิด ร่างสูงกัดฟันกรอด แต่ไม่ได้โกรธใบบุญ เขาโกรธตัวเองมากกว่าเมื่อได้ยินคำถามแบบนี้จากใบบุญ
“ทำไม ถึงคิดว่าพี่ต้องโกรธเราด้วย” คมถามกลับไป ใบบุญส่ายหน้าไปมา
“ใบบุญไม่รู้ แต่ใบบุญรู้สึกไม่ดี เวลาเห็นพี่คมเป็นแบบนี้ พี่คมเป็นอะไร บอกใบบุญได้มั้ย ถ้าไม่ได้โกรธใบบุญก็บอกใบบุญสิฮะ ว่าพี่คิดอะไรอยู่” ใบบุญถามเสียงสั่น ความรู้สึกของเด็กหนุ่มมันบอกว่าคมกำลังคิดมากเรื่องบางอย่างอยู่ คมมองหน้าใบบุญนิ่งๆ ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ คมฝืนยิ้มนิดๆให้เด็กหนุ่ม
“ไม่มีอะไรหรอกครับ พี่แค่อยากสูบบุหรี่ แล้วมันจุดไม่ติดเท่านั้นเอง” คมบอกออกมา แต่ความรู้สึกของใบบุญก็รับรู้อยู่ดีว่าคมโกหก
“พี่คมโกหก! มีอะไรทำไมถึงบอกใบบุญไม่ได้” เด็กหนุ่มงอแงออกมาทันที ทำให้คมอึ้งไปนิดเพราะใบบุญไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน
“ใบบุญ พี่ไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ” คมยังคงยืนยัน ใบบุญปล่อยมือคมพร้อมกับมองด้วยดวงตาแดงก่ำ
“พี่คมนิสัยไม่ดี” ใบบุญพูดก่อนจะวิ่งกลับเข้าไปในบ้านด้วยความน้อยใจ คมยืนนิ่งอยู่กับที่ ยกมือขึ้นมาลูบหน้าตนเองเบาๆ ไม่นานนักกมลก็เดินออกมาหา
“ไปทำอะไรให้ใบบุญร้องไห้วะคม คิมแทบจะเดินออกมาแหกอกแกแล้วนะ” กมลพูดว่าเสียงดุ คมหน้าหม่นลงนิดๆ
“ผมพึ่งเข้าใจคำว่า ความรักทำให้คนตาบอดก็คราวนี้แหละครับนาย” คมพูดเสียงแผ่ว
“อะไรของแกอีก ไหนพูดมาสิ” กมลถามขึ้น
“ผมไม่รู้ว่าผมควรทำยังไงแล้วนาย ผมไม่เคยรักใครมากเท่าใบบุญมาก่อน พูดง่ายๆ ผมไม่เคยมีความรักจริงจังแบบนี้กับใคร ผมก็เลยไม่รู้ว่าผมต้องทำยังไงกับคนที่ผมรัก ผมหวง ผมห่วง ผมหึงใบบุญ ผมไม่ชอบให้ใครมาเข้าใกล้ใบบุญมากเกินไป แม้แต่เพื่อนของใบบุญเอง ผมก็ไม่อยากให้มาสนิทด้วยมากนัก” คมพูดบอกออกมาเสียงสั่นๆ เขาคิดมากและกังวลเรื่องนี้ไม่น้อย
“ผมไม่อยากให้ใบบุญไปไหน ไม่อยากให้ใบบุญอยู่ไกลหูไกลตา จนผมลืมคิดไปว่า ใบบุญเค้าก็ต้องมีชีวิตของเค้า มีโลกส่วนตัวของเค้าบ้าง” คมบอกออกมาอีก กมลก็ยืนฟังเงียบๆ ปล่อยให้คมระบายออกมาให้หมด
“ผมมัวแต่ห่วง ประคบประหงมใบบุญมากเกินไป ในขณะที่ใบบุญเค้าก็พยายามเข้มแข็งด้วยตัวเองของเค้าเองเพื่อไม่อยากให้ทุกคนเป็นห่วงเค้ามาก แต่ผมกลับไม่เห็นความพยายามของใบบุญในเรื่องนั้น เอาแต่คิดว่าต้องดูแลใบบุญให้ดีกว่านี้ ต้องตามติดใบบุญให้มากกว่านี้ ที่ไอ้กิจมันพูด มันทำให้ผมคิดได้ว่าผมมันแย่มากๆ ที่จำกัดชีวิตของใบบุญให้มีแต่เรื่องของผมคนเดียว ใบบุญยังเด็ก ใบบุญต้องมีชีวิตของเค้าบ้าง ผมมันเห็นแก่ตัวใช่มั้ยครับนาย” คมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด ตอนที่กิจพูดในบ้าน แล้วใบบุญก็ตอบออกมา ทำให้คมฉุกคิด ว่าเด็กหนุ่มพยายามเข้มแข็งด้วยตัวเองถึงขนาดนี้ แล้วทำไมเขาถึงปิดกั้นใบบุญกับโลกภายนอกแบบนี้
“ชั้นเข้าใจแกคม ชั้นเองก็เป็นแบบแก พวกเรามันอยู่ในวงการนี้มาตั้งแต่วัยรุ่น ชีวิตเจอแต่เรื่องแย่ๆ เจอแต่คนไม่ดีมาตลอด มันไม่ผิดที่เราจะรู้สึกว่า โลกภายนอกจริงๆแล้วมันโหดร้ายและรุนแรงแค่ไหน พอเราได้มาพบใครสักคนที่เป็นเหมือนแสงสว่างให้เรา เราก็รู้สึกอยากจะเก็บแสงสว่างนี้ไว้คนเดียว ไม่อยากให้ใครมาแตะต้องหรือทำให้แปดเปื้อน เรากลัวสารพัด ว่าโลกภายนอกมันจะทำให้คนของเราเปลี่ยนไป กลัวว่าโลกภายนอกมันจะทำร้ายคนของเราให้เจ็บ ก็เลยทำให้เราเป็นแบบที่แกว่า” กมลพูดขึ้น ซึ่งมันตรงกับความคิดของคมทุกอย่าง
“แต่คุณคิม เค้าเป็นผู้ใหญ่แล้ว เค้าเจอโลกมามากกว่าใบบุญ นายถึงไม่ค่อยห่วงเค้ามากในเรื่องนั้น แต่ผมนี่สิครับ ห่วง หวงจนเกือบบ้า” คมพูดบอกออกมาอีก กมลตบไหล่คมเบาๆ
“งั้นแกก็ต้องให้ใบบุญได้เจอโลกกว้างบ้าง ชั้นมั่นใจนะ ว่าเด็กดีอย่างใบบุญ ไม่มีทางหลงระเริงไปกับโลกภายนอกหรอก แกต้องคอยดูอยู่ห่างๆ ถ้ามันมีอะไรที่จะทำให้ใบบุญเขวออกนอกเส้นทาง แกก็ค่อยยื่นมือเข้าไปช่วย แต่ก็ไม่แน่นะ ใบบุญอาจจะชอบที่จะถูกแกควบคุมเอาไว้ในอาณัติแบบนี้ก็ได้” กมลพูดติดตลกออกมา คมถอนหายใจเบาๆ
“ใบบุญไม่ใช่คุณคิมนะครับ” คมพูดขึ้น ตอนนี้เขารู้สึกสบายใจขึ้นบ้างแล้วหลังจากที่ได้ระบายให้กมลรับรู้
“ไอ้นี่ เล่นของสูงเดี๋ยวตบหัวทิ่ม ไปๆ เข้าไปง้อใบบุญของแกก่อน ส่วนเรื่องที่แกคิดมากอยู่เนี่ยค่อยๆแก้ไข ค่อยๆคุยกับใบบุญไปล่ะกัน” กมลบอกออกมาอย่างขำๆก่อนที่ทั้งสองจะพากันเดินกลับเข้าไปในบ้านใหญ่
“คม!! มานี่เลยนะ นายว่าอะไรใบบุญรึเปล่า ใบบุญถึงได้ร้องไห้แบบนี้น่ะ” คิมที่นั่งกอดใบบุญอยู่พูดถามขึ้นมาเสียงเข้มเมื่อเห็นคมเดินเข้าไปในห้องรับแขก คมหน้าเจื่อนนิดๆ ใบบุญหันมามองคมด้วยน้ำตานองหน้า ก่อนจะซุกเข้ากับอกของคิมต่อ
“ใบบุญพึ่งเจอเรื่องไม่ดีมา นายก็ดันทำให้ใบบุญร้องไห้อีก” คิมว่าออกมาต่อ จนป้านีต้องจับแขนเป็นเชิงปราม ให้คิมใจเย็นๆ
“ผมไม่ได้ว่าอะไรใบบุญนะครับ” คมบอกเสียงอ่อยๆ พร้อมกับมองใบบุญด้วยสายตาละห้อย
“ใบบุญ พี่ขอโทษ” คมพูดขึ้น ใบบุญผละออกจากอกของคิมมามองคมนิดๆ
“ฮึกก พี่คมชอบโกหก” ใบบุญพูดว่าออกมา ทุกคนหันไปมองคมทันที
“เอ่อ คือใบบุญเค้าถามว่าผมเป็นอะไร แล้วผมบอกว่าไม่ได้เป็นอะไรน่ะครับ” คมพูดบอกออกมา
“ใบบุญเอ๊ย ขี้น้อยใจไปแล้วนะเราน่ะ” ป้านีพูดออกมาเมื่อได้ยิน
“ฮึก..ก็พี่คมโกหกจริงๆนี่ฮะยาย” ใบบุญพูดกับยายตนเองเสียงสั่น
“ใบบุญรู้สึกได้ ว่าพี่คมโกหก พี่คมมีเรื่องในใจแต่ไม่ยอมบอกใบบุญ” เด็กหนุ่มพูดโวยออกมาทันที จากเหตุการณ์ที่ผ่านมา ทำให้ใบบุญรู้สึกว่า ตัวเองกล้าที่จะพูดอะไรๆมากกว่าเดิม ทุกคนเงียบสนิทเมื่อได้ยินใบบุญโวยออกมา ป้านีถอนหายใจออกมาเบาๆ เมื่อเห็นอาการของหลานชายตนเอง
“ไหนๆ มันก็มีเรื่องต่างๆเข้ามาให้วุ่นวายให้เครียดกันแล้ว ป้าขอพูดอะไรสักอย่างก็แล้วกันนะคะ” ป้านีพูดขึ้นเสียงเครียด ความจริงป้านีก็ไม่อยากพูดในสถานการณ์แบบนี้ แต่เมื่อเห็นอาการของหลานชายที่มีต่อคม ทำให้ป้านีตัดสินใจพูดเสียแต่ตอนนี้ไปเลยดีกว่า
“มีอะไรเหรอครับป้า” คิมถามขึ้นอย่างแปลกใจ ป้านีมองหน้าคมนิ่งๆ
“คม เรามีอะไรอยากจะสารภาพกับป้ามั้ย” ป้านีพูดเกริ่นขึ้นมา ทำให้คมชะงักนิ่ง พร้อมกับมองหน้าป้านีไปด้วย ร่างสูงมือเย็นเฉียบ เขาไม่เคยมีอาการแบบนี้มาก่อน จนกระทั่งตอนนี้
“ปะ…ป้าหมายถึงเรื่องผมกับ..” คมพูดพร้อมกับมองไปที่ใบบุญ
“ใช่ ป้าให้โอกาสเราสารภาพก่อนเลยนะคม” ป้านีบอกออกมาอีก กมลเองก็หันไปมองคมทันที ส่วนใบบุญกับคิม ก็หันไปมองป้านีอย่างงุนงง คมกัดปากตัวเอง ก่อนจะขยับลงไปนั่งคุกเข่าตรงด้านหน้าที่ป้านีนั่ง ร่างสูงก้มหัวนิดๆ ในขณะที่คิมกับใบบุญยังไม่เข้าใจกับการกระทำของคมสักเท่าไร ส่วนกมลก็นั่งนิ่ง ปล่อยให้คมจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง
“ป้าครับ ผมไม่ได้ตั้งใจอยากจะปิดป้าไปตลอด ผมแค่รอเวลาให้ทุกอย่างมันลงตัวกว่านี้ ผมถึงจะสารภาพ แต่ในเมื่อเรื่องนี้มันแดงขึ้นมาแล้ว และป้าก็ให้โอกาสผม ผมก็ยอมสารภาพผิดทุกอย่างครับ” คมพูดบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง
เพียะ!
ป้านีตบหน้าคม ท่ามกลางความตกใจของคนอื่นๆ ที่นั่งอยู่
“ฮึกก…ยายตบพี่คมทำไมฮะ” ใบบุญรีบถามทันทีเสียงสั่นเครือ พร้อมกับถลาจากอกของคิมไปหาคมที่นั่งอยู่ทันที
“รู้ใช่มั้ยคม ว่าป้าตบเราทำไม” ป้านีพูดเสียงสั่นไม่แพ้กัน
“รู้ครับ ป้าจะตบจะตีผมมากกว่านี้ก็ได้ ผมยอมทุกอย่างครับป้า” คมบอกออกมาอีก
“เดี๋ยวนะครับ นี่มันเรื่องอะไรกัน” คิมถามขึ้นอย่างงงๆ กมลจับมือคิมเอาไว้พร้อมกับบีบเบาๆเพื่อให้คิมฟังคมกับป้านีก่อน
“ป้าไว้ใจคมมาตลอด คมก็รู้ แล้วทำไมคมถึงทำลายความไว้ใจของป้า” ป้านีถามออกมาไม่ได้มีท่าทีโกรธขึ้งแต่อย่างไร
“ผมขอโทษครับป้านี แต่ผมห้ามความรู้สึกของผมไม่ได้จริงๆ ผมรักใบบุญครับป้า รักมาก ผมขอโทษที่ทำให้ป้าผิดหวัง” คมก้มลงกราบที่ตักของป้านีด้วยความรู้สึกผิดจริงๆ ส่วนใบบุญก็นิ่งอึ้งเมื่อได้ยินที่คมพูดกับยายตัวเอง
“ยะ.ยายฮะ” ใบบุญเรียกยายตนเองเสียงสั่น
“เราล่ะ อยากจะสารภาพอะไรกับยายมั้ย” ป้านีหันมาถามหลานชายตนเอง ใบบุญที่รู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร ก็โผเข้ากอดเอวยายตนเองพร้อมกับร้องไห้สะอื้น
“ใบบุญขอโทษฮะยาย ฮึกกก” ใบบุญสะอื้นพูดออกมา
“ป้านีอย่าโทษใบบุญเลยนะครับ ผมผิดเองที่ให้ใบบุญปิดเรื่องนี้เอาไว้ ใบบุญไม่ได้ผิดอะไรเลย ถ้าจะโทษก็โทษผมคนเดียวเถอะครับ แต่อย่าห้ามไม่ให้ผมรักกับใบบุญเลยนะครับ” คมบอกออกมาเสียงสั่นเช่นเดียวกัน ในชีวิต เขาพึ่งรู้สึกกลัวอะไรบ้างก็ครั้งนี้
“ฮึกก…ใบบุญก็รักพี่คมฮะยาย” เด็กหนุ่มพูดออกมาบ้าง ป้านีน้ำตาคลอนิดๆ พร้อมกับลูบหัวหลานของตนเอง คิมขยับเข้าไปนั่งข้างๆป้านี พร้อมกับโอบกอดเพื่อปลอบเอาไว้ทันที ป้านีหันมายิ้มอ่อนๆให้คิมอย่างขอบคุณ
“บอกตรงๆเลยว่าตอนแรก ป้าเสียใจมาก และไม่อยากจะยอมรับว่านี่คือเรื่องจริง แต่พอได้ยินคำตอบจากเราสองคน ในวันที่ถามออกไปก่อนหน้านี้ มันก็ทำให้ป้าได้คิด ว่าป้าจะมานั่งกลัวอะไร กับสิ่งที่ยังไม่ได้เกิดขึ้น ทำไมป้าไม่อยู่รอดูล่ะ ดูว่าสิ่งที่สองคนตอบออกมา มันจะเป็นจริงรึเปล่า” ป้านีพูดออกมาเสียงแผ่ว
“ป้านีหมายความว่า ป้าอนุญาตให้ผมกับใบบุญรักกันได้เหรอครับ” คมรีบถามทันที ป้านีหันไปมองกมล
“ก่อนหน้านี้ คุณกมลเคยถามป้าว่า ป้ายอมรับเรื่องของคุณกมลกับคิมได้เพราะอะไร คำตอบในตอนนั้นมันก็เป็นคำตอบในตอนนี้เหมือนกัน คนเราต่อให้มีรสนิยมต่างจากคนอื่น ต่อให้มีความรักในเพศเดียวกัน มันไม่สำคัญเท่ากับว่าเราเป็นคนดีรึเปล่า และถึงแม้ว่าคมจะทำเรื่องไม่ดีมามาก แต่เนื้อในของคมก็เป็นคนดีคนหนึ่งเหมือนกัน และป้าก็มั่นใจว่าคมจะดูแลหลานชายป้าได้ดี และจะไม่ทำให้หลานป้าต้องเสียใจใช่มั้ย” ป้านีพูดขึ้น
“ผมสัญญาครับ ว่าผมจะดูแลใบบุญอย่างดี ให้สมกับที่ป้านีให้โอกาส ผมจะไม่ทำให้ป้าผิดหวังในตัวผมอีกแล้ว ผมมีป้ากับคุณกมลเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่ผมเคารพ ผมจะไม่ทำให้คนที่ผมเคารพต้องผิดหวังอีกแล้วครับ” คมพูดขึ้นเสียงจริงจัง
“แล้วใบบุญล่ะลูก ตอนนี้เราอายุยังน้อย เรายังต้องเจออะไรอีกเยอะ วันหนึ่งข้างหน้า เราจะคิดเสียใจมั้ย ที่เราเลือกทางนี้ เลือกคนๆนี้” ป้านีถามหลานชายตนเองบ้าง ใบบุญเงยหน้าทั้งน้ำตา ตอนนี้เด็กหนุ่มรู้สึกโล่งใจมากกว่าหวั่นใจ
“ไม่ฮะ ฮึกก…ใบบุญไม่เสียใจที่เลือกพี่คม ใบบุญยังเด็กอยู่ก็จริง ฮึกก วุฒิภาวะของใบบุญยังน้อยอยู่ก็จริง แต่ใบบุญมั่นใจว่าความรู้สึกของใบบุญมันไม่ใช่เรื่องโกหกหรือแค่หลงไหลชั่วครู่ชั่วยาม ฮึกก..ใบบุญอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีพี่คม แล้วใบบุญก็อยู่ไม่ได้ถ้าไม่มียายเหมือนกัน” เด็กหนุ่มพูดบอกออกมาเสียงสั่นเครือ ทำเอาทุกคนอึ้งไปนิด เพราะไม่เคยคิดว่าใบบุญจะมีความคิดความรู้สึกในแบบผู้ใหญ่แฝงอยู่ในตัวไม่น้อยเหมือนกัน ป้านียิ้มออกมาอ่อนๆ
“ยายได้ยินแบบนี้ ยายก็สบายใจ ทีนี้ก็เป็นเรื่องของเราสองคนแล้วนะ ที่จะทำให้ยายเห็นถึงความจริงใจและความรักจริงๆของเราสองคน ทำให้ยายเห็น ทำให้ยายรับรู้ และรู้สึกไปกับมันด้วย ได้มั้ย” ป้านีถามออกมาอีก
“ได้ครับ”
“ได้ฮะ”
ทั้งสองตอบออกมาพร้อมกันด้วยน้ำเสียงจริงจังและมั่นใจ ทำให้ความรู้สึกของป้านีดีขึ้นมามาก เหมือนกับได้ยกภูเขาออกจากอก หลังจากที่แบกความรู้สึกอึดอัดมาสักระยะ
“ผมเองก็ต้องขอโทษป้านีด้วยนะครับ ผมเองก็รับรู้ความรู้สึกของเจ้าคมมันมาสักระยะเหมือนกัน แต่ผมไม่ได้บอกป้านี เพราะอยากให้คมมันพูดด้วยตัวของมันเอง แต่ผมยืนยันกับป้านีได้เลย ว่าคมมันจริงจังกับเรื่องของใบบุญมาก” กมลพูดออกมาบ้างเพื่อให้ป้านีมั่นใจ
“ผมก็เหมือนกับครับ ผมเองก็พอรู้ ว่าคมคิดยังไงกับใบบุญ แต่ผมก็ได้แค่คอยดูอยู่ห่างๆเท่านั้นเอง” คิมพูดเสียงอ่อยๆ
“ไม่เป็นไรค่ะ ป้าไม่โกรธเคืองอะไรพวกคุณๆเลย แล้วป้าก็รู้ด้วยว่าที่ไหมทำร้ายใบบุญแบบนี้เพราะอะไร เราไม่ต้องขอโทษป้าหรอกนะคม เราไม่ได้ผิดอะไรจริงๆ คมไม่ได้ให้ความหวังอะไรกับไหม จนทำให้ไหมโกรธเคืองใบบุญเลยสักนิด มีเพียงไหมที่คิดไปเองและก็อิจฉาริษยาไปเองคนเดียว” ป้านีพูดขึ้นในสิ่งที่ตนเองคิดและเข้าใจ
“ขอบคุณครับป้า” คมยกมือไหว้ป้านีอีกครั้ง
“ฮึก ใบบุญขอโทษฮะยาย” เด็กหนุ่มขยับตัวลงมากราบไปที่เท้าของยายตนเอง ป้านีลูบหัวใบบุญเบาๆ
“ไม่เป็นไร เอาเป็นว่ายายอนุญาตให้เราสองคนคบกันได้นะ ช่วยดูแลกันไป หนักนิดเบาหน่อยก็อยากให้ค่อยๆคุยกันไป” ป้านีบอกออกมาเสียงจริงจัง ก่อนจะลูบแก้มคมข้างที่ตนเองตบลงไป
“ขอโทษนะที่ป้าตบเรา” ป้านีพูดขึ้นพร้อมรอยยิ้มอ่อนๆ
“ไม่เป็นไรครับผมสมควรที่จะต้องโดนจริงๆ” คมพูดขึ้นอย่างยอมรับ
“ทีนี้ก็รักกันอย่างเปิดเผยได้แล้วสินะ” คิมพูดขึ้นยิ้มๆ แต่ทำให้ป้านีนึกอะไรบางอย่างได้
“คม ป้าขออะไรอีกสักอย่างได้มั้ย” ป้านีพูดถามขึ้นมา
“ครับ” คมตอบรับ
“เรารู้มั้ย ว่าป้ารู้เรื่องของเราสองคนได้ยังไง” ป้านีถามกลับ
“ไม่ทราบครับ” คมตอบกลับ ถึงแม้ว่าในใจของคมมีคำตอบแล้วก็ตาม
“วันที่ใบบุญไม่สบาย ป้าเป็นคนเช็ดตัวให้ใบบุญ แล้วป้าก็เห็น” ป้านีพูดหยุดแค่นั้น คมก้มหน้ายอมรับผิดแต่โดยดี ใบบุญเองก็เช่นกัน
“ไอ้ที่ผ่านมาแล้ว ป้าจะไม่คิดอะไร แต่ป้าขอได้มั้ย เรื่องแบบนั้น รอให้น้องโตกว่านี้อีกหน่อยได้มั้ย แล้วป้าจะไม่วุ่นวายกับเรื่องของเราสองคนเลย” ป้านีพูดบอกออกมาเสียงอ้อนวอน ใบบุญหันมามองหน้าคมนิดๆ
..
..
“อะไรนะครับ!! นี่หมายความว่า คมกับใบบุญ มีอะไรกันแล้วเหรอครับ” คิมโวยขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยิน ป้านีหันไปพยักหน้ารับช้าๆ ก่อนที่ป้านีจะคิดอะไรบางอย่างได้
“ค่ะ คิมช่วยจัดการเรื่องนี้ให้ป้าหน่อยนะคะ” ป้านีอนุญาตขึ้นมาทันที คิมหันมามองหน้าคมเขม็ง
“คม ตลอดเวลาชั้นรู้นะว่านายรู้สึกยังไงกับใบบุญ แต่ชั้นไม่คิดว่านายจะกล้ารวบหัวรวบหางใบบุญแบบนี้ นายนี่มัน…ฮึ้ยย” คิมโวยออกมาอย่างฉุนๆ และหมั่นไส้
“หลังจากนี้ไปชั้นขอสั่งห้ามนาย มีอะไรกับใบบุญเด็ดขาด จนกว่าใบบุญจะจบมอปลาย!” คิมพูดออกมาเสียงจริงจัง แต่ทำให้ป้านีกับกมลนั่งยิ้มขำ คมอึ้งไปนิด
“และถ้าชั้นจับได้ว่านายฝ่าฝืนคำสั่งชั้นนะ ชั้นจะจับนายกับใบบุญแยกกัน ไม่เชื่อคอยดู ใบบุญเองก็เหมือนกัน อย่าไปใจอ่อนยอมคมเด็ดขาดนะ ไม่งั้นพี่ทำโทษเราจริงๆด้วย” คิมโวยขึ้นมาเหมือนกับลูกสาวกำลังจะถูกพรากออกจากอกซะงั้น ใบบุญเมื่อได้ยินก็หน้าแดงก่ำ
“ครับคุณคิม ผมสัญญาว่าจะไม่ทำเรื่องแบบนั้นอีก จนกว่าใบบุญจะโตกว่านี้” คมพูดออกมาเสียงจริงจังเพราะเขาเองก็ตั้งใจจะทำตามที่ทุกคนขอจริงๆ
“ผมขอโทษอีกครั้งนะครับป้านี ที่ทำแต่เรื่องให้ป้าไม่สบายใจและทุกข์ใจกับเรื่องนี้” คมหันไปพูดกับป้านีอีกครั้ง และเขาเองก็ตั้งใจจะทำตามที่คิมขอเอาไว้จริงๆ เพื่อแลกกับการที่เขาทำให้ป้านีไม่สบายใจก่อนหน้านี้และแลกกับการที่เขาทำผิดขั้นตอนไปหน่อย
“คมเค้ายอมแล้ว เราล่ะใบบุญ” คิมลองถามใบบุญบ้าง เด็กหนุ่มที่มีคราบน้ำตานองหน้า พยักหน้าด้วยความเขินอายแบบสุดๆ
“ฮะ” ใบบุญตอบเสียงแผ่ว ก่อนจะโผเข้ากอดยายตนเองอีกครั้ง
“ขอบคุณนะฮะยาย ใบบุญสัญญาว่าจะเป็นคนดี จะทำให้ยายสบายใจและภูมิใจในตัวของใบบุญให้ได้” เด็กหนุ่มให้คำมั่น เพราะตั้งใจว่าจะทำทุกอย่างให้ยายตนเองสบายใจและพอใจ เพื่อชดเชยกับสิ่งที่ทำก่อนหน้านี้
..
..
..
..
เมื่อทุกฝ่ายพูดคุยกันเรียบร้อย และเข้าใจกันดีแล้ว ป้านีก็ให้ใบบุญมานอนเล่นบ้านของคมได้ เพราะคิดว่าทั้งสองคนคงต้องมีเรื่องต้องคุยกันอีก โดยมีคิมกำชับอีกครั้ง ไม่ให้คมทำอะไรใบบุญเด็ดขาด ซึ่งคมก็ให้คำสัญญาจริงจังเช่นเดียวกัน คมกับใบบุญเดินเข้ามาในห้องนอน คมเดินไปนั่งที่ปลายเตียง โดยมีใบบุญเดินไปหยุดยืนตรงหน้าของคม คมจับมือของใบบุญทั้งสองข้างขึ้นมาจูบเบาๆแล้วลูบไปมา
“สบายใจแล้วใช่มั้ย ที่ทุกคนรับรู้เรื่องของเราสองคนแล้ว” คมถามขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ฮะ ใบบุญสบายใจแล้วที่ยายยอมรับเรื่องของเราสองคนได้” ใบบุญพูดบอก คมยื่นมือข้างหนึ่งไปเช็ดคราบน้ำตาออกจากแก้มใส
“แต่ยังมีอยู่อีกเรื่องที่ใบบุญยังไม่สบายใจ” เด็กหนุ่มพูดขึ้น ทำให้คมเลิกคิ้วขึ้นนิดๆอย่างสงสัย
“เรื่องอะไร” คมถามกลับ
“ก็เรื่องที่พี่คมยังมีอะไรในใจปิดใบบุญอยู่ไงฮะ” เด็กหนุ่มพูดขึ้นมา ทำให้คมนิ่งไปนิดก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ คมดึงใบบุญให้นั่งบนตักแกร่งของตนเอง
“ใบบุญ พี่ถามอะไรสักอย่างได้มั้ย” คมพูดเกริ่นขึ้น
“อะไรเหรอฮะ” ใบบุญถามกลับ
“ใบบุญอึดอัดมั้ย เวลาที่พี่บังคับให้ใบบุญทำตามที่พี่บอก บังคับให้ใบบุญกลับบ้านให้ตรงเวลา บังคับไม่ให้ใบบุญไปไหนมาไหนคนเดียว อึดอัดมั้ยที่พี่จู้จี้จุกจิกกับใบบุญทุกอย่าง จนเหมือนกับว่าพี่จำกัดอิสระในการใช้ชีวิตของใบบุญ” คมพูดถามในสิ่งที่ตนเองคาใจออกมา
“อะไรทำให้พี่คมถามแบบนี้เหรอฮะ” ใบบุญถามกลับ
“พี่รู้สึกไงใบบุญ ยิ่งเห็นใบบุญพยายามเข้มแข็งเพื่อให้ไม่ให้ทุกคนเป็นห่วง มันทำให้พี่นึกย้อนว่า ใบบุญพยายามดูแลตัวเองและพยายามเข้มแข็งถึงขนาดนี้ ทำไมพี่ยังห่วงโน่นนี่นั่นอยู่อีก ทั้งๆที่ใบบุญก็โตแล้ว มีความรับผิดชอบในตัวเองแล้ว แต่พี่ก็ยัง..” คมพูดออกมาเรื่อยๆ ก่อนที่จะถูกใบบุญเอามือปิดปากของคมเอาไว้ คมมองใบบุญด้วยความไม่เข้าใจ
“ใบบุญขอพูดอะไรบางอย่างก่อนได้มั้ยฮะ” ใบบุญพูดขอ พร้อมกับยิ้มอ่อนๆ คมพยักหน้ารับ ใบบุญจึงลดมือตนเองลงมา
“ทุกสิ่งทุกอย่างที่พี่คมทำ ใบบุญเข้าใจถึงความเป็นห่วงเป็นใยของพี่คม ใบบุญรู้ว่าทำไมพี่คมถึงต้องคอยห้าม และคอยบังคับอะไรหลายๆอย่าง จริงอยู่ว่าถ้าใครมาเจออะไรแบบนี้ก็คงรู้สึกอึดอัดและไม่ค่อยชอบสักเท่าไร” ใบบุญพูดขึ้นเรื่อยๆ
“แต่สำหรับใบบุญ ใบบุญรู้สึกดีกับสิ่งที่พี่คมทำ ใบบุญถูกแม่ทิ้งโดยที่ใบบุญไม่รู้ว่าใบบุญทำอะไรผิด แม่ไปโดยไม่บอกอะไรใบบุญเลยสักคำ ใบบุญไม่รู้ว่าแม่ห่วงใบบุญบ้างมั้ย กังวลบ้างรึเปล่าว่าใบบุญจะอยู่ยังไง ใบบุญไม่รู้ว่าใบบุญมีความสำคัญกับแม่มากแค่ไหน” เด็กหนุ่มพูดเล่าความรู้สึกของตัวเองออกมา
“แต่พอมาเจอพี่คม พี่คมทั้งห่วง ทั้งหวง ทั้งกังวล ในทุกเรื่องๆของใบบุญ พี่คมคอยห่วงว่าใบบุญจะเป็นอะไรมั้ย ใบบุญจะกลับบ้านคนเดียวได้เหรอ ใบบุญจะกินยังไง อยู่ยังไง ทุกอย่างที่พี่คมทำ มันทำให้ใบบุญรู้สึกได้ว่าใบบุญยังมีความสำคัญกับพี่คมอยู่ ถ้าสิ่งที่พี่คมทำใครหลายคนมองว่ามันคือการบังคับ แต่ใบบุญอยากบอกว่ามันเป็นการบังคับที่ใบบุญเต็มใจ ถ้าพี่คมไม่บังคับใบบุญอีก ใบบุญก็จะรู้สึกว่าพี่คมไม่สนใจใบบุญแล้ว และพี่คมก็อาจจะทิ้งใบบุญเข้าสักวัน เหมือนที่แม่ทิ้งใบบุญก็ได้” เด็กหนุ่มพูดขึ้น
“พี่คมจะบังคับหรือจะจำกัดอิสระใบบุญมากแค่ไหนก็ได้ ใบบุญขอเพียงให้พี่คมไว้ใจใบบุญ และรักใบบุญมากๆก็พอ” เด็กหนุ่มพูดในสิ่งที่ตนเองต้องการ
“แต่อนาคตข้างหน้า ใบบุญอาจจะต้องการอิสรภาพจากพี่ก็ได้นะ” คมพูดเผื่อเอาไว้
“แล้วถ้าใบบุญต้องการอิสรภาพ พี่คมจะให้ใบบุญมั้ยล่ะฮะ” เด็กหนุ่มถามกลับไป คมนิ่งไปนิด
“ถ้ามันเป็นสิ่งที่ใบบุญต้องการ พี่ก็ให้ได้” คมพูดตามที่ใจคิด ไม่ได้พูดเพื่อเอาใจใบบุญแต่อย่างไร ใบบุญยิ้มออกมาน้อยๆก่อนจะยกแขนโอบรอบคอของคมเอาไว้
“แต่ใบบุญไม่ต้องการมันหรอกฮะ ต่อให้พี่คมบังคับใบบุญ จำกัดอิสระของใบบุญไปตลอดชีวิต ใบบุญก็ยอม” เด็กหนุ่มพูดพร้อมกับซุกหน้าไปกับไหล่แกร่งของคม
“ใบบุญรักพี่คมนะฮะ” เด็กหนุ่มพูดบอกออกมา คมกอดรัดใบบุญเอาไว้แนบแน่น พร้อมกับจูบขมับของใบบุญ
“พี่ก็รักใบบุญนะครับ คนดีของพี่” คมพูดเสียงอ่อนโยน ใบบุญยิ้มออกมาน้อยๆ
…รู้สึกพอใจทุกครั้งที่ถูกคมหึงหวง
…รู้สึกพอใจทุกครั้งที่ถูกคมบังคับ
…รู้สึกพอใจทุกครั้งที่ถูกคมเอาใจและตามติดไม่ห่าง
ใครหลายคนอาจจะคิดว่า คนที่อยู่ในความมืดมิดมาตลอดอย่างคมคือคนที่ต้องการฉกฉวยแสงสว่างอย่างใบบุญมาเป็นของตนเองเพียงคนเดียว
โดยหารู้ไม่ว่า แสงสว่างอย่างใบบุญตะหากที่เป็นฝ่ายต้องการสาดส่องครอบครองความมืดมิดเอาไว้เป็นของตนเองคนเดียวเสียมากกว่า
…แล้วอยู่ๆคำพูดของกมล ก็ลอยเข้ามาให้คมได้คิด
…//แต่ก็ไม่แน่นะ ใบบุญอาจจะชอบที่จะถูกแกควบคุมเอาไว้ในอาณัติแบบนี้ก็ได้//..
++++++++++++++++++++++ END ++++++++++++++++++++
จบแล้วคร่า คมใบบุญ
แต่!!
หลังจากดิสจั๊มพ์จบ ยอนิมจะแต่งนิยายสั้นสัก 10 ตอนจบ
เป็นเรื่องของ กิจ ลพ รุจ 3P
สาเหตุเพราะ ตอนพิเศษในเล่ม มันค่อนข้างรวบรัดนิดหน่อย
ซึ่งยอนิมไม่เต็มอิ่ม ฮ่าๆๆ อยากแต่งเพิ่มเติมอีกนิด
หวังว่าคงไม่ว่ากันนะคะ