อันในชุดเจ้าสาวสีขาว กระโปรงฟู ๆ ยาวลากพื้น ดูสวยสง่าราวกับเจ้าหญิงที่ออกมาจากเทพนิยายโรแมนติก แต่งหน้าโทนสีชมพูส้ม ขับผิวขาวดูโดดเด่น วันนี้เธอคือผู้หญิงที่สวยที่สุด อันนั่งเตรียมตัวอยู่ในห้องแต่งตัวรอเข้าพิธีในช่วงเช้า วันนี้ควรจะเป็นวันที่เธอควรมีความสุขที่สุดแต่เธอกลับมีสีหน้ากังวล ไม่ร่าเริง เฝ้ารอให้แขกคนสำคัญที่สุดในชีวิตมาร่วมในงานนี้
หลังจากเรื่องราวในวันนั้น วันที่เธอเอาการ์ดแต่งงานไปให้อิง ทั้งสองคนก็ไม่ได้ติดต่อกันเลย อันพยายามโทรหาอิง แต่ไม่มีใครรับสาย พอไปที่คอนโดก็ไม่มีใครอยู่ เหมือนอิงพยายามหลบหน้าอัน ทำให้ระหว่างที่เตรียมงานแต่ง อันมีความกังวลอยู่ในใจตลอดเวลา
วันนี้เป็นวันสำคัญถูกจัดขึ้นที่โรงแรมของลูเซี่ยน ซึ่งวันนี้ลูเซี่ยนได้ปิดโรงแรมเฉพาะกิจเพื่อรับรองแขกที่มาในงาน อีกไม่นานงานก็จะเริ่มแล้ว แต่อันยังไม่เห็นวี่แววของอิงเลย
งานนี้ ลูเซี่ยนและอันตัดสินใจกันว่า งานที่ไทยจะมีแค่งานเช้าจัดให้เสร็จทีเดียว แล้วจากนั้นจะต้องเดินทางไปจัดพิธีแต่งงานที่ไต้หวัน ที่บ้านของลูเซี่ยนตามธรรมเนียมของตระกูลลีอีกครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะที่ไต้หวัน จะเชิญเฉพาะแขกคนสำคัญ ๆ มาก ๆ มาร่วมงานเท่านั้น ดังนั้นงานที่จัดขึ้นที่โรงแรมในไทย จึงมีความยิ่งใหญ่พอสมควรที่สื่อต่าง ๆ พากันจับตา มีแขกที่มาเข้าร่วมในงานเกือบ 3000 คนทั้งต่างชาติและไทย เป็นคนสำคัญหลากหลายแวดวง ทั้งนักการเมือง นักธุรกิจ และเหล่าเซเลบ ดาราชื่อดังมากมาย ส่วนใหญ่จะเป็นทางฝั่งลูเซี่ยนเสียมากกว่า ฝั่งอันมีไม่ถึง 10 คน มีแค่เพื่อนสนิท เพื่อนที่ทำงานเท่านั้น
‘อิงจะไม่มางานแต่งของฉันจริง ๆ เหรอ’ อันคิดในใจ
เพราะความกังวลและกดดันทำให้อันน้ำตาคลอออกมา ความรู้สึกพวกนี้มันกดดันเธอมาก แม้พยายามยิ้มแย้มแค่ไหน แต่น้ำตามันจะไหลออกมาให้ได้ อันหยิบกระดาษทิชชูซับน้ำตา ไม่ให้เครื่องสำอางที่ช่างแต่งหน้าอุตส่าห์แต่งให้ต้องเลอะ
“ทำไมเจ้าสาวคนสำคัญในงานนี้ถึงทำหน้าบอกบุญไม่รับอย่างนั้นละ”
เสียงหวานใสพูดขึ้น เสียงแสนคุ้นเคย เธอยืนอยู่หน้าประตูมองดูเจ้าสาวคนสำคัญของงาน พูดทักเมื่อเห็นอันนั่งซึมราวกับจะร้องไห้ออกมา อันหันไปทางต้นเสียง พบกับผู้หญิงสาวสวยที่มีใบหน้าเหมือนกับเธอ มาในชุดเดรสยาวสีชมพูสายเดี่ยว ถักเปียข้างยืนยิ้มให้อัน ในที่สุดคนสำคัญที่อันรอคอยก็มาถึง อันยิ้มและรีบเดินเข้าไปให้สวมกอดอิงด้วยความดีใจ
“อิง”
น้ำตาที่คลอเบ้าอยู่ก่อนหน้านี้ไหลออกมาจากตาทั้งสองข้างเพราะความสุขและดีใจที่เห็นอิง อันกอดอิงแน่น กลัวอิงจะหายไป อิงใช้นิ้วชี้จิ้มกลางหน้าผากของอันเบา ๆ
“จะร้องไห้ทำไม”
“กลัวว่าอิงไม่มางานแล้ว”
อันคิดว่าอิงจะไม่มางานแต่งจริง ๆ
“จะบ้าเหรอน้องสาวคนสำคัญแต่งงานทั้งที จะไม่มาได้ยังไง เธอเห็นฉันเป็นพี่ที่ใจร้ายแบบนั้นเหรอ” อันส่ายหน้าไปมา
“โทรไปก็ไม่มีคนรับสาย ไปหาที่ห้องก็ไม่เจอ นทีก็บอกไม่รู้ ๆ อย่างเดียว อีกอย่างเราก็เหมือนจะทะเลาะกันด้วย”
“พอดีติดงานหลาย ๆ อย่าง นี่ก็รีบเคลียร์งานมาเลยนะ แล้วทะเลาะอะไร นั่นไม่ใช่เรียกว่าทะเลาะหรอกน่ะ มันเป็นของขวัญอำลาจากพี่สาวคนนี้ต่างหาก เพราะต่อไปฉันไม่ได้อยู่กับเธอเหมือนเมื่อก่อนแล้ว” อิงพูด
“อิง”
อันกอดอิงแน่นเหมือนเด็กขี้อ้อน นาน ๆ ที อันจะเห็นอิง อ่อนโยน เป็นพี่สาวแสนดี เลยถือโอกาสนี้อ้อนให้ถึงที่สุดไปเลย โดยปกติจะเห็นอิงจะทำตัวแข็งกร้าว พูดจาขวานผ่าซาก แสดงนิสัยแย่ ๆ ทำให้ดูเข้าใจยาก ไม่กล้าเข้าใกล้ ซึ่งอันก็ไม่เข้าใจว่าทำไมอิงต้องทำตัวแบบนั้น ตั้งแต่เริ่มเข้าวงการ ทั้ง ๆ ที่ ตัวตนของเธอแสนจะพิเศษ มีเสน่ห์ น่าหลงใหลที่สุด
“แต่งกับลูเซี่ยน เธอต้องเข้มแข็งน่ะรู้ไหม ต่อไปจะมีเรื่องอีกมากมายที่ต้องพบเจอต้องอดทนและเผชิญหน้ากับมันอย่างตรงไปตรงมาเข้าใจรึเปล่า ฉันจะคอยมองเธออยู่ห่าง ๆ แต่ถ้ามีอะไรที่ปรึกษาลูเซี่ยนไม่ได้หรือทะเลาะกันมา ก็มาปรึกษาฉันได้เสมอน่ะ ฉันจะจัดการลูเซี่ยนให้เธอเอง”
อันพยักหน้า นี่แหละตัวจริงของอิง เธอเป็นห่วงอันอยู่เสมอ เธอรักน้องสาวคนนี้มาก สายเลือดหนึ่งเดียวที่เหลืออยู่ ดังนั้นอิงจึงพยายามปกป้องอันไม่ให้ตกอยู่ในอันตรายเท่าที่เธอจะทำได้มากที่สุด
“แม่ที่อยู่บนสวรรค์คงดีใจเนอะอิง”
“แน่นอนอยู่แล้ว อันของเราแต่งงานสักที”
“แต่แม่คงจะดีใจกว่านี้ ถ้าเห็นอิงแต่งงานด้วย”
อันพูดเหน็บพี่สาวของตน ที่ยังไม่เห็นวี่แววของพี่เขยสักนิด
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า เรื่องนั้นคงไม่มีทางเสียหรอก ฉันอยู่รอเลี้ยงหลานดีกว่า ว่าแต่…ดูสิ ทำไมเจ้าสาวหน้าเปื้อนแบบนี้ละ หือ เอ้า! ปล่อยพี่ได้แล้ว พี่จะเข้าไปในงาน ปล่อยในนทีอยู่คนเดียวไม่รู้ว่าไปคาบหนุ่มที่ไหนกลับมาอีก เจ้าสาวของวันนี้คือเธอ เธอต้องสวยที่สุดในงานเหมือนที่ฉันเคยบอกไง เมื่อเราอยู่หน้ากล้อง เราต้องคิดว่าเรานี่แหละสวยที่สุด ถ้าไม่อย่างนั้นฉันแย่งซีนไม่รู้ด้วยนะ”
“รู้แล้ว”
อันรีบไปนั่งเติมหน้า ส่วนอิงก็เข้าไปในหน้างานหาอะไรรองท้องก่อนพิธีจะเริ่ม
“ช้าชะมัด”
ลูเซี่ยนยืนพิงอยู่ตรงกำแพงใกล้ ๆ กับประตูห้องแต่งตัวเจ้าสาว ที่อิงพึ่งเดินออกมา เหมือนกำลังรออิงอยู่พูดขึ้น เขาอยู่ในสูทสีน้ำเงินสุดหรู ช่วยทำให้เขาดูเด่น มีเสน่ห์ที่สุดในงานวันนี้
“ลูเซี่ยน มาตั้งแต่เมื่อไหร่”
“ก็ตั้งแต่ที่เห็นเธอเข้ามาในโรงแรมนั่นแหละ”
“… ไม่เข้าไปหาอันรึไง”
“อันคงไม่อยากให้ผมเห็นหน้าที่เปื้อนน้ำตาเท่าไหร่หรอก”
“นั่นสินะ งั้นฉันขอตัวไปที่ห้องโถงโรงแรมก่อนนะ หิวจะตายอยู่แล้วกว่าจะเคลียร์งานจบ เฮ้อ ยังไงก็ขอบคุณน่ะที่ช่วยงานครั้งนี้ ถ้าช้ากว่านี้อีกนิด ฉันคงไม่ได้มางานนี้แน่ ๆ อันคงร้องไห้ขี้มูกโป่งไปอีกนาน”
สาเหตุที่อิงขาดการติดต่อไปหลังจากวันที่เหมือนจะทะเลาะกันวันนั้น อยู่ดี ๆ เธอก็ได้รับมอบหมายให้ไปจับตาดู ตามสืบคนในวงการคนหนึ่งที่ได้ข่าวมาว่า เกี่ยวพันกับยาเสพติด กว่าเรื่องนี้จะคลี่คลายต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร ถ้าไม่ได้ลูเซี่ยนที่รู้ความเคลื่อนไหวของอิงตลอดเวลาช่วยอีกแรงล่ะก็ ตอนนี้เธอคงต้องตามหาหลักฐานมัดตัวคนนี้อีกพักใหญ่ ไม่ว่าเธอจะทำอะไรลูเซี่ยนมักจะให้คนติดตามดูอิงเสมอ เพราะเขาเป็นห่วงความปลอดภัยของเธอ แม้เธอจะเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ แต่ยังไงเธอก็เป็นผู้หญิง ยิ่งเป็นพี่สาวของอันด้วย เขาจึงเป็นห่วงอิงมากในสถานะเพื่อนสนิทอีกคนหนึ่งของเขา
ลูเซี่ยนรู้สึกประทับใจและอยากเป็นเพื่อนกับเธอมาตลอด ตั้งแต่วันที่เธอบุกเข้ามาที่ทำงาน ฝ่าบอดี้การ์ดทั้งหมด แล้วใช้ปืนจ่อหัวลูเซี่ยนด้วยสีหน้าที่พร้อมจะฆ่าเขาได้ทันทีที่กล้าแตะต้องน้องสาวของเธอในคืนนั้น เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องที่ถูกกล่าวขานของคนวงใน ถึงวีรกรรมบ้าระห่ำของเธอ ตั้งแต่นั้นทั้งสองคนก็ติดต่อคุยธุรกิจกันอยู่บ่อย ๆ เปิดอกคุยได้ทุกเรื่อง และความบ้าระห่ำไม่คิดหน้าคิดหลังนี่เองที่ลูเซี่ยนเป็นห่วงมากที่สุด คิดอยากให้เธอเลิกทำอาชีพนี้ หรือไม่ก็หาใครสักคนที่ปกป้อง ดูแลอิงได้จริง ๆ
“อิง ไม่คิดจะบอกความจริงให้อันรู้เลยเหรอ ถึงเบื้องหลังของเธอ”
ลูเซี่ยนถาม อิงหยุดเดินและหันมายิ้มให้ลูเซี่ยน
“การที่อันต้องอยู่กับนายมันก็เสี่ยงพออยู่แล้ว ถ้าให้รู้เรื่องของฉันด้วยฉันว่าเธอคงตกอยู่ในอันตรายมากกว่านี้ ฉันปกป้องเธอตลอดไปไม่ได้หรอกนะ”
“เพราะงั้นเลย ยกเธอให้ฉันดูแลงั้นเหรอ”
“ถูกส่วนหนึ่งแต่ไม่ทั้งหมดเพราะเธอรักนายมากต่างหาก ฉันไม่อยากเห็นอันเสียน้ำตาเกินความจำเป็นหรอกนะ และนายก็ปกป้องอันได้ดีกว่าฉันด้วยในตอนนี้”
“ฮึ ๆ ๆ ต้องขอบคุณเรื่องวันนั้นที่ทำให้ฉันได้รู้จักคนฝีมือดีอย่างเธอ และได้แต่งงานกับน้องสาวเธอ” ลูเซี่ยนหัวเราะ
“…”
“อิง ยังไงความลับนี้ สักวัน อันก็ต้องรู้” อิงไม่พูดอะไร ก่อนเฉไฉไปเรื่องอื่น
“ยังไงก็ฝากอันด้วยแล้วกัน ถ้าอันเจออันตรายเหมือนคราวก่อนที่ไต้หวัน ถึงขั้นที่คู่อริของตระกูลนายใช้มีดจี้คออันอีกละก็ ฉันไม่ปล่อยนายไว้แน่”
“อุตส่าห์เก็บเป็นความลับแล้วนะ รู้มาจากใครอีกละ” ลูเซี่ยนพูด
อิงยักไหล่และเดินเข้างานไปในงาน ลูเซี่ยนมองตามหลังอิง ก่อนที่เขาเองจะต้องไปเตรียมตัวเข้าพิธีเช่นกัน
อิงเป็นผู้หญิงที่เก่งและแกร่ง ลูเซี่ยนนับถือในสิ่งที่อิงทำให้อันมาตลอด ภายนอกอาจดูว่าเธอเป็นผู้หญิงที่แรง แต่จริง ๆ แล้วเธอคือผู้หญิงอ่อนโยนคนหนึ่ง มีฉลาดเป็นกรด แต่เพราะความที่เธอแกร่งและเก่งนั่นแหละ ทำให้ทุกคนคิดว่าเธอไม่เป็นไร โดยลืมไปว่าจริง ๆ เธอก็เป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนนึง หวังว่าสักวันเธอจะเจอคนที่คอยดูแล เข้าใจเธอ คอยพยุงไม่ให้เธอล้ม
งานแต่งที่โรงแรมในช่วงเช้าผ่านไปอย่างราบรื่นตามประเพณีไทย มีแขกร่วมยินดีมากมาย และส่งท้ายด้วยงานเลี้ยงสนุกสนานในห้องโถง จากนั้นพอเคลียร์พิธีที่ไทยจบ ทั้งลูเซี่ยนและอันก็เดินทางไปไต้หวันเพื่อจัดงานตามธรรมเนียมของจีน ในอีกวันหนึ่งทันที
ไต้หวัน…
ตระกูลลีเชิญเฉพาะแขกคนสำคัญของแต่ละฝ่าย ทั้งคนสนิท ญาติสนิทสายตรงเท่านั้น การแต่งงานของลูเซี่ยน นายน้อยของตระกูลลีเหมือนเป็นการประกาศให้โลกทั้งสองด้านที่ตระกูลลีคุมอยู่ได้รู้ว่า นายน้อยแห่งตระกูลลลีมีนายหญิงแล้ว มันช่วยเพิ่มกำลังและอำนาจให้ตระกูลลีมากขึ้น ทุกตระกูลจะมีความยำเกรงไม่ทำอะไรผลีผลาม
เวลาล่วงเลยผ่านไปจนถึงช่วงเย็น อันอยู่ในชุดสีแดงหนาหลายชั้นตั้งแต่เช้าจนถึงค่ำ
ณ ระเบียงห้องหอเป็นพิธีส่งท้ายสำหรับคืนนี้ อันในชุดสีแดง มีคลุมปิดหน้าเอาไว้ นั่งรอเจ้าบ่าวเข้าหอ อันเหม่อมองดวงจันทร์รับลมยามเย็น นั่งคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ทุกข์ สุข ร้องไห้ ดีใจ เสียใจ มันทำให้อันมีความสุข ยิ้มออกมาอย่างดีใจอยู่คนเดียว
“ผมรักคุณ”
ลูเซี่ยนกระซิบข้างหูอัน ลูเซี่ยนเดินเข้ามเงียบ ๆ ในห้องตอนไหน อันไม่ทันรู้สึกตัว เขาพูดคำที่อันอยากได้ยินมานานมากออกมา เธอดีใจและร้องไห้ ซาบซึ้ง ท่ามกลางแสงจันทร์ยามค่ำคืน
“ฉันก็รักคุณ รักมากด้วย”
อันเองพูดข้าง ๆ หูลูเซี่ยน
ทั้งสองเดินเข้าไปในห้องนอน ลูเซี่ยนค่อย ๆ เปิดผ้าคลุมสีแดงขึ้น มองอันที่ร้องไห้น้ำตาไหล ฉีกยิ้มบาง ๆ ให้ลูเซี่ยน เขาจุมพิตที่ริมฝีปากอันเบา ๆ ดูท่าว่าค่ำคืนนี้ยังอีกยาวไกล…คงไม่นานนักหรอกที่ตระกูลลี จะมีลูก มีหลานให้ทันใช้แน่ ๆ
จากนี้ไปคงมีบทเรียนอีกมากมายที่พวกเขาทั้งสองต้องพบเจอ แต่ไม่ต้องเป็นห่วง พวกเขาจะผ่านอุปสรรคเหล่านั้นไปได้ คอยยืนเคียงข้างกันและกัน คอยจับมือฝ่าอุปสรรคไปด้วยกัน และมีหลานตัวเล็ก ๆ ให้ปู่ ย่า ลุง ป้า น้า อา ได้เล่นกัน ภาพเหล่านี้จะยังคงโลดแล่น เป็นที่น่าจดจำตลอดไปในใจของเราตราบนานเท่านาน
MANGA DISCUSSION