เวลาผ่านไป 3 ชั่วโมง
เวลาในไทย ประมาณ 17.00 น. อันหยิบโทรศัพท์ติดต่อนที
“ฮัลโหล พี่นที อันนะ”
“อัน! เธอไม่อยู่ไหนมา โทรติดต่อไปก็ไม่ติด อิงอาละวาดใหญ่แล้วนะ”
น้ำเสียงตื่นตกใจและเป็นห่วงของนที ทันทีที่อันโทรไป ทำให้รู้ว่าทุกคนเป็นห่วงเธอมาก และตอนนี้อิงกำลังอยู่ในอารมณ์แบบไหน เมื่ออยู่ ๆ อันขาดการติดต่อไปเป็นอาทิตย์
“ตอนนี้อิงอยู่ไหนคะ”
“อยู่คอนโดจ๊ะ พึ่งกลับมาจากถ่ายละครที่ต่างจังหวัดเมื่อกี้นี้เอง”
“งั้นเดี๋ยวอันเข้าไปหานะคะ”
“เอ๊ะ ตอนนี้เลยเหรออัน พี่ว่ารอให้อิงอารมณ์เย็นกว่านี้ดีกว่านะ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เธออาจหงุดหงิดที่อันขาดการติดต่อไป อีกอย่างอันมีเรื่องสำคัญอยากจะคุยกับอิงด้วย”
สีหน้ากังวลของอันแสดงให้เห็นชัดหลังวางสายจากนที ลูเซี่ยนรู้ว่าเรื่องอะไรที่ทำให้อันต้องกังวล ทั้งสองคนกำลังนั่งรถไปคอนโดของอิง
“เดี๋ยวอันขึ้นไปเองค่ะ คุณรออยู่ในรถก็ได้”
อันพูดกำลังจะเดินขึ้นไป ลูเซี่ยนจับมือเธอไว้แล้วพูดว่า
“ไปพร้อมกันนั่นแหละ จะไปแจกการ์ดไม่ใช่เหรอ จะให้เธอไปคนเดียวได้ยังไงกัน”
อันเงียบ แล้วพยักหน้ารับ
หน้าประตูห้องอิง อันยืนอยู่สักพัก เตรียมใจรับชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น
“เดี๋ยวคุณคอยอยู่ตรงประตูก่อนก็ได้ ฉันขอเข้าไปคุยกับเธอก่อน”
อันพูด ลูเซี่ยนทำตามที่อันบอก รออันอยู่หน้าประตู
อิงกำลังนั่งดูโทรทัศน์และกินขนมอย่างอารมณ์ดี หัวเราะให้กับรายการตลกที่ดูอยู่ นทีก็นั่งอยู่ข้าง ๆ เธอ
‘อ้าวไหน พี่นทีบอกว่าอิงกำลังอาละวาดอยู่’ อันคิด
นทีหันมองอันที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ทำสัญลักษณ์บอกให้รู้ว่า อิงกำลังอารมณ์ไม่ดี แม้ว่าภายนอกจะทำเหมือนอารมณ์ดีก็ตาม อิงดูเหมือนจะไม่สนใจอันสักนิด ทั้ง ๆ ที่เธอเปิดประตูเข้ามาและยืนอยู่ข้าง ๆ คงแสร้งทำเป็นไม่เห็นเธอมากกว่า
“อิง”
อันเรียกอิง น้ำเสียงคุ้นเคยที่ไม่ได้ยินเกือบสัปดาห์ของอัน อิงหันมาทำสีหน้าตึงเครียด ส่งสายตาไม่พอใจ บ่งบอกว่าเธอโกรธอันมาก
“…”
อิงไม่พูดอะไร เธอดูรายการตลกของเธอต่อ อันยืนนิ่ง เกร็งไปทั้งตัว
“ขอโทษที่อยู่ ๆ ก็หายไป พอดีเกิดเรื่องขึ้นนิดหน่อยนะ”
อันกังวลใจ อิงตัดสินใจปิดโทรทัศน์ แล้วยืนขึ้นเดินไปเผชิญหน้ากับอันด้วยสีหน้าเรียบเฉย นทีเดินมาใกล้ ๆ คอยระวังไม่ให้เกิดการทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน
“ไปไหนมา”
คำถามแรกออกจากปากอิง
“…”
อันเงียบไม่ตอบอะไรออกมา
“ที่ฉันพูดไม่ได้ยินรึไง!”
อิงพูดเสียงดัง ทำให้อันสะดุ้งตกใจกลัว
“ไต้หวัน”
“กับใคร”
“ลูเซี่ยน” อันหลบตาอิง
“…”
อิงเงียบไป อิงเคยเกือบจะได้เป็นคู่หมั้นของลูเซี่ยน แต่เพราะเหตุการณ์บางอย่างเธอเลยไม่ได้เป็น
“คือว่า อิง คือ…ลูเซี่ยนพาฉันไปเจอครอบครัวเขามา แล้วนี่เป็นการ์ดเชิญงานแต่ง เรากำลังจะแต่งงานกันเดือนหน้า แล้วฉันอยากให้อิงไปเป็นญาติผู้ใหญ่ให้ฉันหน่อยได้ไหม”
อันพูดอย่างช้า ๆ ตะกุกตะกัก ก่อนอันยื่นการ์ดสีแดงให้อิง อิงเหลือบมองมันนิดนึง หยิบการ์ดขึ้นมาดู ยังไม่ทันที่จะเปิดอ่านเนื้อหาด้านใน อิงจับฉีกเป็นชิ้น ๆ แล้วปาใส่หน้าอันทันที
“แกกล้าทำเรื่องอย่างว่าลับหลังฉันงั้นเหรอ” อิงพูดเสียงต่ำ
“ไม่ใช่นะอิง”
“แกก็น่าจะรู้ดีว่า ลูเซี่ยนเป็นของฉัน แม้ว่าเราจะไม่ได้แต่งงานกัน แต่…คนอย่างแกก็ไม่ควรมายุ่งกับของที่เคยเป็นของฉัน อ้อลืมไป จะโทษเธอฝ่ายเดียวก็ไม่ได้สินะ เพราะฉันเป็นคนประเคนแกให้ลูเซี่ยนมาก่อน หลังจากนั้นมาคงแอบกินกันลับหลังฉันมาตลอดสินะ ตั้งแต่เมื่อไหร่!” อิงตวาด และผลักอันอย่างแรง ดีที่อันไม่ล้มลง เพราะเธอพยุงตัวเอาไว้ได้ทัน
“ฉันรักเขาตั้งแต่แรก ตั้งแต่วันที่อิงส่งฉันไปหาเขา ไม่มีวันไหนที่ฉันไม่ลืมลูเซี่ยนเลย ฉันรู้ว่าพี่ก็รักเขา ฉันพยายามห้ามใจตัวเองถึงที่สุดแล้ว แต่มันไม่ได้ มันเกิดขึ้นไปแล้ว”
อันน้ำตาคลอ
“อ้อ งั้นตั้งแต่แรก ที่รู้ว่าฉันกำลังจะหมั้นกับลูเซี่ยน เธอก็ยังนอนอยู่ใต้อ้อมกอดเขา และรวมไปถึงตอนที่ฉันต้องมาแก้ข่าวเรื่องยกเลิกงานหมั้นอยู่คนเดียวโดยที่ลูเซี่ยนไม่คิดจะออกมาพูด ตอนนั้นแกก็คงนอนอยู่กับลูเซี่ยนด้วยงั้นสิ ตั้งแต่ต้น!”
อิงพูดเสียงดัง อันน้ำตาไหลออกมา
“ไม่ใช่นะอิง และฉันกับลูเซี่ยนไปไต้หวัน”
ลูเซี่ยนเลือกอันตั้งแต่แรก ข้อนี้อิงรู้ดี แต่ว่า…
เพล้ง!
อิงขว้างแจกันดอกไม้ที่ตั้งโชว์อยู่ข้างริมฝาผนัง ปาลงพื้นตรงหน้าอันแตกกระจายเป็นเสี่ยง ๆ อันและนทีต่างก็ตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“โกหก!” อิงตวาด
“อิง…” อันพูด
“เขาต้องมาหาฉันเป็นคนแรกสิ แกไปแย่งเขามาใช่ไหม เพราะแกคนเดียวที่ทำให้แผนของฉันเสียหมด ถ้าไม่มีแก ลูเซี่ยนก็เป็นของฉัน” อิงโมโห
“ไม่ใช่ คนที่ฉันรักตั้งแต่แรกคือ อัน”
ลูเซี่ยนได้ยินเสียงดังจากภายในห้องดังถึงข้างนอกเลยถือโอกาสเดินเข้ามา กลัวว่าจะเกิดอะไรร้ายแรงขึ้น และเห็นเศษแก้วแตกกระจายเต็มพื้น
“ลูเซี่ยน”
อิงและอันตกใจที่ลูเซี่ยนเดินเข้ามา
“ผมขอโทษที่มายุ่งกับคุณ นั่นก็เพื่อปกป้องน้องสาวคุณจากแกริค โดยใช้คุณเป็นตัวแทนเธอ ผมไม่มีความรู้สึกใด ๆ ให้กับคุณเลยสักนิด”
“ลูเซี่ยนไหนบอกว่าจะไม่พูดเรื่องนี้กับอิงไง”
อันน้ำตาไหลพรากหันไปมองลูเซี่ยน เมื่อเขาพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูดออกมา ทั้ง ๆ ที่เขาบอกว่าจะไม่พูด เราสัญญากันแล้ว อิงที่ได้ยินแบบนั้นยืนอึ้ง นี่แปลว่าเธอถูกใช้เป็นเครื่องมือ ปกป้องอันจากอันตราย เธอหลงคิดว่าลูเซี่ยนรักเธอ…
.
.
.
‘นี่ฉันต้องเล่นละครไปถึงเนี่ยอิง เรื่องมันชักจะบานปลายแล้ว’ อิงคิดในใจ
เธอรู้ตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่าลูเซี่ยนพาอันไปไต้หวัน และอันก็กำลังจะมาแจกการ์ดงานแต่งให้เธอ อิงดีใจมาก เลยอยากจะแกล้งอันเล่นเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ไหงเรื่องมันเป็นถึงขั้นนี้แล้วละเนี่ย อิงอินกับบทที่ต้องเล่นเป็นพี่สาวใจร้ายเกินไป อิงพูดกับตัวเอง
‘เอาไงต่อดีล่ะทีนี้’
“ถ้าพูดในอีกความหมายนึง ถ้าฉันตายก็ไม่เป็นไรสินะ”
อิงพูดกับลูเซี่ยนแล้วน้ำตาก็ไหลออกมา เพราะความรู้สึกเสียใจ
(อ้าว ๆ น้ำตาก็มาจ้า)
เขาเงียบไม่ตอบ อิงละสายตาจากลูเซี่ยนแล้วหันมามองหน้าอันที่กำลังร้องไห้ อันส่ายหน้า พยายามจะอธิบายเรื่องทั้งหมด
“อิง…”
อันเดินเข้าไปหาอิง แต่เธอสะบัดตัวหนี สายตาอิงเต็มไปด้วยความรู้สึกของคนที่ถูกหักหลัง
(มันจะจบไม่ลงแล้วสิทีนี้)
“ไปซะ! ในเมื่อฉันไม่มีความหมายอะไรในชีวิตเธอและเขา เห็นฉันเป็นแค่เครื่องมือให้พวกเธอเล่นสนุก เล่นบทรัก หว่านเสน่ห์กันไปมา แล้วอยู่ ๆ ก็เอาการ์ดแต่งงานมายื่นให้ เอาฉันไปเกี่ยวข้องกับแผนพวกนั้น จากนี้ก็อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีกเป็นครั้งที่สอง และฉันจะจำไว้ว่า ฉันไม่เคยมีน้องสาวสายเลือดเดียวกันชื่อ อัน นริศรา และไม่เคยรู้จักกับลูเซี่ยน ลี”
อิงน้ำตาไหลออกมาไม่หยุด อันก็เช่นกัน
“…”
นานมากแล้วที่อันไม่เคยเห็นน้ำตาของอิง เธอเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งเหมือนแม่ ตั้งแต่ที่แม่เสีย อิงก็คอยดูแลเธอมาตลอด อิงเปรียบเสมือนแม่และพี่ในเวลาเดียวกัน แต่ตอนนี้มันกลับพังทลายไม่เหลือชิ้นดี อันกำลังเสียที่พึ่งทั้งหมดไป
“พี่อิง อันไม่อยากให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้น อันขอโทษ พี่สำคัญสำหรับอันมากนะ ถ้าอันไม่มีพี่ อันจะอยู่ได้ยังไง อันไม่รู้ อันพึ่งมารู้ที่หลัง ถ้าเรื่องคราวนี้มันทำให้พี่ต้องเสียใจ อันจะไม่ทำให้มันเกิดขึ้นอีก พี่เชื่ออันนะ อย่าทิ้งอันนะ อย่าตัดขาดอันนะ อัน อันไม่แต่งงานก็ได้ พี่อยู่กับอันนะ”
อันร้องไห้ฟูมฟายเหมือนเด็กอายุ 5 ขวบ จับแขนอิงเขย่าไปมา ภาพอันร้องไห้สมัยเด็กผุดขึ้นมาในหัวของอิง แม้จะโตแค่ไหน นิสัยติดพี่ก็ยังเหมือนเดิม
(เฮ้ย ไม่แต่งเลยเหรออัน ฉันแค่แกล้งเธอเล่น ไม่ต้องถึงขนาดนั้นก็ได้)
ลูเซี่ยนพึ่งได้ยินและได้เห็นอันในภาพลักษณ์แบบนี้ เขาเลยรู้ว่าอันรักพี่ของเธอมากจริง ๆ ถ้าเรื่องราวครั้งนั้นเกิดอะไรที่ร้ายแรงขึ้น จนเขาคุมไม่อยู่ เขาอาจจะต้องเสียอันไป
อันร้องไห้จับแขนอิงไว้ไม่ยอมปล่อย เขาตกใจไม่น้อยที่อันพูดว่า ถ้าอิงจะตัดขาดความเป็นพี่น้อง เพราะเรื่องที่เธอกำลังจะแต่งงานและโดนหักหลัง เธอก็จะไม่แต่ง หัวใจเขาหล่นวูบลงไปกับพื้น อิงมีอิทธิพลต่ออันจริง ๆ ลูเซี่ยนได้แต่นิ่งเงียบไม่พูดอะไร ยังไงก็ต้องหาวิธีที่ให้สถานการณ์มันไม่เลวร้ายไปกว่านี้ เป็นครั้งแรกที่เขาต้องกลุ้มเรื่องผู้หญิง
“…”
ลูเซียนนิ่งเงียบไม่รู้ว่าต้องเข้าไปพูดแทรกตรงไหน เขาทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้จะจัดการกับปัญหาตรงหน้ายังไงให้ดีที่สุด
“ลูเซี่ยน พาเธอกลับไปซะ”
อิงพูดพร้อมสะบัดแขนอันออก ที่อันจับแขนเธอไว้แน่นไม่ยอมปล่อย ลูเซี่ยนมองหน้าอิงที่ทำหน้าแปลก ๆ มันดูตลกดี แล้วเขาก็ยิ้มออกมา
ลูเซี่ยนทำตามที่อิงบอกอย่างว่าง่าย เดินเข้าไปเอาตัวอันที่ร้องไห้ฟูมฟาย เขารู้ทันทีว่าอิงแค่ต้องการแกล้งเธอนิดหน่อย แต่เรื่องมันกลับบานปลายจนคุมไม่อยู่ เลยต้องเอาอันออกมาจากคอนโดอิงเพื่อตัดบทละครตอนนี้จบลงเสียดื้อ ๆ ลูเซี่ยนเองก็ลืมนึกไปว่า จริง ๆ แล้วอิงรักและเป็นห่วงอันมากกว่าใคร แต่ชอบแกล้งทำเป็นคุณพี่สาวใจร้ายอยู่ตลอด
“หวังว่าคุณจะมาร่วมงานแต่งของเรานะ”
ลูเซี่ยนพูดพร้อมกับยักคิ้วให้อิงเล็กน้อย แล้วเดินจากไป
อันร้องไห้ไม่หยุด ตั้งแต่ออกจากคอนโดมาจนถึงบ้านพักของลูเซี่ยน ทีนี้ก็เป็นหน้าที่ของลูเซี่ยนแล้วล่ะ ที่จะปลอบอันให้หยุดร้อง อธิบายเหตุผลและให้กำลังใจเธอ อิงส่งต่อหน้าที่คนดูแล ปกป้องอันให้ลูเซี่ยนแล้ว…
ทันทีที่ประตูปิดลง อิงฟุบลงกับพื้นร้องไห้ออกมา นทีตกใจไม่เคยเห็นอิงร้องไห้แบบนี้ เขารู้ว่าอิงต้องเสียใจมากเรื่องที่เธอถูกใช้เป็นเครื่องมือ และเรื่องที่เธอรักลูเซี่ยน นทีอดสงสารอิงไม่ได้จริง ๆ
“อิง เธอต้องเจอคนที่ดีกว่าลูเซี่ยนแน่”
นทีพูดปลอบใจอิง เอามือลูบหลังอิงเบา ๆ
“นที ฉันไม่ได้ร้องไห้เพราะเรื่องนั้น” อิงมองหน้านที
“อ้าว…แล้วเรื่องอะไร” นทีงง
“จากนี้ไป ฉันคงต้องอยู่คนเดียว ในที่สุดนกน้อยก็บินออกจากรัง อันกำลังจากฉันไปอีกคน”
‘ห๊ะ’
นทีอุทานในใจ เขาชักงง เขาตามอารมณ์ ความคิดของอิงไม่ทันจริง ๆ
“อิง อันเธอแค่แต่งงานไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวเธอก็กลับมา ไม่ได้จากกันไปไหนสักหน่อย ก็ยังเจออันได้อีก” อิงส่ายหน้า
“ไม่หรอก ชีวิตเธอจากนี้คงมีเรื่องต้องลำบากอีกมาก ยิ่งต้องอยู่กับคนคนนั้น”
ตกลงแล้วคนอย่างอิง เป็นคนนิสัยยังไงกันแน่ อิจฉา ริษยา หรือใจดี เป็นแม่พระ
“ถ้าอย่างนั้น เธอก็แวะไปหาพวกเขาสิเวลาเธอเหงา ถึงยังไงเธอก็อย่าลืมว่าเธอก็ยังมีฉันอยู่ข้าง ๆ นะ”
นทีพูด เขาพอรู้แล้วถึงสิ่งที่อันเคยพูดไว้ ว่าจริง ๆ แล้วอิงอ่อนไหวง่ายและขี้เหงา ภายนอกอาจแข็งแกร่งแต่ภายในนั้นเปราะบางมาก
แปลว่าที่ผ่าน ๆ มา ที่เธอคอยทำให้อันหนักใจ คือแค่เรียกร้องความสนใจหรือยังไง หรือเล่นละครไปงั้น ๆ งงจริง ๆ แต่ที่สำคัญอิงติดน้องมากไม่ใช่แค่อันติดพี่คนเดียว
ถ้าตอนนี้คือตัวตนของเธอจริง ๆ อิงก็ถือว่าเป็นผู้หญิงที่เรียกได้ว่าแรร์ไอเท็มก็ว่าได้ เก่ง และจิตใจดี
“ขอบใจนะนที ที่ทนฉันมาได้ตั้งหลายปี”
“ย๊ะ ไม่ต้องห่วงหรอกแก ฉันไม่ไปไหนหรอกแต่ฉันขอถามจริง ๆ แกรักลูเซี่ยนรึเปล่า”
นทีกังวล อิงส่ายหน้า
“แค่เล่นละครนะ ฉันกับลูเซี่ยนไม่ได้มีอะไรกัน ถึงแม้จะล่วงเกินกันไปบ้าง แต่เพราะมันเป็นงานเท่านั้น”
นทีไม่ค่อยเข้าใจสิ่งที่อิงพูดเท่าไหร่นัก อิงเช็ดน้ำตา แล้วกลับไปนั่งบนโซฟา กินขนม ดูตลกและหัวเราะ ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น อารมณ์ไหนเนี่ย นทีเริ่มทำตัวไม่ถูก ตกลงแล้วนิสัยที่แท้จริงของเธอ ตัวตนของเธอจริง ๆ คือคนไหน
“อีกอย่างชีวิตคนอย่างฉันไม่เหมาะที่จะมีความรักหรอกนะ” อิงพูดพึมพำออกมา
“อิง…”
“ช่างเถอะ ไปดูหนังตลกต่อดีกว่า”
อิงก็กลับมาอยู่ในสภาพปกติ เธอนั่งบนโซฟา แล้วหันมาพูดกับนทีว่า
“เก็บกวาดเศษแจกันที่แตกด้วยนะ”
สุดท้ายแล้วไม่พ้นหน้าที่นทีที่ต้องคอยเก็บกวาด ถึงอย่างนั้นนทีรู้สึกว่าเป็นอิงตอนนี้ดีกว่าก่อนหน้านี้เป็นไหน ๆ
MANGA DISCUSSION