ฝั่งคู่แข่งทางธุรกิจที่คอยคิดจับจุดอ่อนของตระกูลลี…
“ได้ข่าวว่าลูเซี่ยน ลี กลับไปบ้านใหญ่คราวนี้พร้อมกับผู้หญิงต่างชาติคนหนึ่งครับ สงสัยคงจะเป็นว่าที่นายหญิง”
ลูกน้องผู้ภักดีของตระกูลใดตระกูลหนึ่งพูดรายงานเจ้านายของตน
“งั้นเหรอ”
เจ้านายของพวกเขาพูด ก่อนพูดต่อว่า
“จับตาดูไว้ ถ้าผู้หญิงคนนั้นเผลอเมื่อไหร่ จับเธอมาเป็นตัวประกันซะ เอามาเป็นข้อแลกเปลี่ยนในการขอพื้นที่การค้า”
“ครับนาย”
เวลาได้ล่วงเลยมาจนถึงวันครบกำหนด วันสุดท้ายที่เธอต้องให้คำตอบของคำถามที่นายหญิงใหญ่ถามเธอ เมื่อคืนอันนอนคิดทั้งคืน จนแล้วจนรอดเธอก็คิดไม่ออก อันไม่หลับ เลยลุกขึ้นมาฝึกกระบวนท่าที่เลขาบอดี้การ์ดสอนตั้งแต่เช้าตรู่
“สวัสดีครับคุณอัน มาซ้อมแต่เช้าเลยนะครับ”
“คุณเลขา อรุณสวัสดิ์ค่ะ พอดีฉันนอนไม่หลับนะคะ มีเรื่องกังวลนิดหน่อย เลยออกกำลังกายเรียกเหงื่อสักหน่อย”
“ครับ งั้นเดี๋ยวผมเป็นคู่ฝึกซ้อมให้ครับ ถือเป็นการวอมร่างกายไปในตัว”
ทั้งสองฝึกซ้อมกันอยู่เนิ่นนาน อันนอนแผ่บนพื้นไม้ หอบถี่ เพราะความเหนื่อยล้าและมีอาการปวดเมื่อยทั้งตัวจากการโดนบอดี้การ์ดทุ่ม ตีลังกาลงพื้น เขาไม่ออมมือให้เธอเลยจริง ๆ แต่เธอก็สนุกได้คลายเครียด
เลขาบอดี้การ์ดกับอัน นั่งพักอยู่ตรงชานหน้าโรงฝึก พักเหนื่อยจากการฝึกสุดโหด อันถอนหายใจถี่ซะจนเลขาบอดี้การ์ดอดที่จะถามไม่ได้
“เฮ้อ”
“มีเรื่องกังวลอะไรถึงต้องถอนหายใจบ่อยแบบนี้เลยเหรอครับ”
“นิดหน่อยนะคะ จริงสิ นี่ก็จะเก้าโมงแล้ว วันนี้ไม่ออกไปกับลูเซี่ยนเหรอ”
“ครับ มีเป็นช่วงบ่าย ท่านลูเซี่ยนมีประชุมที่โรงแรม จะมีผู้ช่วยเลขาของผมอีกคนหนึ่งไปแทนครับ ผมมีเรื่องต้องจัดการที่นี่นิดหน่อย”
“เหรอ…เฮ้อ…จริงสิ อันขอถามเรื่องนึงได้ไหม” อันนึกบางอย่างขึ้นมาได้
“ครับ”
“ทำไมถึงมาทำงานกับลูเซี่ยนได้ละ”
“ผมถูกท่านลูเซี่ยนชักจูงมานะครับ ตอนแรกผมก็ทำงานเป็นพนักงานบริษัททั่วไป แต่ถูกคนใส่ร้ายจนโดนไล่ออกจากที่ทำงาน ท่านลูเซี่ยนเห็นความสามารถของผมเลยให้ผมมาทำงานกับท่านตั้งแต่นั้นครับ”
“ทำงานกับลูเซี่ยนอย่างนี้ต้องเสี่ยงอันตรายตลอดเลยสินะคะ”
“ครับ ผมรู้ตั้งแต่เข้ามาทำงานกับท่าน แต่ผมก็พร้อมเสี่ยงอยู่แล้วล่ะครับ ทำงานกับท่านลูเซี่ยนสำหรับผมแล้วถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีนะครับ”
“เอ๊ะ…”
อันทำหน้าตาเหมือนไม่อยากเชื่อสิ่งที่เขาพูด หน้าตาตลกของอันทำให้เลขาแอบอมยิ้มเล็กน้อย
“สำหรับคุณอัน อาจจะเห็นด้านไม่ดีซะส่วนใหญ่ แต่เชื่อเถอะครับ ท่านรักและเอ็นดูคุณอันตั้งแต่แรกที่พบกัน แม้วิธีของท่านจะผิดแปลกไปบ้างก็ตาม ถ้ารู้จักท่านจริง ๆ ท่านเป็นคนเก่งมากที่สุดคนหนึ่งเท่าที่ผมเคยทำงานด้วย”
“…หืม คุณเลขาบอดี้การ์ด ไม่ใช่สิอย่างงี้ต้องเป็นองครักษ์ประจำตัวซะมากกว่า ชื่นชม เทิดทูนลูเซี่ยนสุดหัวใจ”
เลขายิ้ม เพราะอันเหมือนไม่เชื่อสิ่งที่เขาพูด
“แล้วไม่รู้สึกกลัวบ้างเหรอ”
“ไม่ครับ รู้สึกภูมิใจมากกว่าที่ท่านให้โอกาสผม ให้ผมได้มีชีวิต ลืมตาอ้าปากได้อีกครั้ง”
“…”
พูดคล้าย ๆ กับชิงชิงเลย อันคิดในใจ
“เฮ้อ…”
อันถอนหายใจ
“ผมไม่รู้ว่าคุณอันกังวลเรื่องอะไร แต่ผมจะบอกสิ่งที่คุณอันควรรู้ไว้สักอย่าง”
“หืม อะไรเหรอ”
“การที่จะยืนเคียงข้างท่าน ต้องอย่าเผยจุดอ่อนแอหรือจุดอ่อนของตนให้ใครเห็น แม้กระทั่งตัวเอง เพราะเราไม่รู้ว่าใครคิดดีหรือคิดร้ายกับเรา ต้องอย่าให้ใครจับความรู้สึกของเราได้ เพราะคนคิดร้ายจะใช้จุดอ่อนทำลายตัวเราหรือคนสำคัญของเราได้ แม้จะอันตรายแค่ไหนหรือต้องเสี่ยงชีวิต ถ้ามันทำให้ได้เคียงข้างท่าน ปกป้องท่านได้ ผมพร้อมที่จะทำเพราะท่านคือคนสำคัญของผม แค่นี้ผมก็มีความสุขโดยไม่คิดเสียดายชีวิตแล้วละครับ ทั้งนายใหญ่ นายหญิงใหญ่ ท่านลูเซี่ยน ท่านอีคอน ต่างเป็นคนเก่งและแข็งแกร่ง และการที่ท่านลูเซี่ยนต้องขึ้นไปอยู่บนจุดสูงสุดได้นั้น ท่านต้องมีคนที่คอยสนับสนุนท่านได้อย่างเต็มที่ ท่านจะได้วางใจและทำหน้าที่ของท่านให้ดี”
สิ่งที่เลขาพูดเหมือนเธอจะค่อย ๆ เข้าใจทีละนิด แต่ยังไม่ทั้งหมด สุดท้ายเธอคงต้องถามลูเซี่ยนแล้วแหละ
อันรีบอาบน้ำแต่งตัว เตรียมตัวไปกินข้าวเช้าพร้อมกันกับคนของตระกูลลีเหมือนปกติทุกวันที่อยู่ที่นี่ บรรยากาศในห้องอาหารมันก็ยังเต็มไปด้วยความเงียบและอึดอัดเหมือนเช่นทุกครั้ง
“อัน เดี๋ยวตอนบ่ายสามโมงมาพบฉันที่ห้องนะ ฉันอยากฟังคำตอบจากเธอ”
นายหญิงใหญ่พูดขึ้นระหว่างกินข้าว ท่ามกลางความเงียบ
“ค่ะ นายหญิงใหญ่”
เธอตอบแล้วกินข้าวต่อพร้อมกับถอนหายใจออกมาเป็นระยะ
สีหน้าเป็นกังวลของอันแสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัด ทุกคนในห้องต่างรับรู้ ความรู้สึกกดดัน เครียด กังวลของเธอ อันกินข้าวได้น้อยมากตั้งแต่มาที่ไต้หวัน แม้อาหารจะอร่อยแค่ไหน เธอไม่มีความอยากที่จะกินขึ้นมาสักนิด
อันช่วยคนรับใช้ล้างจานชามที่โรงครัว จนลืมไปว่าเธอมีเรื่องจะคุยกับลูเซี่ยน
ทันทีที่เธอนึกขึ้นได้ อันรีบขอตัวไปตามหาลูเซี่ยน หวังว่าเขาจะยังไม่ออกไปทำงานเสียก่อน อันเดินออกไปตรงสวนหย่อมหน้าบ้าน เห็นลูเซี่ยนในชุดสูทสีดำกำลังขึ้นรถเพื่อออกไปประชุม อันวิ่งตามและเรียกลูเซี่ยนไปสุดเสียง แต่รถดำคันหรูแล่นออกไปจากหน้าบ้านเสียแล้ว อันยืนหอบเหนื่อยอยู่ตรงหน้าประตู
“ไม่ทัน”
อันพูดพร้อมกับมองดูรถที่แล่นไปไกลสุดลูกหูลูกตา จนลืมไปว่าตัวเธอออกมายืนพ้นประตูบ้านตระกูลลีเรียบร้อยแล้ว
ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในบ้าน…
หมับ!
อันรับรู้ถึงแรงกระชาก ที่ฉุดเธอลอยจากพื้นเล็กน้อย อันตกใจมาก เธอนิ่งเกร็งไปชั่วขณะหนึ่ง
“ไม่ระวังตัวเลยนะสาวน้อย”
อันถูกชายนิรนามล็อกคอและใช้มีดจี้คอไว้
หรือว่าจะเป็นศัตรูทางธุรกิจของลูเซี่ยน เธอลืมนึกถึงคำเตือนของนายหญิงใหญ่ เพราะเธอไม่คิดว่าแค่เดินออกมาหน้าประตูจะโดนปองร้าย อันยืนตัวแข็งทื่อ
“ต้องการอะไร”
อันพยายามรวบรวมสติและพูดออกไปด้วยเสียงที่แข็งกร้าวเก็บความกลัวไว้ในจิตใจ
“ก็จับเธอเป็นตัวประกันนะสิ ในที่สุดก็จับจุดอ่อนของลูเซี่ยนได้สักที ที่นี่พวกเราก็จะได้ต่อรองส่วนแบ่งทางตลาดที่มากขึ้น เอาตะโกนเรียกคนข้างในออกมาสิ”
เขาบังคับให้อันตะโกนเรียกคนในบ้าน
ชิงชิงที่ตามอันมาที่หลังเห็นเหตุการณ์ที่อันโดนจี้ เธอตกใจ รีบวิ่งไปบอกนายใหญ่ และทุกคนในบ้าน
ทุกคนดูตกใจรีบวิ่งออกมาที่หน้าประตู รวมไปถึงบอดี้การ์ด ทุกสายตาจ้องมองมาที่เธอและคนที่ใช้มีดจี้คอเธออยู่ โดยที่อันไม่จำเป็นต้องตะโกนออกไป
คนที่จับอัน เป็นคนของตระกูลหนึ่งที่เคยเป็นสมาชิกพันธมิตร แต่เพราะทำผิดกฎจนต้องถูกไล่ออก และเพื่อต้องการจะได้ส่วนแบ่งทางตลาดมืดกลับมาอีกครั้ง จึงพยายามหาจุดอ่อนต่าง ๆ นานาของตระกูลลี เพื่อนำมาต่อรอง
ทุกคนดูเป็นห่วงเธอมาก ในที่สุดเหมือนเธอจะเข้าใจความหมายของสิ่งที่ชิงชิงและเลขาบอดี้การ์ดบอก รวมไปถึงคำถามของนายหญิง ถ้าเธอไม่เตรียมใจหรืออ่อนแอ เผยจุดอ่อนออกมา จะมีคนอีกมากต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อปกป้องเธอ สุดท้ายเธอจะไม่สามารถปกป้องใครได้ จริงอยู่คนเหล่านี้พร้อมตาย แต่คนเหล่านี้ก็มีชีวิต มีอิสระ เราจะใช้ชีวิตของเขาด้วยความเห็นแก่ตัวไม่ได้ เธอทำให้ทุกคนเดือดร้อนและได้รับอันตรายจากการกระทำที่วู่วาม เธออาจทำให้สิ่งที่ตระกูลลีพยายามรักษามาต้องพังทลาย อันนึกถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น ทำให้อันกลัว
“ออกมาพร้อมหน้าพร้อมตายกันเชียว ท่าทางเธอคนนี้คงจะเป็นว่าที่นายหญิงของลูเซี่ยนจริง ๆ สินะ คงเป็นคนสำคัญน่าดู เพราะงั้นมาต่อรองกันหน่อย คืนสัญญาค้าขายของเรามาซะ แล้วเราจะคืนเธอให้”
‘เราอยู่ตรงนี้เพื่อคุมสมดุล’
คำพูดของลูเซี่ยนผุดขึ้นในหัว
‘เธอจะยอมแลกไหมล่ะ ระหว่างสัญญาฉบับนี้กับชีวิตคนบริสุทธิ์มากมาย’
“…”
ทุกคนเงียบกันหมด เหมือนพยายามหาจังหวะเข้ามาช่วยเธอ
ฉันเป็นจุดอ่อนเป็นตัวถ่วงจนได้ อันคิดในใจ
อยู่ ๆ อันก็หลุดหัวเราะออกมาท่ามกลางความเงียบ ทุกคนไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอทำ เหมือนอันสติแตก ในที่สุดเธอก็เข้าใจความหมายของคำว่าเตรียมใจและความแข็งแกร่งที่แท้จริง อันหัวเราะให้ตัวเอง ช่างเป็นคนที่โง่เขลา อันเหลือบมองไปเห็นลูเซี่ยนที่มีใบหน้าเรียบเฉยมองไม่ออกว่ากำลังคิดอะไรอยู่เช่นเคย
เอ๊ะ! อาว! แล้วคนที่ขึ้นรถออกไปนั่นใคร?
ฉันนี่พอเป็นเรื่องของลูเซี่ยนจะรีบร้อน จนไม่ดูให้ดีว่านั่นใช่ลูเซี่ยนรึเปล่า ซื่อบื้อจังนะเรา แถมยังเป็นตัวปัญหาอีก อันคิด
“หัวเราะอะไร”
คนที่ใช้มีดจี้คอเธอถาม และขยับมีดเข้าชิดกับคออัน
“หัวเราะให้กับความซื่อบื้อของตัวเองมันผิดรึไง แล้วก็พวกนายด้วย นิ คิดจริง ๆ เหรอ ว่าฉันมีความสำคัญถึงขนาดที่คนฝั่งนั้นจะยอมแลกชีวิตมาช่วยคนอย่างฉันที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าแบบนี้”
อันพูดด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่ต่างออกไป ไม่ปรากฏความรู้สึกใด ๆ ให้เห็นเหมือนที่ผ่านมา เธอเตรียมใจได้แล้ว พร้อมที่จะยืนเคียงข้างลูเซี่ยนต่อจากนี้
“พูดไปก็เท่านั้นแหละเด็กน้อย ลองดูสายตาของคนพวกนั้นสิ น่ากลัวเป็นบ้า สามารถฆ่าแกงกันได้เชียวนะ ถ้าเธอไม่สำคัญ ทำไมพวกเขาถึงแสดงสีหน้าแบบนั้นละ โดยเฉพาะนายน้อยตระกูลลีที่จะฆ่าแกงกันได้ทันที แล้วไหนจะพวกคนรับใช้อีกดูพวกเขาจะยอมตายเพื่อเธอได้เลยน่ะ แค่นี้ก็รู้แล้วว่าเธอสำคัญขนาดไหน”
“เฮย ขอบอกอะไรไว้หน่อยนะ ถ้าแกทำให้อันมีแม้แต่รอยแผล แกและตระกูลแกเตรียมตัวเข้าโรงพยาบาลและไม่มีที่ยืนได้อีกเลย”
ลูเซี่ยนพูดขู่
“ฮู้ น่ากลัวจังน่ะนายน้อยลูเซี่ยนแห่งตระกูลลี แต่พวกฉันผ่านจุดนั้นมาแล้วเพราะแกทำให้พวกฉันไม่มีที่ยืน ฉันแค่ต้องการหนังสือค้าขายของฉันคืนเท่านั้น”
“…”
“นิ นายอยากได้หนังสือสัญญานั้นไปทำไม” อันถาม
“ฉันก็จะได้มีอำนาจในการค้าขายในตลาดอีกครั้งนะสิ”
“สัญญานั้นมันสำคัญมาก ถึงขนาดต้องเอาชีวิตคนหลายสิบคนมาเสี่ยงถึงที่นี่เลยเหรอ ทั้งที่รู้ว่าที่นี่มีอำนาจขนาดไหน”
“แน่นอน แต่ว่านะ นี่ไม่ใช่เรื่องที่ตัวประกันอย่างเธอจะแส่เข้ามา หยุดพูดพล่ามสักที อยู่เฉย ๆ”
ชายคนนั้นรัดคออันแน่นกว่าเดิม จนแทบจะหายใจไม่ออก
‘น่ากลัว แต่ว่า…’
อันต้องการพูดมันออกไป
“การเตรียมใจของนายคืออะไร อะไรคือสิ่งสำคัญที่สุด”
อยู่ ๆ อันก็ถามหัวหน้าแก๊งที่ใช้มีดจอคอเธอ ในคำถามเดียวกับที่นายหญิงใหญ่ถามเธอ
มันใช่คำถามที่จะมาถามกันตอนนี้ที่ไหนกัน อันพูดพล่ามออกมาราวกับคนกำลังจะตายถามคำถามที่ยังค้างคาใจที่ผุดขึ้นมาในสมอง ชายคนนั้นแปลกใจ ทุกคนที่นั่นก็แปลกใจ
“การเตรียมใจอะไรไม่มีหรอก ฉันแค่ต้องการหนังสือนั้นเท่านั้น”
ชายคนนั้นตอบคำถามอัน แบบขอไปที ไม่สนใจในรายละเอียดของคำถาม เหมือนเธอตอนแรก ๆ
“… ฮึ”
ดูเหมือนว่าเขาจะมาตระกูลลีแบบไม่คิดหน้าคิดหลัง ทั้ง ๆ ที่รู้ว่านี่คือตระกูลลี ผู้คุมอำนาจทั้งหมดเอาไว้ ขอแค่ได้พูดสิ่งที่ต้องการออกมาเท่านั้น
“ขำอะไร”
ชายคนนั้นใช้มีดจี้คอเธอจนมีเลือดซึมออกมาจากมีดที่สัมผัสคอเธอเบา ๆ มีดมีคมมากขนาดแค่แตะยังสร้างแผลตรงคอเธอได้
“เพราะนายงี่เง่ายังไงละ”
อันพูดจบ ใช้กระบวนท่าที่เลขาบอดี้การ์ดสอนเธอไว้ป้องกันตัวเมื่อวานมาใช้ ไม่คิดว่าจะได้ใช้เร็วขนาดนี้ อันจับล็อกตัวคนที่จับเธออยู่ทุ่มลงกับพื้นตอนทีเผลอ ทำให้ชายคนนั้นก้มฟุบหน้านอนกับพื้น เพราะความเจ็บและจุกในเวลาเดียวกัน
ทุกคนบริเวณนั้นตกใจเมื่อเห็นอันจับคนทุ่มลงพื้น ไม่คิดว่าเธอจะทำได้จริง ๆ แล้วอันก็รีบล็อกข้อมือคนนั้นไว้ไม่ให้ขยับ และทันทีที่เขาขยับตัวหรือดิ้น มันอาจทำให้แขนเขาหักได้ทันที
“คนอย่างนายคิดจะเอาชนะคนตระกูลลีได้งั้นเหรอ น่าขำสิ้นดี คนที่ไม่มีแม้แต่การเตรียมใจ ลอบกัดคนอื่น ตระกลูลีไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น ถ้าคิดจะมาใช้ฉันเป็นตัวประกันละก็เลิกหวังไปซะเพราะอย่างที่บอก ฉันไม่ใช่คนพิเศษหรือสำคัญต่อตระกูลลี แต่ฉันก็ไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายฉันด้วยเหตุผลไร้สาระพวกนี้ จำไว้ด้วย”
อันทำเสียงเข้มหน้าตาขรึม ดุดัน ในที่สุดเธอก็เข้าใจในสิ่งที่ทุกคนพูด โดยเฉพาะสิ่งที่นายหญิงใหญ่บอก เราต้องแข็งแกร่ง ไม่เผยจุดอ่อน จนเป็นตัวถ่วงคนที่เรารัก เราต้องดูแลตัวเองได้
ระหว่างที่เธอล็อกแขนชายคนนั้นอยู่ ต่างฝ่ายต่างชักอาวุธออกมาเพื่อปกป้องคนของตน ลูเซี่ยนเข้ามาประชิดตัวอัน ส่วนเลขาบอดี้การ์ดก็คอยคุ้มกัน
“คิดว่าที่นี่ถิ่นใคร”
นายใหญ่พูด ปรากฏว่าฝ่ายที่เข้ามาถูกล้อมเอาไว้และยอมถอยออกไปในที่สุด
หลังจากเหตุการณ์สงบ…
อันนั่งทำแผลที่คอ ซึ่งลูเซี่ยนเป็นทำแผลให้เธอด้วยความรู้สึกโกรธและเป็นห่วงอัน แต่สีหน้าเขากลับดูนิ่ง ไม่ยอมพูดอะไรสักคำ ตั้งแต่จบเรื่อง
“ใครใช้ให้ออกไปข้างนอก”
อยู่ ๆ ลูเซี่ยนพูดเสียงดัง ทำให้อันและคนรับใช้ที่อยู่ใกล้ ๆ สะดุ้ง
“ฉันกำลังจะไปหาคุณ เห็นคนที่คล้าย ๆ คุณนั่งรถออกไป ก็เลยวิ่งตาม…”
อันพยายามพูดอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่มีเสียงมาขัดจังหวะ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตู คนรับใช้คนหนึ่งเข้ามา พูดว่า นายใหญ่ต้องการพบอันกับลูเซี่ยน…
MANGA DISCUSSION