เพี๊ยะ!
เสียงตบหน้าจากคนที่เป็นห่วงจากเชื้อสายทางสายเลือดเพียงหนึ่งเดียวของอิง อันตบหน้าอิงอย่างแรง เพราะความกลัวและความเป็นห่วง อิงนิ่งอึ้ง มีสีหน้าเรียบเฉยหันมองน้องสาวฝาแฝดที่น้ำตาคลอ นที บอดี้การ์ด รวมถึงลูเซี่ยนที่อยู่ในเหตุการณ์ ณ ห้องหนึ่งในโรงแรมหรูของลูเซี่ยน ตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
อันมารอที่โรงแรมอยู่ก่อนแล้ว ทันทีที่รู้ว่าอิงปลอดภัยและกำลังมาที่โรงแรม อิงตกใจ ไม่คิดว่าอันจะตบเธอทันทีที่เห็นหน้าพี่สาวของตนกลับมาอย่างปลอดภัย ทั้ง ๆ ที่เธอเตรียมใจไว้แล้วว่าอันคงต้องด่าเธอ ร้องไห้ฟูมฟายแน่ ๆ แต่ไม่คิดว่าจะถึงขั้นนี้ อันคงเป็นห่วงอิงมาก ๆ
อิงมองเข้าไปในดวงตาที่แดงก่ำ คงร้องไห้ไม่รู้กี่รอบแล้วสินะ อิงถอนหายใจ เมื่อต้องแสดงบทร้ายใส่อันเหมือนเช่นทุกครั้ง อีกแล้ว
สีหน้าเรียบเฉยและเย่อหยิ่งถูกแสดงบนสีหน้าของอิงอย่างเด่นชัด ทำเป็นเหมือนไม่รู้สึกอะไรแต่แก้มของเธอชาไปแล้วเรียบร้อย
‘เจ็บ’
อิงพูดในใจ
“จะต้องทำให้คนอื่นเป็นห่วงอีกสักแค่ไหนถึงจะพอใจ”
อันพูดด้วยความรู้สึกโกรธ เป็นห่วงและโล่งใจที่อิงไม่เป็นอะไร
“เฮ้อ…เรื่องที่จะพูดมีแค่นี้ใช่ไหม จบแล้วใช่ป่ะจะได้กลับ เหนื่อย”
อิงพูดเรียบเฉย ไร้อารมณ์
ลูเซี่ยนที่มองดูท่าทางของอิงอยู่ห่าง ๆ เขายิ้มมุมปาก คิดว่าเธอต้องเจ็บแก้มมาก เพราะแรงตบของอันไม่ธรรมดา
เขายอมรับฝีมือการแสดงของเธอมาก ๆ สมแล้วที่จะรางวัลนักแสดงมากมาย ตั้งแต่ขอให้เธอแสดงเป็นคู่หมั้น เธอก็ทำออกมาได้ดี ถ้าลูเซี่ยนไม่รู้จักอิงมาก่อน เขาคงมองว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ร้ายกาจมาก พรสวรรค์กับพรแสวงเป็นของจริงที่ทำให้อิงมาถึงจุดนี้ แสดงบทบาทสมจริง จนแยกไม่ออกว่าไหนคือตัวตนของเธอ
“อิง” อันตวาดเธอ
“…”
“พี่คิดถึงตัวเองบ้างสิ ว่าตัวเองอยู่ระดับไหน ไม่ใช่ว่าจะหยุด หรือไปที่อื่นโดยไม่บอกใคร แล้วได้รับบาดเจ็บอะไรตรงไหนรึเปล่า”
อันสำรวจตัวอิง เช็กเสื้อผ้า เนื้อตัวว่ามีรอยช้ำอะไรไหม อิงสะบัดมือเธอออก
“ฉันสบายดี ครบ 32 ประการ จะพูดอะไรนักหนา นี่ฉันก็กลับมาแล้ว ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันจะกลับเหนื่อย รำคาญ”
อิงพูดตัดบทก่อนเดินออกจากห้องนี้ไป
“อิง”
อิงหยุดเดินแล้วหันกลับมามองที่อัน ก่อนจะไปสบตาลูเซี่ยน
“อ้อ ลืม ฉันไม่หมั้นแล้วนะ”
อิงพูดจบก็ปิดประตูใส่หน้าทุกคน เดินออกไปนั่งรถที่ลูเซี่ยนจัดไว้ให้ส่งเธอกลับคอนโด
อันตกใจกับสิ่งที่อิงพูดออกมาเหมือนเป็นเรื่องง่าย ๆ เรื่องเก่าไม่ทันหายเรื่องใหม่ก็มา อันตามความคิดของอิงไม่ทันเลยจริง ๆ นี่มันเรื่องอะไรกัน
ลูเซี่ยนเดินออกไปจากห้อง หลังจากอิงไปไม่นาน เขาดูไม่มีทีท่าทุกข์ร้อนกับเรื่องที่อิงพูด อันเดาไม่ถูกว่าตอนนี้เขารู้สึกยังไง เศร้า เสียใจ หรือเครียด หรือดีใจ อันเดินตามลูเซี่ยนไป เพราะความกังวลและ เพื่อต้องการถามเขาถึงเรื่องที่เกิดขึ้น อันเดินตามลูเซี่ยนไปอย่างเงียบ ๆ ไม่ระวังตัว ว่าตัวเองเข้าไปในห้องพักของลูเซี่ยน คงเป็นความเคยชินที่อันอยู่ใกล้ลูเซี่ยนเกินไป ไม่เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ยืนมองลูเซี่ยนปลดกระดุมที่แขนเสื้อ ปลดเนกไทออก ลูเซี่ยนเหลือบมองอันเล็กน้อย ก่อนจะปลดกระดุมเสื้อ
อันเริ่มรู้สึกตัวว่าตัวเองไม่ควรอยู่ที่นี่ อันหันหลังเดินไปนั่งที่โซฟาในห้องรับแขกอยู่เงียบ ๆ รอให้ลูเซี่ยนจัดการตัวเองให้เรียบร้อย ดูเหมือนว่าเขายังไม่พร้อมคุย อันเริ่มรู้สึกว่าตัวเองควรกลับไปก่อน บรรยากาศดูตึงเครียด อึมครึม บอกไม่ถูก
“มีอะไร”
ลูเซี่ยนถามขึ้น ก่อนเดินไปรินไวน์ขาวใส่แก้วยกขึ้นมาดื่ม พิงขอบโต๊ะ คนหมั้นกันก็ต้องรักกันสิ”
“แต่สำหรับผมไม่ ถ้าทั้งสองได้ประโยชน์ร่วมกันผมถึงจะทำ เรื่องนี้เราเคยพูดกันแล้วนะอัน”
ลูเซี่ยนแกว่งแก้วไวน์ก่อนยกขึ้นมาจิบ
“คุณมองทุกสิ่งเป็นผลประโยชน์หมดเลยงั้นสินะ คุณเคยมองหัวใจของคนที่คุณเคยทำร้ายเขาบ้างไหม หรือคนที่รักคุณด้วยความบริสุทธิ์ใจ หรือคนที่หวังดีกับคุณ”
“ถ้าพูดถึงอิง เธอเป็นคนบอกยกเลิกหมั้นผมเอง เธอเป็นคนผิดสัญญาเองนะ เธอไปหาแกริคทั้ง ๆ ที่เรากำลังจะหมั้นกัน และดูเหมือนเธอจะไม่เสียใจอะไรกับเรื่องนี้เลย เธอก็เห็นแล้ว ถึงบางช่วงเรื่องมันจะดูวุ่นวายแต่ทุกอย่างมันก็จบ ไม่มีการนองเลือดเกิดขึ้น มันก็เป็นไปอย่างที่เธอต้องการแล้ว เธอยังต้องการอะไรอีก”
ลูเซี่ยนพูด มันก็จริง
แต่…มันไม่ใช่ มันไม่ง่ายแบบนั้น
ลูเซี่ยนจะไม่บอกเหตุผล หรืออธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้อันรู้ตามที่สัญญาไว้กับอิงให้เธอเข้าใจแบบนี้ดีแล้ว
“แล้วตกลงคุณให้หนังสือนั้นกับแกริครึเปล่า ฉันขอโทษที่เคยคิดขโมย”
อันถามเพราะความเป็นห่วง เธอเองก็ทำให้เรื่องครั้งนี้วุ่นวายอยู่ไม่น้อย
“นั่นไม่ใช่เรื่องของเธอ”
ลูเซี่ยนดูเย็นชากับเธอมากขึ้นในเมื่อพี่ปลอดภัยและถอนหมั้นกับลูเซี่ยน มันก็หมายความว่าเธอกับเขาก็ไม่ต้องเจอกันอีก อิงคงรู้เบื้องหลังของลูเซี่ยนสิน่ะที่ทำให้อิงยกเลิกการหมั้น
“ถ้าอย่างนั้น ในเมื่อเรื่องวุ่น ๆ มันยุติหมดแล้ว เราต่างคนต่างเดินเถอะ เรื่องที่คุณเป็นใครไม่ต้องห่วงหรอก ฉันไม่คิดจะบอกใครอยู่แล้ว เพราะมันก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตของฉันและอิงดีขึ้น มันมีแต่ทำให้เราต้องเจออันตรายทุกครั้งที่ยุ่งเกี่ยวกับคุณ”
“ถ้าเข้าใจแล้วก็ดี”
ลูเซี่ยนพูด มองหน้าอันไร้ซึ่งอารมณ์ อันน้ำตาคลอเบ้า
‘อะไรกัน ทำไมเขาชอบทำร้ายจิตใจเธอขนาดนี้ เธอไม่น่าเผลอใจไปให้เทพบุตรใจร้าย เย็นชาเช่นนี้เลย’
“คุณนี่มัน…”
อันไม่พูดต่อให้จบ เพราะไม่รู้จะสรรหาคำพูดอะไรมาพูด
อันเดินหันหลังให้ลูเซี่ยน เปิดประตู เพื่อจะออกไปจากห้องนี้ ออกไปจากชีวิตลูเซี่ยน ชีวิตนี้ขออย่าได้เจอกันอีก แต่ลูเซี่ยนดันประตูเอาไว้ อันหันไปมองลูเซี่ยน ขณะที่น้ำตาอันไหลซึมออกมา
“ก่อนจากกัน ไม่มีของขวัญอำลาให้กันหน่อยเหรอ คุณว่าที่อดีตของเล่น”
ลูเซี่ยนพูด อันใช้มือตบหน้าลูเซี่ยน แต่ลูเซี่ยนจับมือนั้นได้
อันไม่อยากให้เขาเรียกเธอแบบนั้น เธอรู้สถานะของเธอดี ลูเซี่ยนเองก็รู้ตัวดีเช่นกัน เขาไม่คิดอยากจะใช้คำคำนี้พูดกับอัน แต่มันเป็นสิ่งเดียวที่จะรั้งให้เธออยู่ข้าง ๆ เขา แต่ต่อจากนี้ คำคำนั้น ไม่สามารถเหนี่ยวรั้งอันได้อีกต่อไป
ลููเซี่ยนใช้มันเป็นเครื่องมือให้อันคิดว่าเธอเป็นของเล่นแก้เหงาของเขาเท่านั้น แต่จากเหตุการณ์ครั้งนี้มันทำให้ลูเซี่ยนกังวลใจว่า การที่เขาเอาเธอไว้ข้างกายอาจจะไม่ใช่เรื่องดี มันทำให้เธอไม่ปลอดภัย สู้ปล่อยเธอไปให้ใช้ชีวิตอย่างที่ควรจะเป็น แค่คอยดูอยู่ห่าง ๆ ก็พอแล้ว
ลูเซี่ยนประกบจูบริมฝีปากอันอย่างเร่าร้อน เนิ่นนาน ก่อนจะละมันออก มองหน้าอัน
“ฉันรู้สถานะของตัวเองดี ว่าเป็นแค่ของเล่นคลายเหงาของคนใจร้าย ร้ายกาจ เย็นชาของคุณเท่านั้น และฉันก็กำลังหลุดพ้นจากสถานะนี้และเป็นอิสระสักที” อันน้ำตาไหลออกมา
“ถ้าอย่างนั้นขอสนุกให้เต็มที่หน่อยละกัน แต่…ให้รู้ไว้อย่างหนึ่ง ยามใดที่คุณกอดใครนอกจากผม อย่าลืมสัมผัสของผม อย่าลืมว่าผมคือคนแรกของคุณ และอย่าลืมว่าคุณแค่ลูกไก่ที่วิ่งเล่นอยู่ในกำมือผม”
ลูเซี่ยนพูด พร้อมพาเธอไปที่เตียงปลดเสื้อผ้าของเธอและเขาออกจนหมด
“มาสิคุณของเล่น ขึ้นคร่อมบนตักผม อยากรู้ว่าสิ่งที่ผมสอนคุณทั้งหมดเป็นยังไงบ้าง”
ลูเซี่ยนนั่งอยู่บนเตียงรอให้อันเข้ามาใกล้เธอ บทเรียนร่านอารมณ์ครั้งสุดท้ายก็เริ่มขึ้น…ทั้งสองต่างโหยหาไออุ่นของกันและกัน ไม่อยากให้ค่ำคืนนี้ต้องจบลง
ลูเซี่ยนหลับสนิทอยู่บนเตียง อันนั่งมองดูลูเซี่ยนอยู่เงียบ ๆ ทั้งน้ำตา จ้องมองชายหนุ่มที่ครอบครองหัวใจอันไว้ที่ไม่อาจสมหวังในรัก เธออยากลองสัมผัสลูเซี่ยนดูสักครั้ง ใบหน้าหล่อเหลา คมคายหรือผมสีดำที่ดูนุ่มสลวย อันใช้มือสัมผัสที่ผมของลูเซี่ยนเบา ๆ อยู่เนิ่นนาน ก่อนลุกขึ้นจากเตียงใส่เสื้อผ้า และจากไปอย่างเงียบ ๆ
“…”
“ฉันไม่น่าหลงรักคุณเลย ผู้ชายใจร้าย”
อันพูดแล้วเดินออกไปจากโรงแรม นั่งแท็กซี่กลับคอนโด ลูเซี่ยนได้ยินสิ่งที่อันพูดทั้งหมด เขาเองก็รู้สึกแบบนั้น โหยหากลิ่นและไออุ่นของอัน แต่ในเมื่อเรื่องมันเป็นแบบนี้ เขาก็ต้องเดินหน้าต่อ เพราะเราสองคนเดินกันคนละทาง โลกของเราสองคนมันต่างกันเกินไป
จนเวลาผ่านไปประมาณ 1 ปี…
MANGA DISCUSSION